http://www.biztempnews.com/index.php/stock-market/item/4136-อินเวสต์เมนท์แบงก์สหรัฐฯบุกลงทุนตลาดหุ้นไทย
เจฟเฟอรี่ กรุ๊ป ธนาคารเพื่อการลงทุนขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกา แถลงเตรียมขยายการลงทุนในเอเชียหวังยึดพื้นที่เป็นหนึ่งในภูมิภาคนี้ ด้วยการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย จับมือกับเอเชียพลัส
เดอะวอลล์ สตรีท เจอร์นัล สำนักข่าวทางด้านการเงินการลงทุนชื่อดังของโลกรายงานข่าวในวันนี้(25 สิงหาคม 56)ว่า เจฟเฟอรี่ กรุ๊ป (Jefferies Group LLC)ธนาคารเพื่อการลงทุนชื่อดังของสหรัฐอเมริกา กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า กำลังร่วมกันกับบริษัทหลักทรัพย์ เอเชียพลัส ของไทย วางรูปแบบเป็นพันธมิตรร่วมมือการในการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยแผนการร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์ เอเชียพลัส นั้น จะเป็นผู้ทำบทวิจัยหุ้นและการวิเคราะห์หุ้นให้กับเจฟเฟอรี่ และธนาคารก็จะนำบทวิจัยดังกล่าวเสนอต่อนักลงทุนทั่วทั้งโลก นอกจากนี้ยังจะให้บริการเป็นโบรกเกอร์ในประเทศไทยเพื่อให้บริการให้ลูกค้าของธนาคารเพื่อการลงทุนในประเทศไทย
เจฟเฟอรี่กล่าวว่า แผนการดังกล่าว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ก่อนสิ้นปีของปีนี้
การประกาศดังกล่าวของ เจฟเฟอรี่ ธนาคารเพื่อการลงทุนขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมิรกา ในการที่จะขยายการลงทุนเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเชีย นับว่าสวนกระแสการถอยกลับของธนาคารเพื่อการลงทุนอื่นๆที่เคยมีบทบาทอยู่ในตลาดหุ้นเอเชียค่อนข้างมากในขณะนี้ อาทิ UBS AGUBSN.VX , Macquarie CapitalMQG.AU , และ Royal Bank of Scotland PLC RBS.LN ซึ่งเข้าไปลงทุนในฮ่องกงตั้งแต่เมื่อปี 2011
ในเอเชียนั้น เจฟเฟอรี่ กล่าวว่า ยังได้ขยายการลงทุนด้วยการจ้างทำวิจัยในตลาดฮ่องกง โตเกียว มุมไบ รวมทั้งสิงคโปร์ด้วย
เจฟเฟอรี่กล่าวถึงสาเหตุของการเตรียมการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยว่า เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจในตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง ดั่งจะเห็นได้จากการบูมของตลาดในช่วงที่ปีที่ผ่านมา และโนมูระ โฮลดิ้ง เริ่มมีการรายงานข่าวของตลาดหุ้นไทยมาตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา
เดอะวอลล์ สตรีท เจอร์นัล กล่าวว่า การซื้อขายล่าสุดในการระดมทุนจากนักลงทุนเข้าสู่กองทุนเพื่อการลงทุนในโครงการรถไฟฟ้า ของบริษัท บีทีเอส ในประเทศไทย มีการระดมทุนครั้งแรกสูงถึง 2.13 พันล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้สามารถดึงเงินลงทุนของกองทุนจากต่างประเทศและเงินนักลงทุนรายใหญ่ที่สำคัญเข้ามาลงทุนได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น Tesco ก็กำลังระดมทุนผ่านกองทุนเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของตนอีกจำนวน 602 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
อินเวสต์เมนท์แบงก์สหรัฐฯบุกลงทุนตลาดหุ้นไทย
http://www.biztempnews.com/index.php/stock-market/item/4136-อินเวสต์เมนท์แบงก์สหรัฐฯบุกลงทุนตลาดหุ้นไทย
เจฟเฟอรี่ กรุ๊ป ธนาคารเพื่อการลงทุนขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกา แถลงเตรียมขยายการลงทุนในเอเชียหวังยึดพื้นที่เป็นหนึ่งในภูมิภาคนี้ ด้วยการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย จับมือกับเอเชียพลัส
เดอะวอลล์ สตรีท เจอร์นัล สำนักข่าวทางด้านการเงินการลงทุนชื่อดังของโลกรายงานข่าวในวันนี้(25 สิงหาคม 56)ว่า เจฟเฟอรี่ กรุ๊ป (Jefferies Group LLC)ธนาคารเพื่อการลงทุนชื่อดังของสหรัฐอเมริกา กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า กำลังร่วมกันกับบริษัทหลักทรัพย์ เอเชียพลัส ของไทย วางรูปแบบเป็นพันธมิตรร่วมมือการในการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยแผนการร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์ เอเชียพลัส นั้น จะเป็นผู้ทำบทวิจัยหุ้นและการวิเคราะห์หุ้นให้กับเจฟเฟอรี่ และธนาคารก็จะนำบทวิจัยดังกล่าวเสนอต่อนักลงทุนทั่วทั้งโลก นอกจากนี้ยังจะให้บริการเป็นโบรกเกอร์ในประเทศไทยเพื่อให้บริการให้ลูกค้าของธนาคารเพื่อการลงทุนในประเทศไทย
เจฟเฟอรี่กล่าวว่า แผนการดังกล่าว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ก่อนสิ้นปีของปีนี้
การประกาศดังกล่าวของ เจฟเฟอรี่ ธนาคารเพื่อการลงทุนขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมิรกา ในการที่จะขยายการลงทุนเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเชีย นับว่าสวนกระแสการถอยกลับของธนาคารเพื่อการลงทุนอื่นๆที่เคยมีบทบาทอยู่ในตลาดหุ้นเอเชียค่อนข้างมากในขณะนี้ อาทิ UBS AGUBSN.VX , Macquarie CapitalMQG.AU , และ Royal Bank of Scotland PLC RBS.LN ซึ่งเข้าไปลงทุนในฮ่องกงตั้งแต่เมื่อปี 2011
ในเอเชียนั้น เจฟเฟอรี่ กล่าวว่า ยังได้ขยายการลงทุนด้วยการจ้างทำวิจัยในตลาดฮ่องกง โตเกียว มุมไบ รวมทั้งสิงคโปร์ด้วย
เจฟเฟอรี่กล่าวถึงสาเหตุของการเตรียมการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยว่า เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจในตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง ดั่งจะเห็นได้จากการบูมของตลาดในช่วงที่ปีที่ผ่านมา และโนมูระ โฮลดิ้ง เริ่มมีการรายงานข่าวของตลาดหุ้นไทยมาตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา
เดอะวอลล์ สตรีท เจอร์นัล กล่าวว่า การซื้อขายล่าสุดในการระดมทุนจากนักลงทุนเข้าสู่กองทุนเพื่อการลงทุนในโครงการรถไฟฟ้า ของบริษัท บีทีเอส ในประเทศไทย มีการระดมทุนครั้งแรกสูงถึง 2.13 พันล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้สามารถดึงเงินลงทุนของกองทุนจากต่างประเทศและเงินนักลงทุนรายใหญ่ที่สำคัญเข้ามาลงทุนได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น Tesco ก็กำลังระดมทุนผ่านกองทุนเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของตนอีกจำนวน 602 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ