“ส.ว.รสนา” ติง "ปู" กำเนิดจากสภา แต่แทบไม่เคยเข้าประชุมสภา แนะดูนายกฯอังกฤษเป็นตัวอย่าง ให้ค่าประชุมสภาสำคัญยิ่งกว่าภารกิจอื่นใด เหน็บจะเชิญชวนคนไปร่วมสภาปฏิรูป ควรเอาตัวเองเข้าประชุมรัฐสภาให้ได้เสียก่อน ฝากให้ถาม"โทนี่แบลร์" ถ้าโดดประชุมสภาบ่อยๆ จะโดนวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อ-ปชช.อย่างไรบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่25 เวลาประมาณ 01.00 น. น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว รสนา โตสิตระกูล ถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศเดินหน้าเวทีสภาปฏิรูปการเมือง โดยจะเชิญหลายฝ่ายเข้าร่วมหารือ ว่า ก่อนที่ท่านนายกรัฐมนตรีจะเชิญชวนคนไปร่วมสภาปฏิรูป นายกฯควรเข้าประชุมในสภาผู้แทนราษฎร หรือการประชุมรัฐสภาให้ได้เสียก่อน เพราะนายกฯมีกำเนิดจากสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนายกฯจะเป็นผู้แทนราษฎรแล้ว ก็ได้รับการเลือกจากที่ประชุมสภาผู้แทนราฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี
ดังนั้นนายกฯจึงต้องรับผิดชอบต่อสภาเหมือนนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ หรือหัวหน้าฝ่ายบริหารของประเทศที่มาจากการเลือกในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะเห็นได้ว่านายกรัฐมนตรีของอังกฤษทุกคนจะเข้าประชุมสภาเสมอ เพราะถือเป็นภารกิจที่สำคัญยิ่งกว่าภารกิจอื่นใด หัวหน้าฝ่ายบริหารที่ไม่ต้องเข้าประชุมสภาก็มีแต่ผู้นำในระบอบประธานาธิบดี อย่างเช่นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยทางอ้อมของประชาชน ไม่ใช่มาจากการเลือกของสภาผู้แทนราษฎร
อีกประการหนึ่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา นอกจากเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารแล้ว ยังเป็นประมุขของประเทศ หัวหน้าฝ่ายบริหารอีกประเภทหนึ่งที่ไม่เข้าประชุมสภานิติบัญญัติ ก็คือนายกรัฐมนตรีที่มาจากระบอบเผด็จการ เช่นผู้นำเผด็จการทหารในอดีต ถึงแม้ว่าในบางยุคจะมีสภาผู้แทนราษฎร แต่นายกรัฐมนตรีทหารเหล่านี้ก็ไม่เข้าประชุมสภา ถึงแม้ว่าตนเองจะได้รับเลือกจากสภาก็ตาม เพราะคนเหล่านี้ถือว่าตัวเองเป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือสภา
มาในยุคนี้ ดิฉันก็เพิ่งเคยเห็นว่ามีนายกรัฐมนตรีบางคนที่จากการเลือกตั้งในสภา แทบไม่เคยเข้าประชุมสภาเอาเสียเลย นี่จึงเป็นเหตุให้ถูกกล่าวหาว่า ระบอบเผด็จการทหาร และระบอบเผด็จการเสียงข้างมาก มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ตรงที่นายกรัฐมนตรีที่เป็นทหาร และนายกรัฐมนตรีที่เป็นเจ้าของพรรค มักจะไม่เข้าประชุมสภาซึ่งเป็นหน้าที่ตามปกติของผู้แทนราษฎร
อยากให้ลองถามอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โทนี่แบลร์ (ตอนเดินทางมาพูดให้สภาปฏิรูปฟัง)ว่าถ้านายกรัฐมนตรีอังกฤษโดดประชุมสภาบ่อยๆ จะโดนวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน และสื่ออย่างไรบ้าง
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000106021
"รสนา" เหน็บ "ปู" ก่อนชวนคนร่วมสภาปฏิรูป ช่วยเข้าประชุมสภาให้เป็นเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่25 เวลาประมาณ 01.00 น. น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว รสนา โตสิตระกูล ถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศเดินหน้าเวทีสภาปฏิรูปการเมือง โดยจะเชิญหลายฝ่ายเข้าร่วมหารือ ว่า ก่อนที่ท่านนายกรัฐมนตรีจะเชิญชวนคนไปร่วมสภาปฏิรูป นายกฯควรเข้าประชุมในสภาผู้แทนราษฎร หรือการประชุมรัฐสภาให้ได้เสียก่อน เพราะนายกฯมีกำเนิดจากสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนายกฯจะเป็นผู้แทนราษฎรแล้ว ก็ได้รับการเลือกจากที่ประชุมสภาผู้แทนราฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี
ดังนั้นนายกฯจึงต้องรับผิดชอบต่อสภาเหมือนนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ หรือหัวหน้าฝ่ายบริหารของประเทศที่มาจากการเลือกในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะเห็นได้ว่านายกรัฐมนตรีของอังกฤษทุกคนจะเข้าประชุมสภาเสมอ เพราะถือเป็นภารกิจที่สำคัญยิ่งกว่าภารกิจอื่นใด หัวหน้าฝ่ายบริหารที่ไม่ต้องเข้าประชุมสภาก็มีแต่ผู้นำในระบอบประธานาธิบดี อย่างเช่นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยทางอ้อมของประชาชน ไม่ใช่มาจากการเลือกของสภาผู้แทนราษฎร
อีกประการหนึ่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา นอกจากเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารแล้ว ยังเป็นประมุขของประเทศ หัวหน้าฝ่ายบริหารอีกประเภทหนึ่งที่ไม่เข้าประชุมสภานิติบัญญัติ ก็คือนายกรัฐมนตรีที่มาจากระบอบเผด็จการ เช่นผู้นำเผด็จการทหารในอดีต ถึงแม้ว่าในบางยุคจะมีสภาผู้แทนราษฎร แต่นายกรัฐมนตรีทหารเหล่านี้ก็ไม่เข้าประชุมสภา ถึงแม้ว่าตนเองจะได้รับเลือกจากสภาก็ตาม เพราะคนเหล่านี้ถือว่าตัวเองเป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือสภา
มาในยุคนี้ ดิฉันก็เพิ่งเคยเห็นว่ามีนายกรัฐมนตรีบางคนที่จากการเลือกตั้งในสภา แทบไม่เคยเข้าประชุมสภาเอาเสียเลย นี่จึงเป็นเหตุให้ถูกกล่าวหาว่า ระบอบเผด็จการทหาร และระบอบเผด็จการเสียงข้างมาก มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ตรงที่นายกรัฐมนตรีที่เป็นทหาร และนายกรัฐมนตรีที่เป็นเจ้าของพรรค มักจะไม่เข้าประชุมสภาซึ่งเป็นหน้าที่ตามปกติของผู้แทนราษฎร
อยากให้ลองถามอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โทนี่แบลร์ (ตอนเดินทางมาพูดให้สภาปฏิรูปฟัง)ว่าถ้านายกรัฐมนตรีอังกฤษโดดประชุมสภาบ่อยๆ จะโดนวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน และสื่ออย่างไรบ้าง
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000106021