ไม่แปลก ถ้าใครที่ดูแล้วรู้สึกอะดรีนาลีนไม่สูบฉีด หรือความตื่นเต้น ความน่าสนใจจะสู้ภาคแรกไม่ได้
ภาคนี้วนเวียนกับปรัชญาตอกย้ำการค้นหาความเป็นตัวตนมากเกิน ชีวิตวัยรุ่นกับการมุ่งสู่การเป็นฮีโร่แบ่งพาร์ทเล่าไปแบบไม่มีอะไรมาก
ความตลกมีประปราย มุขของหนังก็เล่นง่ายๆ แม้ว่าจะมีกิมมิคดราม่าเล็กๆในเรื่อง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้พีคสุดๆหรือมีอิมแพคต่อเรื่องมาก
แล้วอีกอย่างความสมเหตุสมผลบางอย่าง เมื่อคิดเข้ากับยุคสมัยปัจจุบันแล้วค่อนข้างขาดความสมจริง
ภาพดูรุนแรงในบางฉาก แต่มันเป็นสไตล์มาตั้งแต่ภาคแรก แถมภาคนี้และดูลดน้อยกว่าด้วยซ้ำ ส่วนใหญ่เป็นมุมหลบซะมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มีฉากโป๊เปลือยอยู่ฉากนึงเท่าที่เราเห็น นอกนั้นก็มีตัดแขนขาด มีดแทงคอ กระจกเสียบร่าง
ในฉากสุดท้ายนั้น...สำหรับเราโดยรวมจืดฉืด และจบลงแบบ.....จืดสนิทจริงๆ ไม่ถึงกับเลวร้ายแต่ก็ไม่มีอะไรพิเศษใดๆ
ต้องชื่นชมในบทบาทของน้อง Chloe ที่ทำให้เรื่องนี้น่าสนใจแค่หนูคนเดียว คนอื่นๆไม่มีพลังส่งหนังแม้กระทั่ง Jim Carrey เองก็ตาม
สรุป....ให้คะแนน
6/10
ดูมาแล้ว "Kick Ass 2" สำหรับเราถือว่าจืดฉืดไปหน่อย... (ไม่สปอยล์)
ภาคนี้วนเวียนกับปรัชญาตอกย้ำการค้นหาความเป็นตัวตนมากเกิน ชีวิตวัยรุ่นกับการมุ่งสู่การเป็นฮีโร่แบ่งพาร์ทเล่าไปแบบไม่มีอะไรมาก
ความตลกมีประปราย มุขของหนังก็เล่นง่ายๆ แม้ว่าจะมีกิมมิคดราม่าเล็กๆในเรื่อง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้พีคสุดๆหรือมีอิมแพคต่อเรื่องมาก
แล้วอีกอย่างความสมเหตุสมผลบางอย่าง เมื่อคิดเข้ากับยุคสมัยปัจจุบันแล้วค่อนข้างขาดความสมจริง
ภาพดูรุนแรงในบางฉาก แต่มันเป็นสไตล์มาตั้งแต่ภาคแรก แถมภาคนี้และดูลดน้อยกว่าด้วยซ้ำ ส่วนใหญ่เป็นมุมหลบซะมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในฉากสุดท้ายนั้น...สำหรับเราโดยรวมจืดฉืด และจบลงแบบ.....จืดสนิทจริงๆ ไม่ถึงกับเลวร้ายแต่ก็ไม่มีอะไรพิเศษใดๆ
ต้องชื่นชมในบทบาทของน้อง Chloe ที่ทำให้เรื่องนี้น่าสนใจแค่หนูคนเดียว คนอื่นๆไม่มีพลังส่งหนังแม้กระทั่ง Jim Carrey เองก็ตาม
สรุป....ให้คะแนน
6/10