เมื่อวันที่ผม....ล้ม.............

ตอนที่7  ผมเอามาลงแล้วนะครับ เรื่องของการเริ่มต้นจาก0ถึง100
http://ppantip.com/topic/30865409

สวัสดีครับผมอยากให้เรื่องของเป็นแง่คิดเป็นประสบการณ์เตือนใจให้กับผู้คน ถ่ายทอดมาจากชีวิตจริงเรื่องจริงของผมในตอนนี้


วันนี้ตอนนี้ผมตัดสินใจเลิกทำธุรกิจทุกอย่างแจ้งปิดเวบที่ผมฟูมฟักผลักดันมากว่าจะ2ปีถาวร กะว่าจะเอาโน้ตบุคไปขายไหม  รวมทั้งอาจจะลบไอดีไลน์ไหมรวมทั้งปิดลอคอินในเวบด้วย


ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเร็วมาก  ทั้งที่เมื่อวานผมยังนั่งสอนงานลูกค้ารายงานความคืบหน้างานที่สยามพารากอนอยู่เลย  ตอนท้ายผมยังได้ตัดสินใจบอกลูกค้าถึงการขอเปลี่ยนแปลงข้อเสนอ ในการับเงินค่าจ้างอันแสนจะแปลกประหลาดของผม  ผมพูดไปแบบไม่ซ๊เรียส ไม่คิดอะไรเลยว่าอีกฝ่ายจะรู้สึออะไรในใจ ผมกำลังมีความสุขมากและคิดว่าสิ้นเดทอนจะเอาเงินจากตรงนี้ไปซื้อของให้พ่อตามที่พ่ออยากได้  ตั้งใจอยู่ว่าจะแบ่งเอาไปลงทุนไปทำไรให้ตัวเองต่อ  แล้วผมกลับมาถึงบ้านคิดว่าตื่นมาพรุ่งนี้วันพรุ่งนี้ผมจะทำงานต่อแก้ไฟลภาพทำในส่วนของภาพใหเสร็จสักที
พอวันรุ่งเช้าตื่นมาตอนบ่าย  มีไลน์จากลูกค้าทักมาหาผม  บอกผมว่าข้อเสนอที่ผมขอเปลี่ยนแปลงไป เค้าเอาไปคิดแล้ว เค่าตัดสินใจไม่รับข้อเสนอ พร้อมๆกับบอกประโยคต่อมาว่าเรื่องานที่ผมรับผิดชอบอยู่ให้ผมเหยีบเบรคมันไว้ถาวรนะ เค้าจะเอาไปทำกันเองสรุปง่ายๆคือเลิกจ้างผม เงินผมหายไปทันที5หลัก


ผมอึ้งพูดอะไรไม่ออก  ลูกค้าพยามพูดกับผมอย่างนุ่มนวล  อะไรก้อตามแต่  แต่ผมรู้สึกในใจได้เลยว่า กุพลาดอีกแล้ว  กรุพลาดที่ทำให้เค้าไม่ไว้ใจไม่วางใจในการทำงานกับกุกับข้อเสนอเมื่อวานที่มันเพี้ยนและแผลงๆไป เค้าเลยเกิดความรู้สึกจนนำมาสู่ความไม่ไว้ใจไม่สบายใจให้ผมทำงานต่อ ผมได้ตระหนักกับตัวเองว่าผมทำลายความไว้ใจที่เค้ามีต่องานผมมากแค่ไหน ทำลายความไว้ใจที่มีตัวตัวผมมากแค่ไหน
ผมรู้สึกแย่มากทำอะไรไม่ถูก   น้ำตาผมไหล ลูกค้าไม่เปิดโอกาสให้ผมได้ชดเชยความผิดพลาดแก้ตัวเลย  ถึงแม้ว่าผมจะพยามเสนอว่าผมจะทำงานครึ่งราคาแล้วก้อตาม  ทำไมผมถึงดิ้นรนอ้อรวอนขอทำงานนี้มาก เพราะผมมอว่านอกจากเรื่อเงินรายได้แล้วที่ผมจะได้ไปลงทุนทำตามสิ่งที่ต้องการแล้ว อีกข้อนึงถ้าผมทำงานชิ้นนี้เสร็จมันก้อคือเหมือนพอรต์ฟอร์ลิโอของผมที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือโอกาสทางธุรกิจของผมอีกชั้น  ตลอดจนเป็นการันตีว่าตัวผมเคยผ่านอะไรมา งานทุกชิ้นที่เข้ามาหาผมในฐานะที่ปรึกษาธุรกิจมันจึงมีค่ามากๆแล้วผมรักงานเหมือนลูก


ผมตัดสินใจโทรไปร้องไห้ระบายกับน้องที่สนิทมากอยู่ราวชั่วโมงนึงพร้อมกับบอกว่าผมจะตัดสินใจปิดเวบกิจการธุรกิจอีกตัวนึงด้วย  ที่ผมทำอยู่มาจะ2ปีล่ะ  ทั้งที่ช่วงก่อนหน้าไล่ๆกันสักแปบผมกำลังออกแบรนด์ใหม่  แล้วกำลังเริ่มต้นปูทางพอดีแล้วช่วงจัวหวะนั้นมีงานที่ปรึกษา  เข้ามาซึ่งปกติผมไม่ค่อยได้รับงานนานแล้วพักไป  แต่งานนี้เปนจัวหสวะดีบวกกับอะไรหลายอย่างผมจึงตัดสินใจรับผมจึง แบ่งไปคุยงานพร้อมๆกับที่กิจการที่ทำอยู่มีปัญหาคือ ร้านผมสั่งเสื้อผ้าส่งของให้ลูกค้าไม่ตรงออเดอร์เสียหายนับพันบาท ผมต้องไปชดใช้ให้ลูกค้า แล้วจังหวะนี้ที่ผมตกลงงานที่ปรึกษา ลงตัวพอดีผมเลยตัดสินใจว่าจะสินค้าในส่วนของเสื้อผ้าที่ขายทิ้งทั้งหมดเปลี่ยนใหม่  แล้วเอาตัวใหม่ที่ผมดีลเข้าไปแทน  เลยขอพักการทำงานขอตัวเองไว้ก่อน  ส่วนแบรนด์สินค้าอีกตัวที่กำลังสร้าง ผมก้อตัดสินใจว่า  จะพักไปก่อนแปบนึงขายปล่อยในวงกันเองไปเรื่อยๆพร้อมทั้งตัดสินใจอัดโปรโมชั่นคือ ชิงโชคแจกนาฬิกากับคนที่มารีวิว  ถามว่านาฬิกา เรือยเป็นพันผมเอาเงินจากไหนมาซื้ออัดโปรแจกลูกค้า  คำตอยคือผมกะเอาเงินจาก  ค่าจ้างทำงานที่ปรึกษาตรงนี้ใช้ไงล่ะ  รวมทั้งเรื่องการผลิตของเพิ่มด้วย  การทำแอดโฆษณาเพิ่ม


ในเมื่อทั้งหมดผิดแผนขนาดนี้ผมจึงเจ็บปวดและเสียใจมาก เหมือนผมล้มดังตึง  ด้วยความที่ว่าอยากจะพูดอะไรอย่างที่ใจต้องการจะทำ โดยไม่ได้คอิดให้รอบคอบว่าอีกฝ่ายเขาจะมองเราไงความสนิทมความคุ้นเคยในการทำงานจนสุดท้านมันส่งผลกระทบในการทำงาน


น้องๆๆเพิ่อนๆบอกผมให้ผมสู้ต่อแต่ผมเหนื่อยเกินที่จะสู้ต่อแล้ว ผมเหนื่อยจริงๆ  ผมเคยผ้านช่วงให้ที่บ้านอุ้มมาหลายรอบ ผมอยากยืนด้วยลำแข้งของตัวเองให้มั่นคงได้สักที  ผมผิดพลาดเพราะคนอื่นผมยังไม่ถอดใจอะไรเท่ากับการที่ผมผิดพลาดจนทำลายตัวเองแบบนี้ผมรู้สึกแย่สุดๆ ก่อนหน้านี้มี  ผู้หญิงคนนึงที่มีความสามารถด้านการดูชะตาชีวิต  แต่เธอไม่ใช่หมอดูอาชีพนะ   เธอบอกผมว่า  ธุรกิจที่ผมปั้นเวบของผมด้านเสื้อผ้าอะไรตรงนี้ผมทำแล้วจะไม่ค่อยได้ดีเท่าไหร่นะ ผมเหมาะกับงานสายอื่นมากกว่าแล้วเธอยังเตือนให้ผมทำอะไรอย่างระมัดระวังให้คิด  ผมยังเก็บตรงนี้เอามาคิดว่าทำไงผมถึงจะฝืน  โชชะตารึอะไรก้อตามแต่ที้บอกว่าผมทำเสื้อทำกิจการเฉพาะทางของผมไม้รุ่งให้มันรุ่งให้ได้ ให้ผมทำแล้วรวยให้ได้ แต่ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องการระวังตัวระวังคำพูดอย่างที่เธอบอกเลย


ก่อนหน้าวันนี้ผมรู้สึกว่าผมมีความสุขเต็มที่มากๆกับการทำงานงานผมเต็ม7วันรวด ทำงานของตัวเองแบรนด์ตัวเอง  ทำงานเป็นที่ปรึกษาเธุรกิจเริ่มต้นก่อตั้งกิจการให้กับลูกค้า  วันเสาร์อทิตย์ไปสอนการใช้คอมเบื้องต้นให้กับลูกสาวพี่แถวบ้านที่อยู่ ประถม4  สิ้นเดือนผมนัดหลานสาวไว้แล้วว่าเราจะไปเที่ยวกันนะไปตลาดกลางคืน ผมตั้งใจซื้อของที่พ่ออยากได้ให้แบบเหมาเป็นโหลเลย  เพราะผมคิดในใจว่าตอนนี้เรามีกรุมีแล้ว เราอยากจะให้พ่อบ้าง ผมรู่สึกว่าชีวิตตัวเองช่วงนี้เป็นขาขึ้นจริงๆ ผมรู้สึกว่าอยากจะทำมันให้ดีที่สุด แล้วผมตั้งใจว่าสิ้นเดือนเราจะแบ่งค่าจ้างจากในรอบแรกของโปรเจคนี้กจะไปทำ โรงทานที่วัดประจำ  ตั้งใจว่ากำลังจะเดินไปคุยกับร่านขยายขนมหวานที่รู้จักกันเรื่องสั่งทำขนม
แต่สุดท้ายทุกอย่างพังครืนทั้งหมด  ด้วยคำพูดของผมที่ตัดสินใจยื่นข้อเสนอแปลกๆแบบการคิดเพียงด้านเดียวของจตัวเองไปในการทำงาน  ทำให้ผมล้มดังตึงขนาดนี้



ถามว่าทำไมผมถึงอยากจะเป็นกล้าดีไงถึงมายึดอาชีพที่ปรึกษาธุรกิจอีกด้านนึง ควบคู่ไปด้วยกับการทำแบรนด์ของตัวเอง  คำตอบคือผ พอผมมาศึกษา  พวกโจ วิทเทล โจเซฟเมอร์ฟี่  แจคแคนฟิลด์  แล้วผมชอบจนหาตพำราแปลทั้งหลายมาอ่านเองทดลองกับตัวเองคิดตามสารพัดจริงจัง  ผมรู้ตัวดีว่าผมชอบที่จะสอนหนังสือชอบเขียนหนังสือชอบที่จะช่วยคนแล้วชอบธุรกิจ  อย่างผมตอบอีเมลธุรกิจฟรีเป็นหลายๆเมลในพันทิพทั้งในหลังไมค์และส่วนตังรึตอบไลน์  เพราะคิดว่ามันช่วยฝึกให้ผมเก่ง  ทำให้ผมได้เรียนรู้ขึ้น ผมจึงยินดีทำมันอย่างไม่คิดมูลค่าและเต็มใจ อย่าล่าสุดผมอ่านหนังสือของโปรน้อง  แล้วชอบมากสนุกได้แง่คิดจนทำใหเอยากฝึกตัวเองให้เก่ง  ผมตัดสินใจว่าจะหาเงินเหยียบหมื่นไปเรียนหลักสูตรการการเขียน  ทึ่คุณ สมคิดลวางกูล สอน  ผมอ่านเรื่อง  ผู้ส่งสารแห่งความั่งคั่ง ของแบรนดอน  บูชารด์    ทำให้ผมได้เห็นภาพมีกำลังใจเข้าใจแนวทางถึงสิ่งที่เรา  ทำให้ผมรู้ว่าผมควรจะทำไงกัยตัวเอง  แต่วัรนนี้มันจบแล้ว  ผมเคยมีมีฝันเรื่องว่าผมตั้งใจเปิดแฟลกชิฟสโตร์ในธุรกิจอีกตัวที่ผมทำมาจะ2ปีดิ้นรนมากเพื่อให้ความฝันของผมเป็นจริง เพราะเพราะเห็นโอกาสว่าเมืองไทยไม่มีแฟลกชิฟสโตร์ในกิจการประเภทนี้เลย ถ้ามีแฟลกชิฟสโตร์เกิดขึ้นเมื่อไหร่ รับรองได้เลยว่า คนที่ทำได้จะเป็นคนที่รวยที่สุดเพราะคุณจะกินรวบครบวงจรแต่เพียงผู้เดียว


อันที่จริงมันมีต้นฉบับเรื่องของการเริ่มต้นจาก0ถึง100ตอนที่7  ที่ผมเขียนไว้เสร็น่านสักพักแล้วรอเอาลง  เรื่อ มินิมาเเนีย  แต่จนป่านนีก้อยังยึกยัก ไม่ได้เอาลงเพราะงานยุ่ง  เคยทมีหลายคนบอกว่าผมฉลาดนะผมเก่งจัง  ผมก้อตอบไปว่าใช่  ผมเก่งผมฉลาดนะแต่ปัญหาของผมคือ ผมขาดเงิน ขาดนายทุนที่จะมาทำให้ความเก่งความฉลาดของผมเป็นจริงพิสูจน์ในสิ่งที่ผมพูด ผมบอกทุกคนมาตลอดรอบๆคัวว่า ผมก้อทำแบบนี้แบบที่คู่แข่งของผมทำได้ในต้นทุนที่ถูกกว่า ถ้าผมมีเวงินรึมานายทุนออกทุนให้ แต่แน่นอน  ว่าผมเริ่มต้นทุกอย่างด้วยเองจาก0ในแบบที่ไม่มีทุนอาศัยความช่วยเหลือจากคนรอบตัวในบางทีหลายที มันเลยทำให้ผมกลายเป็นแค่คนเก่งที่เดินไปขางหน้าไม่ได้เดินไม่สุด  กลายเป็นแค่คนที่เกือบจะเก่งรึประสบความเสำเร็จ



ขอโทษด้วยนะครับที่วันก่อนผมเคยสอนเขียนให้กำลังใจผู้คนเข้มแข็งมากมาย ชี้ทางออก พาบุกเบิก แต่มาวันนี้ตัวผมกลับล้มดังตึงซะเอง จนผมตัดสินใจที่เลิกทุกอย่างถาวร  ผมสู้มาตลอดเพื่อความสำเร็จล้มมากี่หนผมไม่เคยถอดใจ  แต่มาวันนี้ผมล้มในจังหวะที่ผมกำลังจะขาขั้น แถมเป็นการล้มด้วยคำพูดและการกระทำที่ไม่รอบคอบของตัวเอง    ผมอยากจะให้กระทู้ของผมฝากทุกคนไว้เรื่องความคิดและคำพูด  เราต้องถี่ถ้วนให้มากๆมันอาจจะพลิกชีวิตได้เลย  จนผมต้องมานั่งระบายความเจ็บปวดแบบนี้  สุดท้ายแล้วผมก้อแค่คนนึงที่ดิ้นรนในฝัน กับการสร้างแบรนด์ของตัวเองเปิดแฟลกชิฟสโตร์สร้างแบรนด์เฉพาะทางของไทย  และการการประกอบอาชีพจะเป็นที่ปรึกษาธุรกิจ


ขอบคุณทุกคนที่ติดตามผมาด้วยดีตลอดนะครับ ลอคอินในพันทิพผมยังไม่คิดนะว่าจะยอเกลิกดีไหม ให้มาจะ10ปีแล้วตอนนี้ผมืดไปหมด  อยากได้แสงสว่างนะ  อยากได้ปาฎิหาริย์ แต่อีกด้านนึงผมก้อตัดสินใจจะเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองไม่ขอความช่วยเหลือจากครอบครัวคนรอบข้างอีก  เพราะเกรงใจที่ทุกคนช่วยเรามาเยอะแล้วในวันที่เราลำบาก  ถามว่าทำงานประจำสิ  คำตอบคือในชีวิตผมไม่เคยทำงานประจำแล้วรู้ตัวดีว่าผมไม่เหมาะกับมันครับ แล้วเคยมีขายตรงอยากให้ผมไปทำงานด้วยนะ2เจ้า แต่ผมยื่นเงื่อนไขไปว่าถ้าอวยว่าผมเก่งมาก ช่วยออกเงินค่าสมัครค่าขึ้นตำแหน่งให้ผมก่อนสิ  แต่ผลที่ได้คือไม่มีใครกล้าทุกคนเงียบกันหมดเลิกมาคุยชวนผมอีก


ขอบคุณทุกการติดตาม  ถ้ามีโอกาสเราคงได้กลับมาเจอกันถ้าแสงสวางมีจริงๆสำหรับผม
ชาวนาเจ้าของหมากากๆ p241022@hotmail.com
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่