ตอนที่7 ผมเอามาลงแล้วนะครับ เรื่องของการเริ่มต้นจาก0ถึง100
http://ppantip.com/topic/30865409
สวัสดีครับผมอยากให้เรื่องของเป็นแง่คิดเป็นประสบการณ์เตือนใจให้กับผู้คน ถ่ายทอดมาจากชีวิตจริงเรื่องจริงของผมในตอนนี้
วันนี้ตอนนี้ผมตัดสินใจเลิกทำธุรกิจทุกอย่างแจ้งปิดเวบที่ผมฟูมฟักผลักดันมากว่าจะ2ปีถาวร กะว่าจะเอาโน้ตบุคไปขายไหม รวมทั้งอาจจะลบไอดีไลน์ไหมรวมทั้งปิดลอคอินในเวบด้วย
ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเร็วมาก ทั้งที่เมื่อวานผมยังนั่งสอนงานลูกค้ารายงานความคืบหน้างานที่สยามพารากอนอยู่เลย ตอนท้ายผมยังได้ตัดสินใจบอกลูกค้าถึงการขอเปลี่ยนแปลงข้อเสนอ ในการับเงินค่าจ้างอันแสนจะแปลกประหลาดของผม ผมพูดไปแบบไม่ซ๊เรียส ไม่คิดอะไรเลยว่าอีกฝ่ายจะรู้สึออะไรในใจ ผมกำลังมีความสุขมากและคิดว่าสิ้นเดทอนจะเอาเงินจากตรงนี้ไปซื้อของให้พ่อตามที่พ่ออยากได้ ตั้งใจอยู่ว่าจะแบ่งเอาไปลงทุนไปทำไรให้ตัวเองต่อ แล้วผมกลับมาถึงบ้านคิดว่าตื่นมาพรุ่งนี้วันพรุ่งนี้ผมจะทำงานต่อแก้ไฟลภาพทำในส่วนของภาพใหเสร็จสักที
พอวันรุ่งเช้าตื่นมาตอนบ่าย มีไลน์จากลูกค้าทักมาหาผม บอกผมว่าข้อเสนอที่ผมขอเปลี่ยนแปลงไป เค้าเอาไปคิดแล้ว เค่าตัดสินใจไม่รับข้อเสนอ พร้อมๆกับบอกประโยคต่อมาว่าเรื่องานที่ผมรับผิดชอบอยู่ให้ผมเหยีบเบรคมันไว้ถาวรนะ เค้าจะเอาไปทำกันเองสรุปง่ายๆคือเลิกจ้างผม เงินผมหายไปทันที5หลัก
ผมอึ้งพูดอะไรไม่ออก ลูกค้าพยามพูดกับผมอย่างนุ่มนวล อะไรก้อตามแต่ แต่ผมรู้สึกในใจได้เลยว่า กุพลาดอีกแล้ว กรุพลาดที่ทำให้เค้าไม่ไว้ใจไม่วางใจในการทำงานกับกุกับข้อเสนอเมื่อวานที่มันเพี้ยนและแผลงๆไป เค้าเลยเกิดความรู้สึกจนนำมาสู่ความไม่ไว้ใจไม่สบายใจให้ผมทำงานต่อ ผมได้ตระหนักกับตัวเองว่าผมทำลายความไว้ใจที่เค้ามีต่องานผมมากแค่ไหน ทำลายความไว้ใจที่มีตัวตัวผมมากแค่ไหน
ผมรู้สึกแย่มากทำอะไรไม่ถูก น้ำตาผมไหล ลูกค้าไม่เปิดโอกาสให้ผมได้ชดเชยความผิดพลาดแก้ตัวเลย ถึงแม้ว่าผมจะพยามเสนอว่าผมจะทำงานครึ่งราคาแล้วก้อตาม ทำไมผมถึงดิ้นรนอ้อรวอนขอทำงานนี้มาก เพราะผมมอว่านอกจากเรื่อเงินรายได้แล้วที่ผมจะได้ไปลงทุนทำตามสิ่งที่ต้องการแล้ว อีกข้อนึงถ้าผมทำงานชิ้นนี้เสร็จมันก้อคือเหมือนพอรต์ฟอร์ลิโอของผมที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือโอกาสทางธุรกิจของผมอีกชั้น ตลอดจนเป็นการันตีว่าตัวผมเคยผ่านอะไรมา งานทุกชิ้นที่เข้ามาหาผมในฐานะที่ปรึกษาธุรกิจมันจึงมีค่ามากๆแล้วผมรักงานเหมือนลูก
ผมตัดสินใจโทรไปร้องไห้ระบายกับน้องที่สนิทมากอยู่ราวชั่วโมงนึงพร้อมกับบอกว่าผมจะตัดสินใจปิดเวบกิจการธุรกิจอีกตัวนึงด้วย ที่ผมทำอยู่มาจะ2ปีล่ะ ทั้งที่ช่วงก่อนหน้าไล่ๆกันสักแปบผมกำลังออกแบรนด์ใหม่ แล้วกำลังเริ่มต้นปูทางพอดีแล้วช่วงจัวหวะนั้นมีงานที่ปรึกษา เข้ามาซึ่งปกติผมไม่ค่อยได้รับงานนานแล้วพักไป แต่งานนี้เปนจัวหสวะดีบวกกับอะไรหลายอย่างผมจึงตัดสินใจรับผมจึง แบ่งไปคุยงานพร้อมๆกับที่กิจการที่ทำอยู่มีปัญหาคือ ร้านผมสั่งเสื้อผ้าส่งของให้ลูกค้าไม่ตรงออเดอร์เสียหายนับพันบาท ผมต้องไปชดใช้ให้ลูกค้า แล้วจังหวะนี้ที่ผมตกลงงานที่ปรึกษา ลงตัวพอดีผมเลยตัดสินใจว่าจะสินค้าในส่วนของเสื้อผ้าที่ขายทิ้งทั้งหมดเปลี่ยนใหม่ แล้วเอาตัวใหม่ที่ผมดีลเข้าไปแทน เลยขอพักการทำงานขอตัวเองไว้ก่อน ส่วนแบรนด์สินค้าอีกตัวที่กำลังสร้าง ผมก้อตัดสินใจว่า จะพักไปก่อนแปบนึงขายปล่อยในวงกันเองไปเรื่อยๆพร้อมทั้งตัดสินใจอัดโปรโมชั่นคือ ชิงโชคแจกนาฬิกากับคนที่มารีวิว ถามว่านาฬิกา เรือยเป็นพันผมเอาเงินจากไหนมาซื้ออัดโปรแจกลูกค้า คำตอยคือผมกะเอาเงินจาก ค่าจ้างทำงานที่ปรึกษาตรงนี้ใช้ไงล่ะ รวมทั้งเรื่องการผลิตของเพิ่มด้วย การทำแอดโฆษณาเพิ่ม
ในเมื่อทั้งหมดผิดแผนขนาดนี้ผมจึงเจ็บปวดและเสียใจมาก เหมือนผมล้มดังตึง ด้วยความที่ว่าอยากจะพูดอะไรอย่างที่ใจต้องการจะทำ โดยไม่ได้คอิดให้รอบคอบว่าอีกฝ่ายเขาจะมองเราไงความสนิทมความคุ้นเคยในการทำงานจนสุดท้านมันส่งผลกระทบในการทำงาน
น้องๆๆเพิ่อนๆบอกผมให้ผมสู้ต่อแต่ผมเหนื่อยเกินที่จะสู้ต่อแล้ว ผมเหนื่อยจริงๆ ผมเคยผ้านช่วงให้ที่บ้านอุ้มมาหลายรอบ ผมอยากยืนด้วยลำแข้งของตัวเองให้มั่นคงได้สักที ผมผิดพลาดเพราะคนอื่นผมยังไม่ถอดใจอะไรเท่ากับการที่ผมผิดพลาดจนทำลายตัวเองแบบนี้ผมรู้สึกแย่สุดๆ ก่อนหน้านี้มี ผู้หญิงคนนึงที่มีความสามารถด้านการดูชะตาชีวิต แต่เธอไม่ใช่หมอดูอาชีพนะ เธอบอกผมว่า ธุรกิจที่ผมปั้นเวบของผมด้านเสื้อผ้าอะไรตรงนี้ผมทำแล้วจะไม่ค่อยได้ดีเท่าไหร่นะ ผมเหมาะกับงานสายอื่นมากกว่าแล้วเธอยังเตือนให้ผมทำอะไรอย่างระมัดระวังให้คิด ผมยังเก็บตรงนี้เอามาคิดว่าทำไงผมถึงจะฝืน โชชะตารึอะไรก้อตามแต่ที้บอกว่าผมทำเสื้อทำกิจการเฉพาะทางของผมไม้รุ่งให้มันรุ่งให้ได้ ให้ผมทำแล้วรวยให้ได้ แต่ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องการระวังตัวระวังคำพูดอย่างที่เธอบอกเลย
ก่อนหน้าวันนี้ผมรู้สึกว่าผมมีความสุขเต็มที่มากๆกับการทำงานงานผมเต็ม7วันรวด ทำงานของตัวเองแบรนด์ตัวเอง ทำงานเป็นที่ปรึกษาเธุรกิจเริ่มต้นก่อตั้งกิจการให้กับลูกค้า วันเสาร์อทิตย์ไปสอนการใช้คอมเบื้องต้นให้กับลูกสาวพี่แถวบ้านที่อยู่ ประถม4 สิ้นเดือนผมนัดหลานสาวไว้แล้วว่าเราจะไปเที่ยวกันนะไปตลาดกลางคืน ผมตั้งใจซื้อของที่พ่ออยากได้ให้แบบเหมาเป็นโหลเลย เพราะผมคิดในใจว่าตอนนี้เรามีกรุมีแล้ว เราอยากจะให้พ่อบ้าง ผมรู่สึกว่าชีวิตตัวเองช่วงนี้เป็นขาขึ้นจริงๆ ผมรู้สึกว่าอยากจะทำมันให้ดีที่สุด แล้วผมตั้งใจว่าสิ้นเดือนเราจะแบ่งค่าจ้างจากในรอบแรกของโปรเจคนี้กจะไปทำ โรงทานที่วัดประจำ ตั้งใจว่ากำลังจะเดินไปคุยกับร่านขยายขนมหวานที่รู้จักกันเรื่องสั่งทำขนม
แต่สุดท้ายทุกอย่างพังครืนทั้งหมด ด้วยคำพูดของผมที่ตัดสินใจยื่นข้อเสนอแปลกๆแบบการคิดเพียงด้านเดียวของจตัวเองไปในการทำงาน ทำให้ผมล้มดังตึงขนาดนี้
ถามว่าทำไมผมถึงอยากจะเป็นกล้าดีไงถึงมายึดอาชีพที่ปรึกษาธุรกิจอีกด้านนึง ควบคู่ไปด้วยกับการทำแบรนด์ของตัวเอง คำตอบคือผ พอผมมาศึกษา พวกโจ วิทเทล โจเซฟเมอร์ฟี่ แจคแคนฟิลด์ แล้วผมชอบจนหาตพำราแปลทั้งหลายมาอ่านเองทดลองกับตัวเองคิดตามสารพัดจริงจัง ผมรู้ตัวดีว่าผมชอบที่จะสอนหนังสือชอบเขียนหนังสือชอบที่จะช่วยคนแล้วชอบธุรกิจ อย่างผมตอบอีเมลธุรกิจฟรีเป็นหลายๆเมลในพันทิพทั้งในหลังไมค์และส่วนตังรึตอบไลน์ เพราะคิดว่ามันช่วยฝึกให้ผมเก่ง ทำให้ผมได้เรียนรู้ขึ้น ผมจึงยินดีทำมันอย่างไม่คิดมูลค่าและเต็มใจ อย่าล่าสุดผมอ่านหนังสือของโปรน้อง แล้วชอบมากสนุกได้แง่คิดจนทำใหเอยากฝึกตัวเองให้เก่ง ผมตัดสินใจว่าจะหาเงินเหยียบหมื่นไปเรียนหลักสูตรการการเขียน ทึ่คุณ สมคิดลวางกูล สอน ผมอ่านเรื่อง ผู้ส่งสารแห่งความั่งคั่ง ของแบรนดอน บูชารด์ ทำให้ผมได้เห็นภาพมีกำลังใจเข้าใจแนวทางถึงสิ่งที่เรา ทำให้ผมรู้ว่าผมควรจะทำไงกัยตัวเอง แต่วัรนนี้มันจบแล้ว ผมเคยมีมีฝันเรื่องว่าผมตั้งใจเปิดแฟลกชิฟสโตร์ในธุรกิจอีกตัวที่ผมทำมาจะ2ปีดิ้นรนมากเพื่อให้ความฝันของผมเป็นจริง เพราะเพราะเห็นโอกาสว่าเมืองไทยไม่มีแฟลกชิฟสโตร์ในกิจการประเภทนี้เลย ถ้ามีแฟลกชิฟสโตร์เกิดขึ้นเมื่อไหร่ รับรองได้เลยว่า คนที่ทำได้จะเป็นคนที่รวยที่สุดเพราะคุณจะกินรวบครบวงจรแต่เพียงผู้เดียว
อันที่จริงมันมีต้นฉบับเรื่องของการเริ่มต้นจาก0ถึง100ตอนที่7 ที่ผมเขียนไว้เสร็น่านสักพักแล้วรอเอาลง เรื่อ มินิมาเเนีย แต่จนป่านนีก้อยังยึกยัก ไม่ได้เอาลงเพราะงานยุ่ง เคยทมีหลายคนบอกว่าผมฉลาดนะผมเก่งจัง ผมก้อตอบไปว่าใช่ ผมเก่งผมฉลาดนะแต่ปัญหาของผมคือ ผมขาดเงิน ขาดนายทุนที่จะมาทำให้ความเก่งความฉลาดของผมเป็นจริงพิสูจน์ในสิ่งที่ผมพูด ผมบอกทุกคนมาตลอดรอบๆคัวว่า ผมก้อทำแบบนี้แบบที่คู่แข่งของผมทำได้ในต้นทุนที่ถูกกว่า ถ้าผมมีเวงินรึมานายทุนออกทุนให้ แต่แน่นอน ว่าผมเริ่มต้นทุกอย่างด้วยเองจาก0ในแบบที่ไม่มีทุนอาศัยความช่วยเหลือจากคนรอบตัวในบางทีหลายที มันเลยทำให้ผมกลายเป็นแค่คนเก่งที่เดินไปขางหน้าไม่ได้เดินไม่สุด กลายเป็นแค่คนที่เกือบจะเก่งรึประสบความเสำเร็จ
ขอโทษด้วยนะครับที่วันก่อนผมเคยสอนเขียนให้กำลังใจผู้คนเข้มแข็งมากมาย ชี้ทางออก พาบุกเบิก แต่มาวันนี้ตัวผมกลับล้มดังตึงซะเอง จนผมตัดสินใจที่เลิกทุกอย่างถาวร ผมสู้มาตลอดเพื่อความสำเร็จล้มมากี่หนผมไม่เคยถอดใจ แต่มาวันนี้ผมล้มในจังหวะที่ผมกำลังจะขาขั้น แถมเป็นการล้มด้วยคำพูดและการกระทำที่ไม่รอบคอบของตัวเอง ผมอยากจะให้กระทู้ของผมฝากทุกคนไว้เรื่องความคิดและคำพูด เราต้องถี่ถ้วนให้มากๆมันอาจจะพลิกชีวิตได้เลย จนผมต้องมานั่งระบายความเจ็บปวดแบบนี้ สุดท้ายแล้วผมก้อแค่คนนึงที่ดิ้นรนในฝัน กับการสร้างแบรนด์ของตัวเองเปิดแฟลกชิฟสโตร์สร้างแบรนด์เฉพาะทางของไทย และการการประกอบอาชีพจะเป็นที่ปรึกษาธุรกิจ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามผมาด้วยดีตลอดนะครับ ลอคอินในพันทิพผมยังไม่คิดนะว่าจะยอเกลิกดีไหม ให้มาจะ10ปีแล้วตอนนี้ผมืดไปหมด อยากได้แสงสว่างนะ อยากได้ปาฎิหาริย์ แต่อีกด้านนึงผมก้อตัดสินใจจะเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองไม่ขอความช่วยเหลือจากครอบครัวคนรอบข้างอีก เพราะเกรงใจที่ทุกคนช่วยเรามาเยอะแล้วในวันที่เราลำบาก ถามว่าทำงานประจำสิ คำตอบคือในชีวิตผมไม่เคยทำงานประจำแล้วรู้ตัวดีว่าผมไม่เหมาะกับมันครับ แล้วเคยมีขายตรงอยากให้ผมไปทำงานด้วยนะ2เจ้า แต่ผมยื่นเงื่อนไขไปว่าถ้าอวยว่าผมเก่งมาก ช่วยออกเงินค่าสมัครค่าขึ้นตำแหน่งให้ผมก่อนสิ แต่ผลที่ได้คือไม่มีใครกล้าทุกคนเงียบกันหมดเลิกมาคุยชวนผมอีก
ขอบคุณทุกการติดตาม ถ้ามีโอกาสเราคงได้กลับมาเจอกันถ้าแสงสวางมีจริงๆสำหรับผม
ชาวนาเจ้าของหมากากๆ p241022@hotmail.com
เมื่อวันที่ผม....ล้ม.............
http://ppantip.com/topic/30865409
สวัสดีครับผมอยากให้เรื่องของเป็นแง่คิดเป็นประสบการณ์เตือนใจให้กับผู้คน ถ่ายทอดมาจากชีวิตจริงเรื่องจริงของผมในตอนนี้
วันนี้ตอนนี้ผมตัดสินใจเลิกทำธุรกิจทุกอย่างแจ้งปิดเวบที่ผมฟูมฟักผลักดันมากว่าจะ2ปีถาวร กะว่าจะเอาโน้ตบุคไปขายไหม รวมทั้งอาจจะลบไอดีไลน์ไหมรวมทั้งปิดลอคอินในเวบด้วย
ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเร็วมาก ทั้งที่เมื่อวานผมยังนั่งสอนงานลูกค้ารายงานความคืบหน้างานที่สยามพารากอนอยู่เลย ตอนท้ายผมยังได้ตัดสินใจบอกลูกค้าถึงการขอเปลี่ยนแปลงข้อเสนอ ในการับเงินค่าจ้างอันแสนจะแปลกประหลาดของผม ผมพูดไปแบบไม่ซ๊เรียส ไม่คิดอะไรเลยว่าอีกฝ่ายจะรู้สึออะไรในใจ ผมกำลังมีความสุขมากและคิดว่าสิ้นเดทอนจะเอาเงินจากตรงนี้ไปซื้อของให้พ่อตามที่พ่ออยากได้ ตั้งใจอยู่ว่าจะแบ่งเอาไปลงทุนไปทำไรให้ตัวเองต่อ แล้วผมกลับมาถึงบ้านคิดว่าตื่นมาพรุ่งนี้วันพรุ่งนี้ผมจะทำงานต่อแก้ไฟลภาพทำในส่วนของภาพใหเสร็จสักที
พอวันรุ่งเช้าตื่นมาตอนบ่าย มีไลน์จากลูกค้าทักมาหาผม บอกผมว่าข้อเสนอที่ผมขอเปลี่ยนแปลงไป เค้าเอาไปคิดแล้ว เค่าตัดสินใจไม่รับข้อเสนอ พร้อมๆกับบอกประโยคต่อมาว่าเรื่องานที่ผมรับผิดชอบอยู่ให้ผมเหยีบเบรคมันไว้ถาวรนะ เค้าจะเอาไปทำกันเองสรุปง่ายๆคือเลิกจ้างผม เงินผมหายไปทันที5หลัก
ผมอึ้งพูดอะไรไม่ออก ลูกค้าพยามพูดกับผมอย่างนุ่มนวล อะไรก้อตามแต่ แต่ผมรู้สึกในใจได้เลยว่า กุพลาดอีกแล้ว กรุพลาดที่ทำให้เค้าไม่ไว้ใจไม่วางใจในการทำงานกับกุกับข้อเสนอเมื่อวานที่มันเพี้ยนและแผลงๆไป เค้าเลยเกิดความรู้สึกจนนำมาสู่ความไม่ไว้ใจไม่สบายใจให้ผมทำงานต่อ ผมได้ตระหนักกับตัวเองว่าผมทำลายความไว้ใจที่เค้ามีต่องานผมมากแค่ไหน ทำลายความไว้ใจที่มีตัวตัวผมมากแค่ไหน
ผมรู้สึกแย่มากทำอะไรไม่ถูก น้ำตาผมไหล ลูกค้าไม่เปิดโอกาสให้ผมได้ชดเชยความผิดพลาดแก้ตัวเลย ถึงแม้ว่าผมจะพยามเสนอว่าผมจะทำงานครึ่งราคาแล้วก้อตาม ทำไมผมถึงดิ้นรนอ้อรวอนขอทำงานนี้มาก เพราะผมมอว่านอกจากเรื่อเงินรายได้แล้วที่ผมจะได้ไปลงทุนทำตามสิ่งที่ต้องการแล้ว อีกข้อนึงถ้าผมทำงานชิ้นนี้เสร็จมันก้อคือเหมือนพอรต์ฟอร์ลิโอของผมที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือโอกาสทางธุรกิจของผมอีกชั้น ตลอดจนเป็นการันตีว่าตัวผมเคยผ่านอะไรมา งานทุกชิ้นที่เข้ามาหาผมในฐานะที่ปรึกษาธุรกิจมันจึงมีค่ามากๆแล้วผมรักงานเหมือนลูก
ผมตัดสินใจโทรไปร้องไห้ระบายกับน้องที่สนิทมากอยู่ราวชั่วโมงนึงพร้อมกับบอกว่าผมจะตัดสินใจปิดเวบกิจการธุรกิจอีกตัวนึงด้วย ที่ผมทำอยู่มาจะ2ปีล่ะ ทั้งที่ช่วงก่อนหน้าไล่ๆกันสักแปบผมกำลังออกแบรนด์ใหม่ แล้วกำลังเริ่มต้นปูทางพอดีแล้วช่วงจัวหวะนั้นมีงานที่ปรึกษา เข้ามาซึ่งปกติผมไม่ค่อยได้รับงานนานแล้วพักไป แต่งานนี้เปนจัวหสวะดีบวกกับอะไรหลายอย่างผมจึงตัดสินใจรับผมจึง แบ่งไปคุยงานพร้อมๆกับที่กิจการที่ทำอยู่มีปัญหาคือ ร้านผมสั่งเสื้อผ้าส่งของให้ลูกค้าไม่ตรงออเดอร์เสียหายนับพันบาท ผมต้องไปชดใช้ให้ลูกค้า แล้วจังหวะนี้ที่ผมตกลงงานที่ปรึกษา ลงตัวพอดีผมเลยตัดสินใจว่าจะสินค้าในส่วนของเสื้อผ้าที่ขายทิ้งทั้งหมดเปลี่ยนใหม่ แล้วเอาตัวใหม่ที่ผมดีลเข้าไปแทน เลยขอพักการทำงานขอตัวเองไว้ก่อน ส่วนแบรนด์สินค้าอีกตัวที่กำลังสร้าง ผมก้อตัดสินใจว่า จะพักไปก่อนแปบนึงขายปล่อยในวงกันเองไปเรื่อยๆพร้อมทั้งตัดสินใจอัดโปรโมชั่นคือ ชิงโชคแจกนาฬิกากับคนที่มารีวิว ถามว่านาฬิกา เรือยเป็นพันผมเอาเงินจากไหนมาซื้ออัดโปรแจกลูกค้า คำตอยคือผมกะเอาเงินจาก ค่าจ้างทำงานที่ปรึกษาตรงนี้ใช้ไงล่ะ รวมทั้งเรื่องการผลิตของเพิ่มด้วย การทำแอดโฆษณาเพิ่ม
ในเมื่อทั้งหมดผิดแผนขนาดนี้ผมจึงเจ็บปวดและเสียใจมาก เหมือนผมล้มดังตึง ด้วยความที่ว่าอยากจะพูดอะไรอย่างที่ใจต้องการจะทำ โดยไม่ได้คอิดให้รอบคอบว่าอีกฝ่ายเขาจะมองเราไงความสนิทมความคุ้นเคยในการทำงานจนสุดท้านมันส่งผลกระทบในการทำงาน
น้องๆๆเพิ่อนๆบอกผมให้ผมสู้ต่อแต่ผมเหนื่อยเกินที่จะสู้ต่อแล้ว ผมเหนื่อยจริงๆ ผมเคยผ้านช่วงให้ที่บ้านอุ้มมาหลายรอบ ผมอยากยืนด้วยลำแข้งของตัวเองให้มั่นคงได้สักที ผมผิดพลาดเพราะคนอื่นผมยังไม่ถอดใจอะไรเท่ากับการที่ผมผิดพลาดจนทำลายตัวเองแบบนี้ผมรู้สึกแย่สุดๆ ก่อนหน้านี้มี ผู้หญิงคนนึงที่มีความสามารถด้านการดูชะตาชีวิต แต่เธอไม่ใช่หมอดูอาชีพนะ เธอบอกผมว่า ธุรกิจที่ผมปั้นเวบของผมด้านเสื้อผ้าอะไรตรงนี้ผมทำแล้วจะไม่ค่อยได้ดีเท่าไหร่นะ ผมเหมาะกับงานสายอื่นมากกว่าแล้วเธอยังเตือนให้ผมทำอะไรอย่างระมัดระวังให้คิด ผมยังเก็บตรงนี้เอามาคิดว่าทำไงผมถึงจะฝืน โชชะตารึอะไรก้อตามแต่ที้บอกว่าผมทำเสื้อทำกิจการเฉพาะทางของผมไม้รุ่งให้มันรุ่งให้ได้ ให้ผมทำแล้วรวยให้ได้ แต่ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องการระวังตัวระวังคำพูดอย่างที่เธอบอกเลย
ก่อนหน้าวันนี้ผมรู้สึกว่าผมมีความสุขเต็มที่มากๆกับการทำงานงานผมเต็ม7วันรวด ทำงานของตัวเองแบรนด์ตัวเอง ทำงานเป็นที่ปรึกษาเธุรกิจเริ่มต้นก่อตั้งกิจการให้กับลูกค้า วันเสาร์อทิตย์ไปสอนการใช้คอมเบื้องต้นให้กับลูกสาวพี่แถวบ้านที่อยู่ ประถม4 สิ้นเดือนผมนัดหลานสาวไว้แล้วว่าเราจะไปเที่ยวกันนะไปตลาดกลางคืน ผมตั้งใจซื้อของที่พ่ออยากได้ให้แบบเหมาเป็นโหลเลย เพราะผมคิดในใจว่าตอนนี้เรามีกรุมีแล้ว เราอยากจะให้พ่อบ้าง ผมรู่สึกว่าชีวิตตัวเองช่วงนี้เป็นขาขึ้นจริงๆ ผมรู้สึกว่าอยากจะทำมันให้ดีที่สุด แล้วผมตั้งใจว่าสิ้นเดือนเราจะแบ่งค่าจ้างจากในรอบแรกของโปรเจคนี้กจะไปทำ โรงทานที่วัดประจำ ตั้งใจว่ากำลังจะเดินไปคุยกับร่านขยายขนมหวานที่รู้จักกันเรื่องสั่งทำขนม
แต่สุดท้ายทุกอย่างพังครืนทั้งหมด ด้วยคำพูดของผมที่ตัดสินใจยื่นข้อเสนอแปลกๆแบบการคิดเพียงด้านเดียวของจตัวเองไปในการทำงาน ทำให้ผมล้มดังตึงขนาดนี้
ถามว่าทำไมผมถึงอยากจะเป็นกล้าดีไงถึงมายึดอาชีพที่ปรึกษาธุรกิจอีกด้านนึง ควบคู่ไปด้วยกับการทำแบรนด์ของตัวเอง คำตอบคือผ พอผมมาศึกษา พวกโจ วิทเทล โจเซฟเมอร์ฟี่ แจคแคนฟิลด์ แล้วผมชอบจนหาตพำราแปลทั้งหลายมาอ่านเองทดลองกับตัวเองคิดตามสารพัดจริงจัง ผมรู้ตัวดีว่าผมชอบที่จะสอนหนังสือชอบเขียนหนังสือชอบที่จะช่วยคนแล้วชอบธุรกิจ อย่างผมตอบอีเมลธุรกิจฟรีเป็นหลายๆเมลในพันทิพทั้งในหลังไมค์และส่วนตังรึตอบไลน์ เพราะคิดว่ามันช่วยฝึกให้ผมเก่ง ทำให้ผมได้เรียนรู้ขึ้น ผมจึงยินดีทำมันอย่างไม่คิดมูลค่าและเต็มใจ อย่าล่าสุดผมอ่านหนังสือของโปรน้อง แล้วชอบมากสนุกได้แง่คิดจนทำใหเอยากฝึกตัวเองให้เก่ง ผมตัดสินใจว่าจะหาเงินเหยียบหมื่นไปเรียนหลักสูตรการการเขียน ทึ่คุณ สมคิดลวางกูล สอน ผมอ่านเรื่อง ผู้ส่งสารแห่งความั่งคั่ง ของแบรนดอน บูชารด์ ทำให้ผมได้เห็นภาพมีกำลังใจเข้าใจแนวทางถึงสิ่งที่เรา ทำให้ผมรู้ว่าผมควรจะทำไงกัยตัวเอง แต่วัรนนี้มันจบแล้ว ผมเคยมีมีฝันเรื่องว่าผมตั้งใจเปิดแฟลกชิฟสโตร์ในธุรกิจอีกตัวที่ผมทำมาจะ2ปีดิ้นรนมากเพื่อให้ความฝันของผมเป็นจริง เพราะเพราะเห็นโอกาสว่าเมืองไทยไม่มีแฟลกชิฟสโตร์ในกิจการประเภทนี้เลย ถ้ามีแฟลกชิฟสโตร์เกิดขึ้นเมื่อไหร่ รับรองได้เลยว่า คนที่ทำได้จะเป็นคนที่รวยที่สุดเพราะคุณจะกินรวบครบวงจรแต่เพียงผู้เดียว
อันที่จริงมันมีต้นฉบับเรื่องของการเริ่มต้นจาก0ถึง100ตอนที่7 ที่ผมเขียนไว้เสร็น่านสักพักแล้วรอเอาลง เรื่อ มินิมาเเนีย แต่จนป่านนีก้อยังยึกยัก ไม่ได้เอาลงเพราะงานยุ่ง เคยทมีหลายคนบอกว่าผมฉลาดนะผมเก่งจัง ผมก้อตอบไปว่าใช่ ผมเก่งผมฉลาดนะแต่ปัญหาของผมคือ ผมขาดเงิน ขาดนายทุนที่จะมาทำให้ความเก่งความฉลาดของผมเป็นจริงพิสูจน์ในสิ่งที่ผมพูด ผมบอกทุกคนมาตลอดรอบๆคัวว่า ผมก้อทำแบบนี้แบบที่คู่แข่งของผมทำได้ในต้นทุนที่ถูกกว่า ถ้าผมมีเวงินรึมานายทุนออกทุนให้ แต่แน่นอน ว่าผมเริ่มต้นทุกอย่างด้วยเองจาก0ในแบบที่ไม่มีทุนอาศัยความช่วยเหลือจากคนรอบตัวในบางทีหลายที มันเลยทำให้ผมกลายเป็นแค่คนเก่งที่เดินไปขางหน้าไม่ได้เดินไม่สุด กลายเป็นแค่คนที่เกือบจะเก่งรึประสบความเสำเร็จ
ขอโทษด้วยนะครับที่วันก่อนผมเคยสอนเขียนให้กำลังใจผู้คนเข้มแข็งมากมาย ชี้ทางออก พาบุกเบิก แต่มาวันนี้ตัวผมกลับล้มดังตึงซะเอง จนผมตัดสินใจที่เลิกทุกอย่างถาวร ผมสู้มาตลอดเพื่อความสำเร็จล้มมากี่หนผมไม่เคยถอดใจ แต่มาวันนี้ผมล้มในจังหวะที่ผมกำลังจะขาขั้น แถมเป็นการล้มด้วยคำพูดและการกระทำที่ไม่รอบคอบของตัวเอง ผมอยากจะให้กระทู้ของผมฝากทุกคนไว้เรื่องความคิดและคำพูด เราต้องถี่ถ้วนให้มากๆมันอาจจะพลิกชีวิตได้เลย จนผมต้องมานั่งระบายความเจ็บปวดแบบนี้ สุดท้ายแล้วผมก้อแค่คนนึงที่ดิ้นรนในฝัน กับการสร้างแบรนด์ของตัวเองเปิดแฟลกชิฟสโตร์สร้างแบรนด์เฉพาะทางของไทย และการการประกอบอาชีพจะเป็นที่ปรึกษาธุรกิจ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามผมาด้วยดีตลอดนะครับ ลอคอินในพันทิพผมยังไม่คิดนะว่าจะยอเกลิกดีไหม ให้มาจะ10ปีแล้วตอนนี้ผมืดไปหมด อยากได้แสงสว่างนะ อยากได้ปาฎิหาริย์ แต่อีกด้านนึงผมก้อตัดสินใจจะเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองไม่ขอความช่วยเหลือจากครอบครัวคนรอบข้างอีก เพราะเกรงใจที่ทุกคนช่วยเรามาเยอะแล้วในวันที่เราลำบาก ถามว่าทำงานประจำสิ คำตอบคือในชีวิตผมไม่เคยทำงานประจำแล้วรู้ตัวดีว่าผมไม่เหมาะกับมันครับ แล้วเคยมีขายตรงอยากให้ผมไปทำงานด้วยนะ2เจ้า แต่ผมยื่นเงื่อนไขไปว่าถ้าอวยว่าผมเก่งมาก ช่วยออกเงินค่าสมัครค่าขึ้นตำแหน่งให้ผมก่อนสิ แต่ผลที่ได้คือไม่มีใครกล้าทุกคนเงียบกันหมดเลิกมาคุยชวนผมอีก
ขอบคุณทุกการติดตาม ถ้ามีโอกาสเราคงได้กลับมาเจอกันถ้าแสงสวางมีจริงๆสำหรับผม
ชาวนาเจ้าของหมากากๆ p241022@hotmail.com