Yanai Tadashi (柳井正) เป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
และรวยเป็นอันดับ 41 ของโลก
เขาเป็นเจ้าของบริษัทเสื้อผ้าชื่อ Uniqlo
ร้านเสื้อผ้าชื่อดังที่มีสาขากว่า 1,300 แห่งทั่วโลก
++++++++++++++++++++++++++++++++
เด็กไร้ฝัน
Yanai เป็นลูกชายคนเดียวในบ้าน
พ่อเป็นเจ้าของร้านสูทเล็กๆ แห่งหนึ่งในจ.ฮิโรชิม่า
Yanai เข้าเรียนที่ม.วาเซดะ ม.เอกชนชื่อดังของญี่ปุ่น
ช่วงนั้น นักศึกษาในกรุงโตเกียวต่างพากันรวมตัวประท้วง
นโยบายของรัฐบาล
มหาลัยส่วนใหญ่จึงหยุดการเรียนการสอน
Yanai ไม่สนใจการเมืองหรือการประท้วงอะไรนั่น
เขาเอาเวลาทั้งหมดไปเล่นไพ่นกกระจอกกับปาจิงโกะเสียหมด
เมื่อเรียนจบ เขาไม่ได้อยากเข้าทำงานที่ไหน จึงไม่ได้หางาน
จนพ่อเขาทนไม่ไหว ต้องฝากให้เข้าทำงานที่ Jusco
แต่ Yanai ก็ทำอยู่เพียง 10 เดือน และลาออกกลับมาทำงานที่บ้าน
++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่เหลือใคร
แม้อยู่ Jusco เพียง 10 เดือน
แต่ Yanai ก็ได้เรียนรู้การจัดการคลังสินค้า การวางสินค้าอย่างเป็นระบบ
เมื่อกลับมาช่วยงานพ่อ
เขาจึงสั่งโน่นสั่งนี่กับลูกน้อง
โดยพยายามจะเปลี่ยนให้พนักงานในร้านมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทว่า พนักงานต่างทนไม่ไหว
ค่อยๆ ทยอยลาออกกันไปทีละคนสองคน
จนสุดท้าย พนักงานลาออกไปทั้งหมด 7 คน
เหลือพนักงานเก่าแก่อยู่แค่คนเดียว
Yanai จึงต้องทำทุกอย่าง ตั้งแต่ทำความสะอาดร้าน
ลงบัญชี สั่งของ ขายสินค้า ด้วยวัยเพียง 24-25 ปี
Yanai กล่าวในภายหลังว่า …
“ตอนนั้น เขาลำบากมาก ทำงานแทบไม่มีเวลาหยุด
แต่ช่วงเวลานั้น ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี
ทำให้เขาทำทุกอย่าง ทุกขั้นตอนเป็นเอง”
นี่อาจเป็นสาเหตุที่ Uniqlo มักให้เด็กที่จบมหาลัยใหม่ๆ
มาเป็นผู้ช่วยหรือเป็นผู้จัดการร้าน
และต้องทำทุกอย่างเป็น แม้แต่ถูพื้น
ฝึกให้เรียนรู้ทุกอย่าง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จาก Formal wear มาเป็น Casual wear
Yanai มีโอกาสได้เจอกับจิมมี่ ไร
เจ้าของแบรนด์ Giordano ที่ฮ่องกง
ประกอบกับระหว่างการเดินทางไปดูงานทีสหรัฐฯ
เขาได้เห็นความสำเร็จของแบรนด์เสื้อผ้า Casual
เช่น GAP Esprit Benetton
แกเห็นร้าน Coop ตามมหาลัยที่เนืองแน่นไปด้วย
นักศึกษาที่มาหาซื้อเสื้อฮู้ท เสื้อยืด
เพราะฉะนั้น เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนจากธุรกิจจำหน่ายสูท
ที่ต้องคอยดูแลลูกค้า คอยเอาใจใส่ทุกกระบวนการ
มาเป็นการจำหน่าย Casual wear
ประเภทเสื้อยืด เสื้อกันหนาวถูกๆ
ซึ่งลูกค้าตัดสินใจเอง เลือกซื้อเอง
สินค้าประเภทนี้ขายง่ายและขยายธุรกิจได้เร็วกว่า
ตัว Yanai เอง ก็เป็นคนใจร้อน
ไม่ชอบพูดคุยกับลูกค้าอย่างนอบน้อมใจเย็นอยู่แล้ว
และนั่นคือที่มาของ “Uniqlo”
ซึ่งมาจากคำว่า “Unique Clothing”
Yanai มาถูกทาง
สินค้าราคาประหยัดทว่าคุณภาพดี อย่างเสื้อฟลีซ
ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
Uniqlo กลายเป็นกระแสในญี่ปุ่น
เขาจึงขยายกิจการไปเรื่อยๆ ไปทั่วประเทศ
และมุ่งสู่กิจการระดับโลก
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ชนะ 1 แพ้ 9
หลายคนอาจมองว่า Uniqlo เป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมากในระยะเวลาไม่ถึง 20 ปี
แต่ Yanai มองว่า เขาเองผิดพลาดมามากเช่นกัน
“ในการทำธุรกิจ หากเริ่มอะไรใหม่ๆ สัก 10 อย่าง
ก็คงจะล้มเหลวสัก 9 อย่างนั่นแหละ
ความผิดพลาด ความล้มเหลว เป็นเรื่องปกติในการทำธุรกิจ”
แต่ล้มเร็ว ก็ต้องลุกเร็ว …
Uniqlo เคยลงทุนในเสื้อผ้ากีฬา แต่ก็ล้มเลิกไปในเวลาไม่ถึง 1 ปี
Uniqlo ไปเปิดร้านที่อังกฤษ โดยเปิด 21 ร้านภายในระยะเวลาแค่ 2 ปี
แต่สุดท้าย ก็ตัดสินใจปิดไป 16 ร้าน
บริษัทยังเคยพยายามลองธุรกิจขนส่งผักด้วย
แต่ยอดขายไม่ถึงเป้า จึงล้มเลิกไปภายใน 2 ปี
Yanai ผิดพลาดมาหลายครั้งจริงๆ
แต่เขาก็ยังก้าวเดินต่อ
“ก่อนเริ่มทำธุรกิจใหม่ใดๆ ก็ตาม
ผมจะมองเห็นเป้าหมาย เห็นปลายทางแล้วว่า
ธุรกิจนี้ น่าจะเป็นแบบไหน”
ถ้าธุรกิจนั้นดูท่าจะไปไม่ถึงฝั่ง ไม่เป็นไปตามเป้า
ก็รีบถอนตัวแต่เนิ่นๆ
นั่นเป็นสาเหตุที Uniqlo ลองทำอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา
และไม่เคยกลัวความล้มเหลว
ขอเพียงความผิดพลาดนั้น ไม่ถึงกับทำให้บริษัทต้องล้มละลาย
เขาก็พร้อมที่จะผิดพลาด และเรียนรู้เสมอ
ล้ม…แล้วก็ลุกขึ้นได้
Yanai เชื่อว่า ความล้มเหลวจะเป็นบทเรียนที่ดีให้กับเขา
ขอเพียงอย่าผิดซ้ำ และถอนตัวให้ไว
+++++++++++++++++++++++++++++++++
Uniqlo จึงมีตำราและคลังความรู้ว่า
บริษัทต้องเปิดร้านในทำเลเช่นใด
จัดวางของประเภทใดในทำเลไหน
เรียนรู้ความต้องการของลูกค้าอย่างไร
เวลาแตกแบรนด์ลูก
จะต้องสร้างความแตกต่างกับแบรนด์แม่อย่างไร
ทั้งหมด ได้มาจากความผิดพลาดในอดีตทั้งนั้น
วิ่ง … ล้ม … ลุก …เรียนรู้ …และก้าวเดินต่อไป
บทเรียนจาก Yanai Tadashi
ชายที่ (น่าจะ) ล้มเยอะทีสุด และรวยที่สุดในญี่ปุ่น
+++++++++++++++++++++++++++++++++
เดิมที ดิฉันตั้งใจจะเขียนบทความอื่นในโพสท์นี้
แต่เผอิญเมื่อวานตอนกลางวัน
ดิฉันได้คุยกับรุ่นพี่คนหนึ่ง
เขาบอกกับดิฉันว่า …
เขาอยากทำงานนี้ แต่ไม่รู้จะออกมาดีหรือเปล่า
เขาพอจะมีไอเดียดีๆ แบบนี้ แบบนั้น
แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง จะไปรอดไหม
ดิฉันฟังเงียบๆ
และคิดว่า เขาอาจจะเผชิญกับความรู้สึกกลัวความล้มเหลว
ก่อนที่จะลงมือทำ
ดิฉันถามตัวเองต่อว่า
รุ่นพี่ รวมถึงดิฉันได้ลองลงมือทำอะไรถึง 10 ครั้ง
แล้วหรือยัง
นั่นทำให้ดิฉันเกิดแรงบันดาลใจที่จะเขียนเรื่อง
คุณ Yanai Tadashi คนนี้
“อย่ากลัวที่จะล้มเหลว”
“แข่ง 10 ครั้ง แพ้ 9 ครั้ง เป็นเรื่องปกติ”
ขออย่างเดียว
ล้มเมื่อไร รีบลุกขึ้นมา
วิเคราะห์ความผิดพลาดของตัวเองให้ดี
แล้วตะลุยวิ่งไปแข่งรอบถัดไป….ก็เป็นพอ
ชนะ 1 แพ้ 9 เป็นเรื่องปกติค่ะ
Japan Gossip by เกตุวดี Marumura
ป.ล. สมัยอยู่มหาลัยปี 3 ดิฉันเคยเจอท่านที่บริษัท
ผู้ช่วยผู้จัดการถามดิฉันว่า
“ถ้า Uniqlo ไปเปิดที่ไทย จะประสบความสำเร็จไหม”
คือ… สมัยนั้น Uniqlo ยังไม่มีเสื้อผ้าล้ำนวัตกรรม
และยังไม่ co-brand กับแบรนด์ดังๆ ทั่วโลกขนาดนี้…
ดิฉันเลยบอกว่า…
“ไม่น่า เพราะเสื้อผ้าเมืองไทย ถูกๆ ลายสวยๆ ดีๆ มีเยอะแยะ
ไม่เชื่อไปดูจตุจักรบ้านหนู คนไทยยังไม่มีกำลังซื้อหรอก”
เป็นคำตอบที่ตรงไปตรงมาและโง่มาก…
คุณ Yanai ดูอารมณ์ไม่ดีทันที…
นั่นเป็นความผิดพลาดที่ดิฉันได้เรียนรู้อีกประการ
5 ปีหลังจากนั้น Uniqlo มาเปิดที่เมืองไทย
และขยายเป็นดอกเห็ดจนบัดนี้
หนูผิดไปแล้วค่ะท่าน ….:p
Source:
หนังสือ 1 ชนะ 9 แพ้ (一勝九敗)
Credit เนื้อหา : gademaru.wordpress.com
======================================================================
ติดตามข่าวสาร ศูนย์รวมความรู้-บทความเรื่องการลงทุน, อสังหา, และธุรกิจ ได้ที่
https://www.facebook.com/thinkvestment
=== ชนะ 1 แพ้ 9: บทเรียนจากชายที่รวยที่สุดในญี่ปุ่น ===
และรวยเป็นอันดับ 41 ของโลก
เขาเป็นเจ้าของบริษัทเสื้อผ้าชื่อ Uniqlo
ร้านเสื้อผ้าชื่อดังที่มีสาขากว่า 1,300 แห่งทั่วโลก
++++++++++++++++++++++++++++++++
เด็กไร้ฝัน
Yanai เป็นลูกชายคนเดียวในบ้าน
พ่อเป็นเจ้าของร้านสูทเล็กๆ แห่งหนึ่งในจ.ฮิโรชิม่า
Yanai เข้าเรียนที่ม.วาเซดะ ม.เอกชนชื่อดังของญี่ปุ่น
ช่วงนั้น นักศึกษาในกรุงโตเกียวต่างพากันรวมตัวประท้วง
นโยบายของรัฐบาล
มหาลัยส่วนใหญ่จึงหยุดการเรียนการสอน
Yanai ไม่สนใจการเมืองหรือการประท้วงอะไรนั่น
เขาเอาเวลาทั้งหมดไปเล่นไพ่นกกระจอกกับปาจิงโกะเสียหมด
เมื่อเรียนจบ เขาไม่ได้อยากเข้าทำงานที่ไหน จึงไม่ได้หางาน
จนพ่อเขาทนไม่ไหว ต้องฝากให้เข้าทำงานที่ Jusco
แต่ Yanai ก็ทำอยู่เพียง 10 เดือน และลาออกกลับมาทำงานที่บ้าน
++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่เหลือใคร
แม้อยู่ Jusco เพียง 10 เดือน
แต่ Yanai ก็ได้เรียนรู้การจัดการคลังสินค้า การวางสินค้าอย่างเป็นระบบ
เมื่อกลับมาช่วยงานพ่อ
เขาจึงสั่งโน่นสั่งนี่กับลูกน้อง
โดยพยายามจะเปลี่ยนให้พนักงานในร้านมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทว่า พนักงานต่างทนไม่ไหว
ค่อยๆ ทยอยลาออกกันไปทีละคนสองคน
จนสุดท้าย พนักงานลาออกไปทั้งหมด 7 คน
เหลือพนักงานเก่าแก่อยู่แค่คนเดียว
Yanai จึงต้องทำทุกอย่าง ตั้งแต่ทำความสะอาดร้าน
ลงบัญชี สั่งของ ขายสินค้า ด้วยวัยเพียง 24-25 ปี
Yanai กล่าวในภายหลังว่า …
“ตอนนั้น เขาลำบากมาก ทำงานแทบไม่มีเวลาหยุด
แต่ช่วงเวลานั้น ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี
ทำให้เขาทำทุกอย่าง ทุกขั้นตอนเป็นเอง”
นี่อาจเป็นสาเหตุที่ Uniqlo มักให้เด็กที่จบมหาลัยใหม่ๆ
มาเป็นผู้ช่วยหรือเป็นผู้จัดการร้าน
และต้องทำทุกอย่างเป็น แม้แต่ถูพื้น
ฝึกให้เรียนรู้ทุกอย่าง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จาก Formal wear มาเป็น Casual wear
Yanai มีโอกาสได้เจอกับจิมมี่ ไร
เจ้าของแบรนด์ Giordano ที่ฮ่องกง
ประกอบกับระหว่างการเดินทางไปดูงานทีสหรัฐฯ
เขาได้เห็นความสำเร็จของแบรนด์เสื้อผ้า Casual
เช่น GAP Esprit Benetton
แกเห็นร้าน Coop ตามมหาลัยที่เนืองแน่นไปด้วย
นักศึกษาที่มาหาซื้อเสื้อฮู้ท เสื้อยืด
เพราะฉะนั้น เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนจากธุรกิจจำหน่ายสูท
ที่ต้องคอยดูแลลูกค้า คอยเอาใจใส่ทุกกระบวนการ
มาเป็นการจำหน่าย Casual wear
ประเภทเสื้อยืด เสื้อกันหนาวถูกๆ
ซึ่งลูกค้าตัดสินใจเอง เลือกซื้อเอง
สินค้าประเภทนี้ขายง่ายและขยายธุรกิจได้เร็วกว่า
ตัว Yanai เอง ก็เป็นคนใจร้อน
ไม่ชอบพูดคุยกับลูกค้าอย่างนอบน้อมใจเย็นอยู่แล้ว
และนั่นคือที่มาของ “Uniqlo”
ซึ่งมาจากคำว่า “Unique Clothing”
Yanai มาถูกทาง
สินค้าราคาประหยัดทว่าคุณภาพดี อย่างเสื้อฟลีซ
ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
Uniqlo กลายเป็นกระแสในญี่ปุ่น
เขาจึงขยายกิจการไปเรื่อยๆ ไปทั่วประเทศ
และมุ่งสู่กิจการระดับโลก
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ชนะ 1 แพ้ 9
หลายคนอาจมองว่า Uniqlo เป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมากในระยะเวลาไม่ถึง 20 ปี
แต่ Yanai มองว่า เขาเองผิดพลาดมามากเช่นกัน
“ในการทำธุรกิจ หากเริ่มอะไรใหม่ๆ สัก 10 อย่าง
ก็คงจะล้มเหลวสัก 9 อย่างนั่นแหละ
ความผิดพลาด ความล้มเหลว เป็นเรื่องปกติในการทำธุรกิจ”
แต่ล้มเร็ว ก็ต้องลุกเร็ว …
Uniqlo เคยลงทุนในเสื้อผ้ากีฬา แต่ก็ล้มเลิกไปในเวลาไม่ถึง 1 ปี
Uniqlo ไปเปิดร้านที่อังกฤษ โดยเปิด 21 ร้านภายในระยะเวลาแค่ 2 ปี
แต่สุดท้าย ก็ตัดสินใจปิดไป 16 ร้าน
บริษัทยังเคยพยายามลองธุรกิจขนส่งผักด้วย
แต่ยอดขายไม่ถึงเป้า จึงล้มเลิกไปภายใน 2 ปี
Yanai ผิดพลาดมาหลายครั้งจริงๆ
แต่เขาก็ยังก้าวเดินต่อ
“ก่อนเริ่มทำธุรกิจใหม่ใดๆ ก็ตาม
ผมจะมองเห็นเป้าหมาย เห็นปลายทางแล้วว่า
ธุรกิจนี้ น่าจะเป็นแบบไหน”
ถ้าธุรกิจนั้นดูท่าจะไปไม่ถึงฝั่ง ไม่เป็นไปตามเป้า
ก็รีบถอนตัวแต่เนิ่นๆ
นั่นเป็นสาเหตุที Uniqlo ลองทำอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา
และไม่เคยกลัวความล้มเหลว
ขอเพียงความผิดพลาดนั้น ไม่ถึงกับทำให้บริษัทต้องล้มละลาย
เขาก็พร้อมที่จะผิดพลาด และเรียนรู้เสมอ
ล้ม…แล้วก็ลุกขึ้นได้
Yanai เชื่อว่า ความล้มเหลวจะเป็นบทเรียนที่ดีให้กับเขา
ขอเพียงอย่าผิดซ้ำ และถอนตัวให้ไว
+++++++++++++++++++++++++++++++++
Uniqlo จึงมีตำราและคลังความรู้ว่า
บริษัทต้องเปิดร้านในทำเลเช่นใด
จัดวางของประเภทใดในทำเลไหน
เรียนรู้ความต้องการของลูกค้าอย่างไร
เวลาแตกแบรนด์ลูก
จะต้องสร้างความแตกต่างกับแบรนด์แม่อย่างไร
ทั้งหมด ได้มาจากความผิดพลาดในอดีตทั้งนั้น
วิ่ง … ล้ม … ลุก …เรียนรู้ …และก้าวเดินต่อไป
บทเรียนจาก Yanai Tadashi
ชายที่ (น่าจะ) ล้มเยอะทีสุด และรวยที่สุดในญี่ปุ่น
+++++++++++++++++++++++++++++++++
เดิมที ดิฉันตั้งใจจะเขียนบทความอื่นในโพสท์นี้
แต่เผอิญเมื่อวานตอนกลางวัน
ดิฉันได้คุยกับรุ่นพี่คนหนึ่ง
เขาบอกกับดิฉันว่า …
เขาอยากทำงานนี้ แต่ไม่รู้จะออกมาดีหรือเปล่า
เขาพอจะมีไอเดียดีๆ แบบนี้ แบบนั้น
แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง จะไปรอดไหม
ดิฉันฟังเงียบๆ
และคิดว่า เขาอาจจะเผชิญกับความรู้สึกกลัวความล้มเหลว
ก่อนที่จะลงมือทำ
ดิฉันถามตัวเองต่อว่า
รุ่นพี่ รวมถึงดิฉันได้ลองลงมือทำอะไรถึง 10 ครั้ง
แล้วหรือยัง
นั่นทำให้ดิฉันเกิดแรงบันดาลใจที่จะเขียนเรื่อง
คุณ Yanai Tadashi คนนี้
“อย่ากลัวที่จะล้มเหลว”
“แข่ง 10 ครั้ง แพ้ 9 ครั้ง เป็นเรื่องปกติ”
ขออย่างเดียว
ล้มเมื่อไร รีบลุกขึ้นมา
วิเคราะห์ความผิดพลาดของตัวเองให้ดี
แล้วตะลุยวิ่งไปแข่งรอบถัดไป….ก็เป็นพอ
ชนะ 1 แพ้ 9 เป็นเรื่องปกติค่ะ
Japan Gossip by เกตุวดี Marumura
ป.ล. สมัยอยู่มหาลัยปี 3 ดิฉันเคยเจอท่านที่บริษัท
ผู้ช่วยผู้จัดการถามดิฉันว่า
“ถ้า Uniqlo ไปเปิดที่ไทย จะประสบความสำเร็จไหม”
คือ… สมัยนั้น Uniqlo ยังไม่มีเสื้อผ้าล้ำนวัตกรรม
และยังไม่ co-brand กับแบรนด์ดังๆ ทั่วโลกขนาดนี้…
ดิฉันเลยบอกว่า…
“ไม่น่า เพราะเสื้อผ้าเมืองไทย ถูกๆ ลายสวยๆ ดีๆ มีเยอะแยะ
ไม่เชื่อไปดูจตุจักรบ้านหนู คนไทยยังไม่มีกำลังซื้อหรอก”
เป็นคำตอบที่ตรงไปตรงมาและโง่มาก…
คุณ Yanai ดูอารมณ์ไม่ดีทันที…
นั่นเป็นความผิดพลาดที่ดิฉันได้เรียนรู้อีกประการ
5 ปีหลังจากนั้น Uniqlo มาเปิดที่เมืองไทย
และขยายเป็นดอกเห็ดจนบัดนี้
หนูผิดไปแล้วค่ะท่าน ….:p
Source:
หนังสือ 1 ชนะ 9 แพ้ (一勝九敗)
Credit เนื้อหา : gademaru.wordpress.com
======================================================================
ติดตามข่าวสาร ศูนย์รวมความรู้-บทความเรื่องการลงทุน, อสังหา, และธุรกิจ ได้ที่ https://www.facebook.com/thinkvestment