"" ""
สมุดบันทึกเล่มบางถูกกางไว้บนโต๊ะทำงานข้างกรอบหน้าต่าง ตรงมุมหนึ่งมีแก้วกาแฟที่หูจับบิดเบี้ยวนิดหน่อยเพราะรอยปั้นวางอยู่ แก้ว
กาแฟคุ้นมือกรุ่นกลิ่นหอมอุ่นอวล ชวนให้ยกขึ้นดื่มช้าๆ ลมเย็นวูบหนึ่งพัดผ่านมาแล้วผ่านไปไม่นาน สายฝนก็โปรยปรายลงมาบางๆ แสงที่สว่าง
สดใสเมื่อครู่กลายเป็นสว่างอย่างสะลึมสะลือ มือที่กำลังขีดเขียนอยู่หยุดนิ่งลง เงยหน้าขึ้นมามองท้องฟ้านอกกรอบหน้าต่าง หมู่เมฆกลุ่มใหญ่
กำลังเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วมาบดบังแสงตะวัน
ถ้าหน้าต่างบานนี้คือ – หน้าต่างบานใหญ่บนตึกสูงสี่สิบชั้นกลางกรุงเทพมหานคร สายตาผมคงมองเห็นบรรยากาศภายนอกที่สับสน
วุ่นวาย รถราที่ไม่สามารถเคลื่อนตัวได้จอดนิ่งสนิทอยู่บนถนน เหมือนตัวหนอนยักษ์ใหญ่ยาวหลายสิบหลายร้อยตัวค่อยๆคืบกระดืบไปอย่าง
เชื่องช้า สัญญาณไฟและแสงไฟจากตึกสูงและตามท้องถนนคงส่องแสงไฟหลากสีสันพร่างพรายตา และคงสั่งสมองให้หยุดคิดเรื่อยเปื่อย
บอกร่างกายให้กลับมานั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ทำงานต่อไป
แต่หน้าต่างบานนี้คือ – หน้าต่างกรอบไม้บานเล็กใกล้แม่น้ำสายกว้างที่ไหลเอื่อยๆลงสู่ท้องทะเล ผมลุกขึ้นไปมองบรรยากาศภายนอก
ทุกสิ่งทุกอย่างดูนิ่งสงบบ้านเรือนริมสองฝั่งแม่น้ำแน่นิ่งอยู่กับที่ มีเพียงความเคลื่อนไหวเดียวที่ยังคงดำเนินอยู่ คือหยดฝนร้อยล้านหยดที่โปรย
ปรายลงมากระทบผิวน้ำอย่างต่อเนื่อง เหมือนดังนิ้วใสๆที่พร่างพรมลงบนคีย์เปียโน ฟังราวท่วงทำนองของบทเพลงที่สอดประสานเสียงสงบ
เรียบลื่นไหลไพเราะอย่างลงตัว เป็นบทเพลงของสายน้ำและหยดฝนเคล้าระคนกัน
สมุดบันทึกเล่มบางเปิดค้างอยู่ ในแก้วกาแฟเซรามิกลายละมุนยังอุ่นกรุ่นกลิ่นกาแฟหอมละไม ผมอนุญาตความคิดให้หัวใจล่องลอยไป
จรดปลายปากกาลงบนหน้ากระดาษขาวสะอาด เรื่องราวมากมายพรูพรั่งหลั่งไหลออกมาพร้อมน้ำหมึกความทรงจำเยิ้มเปียก ที่ค่อยๆซึมซับลง
บนหน้ากระดาษ จนเหือดแห้งสนิทไปต่อหน้าต่อตา นี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้หลงใหลในทุกคราที่จรดปากกาลงบนหน้ากระดาษ การได้เฝ้า
มองน้ำหมึกความทรงจำซึมซับเรื่องราวต่างๆลงบนหน้ากระดาษ ผ่านตัวอักษรที่ค่อยๆเหือดแห้งฝังไว้ในสมุดบันทึกเล่มแล้วเล่มเล่า
แก้วกาแฟเซรามิกลายละมุน – หูจับบิดเบี้ยวนิดหน่อยเพราะรอยปั้น กลายเป็นแก้วกาแฟคุ้นมือไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ผมรินกาแฟใส่แก้วดื่ม
ด่ำรสชาติของมัน อนุญาตความคิดให้หัวใจโบยบินไปไกลแสนไกล คิดถึงใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงกรอบหน้าต่างริมฝั่งแม่น้ำสายกว้างที่ไหล
เอื่อยๆลงสู่ท้องทะเล คิดถึงนัยน์ตาลึกซึ้งคู่นั้นเมื่อสบสายตา คิดถึงจุมพิตหวานซึ้งท่ามกลางสายฝน คิดถึงบทเพลงแห่งวสันตฤดู ...
........................................................................................................
...
สมุดบันทึก กรอบหน้าต่าง แก้วกาแฟและความทรงจำ ...
สมุดบันทึกเล่มบางถูกกางไว้บนโต๊ะทำงานข้างกรอบหน้าต่าง ตรงมุมหนึ่งมีแก้วกาแฟที่หูจับบิดเบี้ยวนิดหน่อยเพราะรอยปั้นวางอยู่ แก้ว
กาแฟคุ้นมือกรุ่นกลิ่นหอมอุ่นอวล ชวนให้ยกขึ้นดื่มช้าๆ ลมเย็นวูบหนึ่งพัดผ่านมาแล้วผ่านไปไม่นาน สายฝนก็โปรยปรายลงมาบางๆ แสงที่สว่าง
สดใสเมื่อครู่กลายเป็นสว่างอย่างสะลึมสะลือ มือที่กำลังขีดเขียนอยู่หยุดนิ่งลง เงยหน้าขึ้นมามองท้องฟ้านอกกรอบหน้าต่าง หมู่เมฆกลุ่มใหญ่
กำลังเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วมาบดบังแสงตะวัน
ถ้าหน้าต่างบานนี้คือ – หน้าต่างบานใหญ่บนตึกสูงสี่สิบชั้นกลางกรุงเทพมหานคร สายตาผมคงมองเห็นบรรยากาศภายนอกที่สับสน
วุ่นวาย รถราที่ไม่สามารถเคลื่อนตัวได้จอดนิ่งสนิทอยู่บนถนน เหมือนตัวหนอนยักษ์ใหญ่ยาวหลายสิบหลายร้อยตัวค่อยๆคืบกระดืบไปอย่าง
เชื่องช้า สัญญาณไฟและแสงไฟจากตึกสูงและตามท้องถนนคงส่องแสงไฟหลากสีสันพร่างพรายตา และคงสั่งสมองให้หยุดคิดเรื่อยเปื่อย
บอกร่างกายให้กลับมานั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ทำงานต่อไป
แต่หน้าต่างบานนี้คือ – หน้าต่างกรอบไม้บานเล็กใกล้แม่น้ำสายกว้างที่ไหลเอื่อยๆลงสู่ท้องทะเล ผมลุกขึ้นไปมองบรรยากาศภายนอก
ทุกสิ่งทุกอย่างดูนิ่งสงบบ้านเรือนริมสองฝั่งแม่น้ำแน่นิ่งอยู่กับที่ มีเพียงความเคลื่อนไหวเดียวที่ยังคงดำเนินอยู่ คือหยดฝนร้อยล้านหยดที่โปรย
ปรายลงมากระทบผิวน้ำอย่างต่อเนื่อง เหมือนดังนิ้วใสๆที่พร่างพรมลงบนคีย์เปียโน ฟังราวท่วงทำนองของบทเพลงที่สอดประสานเสียงสงบ
เรียบลื่นไหลไพเราะอย่างลงตัว เป็นบทเพลงของสายน้ำและหยดฝนเคล้าระคนกัน
สมุดบันทึกเล่มบางเปิดค้างอยู่ ในแก้วกาแฟเซรามิกลายละมุนยังอุ่นกรุ่นกลิ่นกาแฟหอมละไม ผมอนุญาตความคิดให้หัวใจล่องลอยไป
จรดปลายปากกาลงบนหน้ากระดาษขาวสะอาด เรื่องราวมากมายพรูพรั่งหลั่งไหลออกมาพร้อมน้ำหมึกความทรงจำเยิ้มเปียก ที่ค่อยๆซึมซับลง
บนหน้ากระดาษ จนเหือดแห้งสนิทไปต่อหน้าต่อตา นี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้หลงใหลในทุกคราที่จรดปากกาลงบนหน้ากระดาษ การได้เฝ้า
มองน้ำหมึกความทรงจำซึมซับเรื่องราวต่างๆลงบนหน้ากระดาษ ผ่านตัวอักษรที่ค่อยๆเหือดแห้งฝังไว้ในสมุดบันทึกเล่มแล้วเล่มเล่า
แก้วกาแฟเซรามิกลายละมุน – หูจับบิดเบี้ยวนิดหน่อยเพราะรอยปั้น กลายเป็นแก้วกาแฟคุ้นมือไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ผมรินกาแฟใส่แก้วดื่ม
ด่ำรสชาติของมัน อนุญาตความคิดให้หัวใจโบยบินไปไกลแสนไกล คิดถึงใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงกรอบหน้าต่างริมฝั่งแม่น้ำสายกว้างที่ไหล
เอื่อยๆลงสู่ท้องทะเล คิดถึงนัยน์ตาลึกซึ้งคู่นั้นเมื่อสบสายตา คิดถึงจุมพิตหวานซึ้งท่ามกลางสายฝน คิดถึงบทเพลงแห่งวสันตฤดู ...
........................................................................................................
...