เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (10/08/56) ผมมีภารกิจต้องขึ้นไปเขาใหญ่แบบ One Day Trip
ออกจากกรุงเทพประมาณ 8 โมงกว่าๆ ขี่แบบกินลมชมวิวไปเรื่อยๆผ่านนครนายก
กว่าจะไปถึงวงเวียนพระนเรศวรก็สิบโมงหน่อยๆ แวะถ่ายรูปอัพStatus "ไปเขาใหญ่แปบเดียว เดี๋ยวมา"
ตั้งแต่เช้า ยังไม่มีอาหารหนักตกถึงท้อง พยาธิการร่ำร้องงอแง จึงสอดส่ายสายตาหาอะไรกิน เลี้ยวซ้ายจากวงเวียนเข้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งป๊ะเข้ากับป้ายนี้ครับ
อืม...ร้านอาหารตามสั่งเหรอ..ไม่รู้ว่าผีผลักหรือพรายกระซิบ เฉลียวใจหันกลับไปดูซ้ำอีกที....ข้าวซอย!!! (หมู่เฮา หมู่เฮาจาวเหนือ...เพลงนี้ลอยมาในหัว) อย่ากระนั้นเลย หากินไม่ง่ายนะนี่ ลองแวะชิมก็แล้วกัน แว๊ะจิมกำดู๊!!
จัดมาๆ ข้าวซอยไก่ชามนึง อิอิ
พอตักใส่ปาก เฮ้ย อันนี้มันข้าวซอยเหนือแต้ๆเลยน่ะบ่ะ อืม เจ้มจ้นๆ ว่าแล้วก็จัดการต่อเสียเกือบหมดชาม คุณป้าจึงเดินมาถามว่าอร่อยไหม นี่ข้าวซอยเชียงใหม่เลยนะ ...เอิ้วววว แต้กาคับ ผมก่อคนเจียงใหม่ บ้านอยู่หนองหอยคับ เมื่อคนเมืองมาป๊ะกั๋นก็เลยเมาท์มอยกันแหล๋วแหล๊ด อู้กั๋นม่วนผ่านไปเกือบสองชั่วโมง จึงได้ความว่า คุณป้าและลูกบ่าว(อ้ายต้อม ม่านเมือง) เพิ่งมาเปิดร้านที่นี่ได้สักเดือนนึง ร้านเดิมอยู่กระบี่ เคยได้ป้ายของดีเมืองกระบี่ด้วยนะเออ ร้านเดิมเจอพายุพัดพังจนท้อที่จะซ่อม ก็เลยย้ายมาเปิดใหม่แถวนี้ ....แนะนำเลยครับ ใครอยากกินข้าวซอยเหนือๆเมืองๆ แล้วจะขึ้นเขาใหญ่ฝั่งปราจีนลองแวะชิมกันดู ในร้านยังมีเมนูจาวเหนือแฮ๋มหลายอย่างให้ลองพิสูจน์รสชาติ ถ้ามาจากวงเวียนจะอยู่ฝั่งซ้าย ร้านอยู่ติดกับรั้วพระจอมเกล้าพระนครเหนือวิทยาเขตปราจีน ขอเอารูปบรรยากาศในร้านมาฝากกัน ผมว่าทางขึ้นเขาใหญ่ฝั่งนี้หาร้านแบบนี้ไม่ค่อยมีนะ (แต่ตอนนี้ร้านยังตบแต่งอยู่นะครับ เพราะอ้ายต้อมเปิ้นยะคนเดว แปล๋งฮ้านไปเรื่อยๆ) แต่เท่าที่ดูผมก็ว่าน่าแวะนั่งนะ อีกหน่อยจะมีกาแฟสดด้วยนะ หวานคอกาแฟเลยทีนี้
มาต่อกัน
จากนั้นผมก็บึ่งขึ้นเขาใหญ่ต่อ หลังจากผ่านด่านเนินหอมไปได้ไม่กี่กิโลเมตร ก็ต้องพบกับสิ่งนี้ครับ....
ร่างไร้วิญญาณขอเพื่อนร่วมโลก สภาพถูกรถที่แล่นมาด้วยความเร็วทับเข้าอย่างจัง เฮ้อ...ตั้งกระทู้ก็หลายที ขอกันก็หลายหน 4 ม. ขอไม่มากจริงๆนะครับ โดยธรรมชาติแล้วคุณเต่าเขาไม่สามารถหลบหลีกพาหนะที่แล่นเข้าหาเขาได้เลย และวันนี้ก็ฟ้าเปิด ถ้าคุณไม่ใช้ความเร็วมากเกินไป คุณควรจะสังเกตเห็นเขากำลังข้ามถนน และหลบหรือหยุดรถได้ทัน แต่ในที่เกิดเหตุ ผมไม่พบรอยเบรคเลย มันตีได้สองอย่าง คือ หนึ่ง...คุณไม่เห็นจริงๆ หรือ สอง...คุณเห็นแต่ไม่คิดจะเบรค ถ้าเป็นอย่างหลัง คุณใจดำมาก!!!
ย้ำกันอีกทีครับ ในเขตอุทยานแห่งชาติ กรุณาอย่าใช้ความเร็วมากเกินไปในการขับขี่ยานพาหนะ
หลังจากจัดการซากของคุณเต่าแล้ว ผมก็ขี่ไปต่อเรื่อยๆ แต่ใจน่ะห่อเหี่ยวลงประมาณนึง แต่ไหนๆฟ้าก็เปิดแล้ว แวะถ่ายรูปสักหน่อยดีกว่า เอาบรรยากาศเขาใหญ่หน้าฝนในวันฟ้าเปิดแถวๆโป่งทุ่งกวางมาฝากครับ
แวะสูดโอโซนเข้าปอดหลายๆปื้ดแล้ว ก็ไปทำภารกิจเสียนี่ เกี่ยวกับสิ่งนี้ครับ "โครงกระดูกยายหอม"
"ยายหอม" คือใคร ผมเล่าเองก็ใช่ที ให้หัวหน้าหมู(น้าหมู สาริกา) เล่าดีกว่าครับ
คิดถึงอาลัย "ยายหอม " เขาใหญ่
สืบเนื่องจากเมื่อวันนี้ 1มิ.ย.55 หมอล๊อตกับลุง ได้ทราบข่าวจากหัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่า ขญ.13 (นางรอง) อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ว่าพบช้างป่า เสียชีวิตที่ชายป่าใกล้หมู่บ้านเวียงหุบเมย อ.เมือง จ.นครนายก เป็นพื้นที่รอยต่อเขื่อนขุนด่านปราการชล กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
จากการตรวจสอบพบว่าเป็นช้างป่าเพศเมีย อายุประมาณ 60 ปีเศษ เสียชีวิตแล้วประมาณ 30 วัน ไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย น่าจะเสียชีวิตเพราะโรคชรา
และเป็นไปได้ว่า ช้างป่าตัวนี้คือ "ยายหอม" ช้างพังเพศเมียที่ดวงตาไม่ค่อยดีเมื่อเดินหากินตามโขลงช้างอื่นๆไม่ทัน จึงพักพิงอาศัยหากินอยู่ในบริเวณแห่งนี้มานานหลายปีแล้ว
แต่เราก็จะต้องติดตามค้นหา"ยายหอม"ตามรอยต่อผืนป่า จ.นครนายกไปจนถึงพื้นที่บ้านเนินหอม จ.ปราจีนบุรีให้พบ เพื่อจะได้ยืนยันว่าศพช้างที่พบดังกล่าวไม่ใช่ "ยายหอม"
แต่จากวันที่ 1 มิ.ย. 55 ถึงวันนี้ (8 ส.ค. 56) รวมเวลาปีเศษๆ เจ้าหน้าที่และทีมสำรวจชมรมฅนรักสัตว์-ป่า ก็ได้พยายามออกค้นหายายหอมในพื้นที่ดังกล่าวตลอดมา
จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีรายงานจากเจ้าหน้าที่หรือชาวบ้านคนใดพบเห็นยายหอมช้างตาบอดอีกเลย ซึ่งตามปกติจะมีเจ้าหน้าที่พบเห็นยายหอมเดือนละสองถึงสามครั้ง
นั่นก็หมายความว่าช้างป่าที่ล้มลงจนเสียชีวิตในวันนั้น คือ "ยายหอม" ช้างป่าสุดที่รักของพวกเราและผืนป่าเขาใหญ่จริงๆ อย่างแน่นอนแล้ว
วันนี้เราทุกคนและลูกหลานเจ้าพ่อเขาใหญ่ยังคิดถึงและอาลัยต่อ "ยายหอม" ขอให้ยายหอมจงสถิตย์อยู่บนทางช้างเผือกชั่วนิรันดรครับ
เรื่องเดิม 1 มิ.ย.55 (อาลัย...เคียงคู่เขาใหญ่สืบไป นิรันดร)
https://www.facebook.com/moosarika/media_set?set=a.4126333073923.180939.1151289253&type=3
จากนั้นก็ไปทำสิ่งที่พยายามจะปฏิบัติประจำ ก็คือ "ถ่ายรูปกับป้ายรายงานอุณหภูมิ" อิอิ
ไถลเถลไปพอสมควร ไปทำภารกิจต่อที่โป่งชมรมเพื่อนครับ เก็บรูปบรรยากาศเขาใหญ่หน้าฝนวันฟ้าใสมาฝากกันอีกเล็กน้อย (จริงๆก็หมดแล้วล่ะ ๕๕)
ก้มๆเงยๆได้สักพัก เจ้าคนต้นเรื่องเจ้าของภารกิจก็ตามมาสมทบ ชิลๆมาเชียว หมอล๊อต นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยาน ไอดอลของใครหลายๆคน (รวมทั้งผมด้วย) ขอสรุปภารกิจสั้นๆว่า ประมาณเดือนหน้า กระดูกยายหอมจะจัดแสดงให้ทุกท่านได้เยี่ยมชมที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (น้ำตกกรองแก้ว) และหลังจากผมขึ้นไปอีกวัน น้าหมู และ มิตรสหายชมรมคนรักสัตว์ป่าก็ขึ้นมาสานภารกิจนี้ต่อครับ แฟนคลับยายหอมก็เยอะนะเนี่ย
(ขมายรูปนี้มาจากเฟซหมอล๊อต เนื่องจาก tag ผมแล้ว ผมก็ตีความเอาเองว่าอนุญาตให้เผยแพร่ ๕๕๕)
นั่งคุยเรื่องภารกิจกับหมอล๊อตและพี่สุทธิพร จนกระทั่งเย็น ผมก็กลับกรุงเทพ(ลงทางเนินหอมเหมือนเดิม) ขากลับนี่ไม่กล้าแวะถ่ายรูปครับ เพราะฝนตกพรำๆ และห่วงว่าลูกสมุนของยายหอมจะแอบย่องเอาจมูกยาวๆมาทักทาย ก็เลยดิ่งยาวกลับกรุงเทพเลยจ้า
สุดท้ายขอฝากว่าเขาใหญ่ตอนหน้าฝนก็สวยงามเขียวชอุ่มชุ่มชื่นดีนะครับ ใครไปเที่ยวก็อย่าลืมล่ะ ไม่ขับรถเร็ว ไม่เสียงดัง ท่อไม่ดัง เปิดเครื่องเสียงไม่ต้องเผื่อแผ่ชาวบ้าน ไม่ทิ้งขยะ ไม่ให้อาหารสัตว์ป่า เพียงแค่นี้เขาใหญ่ก็จะอยู่กับเราไปนานแสนนานครับ
(CR)ร้านอาหารเล็กๆเปิดใหม่ ทางขึ้นเขาใหญ่ฝั่งปราจีน และเขาใหญ่ในวันฟ้าใส
ออกจากกรุงเทพประมาณ 8 โมงกว่าๆ ขี่แบบกินลมชมวิวไปเรื่อยๆผ่านนครนายก
กว่าจะไปถึงวงเวียนพระนเรศวรก็สิบโมงหน่อยๆ แวะถ่ายรูปอัพStatus "ไปเขาใหญ่แปบเดียว เดี๋ยวมา"
ตั้งแต่เช้า ยังไม่มีอาหารหนักตกถึงท้อง พยาธิการร่ำร้องงอแง จึงสอดส่ายสายตาหาอะไรกิน เลี้ยวซ้ายจากวงเวียนเข้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งป๊ะเข้ากับป้ายนี้ครับ
อืม...ร้านอาหารตามสั่งเหรอ..ไม่รู้ว่าผีผลักหรือพรายกระซิบ เฉลียวใจหันกลับไปดูซ้ำอีกที....ข้าวซอย!!! (หมู่เฮา หมู่เฮาจาวเหนือ...เพลงนี้ลอยมาในหัว) อย่ากระนั้นเลย หากินไม่ง่ายนะนี่ ลองแวะชิมก็แล้วกัน แว๊ะจิมกำดู๊!!
จัดมาๆ ข้าวซอยไก่ชามนึง อิอิ
พอตักใส่ปาก เฮ้ย อันนี้มันข้าวซอยเหนือแต้ๆเลยน่ะบ่ะ อืม เจ้มจ้นๆ ว่าแล้วก็จัดการต่อเสียเกือบหมดชาม คุณป้าจึงเดินมาถามว่าอร่อยไหม นี่ข้าวซอยเชียงใหม่เลยนะ ...เอิ้วววว แต้กาคับ ผมก่อคนเจียงใหม่ บ้านอยู่หนองหอยคับ เมื่อคนเมืองมาป๊ะกั๋นก็เลยเมาท์มอยกันแหล๋วแหล๊ด อู้กั๋นม่วนผ่านไปเกือบสองชั่วโมง จึงได้ความว่า คุณป้าและลูกบ่าว(อ้ายต้อม ม่านเมือง) เพิ่งมาเปิดร้านที่นี่ได้สักเดือนนึง ร้านเดิมอยู่กระบี่ เคยได้ป้ายของดีเมืองกระบี่ด้วยนะเออ ร้านเดิมเจอพายุพัดพังจนท้อที่จะซ่อม ก็เลยย้ายมาเปิดใหม่แถวนี้ ....แนะนำเลยครับ ใครอยากกินข้าวซอยเหนือๆเมืองๆ แล้วจะขึ้นเขาใหญ่ฝั่งปราจีนลองแวะชิมกันดู ในร้านยังมีเมนูจาวเหนือแฮ๋มหลายอย่างให้ลองพิสูจน์รสชาติ ถ้ามาจากวงเวียนจะอยู่ฝั่งซ้าย ร้านอยู่ติดกับรั้วพระจอมเกล้าพระนครเหนือวิทยาเขตปราจีน ขอเอารูปบรรยากาศในร้านมาฝากกัน ผมว่าทางขึ้นเขาใหญ่ฝั่งนี้หาร้านแบบนี้ไม่ค่อยมีนะ (แต่ตอนนี้ร้านยังตบแต่งอยู่นะครับ เพราะอ้ายต้อมเปิ้นยะคนเดว แปล๋งฮ้านไปเรื่อยๆ) แต่เท่าที่ดูผมก็ว่าน่าแวะนั่งนะ อีกหน่อยจะมีกาแฟสดด้วยนะ หวานคอกาแฟเลยทีนี้
มาต่อกัน
จากนั้นผมก็บึ่งขึ้นเขาใหญ่ต่อ หลังจากผ่านด่านเนินหอมไปได้ไม่กี่กิโลเมตร ก็ต้องพบกับสิ่งนี้ครับ....
ร่างไร้วิญญาณขอเพื่อนร่วมโลก สภาพถูกรถที่แล่นมาด้วยความเร็วทับเข้าอย่างจัง เฮ้อ...ตั้งกระทู้ก็หลายที ขอกันก็หลายหน 4 ม. ขอไม่มากจริงๆนะครับ โดยธรรมชาติแล้วคุณเต่าเขาไม่สามารถหลบหลีกพาหนะที่แล่นเข้าหาเขาได้เลย และวันนี้ก็ฟ้าเปิด ถ้าคุณไม่ใช้ความเร็วมากเกินไป คุณควรจะสังเกตเห็นเขากำลังข้ามถนน และหลบหรือหยุดรถได้ทัน แต่ในที่เกิดเหตุ ผมไม่พบรอยเบรคเลย มันตีได้สองอย่าง คือ หนึ่ง...คุณไม่เห็นจริงๆ หรือ สอง...คุณเห็นแต่ไม่คิดจะเบรค ถ้าเป็นอย่างหลัง คุณใจดำมาก!!!
ย้ำกันอีกทีครับ ในเขตอุทยานแห่งชาติ กรุณาอย่าใช้ความเร็วมากเกินไปในการขับขี่ยานพาหนะ
หลังจากจัดการซากของคุณเต่าแล้ว ผมก็ขี่ไปต่อเรื่อยๆ แต่ใจน่ะห่อเหี่ยวลงประมาณนึง แต่ไหนๆฟ้าก็เปิดแล้ว แวะถ่ายรูปสักหน่อยดีกว่า เอาบรรยากาศเขาใหญ่หน้าฝนในวันฟ้าเปิดแถวๆโป่งทุ่งกวางมาฝากครับ
แวะสูดโอโซนเข้าปอดหลายๆปื้ดแล้ว ก็ไปทำภารกิจเสียนี่ เกี่ยวกับสิ่งนี้ครับ "โครงกระดูกยายหอม"
"ยายหอม" คือใคร ผมเล่าเองก็ใช่ที ให้หัวหน้าหมู(น้าหมู สาริกา) เล่าดีกว่าครับ
คิดถึงอาลัย "ยายหอม " เขาใหญ่
สืบเนื่องจากเมื่อวันนี้ 1มิ.ย.55 หมอล๊อตกับลุง ได้ทราบข่าวจากหัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่า ขญ.13 (นางรอง) อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ว่าพบช้างป่า เสียชีวิตที่ชายป่าใกล้หมู่บ้านเวียงหุบเมย อ.เมือง จ.นครนายก เป็นพื้นที่รอยต่อเขื่อนขุนด่านปราการชล กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
จากการตรวจสอบพบว่าเป็นช้างป่าเพศเมีย อายุประมาณ 60 ปีเศษ เสียชีวิตแล้วประมาณ 30 วัน ไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย น่าจะเสียชีวิตเพราะโรคชรา
และเป็นไปได้ว่า ช้างป่าตัวนี้คือ "ยายหอม" ช้างพังเพศเมียที่ดวงตาไม่ค่อยดีเมื่อเดินหากินตามโขลงช้างอื่นๆไม่ทัน จึงพักพิงอาศัยหากินอยู่ในบริเวณแห่งนี้มานานหลายปีแล้ว
แต่เราก็จะต้องติดตามค้นหา"ยายหอม"ตามรอยต่อผืนป่า จ.นครนายกไปจนถึงพื้นที่บ้านเนินหอม จ.ปราจีนบุรีให้พบ เพื่อจะได้ยืนยันว่าศพช้างที่พบดังกล่าวไม่ใช่ "ยายหอม"
แต่จากวันที่ 1 มิ.ย. 55 ถึงวันนี้ (8 ส.ค. 56) รวมเวลาปีเศษๆ เจ้าหน้าที่และทีมสำรวจชมรมฅนรักสัตว์-ป่า ก็ได้พยายามออกค้นหายายหอมในพื้นที่ดังกล่าวตลอดมา
จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีรายงานจากเจ้าหน้าที่หรือชาวบ้านคนใดพบเห็นยายหอมช้างตาบอดอีกเลย ซึ่งตามปกติจะมีเจ้าหน้าที่พบเห็นยายหอมเดือนละสองถึงสามครั้ง
นั่นก็หมายความว่าช้างป่าที่ล้มลงจนเสียชีวิตในวันนั้น คือ "ยายหอม" ช้างป่าสุดที่รักของพวกเราและผืนป่าเขาใหญ่จริงๆ อย่างแน่นอนแล้ว
วันนี้เราทุกคนและลูกหลานเจ้าพ่อเขาใหญ่ยังคิดถึงและอาลัยต่อ "ยายหอม" ขอให้ยายหอมจงสถิตย์อยู่บนทางช้างเผือกชั่วนิรันดรครับ
เรื่องเดิม 1 มิ.ย.55 (อาลัย...เคียงคู่เขาใหญ่สืบไป นิรันดร)
https://www.facebook.com/moosarika/media_set?set=a.4126333073923.180939.1151289253&type=3
จากนั้นก็ไปทำสิ่งที่พยายามจะปฏิบัติประจำ ก็คือ "ถ่ายรูปกับป้ายรายงานอุณหภูมิ" อิอิ
ไถลเถลไปพอสมควร ไปทำภารกิจต่อที่โป่งชมรมเพื่อนครับ เก็บรูปบรรยากาศเขาใหญ่หน้าฝนวันฟ้าใสมาฝากกันอีกเล็กน้อย (จริงๆก็หมดแล้วล่ะ ๕๕)
ก้มๆเงยๆได้สักพัก เจ้าคนต้นเรื่องเจ้าของภารกิจก็ตามมาสมทบ ชิลๆมาเชียว หมอล๊อต นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยาน ไอดอลของใครหลายๆคน (รวมทั้งผมด้วย) ขอสรุปภารกิจสั้นๆว่า ประมาณเดือนหน้า กระดูกยายหอมจะจัดแสดงให้ทุกท่านได้เยี่ยมชมที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (น้ำตกกรองแก้ว) และหลังจากผมขึ้นไปอีกวัน น้าหมู และ มิตรสหายชมรมคนรักสัตว์ป่าก็ขึ้นมาสานภารกิจนี้ต่อครับ แฟนคลับยายหอมก็เยอะนะเนี่ย
(ขมายรูปนี้มาจากเฟซหมอล๊อต เนื่องจาก tag ผมแล้ว ผมก็ตีความเอาเองว่าอนุญาตให้เผยแพร่ ๕๕๕)
นั่งคุยเรื่องภารกิจกับหมอล๊อตและพี่สุทธิพร จนกระทั่งเย็น ผมก็กลับกรุงเทพ(ลงทางเนินหอมเหมือนเดิม) ขากลับนี่ไม่กล้าแวะถ่ายรูปครับ เพราะฝนตกพรำๆ และห่วงว่าลูกสมุนของยายหอมจะแอบย่องเอาจมูกยาวๆมาทักทาย ก็เลยดิ่งยาวกลับกรุงเทพเลยจ้า
สุดท้ายขอฝากว่าเขาใหญ่ตอนหน้าฝนก็สวยงามเขียวชอุ่มชุ่มชื่นดีนะครับ ใครไปเที่ยวก็อย่าลืมล่ะ ไม่ขับรถเร็ว ไม่เสียงดัง ท่อไม่ดัง เปิดเครื่องเสียงไม่ต้องเผื่อแผ่ชาวบ้าน ไม่ทิ้งขยะ ไม่ให้อาหารสัตว์ป่า เพียงแค่นี้เขาใหญ่ก็จะอยู่กับเราไปนานแสนนานครับ