ผมเคยลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์เพียงครั้งเดียวในชีวิตคือยุคคุณพิชัย รัตตกุล ซึ่งเหมือนกับคนที่เกลียดประชาธิปัตย์หลายๆท่านโพสต์บอกไว้ในบอร์ดนี้ ด้วยเหตุผลทำนองเดียวกันคือท่านเป็น "สุภาพบุรุษทางการเมือง" ที่หาได้ยากมากจากพรรคนี้

เช้านี้ผมได้เห็นภาพของท่านผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ประกอบข่าวว่าได้ตอบรับเข้าร่วมหารือเพื่อหาทางออกให้กับการเมืองของประเทศไทย รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ ไม่ใช่เพราะดีใจที่ท่านหักหน้าพรรคประชาธิปัตย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายขวนและนายมาร์ค และไม่ได้รู้สึกว่าเป็นชัยชนะของพรรคเพื่อไทยด้วย แต่ผมดีใจที่ท่านได้แสดงตัวอย่างที่ดีให้กับวงการการเมืองของไทยเห็นว่า หากมีความจริงใจต่อประโยชน์ของประเทศชาติต้องลดอัตตาลงเสียก่อน ถ้ามัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาหักโค่นกันโดยไม่เลือกวิธีคงไม่มีวันจะเริ่มต้นได้ การตัดสินใจครั้งนี้ของท่านถือว่ากล้าหาญมากครับ

ผมหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่แสดงปฏิกิริยาที่น่าเกลียดต่อการตัดสินใจของท่าน และผมขอสนับสนุนให้ท่านแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่จากมุมมองของท่านโดยไม่จำเป็นต้องถนอมน้ำใจพรรคฝ่ายค้าน, ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายไหนทั้งสิ้น อะไรที่ท่านเห็นว่าเป็นความผิดพลาดของฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายไหนๆก็ตามที่มีส่วนร่วมในการสร้างเงื่อนตายทางการเมืองทั้งหลายที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าจะถูกรับฟังอย่างตั้งใจจากทุกฝ่ายเพราะท่านได้แสดงความใจกว้างออกมาก่อนแล้วในครั้งนี้ เมื่อท่านตัดสินใจขึ้นเวทีนี้ความเห็นจากคนที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตการเมืองยาวนานเช่นท่านต้องมีคุณค่าควรแก่การพิจารณาอย่างแน่นอน

ผมมั่นใจว่าเมื่อรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ริเริ่มการตั้งสภาปฏิรูปทางการเมืองนี้ขึ้นมา ก็ถือเป็นพันธะที่รัฐบาลจะต้องตั้งใจฟังทุกๆสิ่งที่สะท้อนจากผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่านที่ไปเรียนเชิญมาเข้าร่วมด้วยความเคารพและวิเคราะห์อย่างรอบด้าน และต้องมีข้อสรุปที่เป็นรูปธรรมให้กับสังคมไทย

แต่หากท้ายสุดรัฐบาลแสดงออกว่าสภาแห่งนี้เป็นเพียงเครื่องมือทางการเมืองเพื่อยุทธวิธีแยกสลายกลุ่มต่อต้าน ไม่ได้มีความจริงใจในการหาทางออกให้กับประเทศไทย ความเสื่อมก็จะตกอยู่กับพรรครัฐบาลเองอย่างแน่นอน