อาตมาเคยพบฝรั่งคนหนึ่งเขาบอกอาตมาว่า "คนไทยที่เป็นชาวพุทธเชื่อว่าจิตเป็น อัตตา ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าสอนว่า จิตเป็น อนัตตา" แล้วเขาก็บอกว่า "เห็นมีแต่ท่านเท่านั้นที่สอนว่าจิตเป็นอนัตตา"
ความเชื่อเรื่องการเวียนว่าตายเกิดทางร่างกายนั้น เป็นลักษณะของ อัตตา ตามคำสอนของศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู ซึ่งเขาสอนว่าเมื่อตายไปแล้วจะยังมีจิตที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเราเกิดมาใหม่ได้อีก อันทำให้เกิดความเชื่อว่ามีนรกใต้ดิน สวรรค์บนฟ้า ผี เทวดา นางฟ้า พระอินทร์ พระพรหม และเรื่องเวรกรรมจากชาติปางก่อน เป็นต้น ขึ้นมาเพื่อมารองรับจิตที่เป็นอัตตาหรือตัวตนของเรานี้ ซึ่งความเชื่อนี้ก็ได้ปลอมปนเข้ามาอยู่ในคำสอนของพระพุทธเจ้ามาช้านานแล้วโดยชาวพุทธเกือบทั้งหมดไม่รู้ตัว จึงทำให้ชาวพุทธในปัจจุบันหลงผิดไปยึดถือว่าคำสอนเรื่องจิตเป็นอัตตานี้ว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งนี่เป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์เลยทีเดียว
ทำไมชาวพุทธไทยเราจึงไม่มีความรู้อย่างถูกต้องเหมือนฝรั่งคนนี้ ? นี่เป็นเพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าได้เคยถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ผิดเพี้ยนจนกลายเป็นคำสอนของพราหมณ์มาก่อน แล้วชาวพุทธก็รับเอาพุทธเพี้ยนๆนี้มาศึกษาและยึดถือกัอย่างเหนียวแน่น จึงทำให้ไม่เกิดปัญญาเห็นแจ้งว่าคำสอนใดเป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า และคำสอนใดไม่ใช่คำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า จึงทำให้เกิดความเชื่อว่าจิตเป็นอัตตา (แต่ก็ยังพูดว่าจิตเป็นอนัตตากันอยู่) ทั้งๆที่ความเชื่อว่ามีการเกิดใหม่ได้อีกนั้นก็คือลักษณะของอัตตาตามหลักของศาสนาพราหมณ์นั่นเอง
ทำไมชาวพุทธจึงเชื่อว่า "จิตเป็นอัตตา"?
ความเชื่อเรื่องการเวียนว่าตายเกิดทางร่างกายนั้น เป็นลักษณะของ อัตตา ตามคำสอนของศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู ซึ่งเขาสอนว่าเมื่อตายไปแล้วจะยังมีจิตที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเราเกิดมาใหม่ได้อีก อันทำให้เกิดความเชื่อว่ามีนรกใต้ดิน สวรรค์บนฟ้า ผี เทวดา นางฟ้า พระอินทร์ พระพรหม และเรื่องเวรกรรมจากชาติปางก่อน เป็นต้น ขึ้นมาเพื่อมารองรับจิตที่เป็นอัตตาหรือตัวตนของเรานี้ ซึ่งความเชื่อนี้ก็ได้ปลอมปนเข้ามาอยู่ในคำสอนของพระพุทธเจ้ามาช้านานแล้วโดยชาวพุทธเกือบทั้งหมดไม่รู้ตัว จึงทำให้ชาวพุทธในปัจจุบันหลงผิดไปยึดถือว่าคำสอนเรื่องจิตเป็นอัตตานี้ว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งนี่เป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์เลยทีเดียว
ทำไมชาวพุทธไทยเราจึงไม่มีความรู้อย่างถูกต้องเหมือนฝรั่งคนนี้ ? นี่เป็นเพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าได้เคยถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ผิดเพี้ยนจนกลายเป็นคำสอนของพราหมณ์มาก่อน แล้วชาวพุทธก็รับเอาพุทธเพี้ยนๆนี้มาศึกษาและยึดถือกัอย่างเหนียวแน่น จึงทำให้ไม่เกิดปัญญาเห็นแจ้งว่าคำสอนใดเป็นคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า และคำสอนใดไม่ใช่คำสอนที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า จึงทำให้เกิดความเชื่อว่าจิตเป็นอัตตา (แต่ก็ยังพูดว่าจิตเป็นอนัตตากันอยู่) ทั้งๆที่ความเชื่อว่ามีการเกิดใหม่ได้อีกนั้นก็คือลักษณะของอัตตาตามหลักของศาสนาพราหมณ์นั่นเอง