ลูกโมจิของแม่วันนี้ลูกของแม่อายุครบ 6 เดือนเต็ม แม่รักลูกมากนะ รักตั้งแต่เห็นขีดแดง2ขีด แม่พร้อมทุกอย่างถึงแท้จริงอาจจะไม่พร้อม ครั้งแรกที่เห็นลูกคือ 4 เดือนในท้องภาพความทรงจำนั้นมันจะไม่จางหายไปจนตลอดชีวิตของแม่ หมอบอกแม่ได้ลูกสาวซาวน์เห็นเพศก่อนค่อยเลื่อนมาที่ลำตัว หนูนอนน่ารัก ดิ้นเก่ง แม่คนนี้อดน้ำตาไหลไม่ได้ หนูคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตแม่
แล้วเวลาผ่านมาจนทราบว่าหนูตัวเล็ก น้ำคร่ำน้อย หมอจึงให้ผ่าหนูออกมาตอน 36 สัปดาห์ (31 ม.ค.56) ด้วยความที่หนูตัวเล็กพอคลอดเสร็จก็ต้องแยกกันกับแม่เลย ตอนผ่าคลอดนั้นใจมันตื่นเต้นที่สุดร้องไห้ด้วยความรัก เมื่อได้ยินเสียงลูกบอกได้คำเดียวแม่รักหนูมากนะโมจิ น้ำตามันไหลจนสะอื้นบอกไม่ถูก ได้หอม ได้จูบ นี้ลูกสาวแม่จริงๆเหรอ และเราก็ได้กลับบ้านด้วยกันแม่กับพ่อทำหน้าที่ดูแลลูกโมจิอย่างเต็มที่ เราพ่อแม่มือใหม่2คนตั้งใจเลี้ยงหนูมากเพราะลูกคือสิ่งที่เกิดมาจากความรักของพ่อและแม่ โมจิกินนมเก่งกินมากขึ้นเรื่อยๆจน2เดือน
วันที่ 5 เม.ย 56 ลูกมีอาการไม่กินนมมานานซึ่งแม่ไม่สบายใจมากรู้ว่าผิดปกติมากแต่หาสาเหตุไม่ได้เพราะหนูดูไม่ป่วย จึงพาไปหาหมอที่รพ.ศิริราชเพื่อรับน้ำเกลือเนื่องจากเลือดเป็นกรดค่า 11 พอรับน้ำเกลือหนูดีขึ้นค่าเป็น 23 (ปกติ) เลยพาลูกกลับบ้านวันที่ 10 เม.ย รวมนอนรพ.6 วัน ครั้งนี้เจ็บปวดเหลือเกินทั้งกายและใจ ลูกเจ็บแม่เจ็บยิ่งกว่าได้แต่สัญญากับลูกว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะพาลูกเข้ามานอนรพ. แต่ใครจะคิดว่านี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของฝันร้าย
หลังกลับมากินนมได้แต่ไม่มากเท่าก่อนจนผ่านมาอีก 2 สัปดาห์ลูกก็ไม่ยอมกินนม ปฎิเสธนมอย่างชัดเจนแย่กว่ารอบแรกแต่ไม่ค่อยซึม แม่พาหนูไปหาหมอบ่อยมากจนวันที่ 21 เม.ย หมอตรวจพบว่าหนูเป็นโรคหัวใจตอนอายุ 3 เดือน 20 วัน!! และตรวจอย่างละเอียดอีกทีวันที่ 22 เม.ย ค่ากรดเหลือ 9 จึงต้องแอทมิทเร่งด่วนตอน 15.00 พอประมาณ 23.00 หนูอาการหนักมากโมจิลูกแม่ไม่ไหวแล้ว แม่ตัวชา หน้าชา ใจสั่น โทรบอกให้พ่อหนูมาโดยเร็วที่สุดลูกเราเข้า ICU !!! คำๆนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย! โมจิโดนใส่สายทุกทาง ปาก จมูก แขน มือ และเจาะอีกมากมาย หมอบอกว่าหนูเป็นโรคทางพันธุกรรมเมตาบอลิก (Inborn Errors of Metabolism) โดยพบระดับกรดแลคติคสูงที่สุดคือ 22 mmol/L (ค่าปกติ 0.5-2.0 mmol/L) เคสนี้เกิดขึ้นได้แค่ 1 ในล้าน!!!
พอออกจากห้อง ICU สายน้ำเกลือหลุดจึงต้องพาไปใส่ใหม่แต่พอหนูออกมา ลูกแม่หน้าซีด ตาลอย ร้องแทบไม่มีเสียง พวกเราตกใจกันมากกรดในเลือดผลเป็น 9 ตอนแอดมิทแต่ตอนนี้เหลือแค่ 6!!! หมอบอกว่าไม่เคยเจอค่ากรดในเลือดแบบนี้เลย
หมอบอกว่าหมดหวัง แต่เราจะสู้ไปด้วยกันนะลูก โมจิของแม่
แล้วเวลาผ่านมาจนทราบว่าหนูตัวเล็ก น้ำคร่ำน้อย หมอจึงให้ผ่าหนูออกมาตอน 36 สัปดาห์ (31 ม.ค.56) ด้วยความที่หนูตัวเล็กพอคลอดเสร็จก็ต้องแยกกันกับแม่เลย ตอนผ่าคลอดนั้นใจมันตื่นเต้นที่สุดร้องไห้ด้วยความรัก เมื่อได้ยินเสียงลูกบอกได้คำเดียวแม่รักหนูมากนะโมจิ น้ำตามันไหลจนสะอื้นบอกไม่ถูก ได้หอม ได้จูบ นี้ลูกสาวแม่จริงๆเหรอ และเราก็ได้กลับบ้านด้วยกันแม่กับพ่อทำหน้าที่ดูแลลูกโมจิอย่างเต็มที่ เราพ่อแม่มือใหม่2คนตั้งใจเลี้ยงหนูมากเพราะลูกคือสิ่งที่เกิดมาจากความรักของพ่อและแม่ โมจิกินนมเก่งกินมากขึ้นเรื่อยๆจน2เดือน
วันที่ 5 เม.ย 56 ลูกมีอาการไม่กินนมมานานซึ่งแม่ไม่สบายใจมากรู้ว่าผิดปกติมากแต่หาสาเหตุไม่ได้เพราะหนูดูไม่ป่วย จึงพาไปหาหมอที่รพ.ศิริราชเพื่อรับน้ำเกลือเนื่องจากเลือดเป็นกรดค่า 11 พอรับน้ำเกลือหนูดีขึ้นค่าเป็น 23 (ปกติ) เลยพาลูกกลับบ้านวันที่ 10 เม.ย รวมนอนรพ.6 วัน ครั้งนี้เจ็บปวดเหลือเกินทั้งกายและใจ ลูกเจ็บแม่เจ็บยิ่งกว่าได้แต่สัญญากับลูกว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะพาลูกเข้ามานอนรพ. แต่ใครจะคิดว่านี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของฝันร้าย
หลังกลับมากินนมได้แต่ไม่มากเท่าก่อนจนผ่านมาอีก 2 สัปดาห์ลูกก็ไม่ยอมกินนม ปฎิเสธนมอย่างชัดเจนแย่กว่ารอบแรกแต่ไม่ค่อยซึม แม่พาหนูไปหาหมอบ่อยมากจนวันที่ 21 เม.ย หมอตรวจพบว่าหนูเป็นโรคหัวใจตอนอายุ 3 เดือน 20 วัน!! และตรวจอย่างละเอียดอีกทีวันที่ 22 เม.ย ค่ากรดเหลือ 9 จึงต้องแอทมิทเร่งด่วนตอน 15.00 พอประมาณ 23.00 หนูอาการหนักมากโมจิลูกแม่ไม่ไหวแล้ว แม่ตัวชา หน้าชา ใจสั่น โทรบอกให้พ่อหนูมาโดยเร็วที่สุดลูกเราเข้า ICU !!! คำๆนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย! โมจิโดนใส่สายทุกทาง ปาก จมูก แขน มือ และเจาะอีกมากมาย หมอบอกว่าหนูเป็นโรคทางพันธุกรรมเมตาบอลิก (Inborn Errors of Metabolism) โดยพบระดับกรดแลคติคสูงที่สุดคือ 22 mmol/L (ค่าปกติ 0.5-2.0 mmol/L) เคสนี้เกิดขึ้นได้แค่ 1 ในล้าน!!!
พอออกจากห้อง ICU สายน้ำเกลือหลุดจึงต้องพาไปใส่ใหม่แต่พอหนูออกมา ลูกแม่หน้าซีด ตาลอย ร้องแทบไม่มีเสียง พวกเราตกใจกันมากกรดในเลือดผลเป็น 9 ตอนแอดมิทแต่ตอนนี้เหลือแค่ 6!!! หมอบอกว่าไม่เคยเจอค่ากรดในเลือดแบบนี้เลย