N'Mojii
ถ้าย้อนเวลากลับไปวันที่ 20 สิงหาคม 2556 วันนั่นเป็นวันที่แย่ที่สุดในชีวิต แต่เมียมก็ได้เลือกสิ่งที่ดีให้โมจิ
คืนวันที่19 น้องร้องทั้งคืน และเหมือนจะมีไข้ ให้นมก็อาเจียน น้องร้องทรมานแบบไม่สบายตัว และให้อุ้มตลอด และก็เช็ดตัวทั้งคืน เช้ามาได้รับโทรศัพท์ จากทางรามา ว่าอ.ดวงฤดี ว่างมีคิวให้เข้าพบ ทั้งที่ใจก็ว่าอยากลองไปสักครั้ง จิตใจคนเป็นแม่ขอแค่ลูกยังอยู่ก็อยากหาทางช่วยลูก คนเป็นแม่ไม่สามารถนิ่งดูดายได้
11.00 น. ได้พบคุณหมอน้องยังมิาการอ่อนเพลียนิดๆ แต่ยังรับรู้ปกติ ดูดน้ำเองได้ ยิ้มได้นิดหน่อย คุณหมอส่งตัวไปเจาะเลือด ให้น้ำเกลือ และแอดมิด พอถึงตึกเจาะเลือด น้องเริ่มมีการกลัว ตอนเจาะน้องร้อง..ร้องมาก คุณพ่อไปจ่ายตังค่าเจาเลือด เมียมอยู่กะโมจิ และมีพ่อยอดแม่เลขอยู่ด้วย ทุกๆอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก น้องร้อง...จนเหลือง ซีด จนเริ่มเขียว น้องกลัวเข็มมาก แต่ลูกก็ต้องเจาะให้น้ำเกลือ จนเราบอกหมอว่าน้องไม่ไหวแล้ว คุณหมอเตรียมเครื่องช่วยหายใจ และขอให้เราออกมา...
ตอนนั่นภาพเดิม เหมือนตอนเข้าicu ตอนจะ4 เดือนกลับมา มันทรมานเจียนตาย
และแล้วคุณหมอขอเจาะไขกระดูกสด หน้าซ้ายน้อง เพื่อรีบให้น้ำเกลือทางไขกระดูก และต่อมา บอกว่า...หัวใจน้องจับชีพจรไม่ได้( ความรู้สึกนั่น สับสนร้องไห้ แต่ต้องสู้) พ่ออ้อมเดินกลับมาจากจ่ายตัง งงมากก่อนไปลูกยังดีๆ กลับมาลูกมีแต่สาย ทุกๆช่วยกันปลอบเราสวดมนต์ แม่เล็กพ่อจิ้นตามมา อยู่กะเมียมและโมจิ. สักพักและอาการโมจิแย่ลง คุณหมอกำลังช่วยชีวิตน้องอยู่......
เวลานั่น เมียมและพี่อ้อมกอดกันร้องไห้ ทุกคนกอดกัน แต่ใจลึกๆแถบแตกสลาย คุณหมอบอกว่าน้องเริ่มรู้สึกตัว และจะส่งเข้า icu แม่เลขพ่อยอด แม่เล็กพ่อจิ้น แม่นัท คุณตา คุณยาย เมียม พี่อ้อม ส่งโมจิเข้า icu แต่ในใจบอกตรงๆครั้งนี้รุนแรง กว่าครั้งก่อน
พอเข้าicu คุณหมอพร้อมทีมแพทย์เข้าประชุม พร้อมพ่อแม่ คุณหมอก็ตกใจกับอาการที่แย่ลงรวดเร็ว น้องอาจหัวใจโต และชักจนช็อคไป และจะให้ยาดูอาการ เราเองรู้ทั้งรู้ว่าโลกใบนี้ไม่สามารถรักษาลูกได้ ได้คุยจนรู้ว่าลูกนั่น เจ็บมามาก คำพูดที่ต้องออกจากปากคนเป็นแม่ว่า...ถ้าโมจิไม่ไหวจริงๆ เมียมจะปล่อยลูกไป เราจะทำทุกอย่างเต็มที แต่จะไม่ทรมานลูกหนูนะ โมจืจะต้องไม่เจ็บอีกแล้ว พูดมาร้องไห้จนใจจะขาด คุณหมอพร้อมทีมแพทย์ก็เศร้ามาก และบอกว่าน้อยคนที่จะไม่เห็นแก่ตัว รักลูกได้มากเท่านี้ เราจะไม่เห็นแก่ตัวถึงมันจะเจ็บก็ต้องอดทน เพราะพ่อแม่รักโมจิมากๆ ทุกคนฟังตกลงตามนี้.........
เมียมก็เฝ้ามองลูก ดูโมจิ จนเวลาประมาณ 2 ทุ่ม น้องชักเงียบอีกครั้งคุณหมอให้ยากันชักไป ใจแม่นี้ขาดตลอดเวลา เยี่ยมจนหมดเวลาเยี่ยมโมจิ แต่เมียมนั่งอยู่ข้างล่างร.พจน4 ทุ่ม
พอเวลาประมาณ 5 ทุ่มนอนอยู่ในห้อง เราพ่อแม่ร้องไห้ แต่เมียมก็ตั้งสติ จิตหาโมจิ บอกว่าลูก ไม่ต้องห่วงพ่อแม่ แม่รักหนูมาก มากที่สุด ถ้าหนูไม่ไหวหนูก็หลับให้สบาย แม่จะรักหนูทุกพบทุกชาติไป...แล้วเมียมคงงีบหลับไป พร้อมฝันเห็นโมจิ โมจิมีสำลีอุดจมูก สักพักสะดุ้งตื่น นั่งอยู่เอามือหยิบโทรศัพท์มากดดู อยู่ดีๆคุณหมอโทรมา บอกให้โทรกลับ icu พอโทรไปคำแรกทีได้ยินคือ คุณแม่เราให้ยา ทุกตัวแล้ว น้องไม่มีการดีขึ้น เราตั้งสติ ถามว่าน้องไม่ไหวใช้มั้ย คุณหมอบอกครับ น้องไม่ตอยสนองกับยา เท่านั่นรีบไปร.พ เลย เพราะหมอบอกให้มาดูน้อง เรารู้เลยว่าคงเป็นครั้งสุดท้าย โมจิรับรู้ เมียมเองก็โทรหาหมอถามค่าเลือดตลอด ผลมันก็ไม่ดี รู้ทั้งรู้แต่ทำใจไม่ได้...
ไม่เกิน15 นาทีถึงร.พ คุณหมอบอกว่าน้องไม่ไหว เราก็เข้าไป ดู กอด หอมน้อง แต่น้องไม่รับรู้อะไรแล้ว ไม่ลืมตา พี่อ้อมร้องไห้มาก มากจนเราเองยังปลอบไม่ถู คุณตาคุณยายแย่ไม่แพ้กัน เวลานี้ชั่งทรมานเหลือเกิน
ถึงเวลาเราเลยอุ้มน้องกอดน้อง กล่อมน้องให้โมจิหลับสบาย เวลานี้แม่เล็กแม่นัทอยู่ด้วย ทุกคนร้องไห้ เราก็ทำได้แค่กอด ร้องกล่อมโมจิ และพูดว่า ลูกไปเถอะไปสบายไปตามแสงสว่างเดินตามพระไปนะลูกนะ แม่รักหนูสุดหัวใจ ถ้ามีบุญต่อกันมาเกิดเป๋นลูกแม่นะ ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่นะลูก และเมียมก็ร้องๆๆ แต่น้ำตาไม่หยดลงโมจิแน่นอน เพราะจะไม่ทำให้ลูกห่วง ตอนนั่นภาพตั้งแต่อุ้มท้อง คลอดน้อง ภาพน้องมันเข้ามามากมาย เราต้องตั้งสติมาก เพื่อทีจะส่งโมจิให้ดีที่สุด และแล้วชีพจรก็ลดลงๆๆ จะหมดลมหายใจ แต่สักพักหัวใจน้องเริ่มกลับมา เรารู้เลยลูกเองก็ไม่อยากจากเราไป ก็บอกโมจิอีกครั้งว่าแม่รักลูกไม่ต้องห่วงแม่น้า และหัวใจน้องก็ลดๆลง จนน้องจากไปอย่างสงบ.......
น้องเสียเวลา 2.30 น. วันที่ 21 สิงหาคม 2556
สุดท้ายนี้ ขอบคุณ ร.พ ศิริชาร ร.พ รามา อย่างสุดซึ้ง และขอบคุณคำปรึกษา จากร.พ จุฬา ค่ะ
ขอบพระคุณ
วันสุดท้ายของน้องโมจิ
ถ้าย้อนเวลากลับไปวันที่ 20 สิงหาคม 2556 วันนั่นเป็นวันที่แย่ที่สุดในชีวิต แต่เมียมก็ได้เลือกสิ่งที่ดีให้โมจิ
คืนวันที่19 น้องร้องทั้งคืน และเหมือนจะมีไข้ ให้นมก็อาเจียน น้องร้องทรมานแบบไม่สบายตัว และให้อุ้มตลอด และก็เช็ดตัวทั้งคืน เช้ามาได้รับโทรศัพท์ จากทางรามา ว่าอ.ดวงฤดี ว่างมีคิวให้เข้าพบ ทั้งที่ใจก็ว่าอยากลองไปสักครั้ง จิตใจคนเป็นแม่ขอแค่ลูกยังอยู่ก็อยากหาทางช่วยลูก คนเป็นแม่ไม่สามารถนิ่งดูดายได้
11.00 น. ได้พบคุณหมอน้องยังมิาการอ่อนเพลียนิดๆ แต่ยังรับรู้ปกติ ดูดน้ำเองได้ ยิ้มได้นิดหน่อย คุณหมอส่งตัวไปเจาะเลือด ให้น้ำเกลือ และแอดมิด พอถึงตึกเจาะเลือด น้องเริ่มมีการกลัว ตอนเจาะน้องร้อง..ร้องมาก คุณพ่อไปจ่ายตังค่าเจาเลือด เมียมอยู่กะโมจิ และมีพ่อยอดแม่เลขอยู่ด้วย ทุกๆอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก น้องร้อง...จนเหลือง ซีด จนเริ่มเขียว น้องกลัวเข็มมาก แต่ลูกก็ต้องเจาะให้น้ำเกลือ จนเราบอกหมอว่าน้องไม่ไหวแล้ว คุณหมอเตรียมเครื่องช่วยหายใจ และขอให้เราออกมา...
ตอนนั่นภาพเดิม เหมือนตอนเข้าicu ตอนจะ4 เดือนกลับมา มันทรมานเจียนตาย
และแล้วคุณหมอขอเจาะไขกระดูกสด หน้าซ้ายน้อง เพื่อรีบให้น้ำเกลือทางไขกระดูก และต่อมา บอกว่า...หัวใจน้องจับชีพจรไม่ได้( ความรู้สึกนั่น สับสนร้องไห้ แต่ต้องสู้) พ่ออ้อมเดินกลับมาจากจ่ายตัง งงมากก่อนไปลูกยังดีๆ กลับมาลูกมีแต่สาย ทุกๆช่วยกันปลอบเราสวดมนต์ แม่เล็กพ่อจิ้นตามมา อยู่กะเมียมและโมจิ. สักพักและอาการโมจิแย่ลง คุณหมอกำลังช่วยชีวิตน้องอยู่......
เวลานั่น เมียมและพี่อ้อมกอดกันร้องไห้ ทุกคนกอดกัน แต่ใจลึกๆแถบแตกสลาย คุณหมอบอกว่าน้องเริ่มรู้สึกตัว และจะส่งเข้า icu แม่เลขพ่อยอด แม่เล็กพ่อจิ้น แม่นัท คุณตา คุณยาย เมียม พี่อ้อม ส่งโมจิเข้า icu แต่ในใจบอกตรงๆครั้งนี้รุนแรง กว่าครั้งก่อน
พอเข้าicu คุณหมอพร้อมทีมแพทย์เข้าประชุม พร้อมพ่อแม่ คุณหมอก็ตกใจกับอาการที่แย่ลงรวดเร็ว น้องอาจหัวใจโต และชักจนช็อคไป และจะให้ยาดูอาการ เราเองรู้ทั้งรู้ว่าโลกใบนี้ไม่สามารถรักษาลูกได้ ได้คุยจนรู้ว่าลูกนั่น เจ็บมามาก คำพูดที่ต้องออกจากปากคนเป็นแม่ว่า...ถ้าโมจิไม่ไหวจริงๆ เมียมจะปล่อยลูกไป เราจะทำทุกอย่างเต็มที แต่จะไม่ทรมานลูกหนูนะ โมจืจะต้องไม่เจ็บอีกแล้ว พูดมาร้องไห้จนใจจะขาด คุณหมอพร้อมทีมแพทย์ก็เศร้ามาก และบอกว่าน้อยคนที่จะไม่เห็นแก่ตัว รักลูกได้มากเท่านี้ เราจะไม่เห็นแก่ตัวถึงมันจะเจ็บก็ต้องอดทน เพราะพ่อแม่รักโมจิมากๆ ทุกคนฟังตกลงตามนี้.........
เมียมก็เฝ้ามองลูก ดูโมจิ จนเวลาประมาณ 2 ทุ่ม น้องชักเงียบอีกครั้งคุณหมอให้ยากันชักไป ใจแม่นี้ขาดตลอดเวลา เยี่ยมจนหมดเวลาเยี่ยมโมจิ แต่เมียมนั่งอยู่ข้างล่างร.พจน4 ทุ่ม
พอเวลาประมาณ 5 ทุ่มนอนอยู่ในห้อง เราพ่อแม่ร้องไห้ แต่เมียมก็ตั้งสติ จิตหาโมจิ บอกว่าลูก ไม่ต้องห่วงพ่อแม่ แม่รักหนูมาก มากที่สุด ถ้าหนูไม่ไหวหนูก็หลับให้สบาย แม่จะรักหนูทุกพบทุกชาติไป...แล้วเมียมคงงีบหลับไป พร้อมฝันเห็นโมจิ โมจิมีสำลีอุดจมูก สักพักสะดุ้งตื่น นั่งอยู่เอามือหยิบโทรศัพท์มากดดู อยู่ดีๆคุณหมอโทรมา บอกให้โทรกลับ icu พอโทรไปคำแรกทีได้ยินคือ คุณแม่เราให้ยา ทุกตัวแล้ว น้องไม่มีการดีขึ้น เราตั้งสติ ถามว่าน้องไม่ไหวใช้มั้ย คุณหมอบอกครับ น้องไม่ตอยสนองกับยา เท่านั่นรีบไปร.พ เลย เพราะหมอบอกให้มาดูน้อง เรารู้เลยว่าคงเป็นครั้งสุดท้าย โมจิรับรู้ เมียมเองก็โทรหาหมอถามค่าเลือดตลอด ผลมันก็ไม่ดี รู้ทั้งรู้แต่ทำใจไม่ได้...
ไม่เกิน15 นาทีถึงร.พ คุณหมอบอกว่าน้องไม่ไหว เราก็เข้าไป ดู กอด หอมน้อง แต่น้องไม่รับรู้อะไรแล้ว ไม่ลืมตา พี่อ้อมร้องไห้มาก มากจนเราเองยังปลอบไม่ถู คุณตาคุณยายแย่ไม่แพ้กัน เวลานี้ชั่งทรมานเหลือเกิน
ถึงเวลาเราเลยอุ้มน้องกอดน้อง กล่อมน้องให้โมจิหลับสบาย เวลานี้แม่เล็กแม่นัทอยู่ด้วย ทุกคนร้องไห้ เราก็ทำได้แค่กอด ร้องกล่อมโมจิ และพูดว่า ลูกไปเถอะไปสบายไปตามแสงสว่างเดินตามพระไปนะลูกนะ แม่รักหนูสุดหัวใจ ถ้ามีบุญต่อกันมาเกิดเป๋นลูกแม่นะ ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่นะลูก และเมียมก็ร้องๆๆ แต่น้ำตาไม่หยดลงโมจิแน่นอน เพราะจะไม่ทำให้ลูกห่วง ตอนนั่นภาพตั้งแต่อุ้มท้อง คลอดน้อง ภาพน้องมันเข้ามามากมาย เราต้องตั้งสติมาก เพื่อทีจะส่งโมจิให้ดีที่สุด และแล้วชีพจรก็ลดลงๆๆ จะหมดลมหายใจ แต่สักพักหัวใจน้องเริ่มกลับมา เรารู้เลยลูกเองก็ไม่อยากจากเราไป ก็บอกโมจิอีกครั้งว่าแม่รักลูกไม่ต้องห่วงแม่น้า และหัวใจน้องก็ลดๆลง จนน้องจากไปอย่างสงบ.......
น้องเสียเวลา 2.30 น. วันที่ 21 สิงหาคม 2556
สุดท้ายนี้ ขอบคุณ ร.พ ศิริชาร ร.พ รามา อย่างสุดซึ้ง และขอบคุณคำปรึกษา จากร.พ จุฬา ค่ะ
ขอบพระคุณ