ตอนที่ 29 ศึกสามนางพญา ตอนที่ 2
ศิริศรเฝ้าตามข่าวของดราก้อนกรุ๊ปอย่างใกล้ชิด เพราะศิริศรต้องการสร้างความสัมพันธ์กับ
ดราก้อนกรุ๊ป ตามคำแนะนำของ อติตา.....
"ตอนนี้ลูกศรต้องผูกมิตรกับ ดราก้อนกรุ๊ปก่อน เพราะถ้าเราต้องเผชิญศึกทั้งสองด้าน เราคงต้านทาน
ไม่ได้นาน...ส่วนเรื่องการคบหาสิทธิชัยนั้น น้าว่าจะเลิกคบเสียตรงนี้ ก็น่าจะไม่มีผลแล้ว...แต่คบต่อ
ก็ได้...อย่างน้อยก็อาจทำให้ นฤมลลงมือทำอะไรลูกศรยากขึ้น....นี่เป็นความคิดของน้า...ทุกอย่าง
อยู่ที่ ลูกศรจะตัดสินใจ..."
ศิริศรจับปอยผมอย่างใช้ความคิด สายตามองไปข้างหน้า ก่อนจะกล่าวออกมา
"ลูกศรคิดเช่นเดียวกันกับคุณน้า...เรื่องการผูกมิตรกับดราก้อนกรุ๊ป...ก็เปรียบเสมือนการศึกที่ผาแดง
ในเรื่อง สามก๊ก...เพราะถ้าเราต้องสู้กับวุยก๊ก ที่มีแสนยานุภาพขนาดนั้น โดยลำพัง น่าจะเป็นเรื่อง
ที่เกินกำลัง...การผูกมิตรกับง่อก๊ก เพื่อต้านทานศัตรูที่ร้ายกาจร่วมกัน น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด...
ติดแค่ ลูกศรไม่ค่อยมีข้อมูลเรื่อง คุณลัดดาวัลย์ เท่าใดนัก จึงไม่รู้ว่าควรเข้าหาแบบไหน....ส่วนเรื่อง
ของคุณบูร์นั้น ลูกศรยังคิดใช้ประโยชน์จากเขา เพราะถึงแม้ ลูกศรจะไม่ได้ความลับอะไรจากเขาเลย
แต่อย่างน้อยเราจะรู้ความเคลื่อนไหว...และอาจปล่อยข่าวลวง ไปยัง นฤมลก็ได้...."
อติตานั้นอดทึ่งในแนวคิดของ ศิริศรไม่ได้ เพราะเธอเป็นผู้รอบรู้ สามารถนำตำราพิชัยยุทธ มาใช้ควบคู่
ในการทำสงครามเย็นได้ อีกทั้งยังมีแผนที่ซ้อนอีกขั้น นับว่าเป็นความล้ำลึกของเธอโดยแท้
"น้าดีใจนะ!!...ที่ได้มีโอกาสได้เป็นที่ปรึกษาให้ลูกศร...เพราะน้าเริ่มคิดว่าตนเอง เป็นจูกัดเหลียง ที่จะ
เข้าไป เจรจากับ จิวยี่ เพื่อต้านโจโฉ...หรือไม่...ก็ให้มันแตกออกเป็นสามก๊กจริงๆ ซะเลย..."
ศิริศรสงสัยคำพูดของ อติตาที่จะให้แตกออกเป็นสามก๊ก เธอจึงสอบถามอย่างใคร่รู้
"เป็นแผนแบบไหนคะ!!...ที่จะทำให้แตกออกเป็นสาม..."
อติตายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ปรายตาขึ้น
"สร้างความหวาดระแวง...เพราะถ้าเราร่วมกับทาง ง่อก๊กไม่ได้ ก็ต้องอย่าให้ ง่อก๊กไปรวมกับ วุยก๊ก
เพื่อเป็นการตรึงกำลัง...เป็นสามฝ่าย เพราะถ้าขาดก๊กใด ก๊กหนึ่ง ก๊กที่ใหญ่กว่าจะกลืนกินทั้งหมด
ถ้าเป็นถึงผู้นำกลุ่ม เรื่องแค่นี้ไม่รู้...ก็ไม่คู่ควรกับตำแหน่ง ผู้นำมังกร...คนต่อไป..."
ศิริศรนั้น ก็อดชื่นชมในปัญญาอันแหลมคม ของอติตาไม่ได้ สายตาที่จับจ้องมีแต่ความนับถือที่มอบให้
จนอติตาสังเกตเห็น เธอยิ้มอย่างขวยเขินถึงสายตาที่บ่งบอกความคิดภายในของศิริศร ที่ชื่นชมตัวเธอ
"มิน่าละ...คุณพ่อจะบอกเสมอว่า ผู้หญิงที่คุณพ่อรู้จัก ที่มีไหวพริบที่เป็นที่สุด สามคน คนหนึ่งคือคุณแม่
คนที่สองคือคุณนฤมล และคนที่สาม...ก็คือคุณน้า อติตา อริพ่าย...."
อติตายิ้ม ก่อนจะกล่าวออกมา
"ความจริงต้องเป็นสี่คนนะ ที่อยู่ใกล้ตัวพี่ธนู....เพราะอีกคน....ก็คือ....ลูกศรไงจ๊ะ!!!..."
ทั้งสองสาวหัวเราะให้กันอย่างสนิทสนม ถึงแม้ภายนอกจะต้องรับศึกที่หนักหนาสาหัส แต่เมื่อใจเป็นสุข
ก็เท่ากับว่าชนะไปครึ่งทาง...แต่ยังเหลืออีกครึ่งทางที่ทั้งสองสาว ต้องเผชิญหน้ากับศึกใหญ่...ที่ใหญ่กว่า
ศึกครั้งไหน...ในชีวิตของเธอ...ทั้งสอง....
.............................
นฤมล ได้ให้ยาชุดที่สองกับ ธนูแล้ว เพราะอาการของธนูมีอาการต้องการยา เพิ่มมากขึ้น จนเธอ
อด สงสารเขาไม่ได้ เพราะเธอรู้ถึงอำนาจของยาสั่งชนิดนี้ดี ถ้าให้ยาถึงครั้งที่สี่ นั้นก็คือ ธนูจะหมด
ความเป็นมนุษย์ทันที นั่นเท่ากับว่า เขายังเหลือชีวิตแบบนี้ เพียงสองตัวยาเท่านั้น นฤมลแปลกใจตนเอง
ว่าทำไมกลับไม่รู้สึกสะใจเหมือนที่เธอแก้แค้นศัตรูคนอื่นๆ...เธอไม่เข้าใจตัวเองเลย....ตลอดเวลาที่เธอ
ส่งยาสั่งชุดที่สองให้ธนูนั้น มือของเธอเกาะกุมมือของธนูตลอดเวลา เธอรับรู้ถึงความเจ็บปวด เวลาที่
ตัวยาวิ่งผ่านไปยังหัวใจ ซึ่งถ้าเป็นคนปกติ อาจจะทานทนไม่ได้....ทำไม...น้ำตาของเธอไหลหลั่ง
ออกมา...นฤมลตกใจ เมื่อเธอป้ายใต้ตาแล้วพบน้ำตาที่ออกมามากมาย....ทำไมถึงเป็นเช่นนี้
"ไม่...ต้องไม่เป็นแบบนี้...นี่คือผลตอบแทนของแก...ไม่ว่าแกจะชื่ออะไรก็ตาม...ชาญ...ธนู..หรือ...ภาคี
แกต้องได้รับกรรมอย่างสาสม...ที่แกทำให้คุณท่านต้องตาย...ทำให้สิทธิชัยต้อง กำพร้าพ่อ...ทำให้ฉัน
ต้องขาดคนรัก...เพราะแก...แกเป็นคนทำฉันก่อน...แกสมควรรับโทษแล้ว...นฤมลเธอต้องเข้มแข็งไว้
ที่เธอยืนได้ทุกวันนี้...ก็เพราะสิ่งนี้ไม่ใช่หรือ...ต้องทำลายครอบครัวของมัน...นี่คือจุดประสงค์ของเธอ
ไม่ใช่หรือ...นฤมล เจริญบูรพา...เธอไม่ใช่...อาผิง...คนนั้นอีกแล้ว..."
นั่นคือคำพูดทุกครั้งเมื่อเธอคิดจะใจอ่อนกับธนู เธอต้องพยายามเกลียดชังศัตรูผู้นี้...ให้มากที่สุด...
เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายคือ....ทำลาย...นามสกุล อิสระชน และกาญจนกิจ...ให้สิ้นซาก...สายตาของ
นฤมลเป็นประกายเจิดจ้าอีกครั้ง หันไปมองร่างของธนู ที่นอนหลับไป...เป็นประกายสองชนิด...
คือทั้งเกลียดชังสุดขั้ว....และรักสุดดวงใจนั่นเอง.....
ยาชุดที่สองจะทำให้ธนู อยู่ไปได้ หนึ่งถึงสองเดือน...หลังจากนั้นชุดที่สาม...อยู่ไปได้ สามถึงสี่เดือน
แต่ชุดสุดท้าย เขาจะกลับมาเป็นปกติ เหมือนคนเดิม...นั่นคือคนที่มีความสามารถเช่นในอดีต...แต่จะเป็น
แบบนี้เพียงสองสัปดาห์...แล้วเขาจะพิการทางสติปัญญา...ตลอดชีวิต...จุดประสงค์ของ นฤมลก็คือให้
ธนูรับรู้ทุกอย่าง ว่าที่ต้องเป็นเช่นนี้ เป็นเพราะตนเอง เป็นผู้ทำลายมันกับมือทั้งสิ้น เป็นการมอบความ
ทรมานในช่วง ๑๔ วันสุดท้ายของชีวิต สำนึกความผิดที่ตนก่อ...ว่าที่ต้องเป็นเช่นนี้...เพราะได้ก่อกรรม
กับใครไว้......นี่คือ ยาสั่งพิฆาตราชสีห์ ที่นฤมลปรุงมันขึ้นมา จากหมอผีหญิงที่อายุถึง ๑๐๘ ปี.....
เป็นผู้สอนเธอ...
แม่หมอบอกกับ นฤมลว่าความจริงเธอต้องอายุถึง ๑๕๐ ปีจึงสิ้นอายุขัย แต่เนื่องจาก ไปปรุงยา...
ตนนี้เข้า อายุของเธอ จึงสั้นลงมาเหลือ ๑๐๙ ปี หลังจากถ่ายทอดวิชาปรุงยา ให้นฤมลแล้ว
หนึ่งปีให้หลัง หมอผีหญิง ก็จากไปอย่างทรมาน...มีคนพบศพหมอผี นอนตายอย่างอนาถ มือสองข้าง
บีบคอตน จนหักสบั้น ศีรษะนั้นหมุนกลับไปถึงสองรอบ เป็นที่สยดสยองกับผู้พบเห็น...ยิ่งนัก....
มีคนกล่าวไว้ว่า เป็นเพราะวิญญาณร้าย ที่เธอไปก่อกรรม...ตามมาเล่นงานเธอ...เมื่อถึงเวลาที่กำหนด...
เพราะยาสั่งชุดนี้ ก็เหมือนกำหนดเวลาตายให้ผู้อื่น...เมื่อใช้แล้ว...ก็เหมือนกำหนดเวลาตาย ให้ตนเอง
เช่นเดียวกัน......นฤมลรู้ซึ้งดี...จึงมิได้ใช้วิชานี้กับศัตรูคนไหน....ที่เธอต้องใช้...ยาสั่งชุดนี้....เพราะเธอ
ไม่เห็นทาง ที่เธอจะเอาชนะ....ศัตรูคนนี้ของเธอได้เลย.....เมื่อนฤมลเธอเห็นว่า มันคุ้มค่า....เพราะชีวิต
ต้องแลกด้วย...หลายชีวิต...ของศัตรู.....เธอจึงลงมือทำมัน...ขึ้นมา.....
.........................
สิทธิชัยทำจดหมายไปถึง ตำหนักมังกร ถึงจ้าวมังกรโดยตรง...ไม่มีใครรู้ใจความในจดหมาย
มีเพียงสิทธิชัย ที่ทราบ กับจ้าวมังกรที่รู้ เป็นข้อตกลงระหว่างกัน....สิทธิชัยแก้ปัญหาได้ไปเปราะหนึ่ง
ยังเหลืออีกหลายขั้น ที่เขาต้องแก้ไข....ทั้งศิริศร หรือของน้าสาว...นฤมล ที่เป็นเหมือนญาติเพียงคน
เดียวที่เหลืออยู่...เธอเป็นทั้งแม่...ทั้งพี่สาว...ทั้งพ่อ...และทาสรับใช้ที่...ซื่อสัตย์ที่สุดสำหรับเขา....
สิทธิชัย ไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากแม่...แต่ก็คาดได้ว่า...ความอบอุ่นของนฤมลกับแม่ที่แท้จริง
คงไม่ต่างกันเท่าไหร่???...ดังนั้น นฤมลเป็นอีกหญิงที่เขาต้องปกป้องเช่นกัน....
หลังจากที่สิทธิชัย สืบเรื่องราวต่างๆจากคดีในอดีตของ สมเจตน์ ในเรื่องการเสียชีวิต ลักษณะการตาย
สำนวนในการสืบคดี...หลักฐานที่เป็นภาพถ่าย แนวทางที่เป็นไปได้ของฝ่ายสืบสวนในสมัยนั้น นั่นเป็น
ผลพวงจากการที่เขาไปสนิทสนมกับ สารวัตรธงชัย เจ้าของคดีที่เขาถูกรอบยิง เขาเก็บเอาสำเนา
เหล่านั้น เพื่อสืบเรื่องการตายของ บิดาอย่างละเอียด เพราะสิทธิชัยคิดว่า ธนูไม่ใช่ผู้ที่สั่งฆ่าบิดาของเขา
เนื่องจากเขาศึกษาแนวความคิด หรือแม้แต่นิสัยส่วนตัว ประวัติอาชญากรรม จะเห็นว่า ผู้ที่เสียชีวิตด้วย
มือของเขา มีเพียงนายทองเท่านั้น แต่นั่นเป็นเพราะนายทองใส่ชุดโม่งดำ มาลอบสังหารเขาที่สโมสร
สมถวิล....หรือจะเป็นจากสาเหตุนี้ ที่ทำให้ธนู ส่งคนมาแก้แค้นสมเจตน์ เพราะการให้นายทองมา
จัดการกับธนู ก็อาจเป็นแผนของบิดาของเขา....ตอนนี้สิทธิชัย จะเริ่มสืบจากตรงนี้ เพื่อจะรู้ความจริง
ว่าเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ สมเจตน์ บิดาของเขา...ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม
.............................
เมื่อหลายวันที่ผ่านมาทางหน่วยสืบแจ้งให้ทราบถึง ที่อยู่ของจอม ที่ซอยอ่อนนุช เจ้าหน้าที่ตำรวจ
นำกำลังเข้าจับตัว...แต่จอมไหวตัวทัน...เมื่อตำรวจสองคนเคาะประตู อีกสามนายถือปืนเล็งที่หน้าประตู
ทันใด!!!.. กระสุนปืน พุ่งเจาะประตูบ้านถูกกลางอกของเจ้าหน้าที่ ที่เคาะประตู ร่างกระเด็นตกจาก
ระเบียงบ้าน เจ้าหน้าที่ ที่เหลือ ๑๘ นายจึงไม่รอช้า กระหน่ำยิงเข้าไปในบ้านอย่างบ้าคลั่ง กระสุนนั้น
เจาะตัวบ้านจนพรุนไปทั้งหลัง เสียงภายในบ้านเงียบสงบ สารวัตรธงชัย ป้อนกระสุนอย่างรวดเร็ว
หน่วยจู่โจม ที่ใช้ปืนอาก้า ประทับบ่าวิ่งเข้าถีบ ประตูบ้าน ส่วนอีกคน ใช้พานท้ายปืนไรเฟิ่ลจู่โจม
กระแทกจนหน้าต่างหลุดออก เจ้าหน้าที่อีกสองนายพุ่งเข้าในบ้านทันที ทั้งสามที่เข้าไปกวาดตา
มองภายในบ้าน ที่มีแต่รูพรุน ถังไม้ที่แช่สมุนไพร มีน้ำไหลนอง เพราะตัวถังไม้ถูกยิงจนทะลุ
น้ำพุ่งออกมาตามรอยกระสุน ที่เจาะทะลุผ่าน ทั้งสามแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะบนพื้น
ไม่มีศพนอนอยู่ ทั้งสาม จึงหันหลังชนกัน เตรียมรับการจู่โจม หนึ่งในสามตะโกนออกมา
ให้รู้ว่าไม่มีศพ นายตำรวจ ที่คุมเชิงด้านนอก กระชับปืนขึ้นเล็งไปที่บ้านอีกครั้ง หน่วยจู่โจม
มองไปยัง ถังน้ำที่สำหรับแช่สมุนไพร ที่ด้านบนของผิวน้ำมีแต่ใบไม้นานาชนิดลอยอยู่เหนือผิวน้ำ
ควันจากน้ำที่ค่อนข้างร้อนมีควันลอยออกมา เขาตัดสินใจสาดกระสุน ไปที่ถังขนาดใหญ่ จนแตก
ออกมาเป็นสองส่วน น้ำที่บรรจุภายในถัง ไหลเจิ่งนอง นอกจากรากไม้ และสมุนไพรที่มัดใบเป็น
ทรงกลม ก็ไม่มีอะไร ที่นายตำรวจอยากเห็น หนึ่งในสาม สังหรณ์ใจ เขากระชับไรเฟิ่ลในมือ
เล็งขึ้นด้านบนทันที แล้วภาพที่เห็นก็สร้างความตกตะลึง!!!...
เหนือตะวัน ตอนที่ 29
ศิริศรเฝ้าตามข่าวของดราก้อนกรุ๊ปอย่างใกล้ชิด เพราะศิริศรต้องการสร้างความสัมพันธ์กับ
ดราก้อนกรุ๊ป ตามคำแนะนำของ อติตา.....
"ตอนนี้ลูกศรต้องผูกมิตรกับ ดราก้อนกรุ๊ปก่อน เพราะถ้าเราต้องเผชิญศึกทั้งสองด้าน เราคงต้านทาน
ไม่ได้นาน...ส่วนเรื่องการคบหาสิทธิชัยนั้น น้าว่าจะเลิกคบเสียตรงนี้ ก็น่าจะไม่มีผลแล้ว...แต่คบต่อ
ก็ได้...อย่างน้อยก็อาจทำให้ นฤมลลงมือทำอะไรลูกศรยากขึ้น....นี่เป็นความคิดของน้า...ทุกอย่าง
อยู่ที่ ลูกศรจะตัดสินใจ..."
ศิริศรจับปอยผมอย่างใช้ความคิด สายตามองไปข้างหน้า ก่อนจะกล่าวออกมา
"ลูกศรคิดเช่นเดียวกันกับคุณน้า...เรื่องการผูกมิตรกับดราก้อนกรุ๊ป...ก็เปรียบเสมือนการศึกที่ผาแดง
ในเรื่อง สามก๊ก...เพราะถ้าเราต้องสู้กับวุยก๊ก ที่มีแสนยานุภาพขนาดนั้น โดยลำพัง น่าจะเป็นเรื่อง
ที่เกินกำลัง...การผูกมิตรกับง่อก๊ก เพื่อต้านทานศัตรูที่ร้ายกาจร่วมกัน น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด...
ติดแค่ ลูกศรไม่ค่อยมีข้อมูลเรื่อง คุณลัดดาวัลย์ เท่าใดนัก จึงไม่รู้ว่าควรเข้าหาแบบไหน....ส่วนเรื่อง
ของคุณบูร์นั้น ลูกศรยังคิดใช้ประโยชน์จากเขา เพราะถึงแม้ ลูกศรจะไม่ได้ความลับอะไรจากเขาเลย
แต่อย่างน้อยเราจะรู้ความเคลื่อนไหว...และอาจปล่อยข่าวลวง ไปยัง นฤมลก็ได้...."
อติตานั้นอดทึ่งในแนวคิดของ ศิริศรไม่ได้ เพราะเธอเป็นผู้รอบรู้ สามารถนำตำราพิชัยยุทธ มาใช้ควบคู่
ในการทำสงครามเย็นได้ อีกทั้งยังมีแผนที่ซ้อนอีกขั้น นับว่าเป็นความล้ำลึกของเธอโดยแท้
"น้าดีใจนะ!!...ที่ได้มีโอกาสได้เป็นที่ปรึกษาให้ลูกศร...เพราะน้าเริ่มคิดว่าตนเอง เป็นจูกัดเหลียง ที่จะ
เข้าไป เจรจากับ จิวยี่ เพื่อต้านโจโฉ...หรือไม่...ก็ให้มันแตกออกเป็นสามก๊กจริงๆ ซะเลย..."
ศิริศรสงสัยคำพูดของ อติตาที่จะให้แตกออกเป็นสามก๊ก เธอจึงสอบถามอย่างใคร่รู้
"เป็นแผนแบบไหนคะ!!...ที่จะทำให้แตกออกเป็นสาม..."
อติตายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ปรายตาขึ้น
"สร้างความหวาดระแวง...เพราะถ้าเราร่วมกับทาง ง่อก๊กไม่ได้ ก็ต้องอย่าให้ ง่อก๊กไปรวมกับ วุยก๊ก
เพื่อเป็นการตรึงกำลัง...เป็นสามฝ่าย เพราะถ้าขาดก๊กใด ก๊กหนึ่ง ก๊กที่ใหญ่กว่าจะกลืนกินทั้งหมด
ถ้าเป็นถึงผู้นำกลุ่ม เรื่องแค่นี้ไม่รู้...ก็ไม่คู่ควรกับตำแหน่ง ผู้นำมังกร...คนต่อไป..."
ศิริศรนั้น ก็อดชื่นชมในปัญญาอันแหลมคม ของอติตาไม่ได้ สายตาที่จับจ้องมีแต่ความนับถือที่มอบให้
จนอติตาสังเกตเห็น เธอยิ้มอย่างขวยเขินถึงสายตาที่บ่งบอกความคิดภายในของศิริศร ที่ชื่นชมตัวเธอ
"มิน่าละ...คุณพ่อจะบอกเสมอว่า ผู้หญิงที่คุณพ่อรู้จัก ที่มีไหวพริบที่เป็นที่สุด สามคน คนหนึ่งคือคุณแม่
คนที่สองคือคุณนฤมล และคนที่สาม...ก็คือคุณน้า อติตา อริพ่าย...."
อติตายิ้ม ก่อนจะกล่าวออกมา
"ความจริงต้องเป็นสี่คนนะ ที่อยู่ใกล้ตัวพี่ธนู....เพราะอีกคน....ก็คือ....ลูกศรไงจ๊ะ!!!..."
ทั้งสองสาวหัวเราะให้กันอย่างสนิทสนม ถึงแม้ภายนอกจะต้องรับศึกที่หนักหนาสาหัส แต่เมื่อใจเป็นสุข
ก็เท่ากับว่าชนะไปครึ่งทาง...แต่ยังเหลืออีกครึ่งทางที่ทั้งสองสาว ต้องเผชิญหน้ากับศึกใหญ่...ที่ใหญ่กว่า
ศึกครั้งไหน...ในชีวิตของเธอ...ทั้งสอง....
.............................
นฤมล ได้ให้ยาชุดที่สองกับ ธนูแล้ว เพราะอาการของธนูมีอาการต้องการยา เพิ่มมากขึ้น จนเธอ
อด สงสารเขาไม่ได้ เพราะเธอรู้ถึงอำนาจของยาสั่งชนิดนี้ดี ถ้าให้ยาถึงครั้งที่สี่ นั้นก็คือ ธนูจะหมด
ความเป็นมนุษย์ทันที นั่นเท่ากับว่า เขายังเหลือชีวิตแบบนี้ เพียงสองตัวยาเท่านั้น นฤมลแปลกใจตนเอง
ว่าทำไมกลับไม่รู้สึกสะใจเหมือนที่เธอแก้แค้นศัตรูคนอื่นๆ...เธอไม่เข้าใจตัวเองเลย....ตลอดเวลาที่เธอ
ส่งยาสั่งชุดที่สองให้ธนูนั้น มือของเธอเกาะกุมมือของธนูตลอดเวลา เธอรับรู้ถึงความเจ็บปวด เวลาที่
ตัวยาวิ่งผ่านไปยังหัวใจ ซึ่งถ้าเป็นคนปกติ อาจจะทานทนไม่ได้....ทำไม...น้ำตาของเธอไหลหลั่ง
ออกมา...นฤมลตกใจ เมื่อเธอป้ายใต้ตาแล้วพบน้ำตาที่ออกมามากมาย....ทำไมถึงเป็นเช่นนี้
"ไม่...ต้องไม่เป็นแบบนี้...นี่คือผลตอบแทนของแก...ไม่ว่าแกจะชื่ออะไรก็ตาม...ชาญ...ธนู..หรือ...ภาคี
แกต้องได้รับกรรมอย่างสาสม...ที่แกทำให้คุณท่านต้องตาย...ทำให้สิทธิชัยต้อง กำพร้าพ่อ...ทำให้ฉัน
ต้องขาดคนรัก...เพราะแก...แกเป็นคนทำฉันก่อน...แกสมควรรับโทษแล้ว...นฤมลเธอต้องเข้มแข็งไว้
ที่เธอยืนได้ทุกวันนี้...ก็เพราะสิ่งนี้ไม่ใช่หรือ...ต้องทำลายครอบครัวของมัน...นี่คือจุดประสงค์ของเธอ
ไม่ใช่หรือ...นฤมล เจริญบูรพา...เธอไม่ใช่...อาผิง...คนนั้นอีกแล้ว..."
นั่นคือคำพูดทุกครั้งเมื่อเธอคิดจะใจอ่อนกับธนู เธอต้องพยายามเกลียดชังศัตรูผู้นี้...ให้มากที่สุด...
เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายคือ....ทำลาย...นามสกุล อิสระชน และกาญจนกิจ...ให้สิ้นซาก...สายตาของ
นฤมลเป็นประกายเจิดจ้าอีกครั้ง หันไปมองร่างของธนู ที่นอนหลับไป...เป็นประกายสองชนิด...
คือทั้งเกลียดชังสุดขั้ว....และรักสุดดวงใจนั่นเอง.....
ยาชุดที่สองจะทำให้ธนู อยู่ไปได้ หนึ่งถึงสองเดือน...หลังจากนั้นชุดที่สาม...อยู่ไปได้ สามถึงสี่เดือน
แต่ชุดสุดท้าย เขาจะกลับมาเป็นปกติ เหมือนคนเดิม...นั่นคือคนที่มีความสามารถเช่นในอดีต...แต่จะเป็น
แบบนี้เพียงสองสัปดาห์...แล้วเขาจะพิการทางสติปัญญา...ตลอดชีวิต...จุดประสงค์ของ นฤมลก็คือให้
ธนูรับรู้ทุกอย่าง ว่าที่ต้องเป็นเช่นนี้ เป็นเพราะตนเอง เป็นผู้ทำลายมันกับมือทั้งสิ้น เป็นการมอบความ
ทรมานในช่วง ๑๔ วันสุดท้ายของชีวิต สำนึกความผิดที่ตนก่อ...ว่าที่ต้องเป็นเช่นนี้...เพราะได้ก่อกรรม
กับใครไว้......นี่คือ ยาสั่งพิฆาตราชสีห์ ที่นฤมลปรุงมันขึ้นมา จากหมอผีหญิงที่อายุถึง ๑๐๘ ปี.....
เป็นผู้สอนเธอ...
แม่หมอบอกกับ นฤมลว่าความจริงเธอต้องอายุถึง ๑๕๐ ปีจึงสิ้นอายุขัย แต่เนื่องจาก ไปปรุงยา...
ตนนี้เข้า อายุของเธอ จึงสั้นลงมาเหลือ ๑๐๙ ปี หลังจากถ่ายทอดวิชาปรุงยา ให้นฤมลแล้ว
หนึ่งปีให้หลัง หมอผีหญิง ก็จากไปอย่างทรมาน...มีคนพบศพหมอผี นอนตายอย่างอนาถ มือสองข้าง
บีบคอตน จนหักสบั้น ศีรษะนั้นหมุนกลับไปถึงสองรอบ เป็นที่สยดสยองกับผู้พบเห็น...ยิ่งนัก....
มีคนกล่าวไว้ว่า เป็นเพราะวิญญาณร้าย ที่เธอไปก่อกรรม...ตามมาเล่นงานเธอ...เมื่อถึงเวลาที่กำหนด...
เพราะยาสั่งชุดนี้ ก็เหมือนกำหนดเวลาตายให้ผู้อื่น...เมื่อใช้แล้ว...ก็เหมือนกำหนดเวลาตาย ให้ตนเอง
เช่นเดียวกัน......นฤมลรู้ซึ้งดี...จึงมิได้ใช้วิชานี้กับศัตรูคนไหน....ที่เธอต้องใช้...ยาสั่งชุดนี้....เพราะเธอ
ไม่เห็นทาง ที่เธอจะเอาชนะ....ศัตรูคนนี้ของเธอได้เลย.....เมื่อนฤมลเธอเห็นว่า มันคุ้มค่า....เพราะชีวิต
ต้องแลกด้วย...หลายชีวิต...ของศัตรู.....เธอจึงลงมือทำมัน...ขึ้นมา.....
.........................
สิทธิชัยทำจดหมายไปถึง ตำหนักมังกร ถึงจ้าวมังกรโดยตรง...ไม่มีใครรู้ใจความในจดหมาย
มีเพียงสิทธิชัย ที่ทราบ กับจ้าวมังกรที่รู้ เป็นข้อตกลงระหว่างกัน....สิทธิชัยแก้ปัญหาได้ไปเปราะหนึ่ง
ยังเหลืออีกหลายขั้น ที่เขาต้องแก้ไข....ทั้งศิริศร หรือของน้าสาว...นฤมล ที่เป็นเหมือนญาติเพียงคน
เดียวที่เหลืออยู่...เธอเป็นทั้งแม่...ทั้งพี่สาว...ทั้งพ่อ...และทาสรับใช้ที่...ซื่อสัตย์ที่สุดสำหรับเขา....
สิทธิชัย ไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากแม่...แต่ก็คาดได้ว่า...ความอบอุ่นของนฤมลกับแม่ที่แท้จริง
คงไม่ต่างกันเท่าไหร่???...ดังนั้น นฤมลเป็นอีกหญิงที่เขาต้องปกป้องเช่นกัน....
หลังจากที่สิทธิชัย สืบเรื่องราวต่างๆจากคดีในอดีตของ สมเจตน์ ในเรื่องการเสียชีวิต ลักษณะการตาย
สำนวนในการสืบคดี...หลักฐานที่เป็นภาพถ่าย แนวทางที่เป็นไปได้ของฝ่ายสืบสวนในสมัยนั้น นั่นเป็น
ผลพวงจากการที่เขาไปสนิทสนมกับ สารวัตรธงชัย เจ้าของคดีที่เขาถูกรอบยิง เขาเก็บเอาสำเนา
เหล่านั้น เพื่อสืบเรื่องการตายของ บิดาอย่างละเอียด เพราะสิทธิชัยคิดว่า ธนูไม่ใช่ผู้ที่สั่งฆ่าบิดาของเขา
เนื่องจากเขาศึกษาแนวความคิด หรือแม้แต่นิสัยส่วนตัว ประวัติอาชญากรรม จะเห็นว่า ผู้ที่เสียชีวิตด้วย
มือของเขา มีเพียงนายทองเท่านั้น แต่นั่นเป็นเพราะนายทองใส่ชุดโม่งดำ มาลอบสังหารเขาที่สโมสร
สมถวิล....หรือจะเป็นจากสาเหตุนี้ ที่ทำให้ธนู ส่งคนมาแก้แค้นสมเจตน์ เพราะการให้นายทองมา
จัดการกับธนู ก็อาจเป็นแผนของบิดาของเขา....ตอนนี้สิทธิชัย จะเริ่มสืบจากตรงนี้ เพื่อจะรู้ความจริง
ว่าเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ สมเจตน์ บิดาของเขา...ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม
.............................
เมื่อหลายวันที่ผ่านมาทางหน่วยสืบแจ้งให้ทราบถึง ที่อยู่ของจอม ที่ซอยอ่อนนุช เจ้าหน้าที่ตำรวจ
นำกำลังเข้าจับตัว...แต่จอมไหวตัวทัน...เมื่อตำรวจสองคนเคาะประตู อีกสามนายถือปืนเล็งที่หน้าประตู
ทันใด!!!.. กระสุนปืน พุ่งเจาะประตูบ้านถูกกลางอกของเจ้าหน้าที่ ที่เคาะประตู ร่างกระเด็นตกจาก
ระเบียงบ้าน เจ้าหน้าที่ ที่เหลือ ๑๘ นายจึงไม่รอช้า กระหน่ำยิงเข้าไปในบ้านอย่างบ้าคลั่ง กระสุนนั้น
เจาะตัวบ้านจนพรุนไปทั้งหลัง เสียงภายในบ้านเงียบสงบ สารวัตรธงชัย ป้อนกระสุนอย่างรวดเร็ว
หน่วยจู่โจม ที่ใช้ปืนอาก้า ประทับบ่าวิ่งเข้าถีบ ประตูบ้าน ส่วนอีกคน ใช้พานท้ายปืนไรเฟิ่ลจู่โจม
กระแทกจนหน้าต่างหลุดออก เจ้าหน้าที่อีกสองนายพุ่งเข้าในบ้านทันที ทั้งสามที่เข้าไปกวาดตา
มองภายในบ้าน ที่มีแต่รูพรุน ถังไม้ที่แช่สมุนไพร มีน้ำไหลนอง เพราะตัวถังไม้ถูกยิงจนทะลุ
น้ำพุ่งออกมาตามรอยกระสุน ที่เจาะทะลุผ่าน ทั้งสามแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะบนพื้น
ไม่มีศพนอนอยู่ ทั้งสาม จึงหันหลังชนกัน เตรียมรับการจู่โจม หนึ่งในสามตะโกนออกมา
ให้รู้ว่าไม่มีศพ นายตำรวจ ที่คุมเชิงด้านนอก กระชับปืนขึ้นเล็งไปที่บ้านอีกครั้ง หน่วยจู่โจม
มองไปยัง ถังน้ำที่สำหรับแช่สมุนไพร ที่ด้านบนของผิวน้ำมีแต่ใบไม้นานาชนิดลอยอยู่เหนือผิวน้ำ
ควันจากน้ำที่ค่อนข้างร้อนมีควันลอยออกมา เขาตัดสินใจสาดกระสุน ไปที่ถังขนาดใหญ่ จนแตก
ออกมาเป็นสองส่วน น้ำที่บรรจุภายในถัง ไหลเจิ่งนอง นอกจากรากไม้ และสมุนไพรที่มัดใบเป็น
ทรงกลม ก็ไม่มีอะไร ที่นายตำรวจอยากเห็น หนึ่งในสาม สังหรณ์ใจ เขากระชับไรเฟิ่ลในมือ
เล็งขึ้นด้านบนทันที แล้วภาพที่เห็นก็สร้างความตกตะลึง!!!...