ซึ่ง เห็นทุกข์ หรือ รู้ทุกข์ นั้นเป็นหนึ่ง ในอริยสัจ 4 คือ 1.รู้ทุกข์ 2.รู้เหตุแห่งทุกข์ 3.รู้ความดับทุกข์ 4.รู้วิธีดับทุกข์
มนุษย์เราทั้งหลาย ที่มีชีวิตดำรงณ์อยู่ ต่างก็ผ่านทุกข์ หรือ เป็นทุกข์ มาแล้วทั้งนั้น อาจจะมากหรือน้อยก็แตกต่างกันไปตามฐานะ
ทั้งที่เราทั้งหลายผ่านทุกข์ ประสบทุกข์ หรือกำลังเป็นทุกข์อยู่ แต่เราทั้งหลายนั้นกลับไม่ได้เห็นทุกข์ หรือรู้ทุกข์ ในอริยสัจ 4 เลย
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
เพราะเนื่องด้วยขาดสองส่วนนี้ คือ 1.สติปัญญา 2.ขาดการได้ยินได้ฟังขาดการพิจาณาขาดการปฏิบัตตามที่พระพุทธเจ้าหรือพระอริยเจ้าที่ตรัสหรือกล่าวสอน ไว้ดีแล้วนั้นเอง.
เมื่อขาดสองส่วนตามที่เสนอไว้ มนุษย์หรือสัตว์ทั้งหลาย แม้ประสบทุกข์อยู่ เป็นทุกข์อยู่ ก็ย่อมไม่เห็นทุกข์ ไม่รู้ทุกข์ ตามธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว.
ต่อไปก็มาเข้าเรื่องตามหัวกระทู้ที่ผมตั้งไว้ อย่างไร? จึงเป็นการเห็นทุกข์ รู้ทุกข์ เมื่อเป็นทุกข์อยู่ เมื่อได้ยินได้ฟังตามธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว มาแล้ว.
ซึ่งคำตอบนั้นเป็นคำตอบที่ ง่าย คือ การมีสติหรือเจริญสติ เนื่องๆ เป็นปัจจุับันๆ นั้นเอง จึงเป็นการรู้ทุกข์ เห็นทุกข์ ตามอริยสัจ 4 นั้น
แต่การปฏิบัติเพื่อ มีสติหรือเจริญสติ เนื่องๆ เป็นปัจจุบัน นั้นไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่ายเลย
แล้วท่านผู้อ่านหรือผู้ร่วมสนทนาที่ได้อ่านได้ศึกษาธรรมของพระพุทธเจ้าแล้ว มีไหมครับ? ที่มีสติหรือเจริญสติ เนื่องๆ เป็นปัจจุบัน ถึงแม้จะตกอยู่ในความเป็นทุกข์ ทั้งทางกายหรือทางใจ.
เป็นคำถามเพื่อนำไปสู่การสนทนา และบอกเล่าเรื่องของตนของผู้ร่วมสนทนาที่เกี่ยวสัมพันธ์กับพุทธศาสนาของแต่ละท่าน ก็เพื่อเจริญในธรรมครับ.
อย่างไร จึงเป็นการเห็นทุกข์ เมื่อเป็นทุกข์
มนุษย์เราทั้งหลาย ที่มีชีวิตดำรงณ์อยู่ ต่างก็ผ่านทุกข์ หรือ เป็นทุกข์ มาแล้วทั้งนั้น อาจจะมากหรือน้อยก็แตกต่างกันไปตามฐานะ
ทั้งที่เราทั้งหลายผ่านทุกข์ ประสบทุกข์ หรือกำลังเป็นทุกข์อยู่ แต่เราทั้งหลายนั้นกลับไม่ได้เห็นทุกข์ หรือรู้ทุกข์ ในอริยสัจ 4 เลย
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
เพราะเนื่องด้วยขาดสองส่วนนี้ คือ 1.สติปัญญา 2.ขาดการได้ยินได้ฟังขาดการพิจาณาขาดการปฏิบัตตามที่พระพุทธเจ้าหรือพระอริยเจ้าที่ตรัสหรือกล่าวสอน ไว้ดีแล้วนั้นเอง.
เมื่อขาดสองส่วนตามที่เสนอไว้ มนุษย์หรือสัตว์ทั้งหลาย แม้ประสบทุกข์อยู่ เป็นทุกข์อยู่ ก็ย่อมไม่เห็นทุกข์ ไม่รู้ทุกข์ ตามธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว.
ต่อไปก็มาเข้าเรื่องตามหัวกระทู้ที่ผมตั้งไว้ อย่างไร? จึงเป็นการเห็นทุกข์ รู้ทุกข์ เมื่อเป็นทุกข์อยู่ เมื่อได้ยินได้ฟังตามธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว มาแล้ว.
ซึ่งคำตอบนั้นเป็นคำตอบที่ ง่าย คือ การมีสติหรือเจริญสติ เนื่องๆ เป็นปัจจุับันๆ นั้นเอง จึงเป็นการรู้ทุกข์ เห็นทุกข์ ตามอริยสัจ 4 นั้น
แต่การปฏิบัติเพื่อ มีสติหรือเจริญสติ เนื่องๆ เป็นปัจจุบัน นั้นไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่ายเลย
แล้วท่านผู้อ่านหรือผู้ร่วมสนทนาที่ได้อ่านได้ศึกษาธรรมของพระพุทธเจ้าแล้ว มีไหมครับ? ที่มีสติหรือเจริญสติ เนื่องๆ เป็นปัจจุบัน ถึงแม้จะตกอยู่ในความเป็นทุกข์ ทั้งทางกายหรือทางใจ.
เป็นคำถามเพื่อนำไปสู่การสนทนา และบอกเล่าเรื่องของตนของผู้ร่วมสนทนาที่เกี่ยวสัมพันธ์กับพุทธศาสนาของแต่ละท่าน ก็เพื่อเจริญในธรรมครับ.