เหนื่อยใจกับพ่อแม่วัยทอง ไม่รู้จะทำยังไงให้รู้สึกดี

ผมอายุ 24 ครับ พ่ออายุ 51 แม่อายุ 50 วันๆคุยกันไม่ค่อยจะได้เลยครับ เป็นอันต้องพาเข้าเรื่องความทุกข์หรือไม่ก็ชวนทะเลาะกันตลอด ล่าสุด เมื่อวานพ่อผมเค้ากำลังซ่อมพัดลมอยู่ เค้าหาหัวน๊อตไม่เจอ ทั้งๆที่เค้าวางไว้บนโต๊ะเองแท้ๆ พื้นฐานนิสัยเดิมก็คือชอบโวยวาย เกเร พาลคนอื่น เวลาหาของไม่เจอ ก็เลยโวยวายจนน้อง กับ แม่ รำคาญมีปากเสียงกัน ผมเอาคอมลงมาวางบนโต๊ะเล่นข้างล่าง เค้าก็เตือนว่าอย่าไปโดนพัดลมที่รื้อไว้ ผมก็เลยตั้งโต๊ะคอมห่างๆ ไม่ให้ไปยุ่งกับของๆเค้า เพราะรู้นิสัย แต่ก็ไม่รอดครับ สุดท้ายมาลงกับผม โวยวายไม่จบสิ้น กล่าวหาว่าผมอ่ะ เอาโต๊ะมาวางทับและดันอะไหล่พัดลมเค้ากระเด็นไปไหนก็ไม่รู้ เค้าเห็นกับตา (ซึ่งแท้จริงพาล) ผมก็เถียงว่าไม่ได้อยู่ใกล้เลย ไม่อยากแตะเลย รำคาญ จนเค้าเงียบ สุดท้ายเค้าเขวี้ยงไฟฉาย มาให้ผมช่วยหาอะไหล่ ผมก็เริ่มของขึ้นแระ แต่ผมจำใจช่วยหาของอยู่แป๊บนึง แต่ยังไงๆก็หาไม่เจอ(มันอยู่บนโต๊ะ พ่อเป็นคนวางไว้) ผมก็บอกว่าหาไม่เจอ เค้าก็บอกว่า "ไม่คิดจะช่วยใช่มั้ย เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กจนโต เลี้ยงเสียข้าวสุก ไอ้ สอ-อะ-door..." ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง เดินหนีขึ้นมาบนบ้าน ใจนึงก็แค้น เห็นถึงความเป็นพ่อ สุดท้ายแม่เป็นคนหาน๊อตตัวนั้นเจอ เพราะพ่อเอาไปวางไว้ พ่อก็เลยเงียบ ผ่านมาวันนี้พ่อก็ยังไม่พูดกับผมเลย ไม่รู้ว่าเค้ากลัวเสียหน้า กลัวความผิด หรือแค้นผมที่ไม่ช่วยหาก็ไม่ทราบ เหอๆ นอกจากเรื่องนี้ก็มีเรื่องอื่นให้ชวนปวดหัวทุกๆวัน ทั้งพ่อและแม่นิสัยแทบไม่ต่างอะไรกันเลย เวลาผมถามอะไร ผมอยากรู้แค่ในส่วนที่อยากจะรู้ แต่พวกเค้าก็อารัมภบทออกไปในเรื่องความลำเค็ญของตัวพวกเค้าหรือไม่ก็แช่งชักหักกระดูกศัตรูคู่แค้น เวลาผมโดนพ่อด่า แม่บอกว่าอย่าไปถือสาเลย เค้าแก่แล้ว แต่ความรู้สึกผม อายุ 50-51 นี่บางคน เค้าก็ยังทำตัวให้มันสร้างสรรค์อะไรได้อีกเยอะนะ แต่ผมก็ไม่รู้จะไปแก้ไขที่ตัวเค้ายังไง วันๆกลับจากทำงานผมแทบไม่อยากคุยกับคนที่บ้านเลย เลยไม่รู้จะทำยังไง อยากขอคำแนะนำหรือคำปรึกษาครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
อย่าเอาการเลี้ยงคนแก่ไปเปรียบเทียบกับการเลี้ยงเด็กสิคะ มันคนละขั้วกันเลย

การเลี้ยงเด็กมันง่ายกว่าตรงที่เลี้ยงไปพ่อแม่ก็บ่นก็ด่าว่าเด็กไปได้

และเด็กยิ่งโตยิ่งว่าง่าย พ่อแม่ดุด่าอะไรก็เชื่อฟังคล้อยตาม ยิ่งเลี้ยงยิ่งสนุกยิ่งเพลินเพราะเด็กจะยอมผู้ใหญ่แถมยังฉอเลาะออดอ้อนเอาใจผู้ใหญ่

ตรงกันข้ามกับการเลี้ยงคนแก่ กลายเป็นว่าคนที่ดูแลใกล้ชิดคอยเลี้ยงคอยหาข้าวหาน้ำให้ถูกดุด่าว่ากล่าวสารพัด

ไม่มีคำขอบคุณเหมือนเด็กเล็กๆไหว้ขอบคุณพ่อแม่ ไม่มีออดอ้อนฉอเลาะให้ชื่นใจเหมือนที่เด็กๆทำกับพ่อแม่

มีแต่ด่าๆๆๆและด่าๆๆๆ ใครถูกใครผิดไม่รู้ไม่เอาไม่สน ชั้นจะด่าจะระบายอารมณ์ของชั้นและทุกคนต้องฟังชั้นคนเดียวอย่ามาหือ

...เลี้ยงคนแก่ต้องอดทนกว่าเลี้ยงเด็กร้อยเท่าพันเท่า

ดิฉันเข้าใจค่ะเพราะได้เลี้ยงทั้งพ่อแม่ตัวเองและลูกตัวเองในเวลาเดียวกัน

เลี้ยงคนแก่นั้นสาหัสจริงๆยิ่งเป็นคนแก่ที่นิสัยไม่ดียิ่งแล้วใหญ่ (แต่โชคดีว่าพ่อแม่ของดิฉันค่อนไปทางนิสัยดี ปรับตัวเก่ง)

สำหรับคุณเจ้าของกระทู้ก็บอกได้คำเดียวค่ะว่าต้องอดทนไปจนกว่าจะจากพรากกันไปนู่นแหละ
ความคิดเห็นที่ 27
เด็กมันเกิดมา  ก็เพราะคนสองคน  ผู้ชาย กับ ผู้หญิง  มีความสุขด้วยกัน ช่วงเวลานั้นจะมีกี่คู่ที่ตั้งใจให้เด็กเกิด
และไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่  เมื่อเด็กเกิด  มันก็เป็นหน้าที่  ที่ต้องรับผิดชอบ เลี้ยงดู
จะมาอ้างความยากลำบากต่างๆ นานา ในการเลี้ยงดูลูก ตัวเอง  เมื่อยามที่ลูกยังเป็นทารก ว่าเป็นบุญคุณหนักหนา จะใช้อารมณ์ดุด่าอย่างไร้เหตุผลยังไงก็ได้ มันไม่ใช่
ใครที่คิดว่า เป็นพ่อแม่แล้ว จะทำพฤติกรรมแบบพ่อ จขกท.    คิดว่ามีลูกแล้วตัวเองคือเทวดาของลูก   อย่าได้คิดมีลูกเลย

อีกอย่าง  ถ้าอยากมีลูกเพราะหวังจะให้ลูกมาดูแลตัวเอง  เลี้ยงเพราะหวังประโยชน์ตอบแทน  ก็อย่าได้อ้างว่าเป็นบุญคุณ
ความคิดเห็นที่ 28
บางความเห็น​ เอะอะก็​ให้กตัญญู​  อ่านจุดประสงค์​ จขกท.แตกรึเปล่าคะ​

ลูกก้มีหัวใจค่ะ​ เกิดมาเป็นคนไม่ใช่พระอิฐพระปูน​ ถ้าเขาไม่รักพ่อแม่เขาคงไม่ทนอ่ะค่ะ​
คำว่าพ่อแม่​ ไม่ได้หมายความว่าจะทำดวกๆอะไรกับลูกก็ได้​ ตามสบาย​ ลูกห้ามโกรธห้ามมีอารมณ์​ ยังงั้นเหรอคะ​ ตีความกันใหม่นะ​

จขกท.อยากได้ทางแก้ไข​ ซึ่งเราขอแนะนำ​อย่างเดียวว่าทนต่อไปค่ะ​ แต่แบบคห.25  ก็น่าจะเวิคน​ะคะ​ ตอนเขาอารมณ์​ดีก็อ้อนเขาเยอะ​ๆ​ และเห็นด้วยกับการเอาตัวออกห่างสถานการณ์​ที่ย่ำแย่​ ไม่ยืนต่อล้อต่อเถียงทะเลาะจนเป็นเรื่องใหญ่​ กับแม่กับป้าเราก็ทำค่ะ​ตอนนี้เขาหมดวัยทองกันแล้ว​ ก็กลับมาน่ารักกันปกติ​ มันเป็นแค่ช่วงนึงค่ะ​ อดทนไว้​ เป็นกำลังใจ​ให้นะคะ​

นี่ตอบใน​ฐานะลูกหลานคนวัยทอง​ และในฐานะแม่คนค่ะ​

เราไม่กลัวลูกไม่เลี้ยงตอนแก่​ เพราะโดยส่วนตัว​ ไม่ได้ให้เขาเกิดมาเป็นเครื่องมือ​ อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ

ลูกเราก็คน​ ทำดีเขาก็ตอบสนองดี​ ทำไม่ดีเขาก็ตอบสนองแย่ๆ​
บางทีสงสารบางครอบครัว​ที่มองลูกหลานเป็นเหมือนหุ่นยนต์​ ห้ามโกรธ​ ห้ามพูด​ ห้ามอธิบาย​ ชั้นเป็น​พ่อแม่​แก​ แกต้องฟัง​ ชั้นถูกเสมอ​ ทั้งๆ​ที่​ตัวเอง​จะ​ใส่อารมณ์​ ลงอารมณ์กับลูกหลานยัง​ไงก็ได้​ ืพูด​ให้เสียใจยังไงก็ได้​

ตัวเองยังมีความรู้สึก​ มีอารมณ์​เลย​ ทำไมต้องทำเหมือน​ลูก​หลาน​ไม่มี​

**อิดิทแก้คำผิด​
ความคิดเห็นที่ 15
ขอเห็นให้ความเห็นที่แตกต่าง ..ไม่เกี่ยวกับประเด็นลูกกตัญญูเลยสักนิด
    นิสัยเดิมๆ ของใครสักคน  ที่ชอบขี้โมโห  โวยวาย  หรือ ชอบความระทมจมอยู่กับความทุกข์  
เมื่อแก่ตัวลงไปยิ่งมีอาการมากขึ้น  เพราะสมองย้ำคิดย้ำทำจนเคยชิน

   ใครที่นิสัยเดิมๆ เป็นคนจิตใจสดใส ร่าเริง  อารมณ์ดีเพราะเป็นคนมองโลกในแง่ดี
เมื่อแก่ตัวลงไป ก็เป็นคนแก่ที่จิตใจดี  ลูกหลานอยู่ใกล้ก็สบายใจ

คน 2 แบบนี้ เมื่อเข้าสู่วัยทอง
แบบไหน  ลูกหลานจะต้องแบบรับภาระความวูบไหวทางอารมณ์มากกว่ากัน
ความคิดเห็นที่ 25
เรื่องแบบนี้ไม่เจอกับตัวไม่เข้าใจหรอกนะคะ แต่เราเจอมาแล้ว ทางแก้ไขของเราคือ แยกตัวออกมาอยู่ต่างหาก เจอกันเดือนละครั้งตอนเอาเงินเดือนไปให้ ค้างซักคืนหรือไปเช้าเย็นกลับบ้านตัวเอง  ระยะความห่างจะทำให้เราไม่เก็บเล็กผสมน้อยกับอารมณ์เหมือนอยู่กันทุกวัน และเป็นการลดบาปกรรมเรื่องเถียงบิดามารดา  แบบนี้ไม่เรียกว่า อกตัญญู นะคะ แต่เรียกว่าทำเพื่อสุขภาพจิตรดีๆของทั้งสองฝ่าย

ไม้แก่นั้นดัดยากกว่าไม้อ่อนนะคะ คนแก่บางคนตายไปพร้อมกับนิสัยเดิมๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่