<Spoil> ยอดนักปรุงโซมะ (Shokugeki no Souma) 33 -แด่ผู้คนที่ตรากตรำจากการต่อสู้-



-หน้าเปิด รับหน้าร้อนกับชุดว่ายน้ำ



-ตอนนี้ค่อนข้างพิเศษนิดตรงที่มีเมนูอาหารติดมาให้ด้วย หน้านี้จะโฆษนาว่าในรายการ Jump Bang ผู้เขียนเรื่องโซมะจะไปโชว์ทำ แม็กเคอเรลเบอร์เกอร์ (อาหารในตอนที่6)

ผมจะขอแปลเมนูอาหารด้วยเลยนะครับ




อิตาเลี่ยนโทเมโท้โซเม็ง (โซเม็งซอสมะเขือเทศแบบอิตาเลี่ยน)

ส่วนผสม (ต่อ2ที่)

เส้นโซเมง 150กรัม
แตงกวาญี่ปุ่น 1/2ลูก (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ)
แครอท 1/4ลูก (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ)
เนื้อปลาแซลมอลร่มควันหั่นชิ้น 6ชิ้น (เพิ่มเติมได้ตามใจชอบ)
น้ำมันมะกอกเอ็กตร้าเวอร์จิ้น 2ช้อนโต๊ะ
ใบเบซิล (สำหรับตกแต่ง)

ส่วนผสมซอส

น้ำมะเขือเทศ 300cc
น้ำมันมะกอกเอ็กตร้าเวอร์จิ้น 1ช้อนโต๊ะ
มิโซะ 1ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับละเอียด 1ช้อนโต๊ะ
*อาจจะเพิ่มเติมพริกไทยดำได้

วิธีทำ
1. ผสมส่วนผสมซอสทั้งหมดเข้าด้วยกัน จากนั้นนำไปแช่เย็นทิ้งไว้
2. ลวกเส้นโซเมงในน้ำร้อน จากนั้นนำไปหยุดความร้อนโดยใช้น้ำเย็น ก่อนจะเทน้ำออกแล้วไล่ความชื้นออกไปให้หมด
3. ผสมแตงกว่ากับแครอทที่หั่นแล้ว ลงไปในเส้นโซเมง ใส่น้ำมันมะกอกลงไป ผสมให้เข้ากัน (อาจจะใส่เนื้อปลาแซลมอลลงไปคลุกก็ได้)
4. เอาซอสที่ทำเส้นแล้ว เทจัดลงใส่จาน ก่อนจะนำเอาเส้นที่คลุกผสมแล้ววางโปะไปด้านบน ม้วนแซลมอลให้เหมือนดอกกุหลาบแล้วก็ประดับขั้นสุดท้ายด้วยใบเบซิล

ความเห็นส่วนตัว:
- เมนูโซเม็งเย็นแบบประยุกต์สไตล์อิตาเลี่ยน จุดเด่นคือเป็นอาหารฟิวชั่นระหว่างญี่ปุ่นกับอิตาเลี่ยนขนานแท้ (ลักษณะคล้ายพาสต้าและมีการใช้ใบเบซิลกับน้ำมันมะกอกของสามัญอาหารอิตาลี แต่ก็มีส่วนคล้ายคลึงกับโซเม็งเย็นของญี่ปุ่น+ทานกับปลาแซลมอลดิบ) เป็นอาหารที่ทำได้เข้าขั้นง่าย แถมสามารถทำตัวซอสเก็บไว้ได้ด้วย เนื่องจากใช้เป็นน้ำมะเขือเทศ ทำให้ตัวซอสค่อนข้างมีความเหลวมากและไม่ค่อยจะออกรสเปรี้ยวสักเท่าไร ตัวซอสมีกลิ่นกระเทีมกับรสเค็มนิดๆของมิโซะ ผมคิดว่าถ้าอยากได้รสแบบอิตาเลี่ยนมากขึ้น จานนี้น่าจะโรยพวกออริกาโน่หรือ พาสเล่ย์เพิ่มเข้าไปอีกนิด ถ้าอยากประหยัดต้นทุนอาจจะใช้น้ำมันมะกอกแบบธรรมดามาแทนแบบเอ็กตร้าเวอร์จิ้นก็ได้ (แต่คิดว่าไม่ค่อยเหมาะ เพราะเป็นอาหารที่ทานเย็นๆ กินคู่กับเนื้อปลาดิบ ค่อนไปทางพวกอาหารเรียกน้ำย่อยมากกว่าจะเป็นจานหลักซะด้วยซ้ำ การใช้น้ำมันมะกอกแบบเอ็กตร้าเวอร์จิ้น จะทำให้ได้กลิ่นซึ่งจะช่วยชูรสได้เป็นอย่างดี)




-เปิดตอนมา อลิสก็แนะนำตัวเองกับโซมะว่า ตัวเองกับเอรินะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน พวกเธออาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังเดียวกันจนอายุห้าขวบ ในตอนนั้นเองลูกน้องของอลิสก็เข้ามาตามหาตัวเธอพอดี ซึ่งอลิสก็เลยสั่งให้เขาเล่าประวัติของเธอให้โซมะฟังซะเลย

-ได้ยินแบบนั้นเขาก็เลยเริ่มเล่าออกไปว่า อลิสกับเอรินะเป็นพี่น้องกันและอาศัยอยู่... ไม่ทันพูดจบก็โดนอลิสตัดมุขออกไปพร้อมกับเอ่ยว่าเรื่องพวกนั้นเธอเล่าให้โซมะฟังไปเรียบร้อยแล้ว...เห็นทีเธอคงต้องเริ่มเล่าเองซะแล้วละมั้ง ว่าแล้วเธอก็เริ่มเล่าต่อทันทีว่า พ่อของเธอไปเปิด"นาคิริอินเตอร์เนชั่นเนล"ที่ยุโรปเหนือ โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เดนมาร์ก โดยพวกเขาให้ความสำคัญกับการวิจัยเทคนิคการทำอาหารใหม่ๆ เรื่องของกลิ่นและรสชาติความอร่อยที่ส่งผลต่อสมองของมนุษย์ หรือที่เรียกๆกันว่า "โมลิวคิวล่าแกสโตโนมี่" ซึ่งเธอก็อยู่ที่นั่นจนอายุ14 ก่อนจะกลับมาเรียนที่โทสึกิเพื่อจัดการเอรินะแล้วขึ้นถึงจุดสูงสุด

(โมลิวคิวล่าแกสโตโนมี่ หรือ molecular gastronomy คือการทำอาหารที่เอาวิทยาศาตร์หรือเคมีมาช่วยค่อนข้างมาก อาหารจะมีลูกเล่นแปลกตาและดูดึงดูดน่าสนใจ)



-เอรินะบอกกับอลิสว่า อาหารที่ดีแต่เทคนิคแบบนั่นจัดการเธอไม่ได้หรอก ซึ่งอลิสได้ยินแบบนั้นก็เลยพูดออกมาว่า เอรินะนี้ไม่เปลี่ยนไปจริงๆ ตอนเธอกับเอรินะยังอายุ3ขวบ เธอโดนเอรินะแย่งของเล่นสุดที่รักไปเพราะเอรินะบอกว่าเค้กที่เธออบให้เอรินะในวันเกิดอายุ4ขวบนั้นห่วย ซึ่งเอรินะก็ค้านออกมาทันทีเลยว่า เรื่องนั่นมันไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ! ว่าแล้วอลิสเลยหันไปบอกโซมะก่อนจะเอ่ยว่า นายเองก็เหมือนกัน ดูเหมือนจะพูดอะไรใหญ่โตตอนเข้าใหม่ แต่อย่าคิดว่าใช้ประสบการณ์อย่างเดียวจะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของที่นี้ได้นะ หลักฐานก็คือ การที่นายทำพลาดในวันนี้และผ่านแบบฉิวเฉียด ซึ่งโซมะก็ยอมรับในเรื่องที่อลิสพูดแล้วบอกว่าวันนี้เขาพลาดจริงๆแต่ว่า...

-เขาเองก็ได้รับ"ประสบการณ์"เพิ่มมาเหมือนกัน...รับรองว่าคราวหน้าเขาจะระวังไม่ให้พลาดแบบนี้อีก ได้ยินแบบนี้อลิสก็เลยน่าบูดก่อนจะเอ่ยออกมาว่า ยังไงเธอก็ไม่คิดจะแพ้พวกเธอ(โซมะ,เอรินะ) แน่ๆ

-ว่าแล้วเธอก็ขอตัวไป ก่อนจะทิ้งท้ายว่าเธอจะรอเวลาที่จะได้จัดการพวกโซมะด้วยมือของตัวเอง ซึ่งโซมะก็ยิ้มพร้อมกับเอ่ยว่า ถ้ามันเกิดขึ้นจริงเขาก็พร้อมจะสู้กับเธอเสมอ ในตอนนั้นเองก็มีเสียงประกาศดังออกมาว่า คนที่ทำครบ200ที่แล้วให้รีบเก็บของเพราะการทดสอบครั้งต่อไปจะเริ่มในอีกสี่ชั่วโมงหลังจากนี้เป็นเวลาว่างให้ทุกคนพักผ่อนได้ บรรดานักเรียนที่ได้ยินต่างก็พากันเครียดทันที เพราะสามชั่วโมงที่ว่างนี้มันน้อยมากๆ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ ซึ่งโซมะเองก็คิดขึ้นมาในใจว่า จริงสิ ค่ายฝึกมันยังไม่จบสินะ

-หลังจากนั้นทุกคนก็ต้องผจญกับค่ายฝึกแห่งนี้ต่อไป จนวันสุดท้าย(วันที่5) เวลา16.00เย็น โดจิม่าได้เรียกทุกคนมารวมกันที่ล็อบบี้ ซึ่งยูกิก็สงสัยว่ามีอะไรกันอีก เรียวโกะบอกว่านี้ก็ไม่มีในกำหนดการอีกเหมือนกัน ทำให้ยูกิเกิดขึ้นสังสัยว่าจะเป็นบททดสอบแบบเดียวกับตอนไข่ครั้งที่ผ่านมารึเปล่า?

-ว่าแล้วโดจิม่าก็เดินออกมา แล้วก็เริ่มพูดขึ้นว่า ตอนนี้มีนักเรียนตกไป 352คน ที่เหลืออยู่ตอนนี้มี 628คน ทุกคนคงเห็นแล้วว่าการเป็นคนทำอาหารมันไม่ใช่งานง่ายๆ ต้องมีทักษะที่จำเป็นหลายอย่าง เช่นต้องไม่สูญเสียความเยือกเย็นในทุกสถานการณ์ ต้องรู้จักและแยกแยะวัตถุดิบให้ได้ ต้องทำงานภายใต้ความกดดัน ต้องจัดแบ่งและควบคุมเวลานอนเวลาพัก และต้องรับมือกับทุกๆสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้

-ชีวิตของคนทำอาหาร เปรียบดังเดินอยู่ท่ามกลางทะเลทรายทุรกันดาร ยิ่งคุณพัฒนาไปมากขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น เส้นทางก็จะยิ่งโหดหินขึ้นไปเรื่อยๆ อาจจะมีคนล้มหายจากไป หรืออาจจะมีคนที่ติดอยู่กับที่ไม่อาจเดินหน้าไปได้ แต่ฉันไม่อยากให้พวกเธอลืมว่า ที่โรงเรียนโทสึกิเอง เธอก็ยังมีคนที่ประสบชะตากรรมเดินหน้าฟันฝ่าไปแบบเดียวกับเธออยู่เหมือนกัน ด้วยความจริงข้อนี้...

-ขอให้พวกเธอจงระลึกไว้ว่าเธอไม่ได้เดินทางอยู่คนเดียว แต่ยังมีคนที่คอยให้กำลังใจและสนับสนุนเธออยู่เหมือนกัน และฉันขอให้ทุกคนโชคดี ว่าแล้วโดจิม่าก็ประกาศเริ่มโปรแกรมสุดท้ายของค่ายฝึกฝนทันที



-แน่นอนว่าบรรดานักเรียนก็หน้าเสียพร้อมกับเตรียมใจรับมือกับการทดสอบสุดท้าย ซึ่งบางคนเองก็โอดครวญว่าเขาอาจจะไม่ไหวแล้วก็ได้แต่ว่า...พอประตูเปิดออก บรรดาบริกรของโทสึกิต่างอ้าแขนต้อนรับพวกเขาพร้อมกับเอ่ยเชื้อเชิญทันที ทำให้ทุกคนถึงกับตกใจ

-ซึ่งโดจิม่าก็อธิบายว่า สำหรับ628คนที่เหลือรอดมา ขอแสดงความยินดีด้วย พวกเธอได้ผ่านการทดสอบในค่ายฝึกนี้หมดแล้ว ตอนนี้เชิญเต็มอิ่มกับคอร์สงานเลี้ยงอาหารค่ำเล็กๆที่เตรียมไว้ฉลองให้กับพวกเธอได้เลย

-ซึ่งพอรู้ตัวว่าโดนหลอก ทั้งหมดก็เฮโลดีใจกันทันที แล้วบอกว่าพวกเราทำสำเร็จแล้ว! โดจิม่าก็บอกให้ทุกคนไปที่โต๊ะกันได้เลยเพราะฟลูคอร์สวันนี้จะเป็นจานพิเศษจาก...



-"บรรดาศิษย์เก่าของโทสึกิ"นั่นเอง

-ซึ่งพอได้ยินว่าเป็นอาหารของศิษย์เก่า ทำให้ทุกคนคิดว่านี้ไม่ใช่งานเล็กๆแล้วละมั้งเนี่ย ซึ่งมารุอิดูเหมือนจะดีใจมากที่ตัวเองรอดชีวิตมาถึงจุดนี้ได้แต่ก็ดูเหมือนว่าจะสุขใจซะจนวิญญาณออกจากร่างไปอีกแล้ว ทำให้ยูกิต้องรีบตบมุขบอกให้กลับมาทางนี้ด่วน พอทุกคนเข้าไปนั่งแล้วเริ่มทานอาหารเย็นกัน ยูกิดูเหมือนจะร้องไหจนน้ำตาไหลที่ได้ทานอาหารของโรงแรมซะที






-หลังจากนั้นทุกคนก็สนุกสนานไปกับอาหารเย็นกัน โซมะนึกถึงตอนที่พ่อเขาบอกให้มาที่โทสึกิแล้วคิดว่าโรงเรียนที่สอนการทำอาหารนี้มันเป็นเรื่องไร้สาระ เมงุมิเห็นโซมะเหม่อเลยถามไปว่ามีอะไรรึเปล่า โซมะก็เลยพึมพำออกไปว่า โรงเรียนนี้มันน่าสนใจกว่าที่เขาคิดตั้งเยอะจริงๆ ซึ่งเพราะโซมะพึมพำเบาๆทำให้เมงุมิไม่ได้ยิน แต่เขาก็ตัดบทไปว่า เขาพูดกับตัวเองอยู่น่ะ ว่าแล้วก็มาทานอาหารกันให้สบายใจกันเถอะ

จบตอน




จบไปอีกตอน ตอนนี้ค่อนข้างสบายๆ เป็นตอนพักหลังเจอเรื่องติดๆมากันแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็จบภาคค่ายฝึกที่กินเวลาตั้งแต่ตอน15แล้วซะที ตอนหน้าก็คงกลับไปผจญภัยที่โทสึกิกันต่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่