พิชิต TOEIC Part Reading ให้ได้ 300 Up สำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวสอบ

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยนะคะ ว่าไม่เคยโพสต์อะไรใน Pantip มาก่อน ได้แต่แอบส่องอย่างเดียว แม้กระทั่งตอนที่จะเตรียมตัวสอบ TOEIC ก็มาส่องตลอด และได้ความรู้มากมายจากเพื่อนๆที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปสอบ รูปแบบข้อสอบ และเทคนิคต่างๆ ทีนี้มาถึงการสอบของตัวเองบ้าง

คิดว่าพอจะเป็นกำลังใจและประโยชน์ให้กับเพื่อนๆคนอื่น ที่ไม่ได้มีทักษาด้านภาษาอังกฤษที่สั่งสมมานาน ไม่ได้ผ่านการฝึกฝนมามาก แต่จำเป็นต้องใช้คะแนน เพื่อบางสิ่งบางอย่าง
ทักษาด้านภาษาของเรา : เวลาต้องพูดกับฝรั่ง ฟังไม่ค่อยออก, เขียนเมลล์ภาษาอังกฤษพอได้ แกรมม่าไม่สวยหรูนัก, Reading พออ่านออก รู้ศัพท์บ้างจากการทำงานที่ผ่านมาเท่านั้น, พูดก็พอพูดได้ แต่บางประโยคอาจมั่วๆอยู่ แค่ฝรั่งพอฟังออก พูดแบบ Speed ต่อเนื่องคิดสด ไม่ได้

ผลการสอบโทอิก : เราต้องการคะแนนแค่ 550 เท่านั้น เพื่อสมัครงานที่ใหม่ เราสอบทั้งหมด 3 ครั้ง
ครั้งที่ 1 เตรียมตัวโดยการอ่านแกรมม่า  ทำข้อสอบประมาณ 3 ชุด ได้คะแนนตอนฝึกทำรวมกันไม่เคยเกิน 500 คะแนน ตอนแรกเตรียมตัวประมาณ 2 อาทิตย์  มั่นใจไปหน่อย ว่าพอได้ไปเรียนบ้างตามที่บริษัทส่งไป คิดว่าน่าจะฉลาดขึ้นมากว่าตอนมหาลัย อ่านเตรียมตัวไม่เยอะเท่าที่ควร
ครั้งที่ 1 ผลออก ได้ 515 (ฟัง 280 , อ่าน 235) -->  เปิดซองผลสอบปุ๊บ ก็อึ้งไป 3 วัน ทำไงดี ทำไงดี ก็ตัดสินใจลุยต่อ....ทำไรมากกว่านี้ไม่ได้
--------------------------------------------------------
ครั้งที่ 2 อ่านเทคนิคใน Pantip อีกรอบ ลองเพิ่มคะแนนฟังอย่างที่เพื่อนแนะนำดู เพื่อนบอกว่าง่ายกว่า เลยไปซื้อหนังสือมาเพิ่มเฉพาะข้อสอบฟัง และใช้เทคนิคจาก Pantip คือ เวลาฟัง รอบแรก ทำข้อสอบ ฟังรอบ 2 เอาสคริปมาเปิดดูด้วย ว่าเค้าพูดว่าอะไร (ตอนเปิดสคริปก็พอฟังออก พอไม่มีก็เงิบเหมือนเดิม) เอา Part listenning ใส่โทรศัพท์ฟังตลอดเวลาให้ซึมซับเข้าหัว  ทำทุกวัน กลับจากที่ทำงาน อ่านหนังสือ ทำข้อสอบ เครียดๆๆๆ กดดันๆๆ หัดจับเวลา Reading ไปด้วย เตรียมตัวประมาณ 2 อาทิตย์เช่นกัน อยากสอบให้มันผ่านๆไปโดยเร็ว จะได้เลิกกังวลซะที
ครั้งที่ 2 ผลออกได้ 545 (ฟัง 275 , อ่าน 270) --> เปิดซองออกมา น้ำตาแทบไหล คิดว่าทำเต็มที่แล้ว  อีกแค่ข้อเดียวทำไมสวรรค์ให้เราไม่ได้  บ้าบออยู่พักนึง ก็เลิกฟูมฟายแล้วตั้งใจลุยใหม่ แต่คิดว่าเราน่าจะโอเคและ แกรมม่า กับ อ่าน 270 พอใจ เพิ่มมาเยอะอยู่ แต่ทำไมๆๆๆๆๆๆๆ เตรียมตัวฟังมากขึ้นกลับได้น้อยลง คิดว่าคงไม่ได้กาลละ เลยหาที่เรียนพิเศษดีกว่า หาที่ยึดเหนี่ยว ก็ไปลงเรียนเพิ่ม 20 ชม กำหนดเวลาไว้ว่า อีก 3 อาทิตย์จะสอบอีกรอบ
--------------------------------------------------------
ครั้งที่ 3  การเรียนอาจารย์เน้นการอ่านเป็นหลัง สอนแกรมม่าจาก Reading ต้องแยกให้ออก 1 ประโยคยาวๆ อะไรคือ ประธาน กริยา กรรม กลับบ้านก็ทำการบ้านๆๆๆ ตอนทำงานก็แอบเปิดสคริป listening ฟังไปด้วยเรื่อยๆ ถามอาจารย์ว่าต้องการเพิ่มฟังอ่า ทำไงดี ฟังไม่ออก ป๊าดอาจารย์ชะล่าใจ ห้เทคนิควันสุดท้าย อาจารย์บอกว่าคนจะฟังออก ต้องอ่านออก รู้โครงสร้างประโยคก่อน แต่ว่ามัน มันไม่ทันแล้วอ่า สอบพรุ่งนี้แล้ว ตอนทดสอบการฟังยังได้ 230 กว่าๆอยู่เลย ฟังไม่ออก พูดอะไร โดยเฉพาะ Part 2 พูดประโยคยาวๆปุ๊บ เงิบบบบเลย...
ครั้งที่ 3 ผลออกได้ 635 (ฟัง 320 , อ่าน 315) --> โดยส่วนตัวพูดอะไรไม่ออกตอนเปิดซอง มือไม้สั่นยิ่งกว่ารู้คะแนนเอน โลดเต้นดีใจ คือ มันเหมือน เราชนะแล้ว ความทุ่มเททั้งกายและใจ คนเก่งภาษาอาจมองว่าเราเวอร์ แต่มันคือความรู้สึกที่เหมือนปลดปล่อย และสมปรารถนาในสิ่งที่เราทุ่มเทมาตลอดจริงๆ โทรบอกบอกอาจารย์น้ำตาแทบไหล พอแล้วคะแนนที่เราพอใจ...มีความสุขมาก

สำหรับเทคนิคส่วนตัวที่อยากจะตอบแทนเพื่อนๆชาวพันธ์ทิพย์บ้าง เผื่อใครอาจจะใช้วิธีแบบเราแล้วได้ผล
1. Listenning จากที่บอกไปตอนแรก
- ครั้งแรกลองทำ
- ครั้งที่สองเปิดฟังพร้อมสคริป
- ครั้งที่สามเวลาฟังให้เราอ่านออกเสียงตามไปด้วย ออกเสียงตามให้ทัน เราจะจับคำและจังหวะได้ว่าเค้าพูดว่าอะไร (อาจารย์เพิ่งมาให้วันสุดท้าย เราคิดว่าน่าจะได้ผลมาก ถ้ามีเวลาฝึกนานๆ) การฟังไม่ต้องไปดูหนังอะไรเลย ข้อสอบนี้หละ ทำและฟังหลายๆครั้ง หลายๆชุดจะได้คำศัพท์ที่ออกสอบบ่อยๆด้วย
-ครั้งที่สี่ลองทำใหม่อีกรอบ คะแนนมากขึ้นกว่าครั้งแรกแน่นอน
สำหรับ Part 1 มีให้ฝึกมากมาย ลองฝึกดู ควรถูกเกิน 8 ข้อ หรือไม่ควรผิดเลย ใน AppStore ก็มีให้โหลดมาฝึก ดูรูปและนึกศัพท์เลยจะมีอะไรได้บ้าง ถนน ผู้หญิง ทำอาหาร ต้นไม้ นึกเป็นศัพท์ภาษาอังกฤษนะคะ
สำหรับ Part 3 และ 4 จากๆหลายๆเทคนิค เราได้ลองมาหมดแล้ว แต่สำหรับตัวเรา เราใช้เทคนิคนี้แล้วได้ผล คือในขณะที่ข้อสอบอ่านจบ เราต้องรีบตอบให้เสร็จ แล้วไปอ่านโจทย์กับ Choice 3 ข้อถัดไปให้ทัน เวลาอ่านไม่อ่านปล่าวๆ ขีดเส้นใต้คำที่เน้นๆ เช่น คำถาม Who When หรือ ถาม Man หรือ Women ก็ขีดเส้นไว้ ลงในตัวข้อสอบไปเลย ส่วน Choice ขีดเส้นว่าว่าแต่ละ Choice คืออะไร เช่น Women......House ขีดแค่ 2 คำนี้ คือให้รู้ว่า Choice นั้นพูดถึงผู้หญิงกับบ้านนะ ไม่ใช่รถ  เวลาเค้าเริ่มอ่าน Paragraph ก็ใช้สายตาสังเกต อันไหนตรงบ้าง จ้องอยู่ตลอด สำหรับข้อที่ตอบไม่ได้ก็ให้รวบรวมความคิด และจับประเด็นจากคำตอบที่ได้ แล้วตอบเลย

2. Reading
การฝึกของเราคือ ทำข้อสอบเยอะๆ ครั้งที่ 3 เราทำรวมกันเกือบ 1,000 ข้อ พยายามไปหาอ่าน เรื่องจดหมายโต้ตอบลูกค้า Complain สินค้าเนื่องการขนส่งล่าช้า ขอโทษที่ส่งล่าช้าจะมีส่วนลดปลอบใจให้ การโฆษณาที่พักโรงแรม จดหมายสมัครงาน การจัดทัวร์ แล้วก็ประกาศย้ายร้าน Grand Opening วนไปวนมาแบบนี้สำหรับ TOEIC  ฝึกทำข้อสอบเยอะๆก็จะพอคุ้นๆจำศัพท์ได้เยอะ
Part5 : ทบกวนแกรมม่าที่ออกบ่อยมากที่เราเจอมาจากการสอบ 3 ครั้ง
- เรื่องการวางตำแหน่งของ Noun,Adj,Adverb (เยอะที่สุดจริงๆ บางทีต้องตัด Choice ให้ได้ ทำข้อสอบเยอะๆจะช่วยได้ ก่อนสอบมาไล่ดูส่วนที่เราผิดบ่อยอีกที)
- เรื่อง Present and Past Participle , Passive and Active voice
- เรื่อง Causative ออกเหมือนกัน ช่วยเก็บคะแนนได้เยอะ
- เรื่อง Have Make Let Get 4 พี่น้องนี้ก็โผล่มาให้เห็นทุกครั้ง เรามาสยบมันได้ตอนสอบครั้งที่ 3
- คำศัพท์เราว่า TOEIC ออกไม่ยากมาก เพราะเราเป็นคนที่รู้ศัพท์น้อย แค่พอเคยเห็นเวลาทำงานเท่านั้น จะนั่งท่องก่อนสอบทำไม่ทันแน่ อาศัยจำจากข้อสอบที่ฝึกทำเอา
Part 6 : จริงๆหลายคนทิ้ง Part นี้ แต่จริงๆมันก็มีโอกาสถูกเยอะ ถ้าพออ่านทันทั้งหมดจะช่วยได้เยอะ ถ้าอ่านไม่ทันอ่านแต่ประโยคที่ให้เติมคำ และประโยคหลังแล้วตอบเลย
Part 7 : เทคนิคที่เราอ่าน และลองทำมาหลายครั้ง แต่ที่เราใช้กับตัวเองแล้วคิดว่าดีคะ
ก่อนอื่นแยกให้ออกว่าคำถามแต่ละข้อ ข้อไหนเป็นคำตอบที่ตอบตรงตัว อ่านปุ๊บตอบได้เลย และ ข้อไหนเป็นคำตอบที่ต้องใช้ความคิดของเราด้วย ส่วนมากจะถาม สรุปว่าไง Main Idia คืออะไร คิดว่าใครเป็นคนประกาศ คิดว่าใครได้รับผลกระทบ ลูกค้าจะได้รับอะไร หรือเหตุการณ์ต่อไปที่เค้าจะทำคืออะไร จะบอกว่าส่วนมากคำถามพวกนี้ จะอยู่ข้อที่ 1 เสมอ
เทคนิค
1. เมื่ออ่านคำถามคำตอบ แยกโจทย์เสร็จแล้ว ขีดเส้นใต้ส่วนสำคัญเหมือนเดิมกันลืม
2. เราใช้เทคนิคจากหนังสือเล่มนึงคือ ก่อนอ่านและแยกคำตอบข้อ 1 ตัว ให้อ่านคร่าวๆคืออ่านหัวเรื่อง ลักษณะ Paragraph และดูเองว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไรเป็นแนวทางพอ เช่น อ่อเรื่องนี้เป็นจดหมาย Complain รู้แค่นี้พอจบ พออ่านคำตอบเสร็๋จ ไปอ่านเนื่อเรื่องเลย อ่านแบบพอรู้เรื่อง อ่านครั้งเดียว ต้องหา S V O ให้เจอ อย่าอ่านไปเรื่อยเปื่อย  ไม่งั้นต้องกลับมาอ่านอีกหลายรอบ ต้องให้รู้ว่าประโยคนี้ ใคร มีส่วนขยายมั๊ย ทำอะไร พวกหลังลูกน้ำทั้งหลายที่มาขยาย อ่านผ่านๆอย่าอ่านนาน และอ่านให้เข้าใจจนจบ
3. อ่านจบ ตอบคำถามที่ตรงไปตรงมาก่อน อันไหนจำไม่ได้ขึ้นไปมองเนื้อเรื่องตรงคำตอบอีกที มองเฉพาะคำตอบอย่าพยายามอ่านใหม่ จะทำไม่ทันเอา เสร็จปุ๊บคำถามที่ถาม Main Idea ให้รวบรวมความรู้ที่เราเข้าใจและตอบเลย อย่าพยายามไปอ่านวนใหม่ซ้ำไปซ้ำมาเด็ดขาด (เคยเจ็บมาก่อน จากการอ่านวน ก่อนรู้เทคนิค)
4. ให้กาลงข้อสอบไปเลย แล้วค่อยมาฝนที่เดียว บางทีการฝนทันที มันทำให้เราเสียสติชั่วขณะ สำหรับบางคน

ที่สำคัญต้องฝึกจับเวลา เข้าห้องสอบ Part Reading ทำที่ตัวเองถนัดก่อนเลย เรา
ทำ Part 7 ก่อน เพราะคำตอบมันตรงๆอยู่แล้ว ทำให้ทันก็พอ เราใช้เวลา 40 นาที เรทบ้างนิดหน่อยประมาณ 5 นาทีได้อยู่ ถ้าทำไม่ทันข้อท้ายๆมันยาวแสนยาว ก็อ่านคร่าวๆแล้วตอบเลย อย่าเว้นไว้ เพราะกลับมาทำไม่ทันแน่ สำหรับความรู้ระดับเรานะ
หลังจากนั้นเหลือเวลาประมาณ 35 นาที ทำ Part5 และ Part 6 เราเลือก Part 6 ก่อน เพราะตอนฝึกทำได้คะแนนเยอะสม่ำเสมอกว่า และใช้เวลาไม่ควรเกิน 7-8 นาที เวลาที่เหลือก็มาจัดการ Part 5 อย่าคิดข้อใดข้อนึงนาน คิดนานมักคิดมากจนคิดผิด อย่าให้มันมาทำลายข้ออื่นๆ เราไม่เคยมีเวลาเหลือเลย แต่สอบ 2 ครั้งหลัง เราใช้วิธีประมาณนี้ ทำข้อสอบทันตลอด คือหมดเวลาเราก็ฝนข้อสุดท้ายเสร็จพอดี อาจเหลือซัก 15 วินาที ทำเยอะ ชัวร์เยอะ โอกาสถูกก็เยอะ เพราะคนส่วนมากจะทำไม่ทันประมาณ 15-20 ข้อ...

เทคนิคพิเศษเพิ่มเติมจากเพื่อนๆที่นี่หละ
1. หักปลายดินสอนิดนึงก่อน ของศูนย์สอบแหลมมาก ฝนช้า
2. ก่อนเข้าห้องสอบไม่ต้องอ่านแล้ว อ่านมากเจอที่สงสัยหาคำตอบไม่ได้จะวิตก
3. ข้อสอบขีดเขียนลงไปได้ชัวร์ ลองมาแล้ว 3 ครั้ง เสียเงินตั้งเยอะ แค่ข้อสอบเอง เค้าคงไม่ว่า และเค้าไม่ได้บอกว่าห้าม
4. ถ้าตอนฟังสติหลุดให้รีบเรียกคืนมา อย่าเสียดายอะไรที่ผ่านมาแล้ว มั่วก็มั่ว คิดถึงเงิน 1,500 ไว้
5. ไปทำบุญเยอะๆจิตใจจะได้สงบ ขอพร ข้อไหนที่ลูกไม่แน่ใจก็ขอให้เข้าใจถูก กามั่วก็ขอให้กาถูก (เรียกขวัญและกำลังใจ ^_^)
6. ตอนที่เค้าเกริ่นๆๆๆ Part1 อยู่ เนื่องจากฟังมาหลายรอบ เราเปิดไปทำ Part 5 แกรมม่าได้ 4 ข้อ

ปล. ที่ขึ้นหัวกระทู้เป็น Reading เพราะเราคิดว่าเทคนิคน่าจะได้ผลอยู่บ้างสำหรับความรู้ด้านภาษาระดับปานกลาง และมันมั่วยาก เนื่องจากมี Choice หลายข้อ ต้องรู้ลึกรู้จริงบ้าง แต่เทคนิคการฟัง เราคิดว่าเรายังทำได้ไม่ดีพอ แค่เอาตัวรอดได้ ต่อไปนี้จะฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จะได้ไม่เหนื่อยแบบนี้อีก

ขอให้เพื่อนๆที่เคยติดปัญหาเหมือนเรา สอบไม่ผ่านซักที ประสบความสำเร็จ สอบผ่านตามที่ตั้งไว้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย
อาจเขียนอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องต้องขอโทษด้วย เพิ่งเขียนครั้งแรก อยากเอาใจช่วยทุกคนจริง สอบแต่ละครั้งเงินทั้งนั้น .....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่