สวัสดีครับ วันนี้พี่ม็อบจะมาให้เทคนิคแก้ปัญหาการอ่านไม่ทัน เหนื่อย ท้อ ในข้อสอบ TOEIC Part 7 : Reading
ที่มี 48 ข้อ (ไม่รวม Grammar 52 ข้อแรก)
ปัญหา : ไม่ใช่ทำไม่ได้... แต่ส่วนมากจะ
ทำไม่ทัน เหนื่อยเพราะอ่านเนื้อหาจนตาลาย และไม่รู้ว่าจะหาคำตอบจากตรงไหน
วิธีแก้ : เผื่อเวลาไว้ 1 ชั่วโมง (จากทั้งหมด 1 ชั่วโมง 15 นาที)
สาเหตุที่เรา ALL-IN กับ Reading เพราะ "คำตอบมันอยู่ข้างใน" ถ้าเรามีเวลามากขึ้น เราจะทำ Reading ได้แบบชัวร์ๆ
ซึ่งไม่เหมือน Grammar หากเรามีเวลาเพิ่ม เราก็ไม่ชัวร์ 100% ว่าคำตอบนั้นถูกหรือไม่?
Reading ที่ถูกต้องมีแค่ 3 Steps คือ
1) Prescreen - เราจะดึงเทคนิค Skim อ่านแบบคร่าวๆมาใช้
โดยน้องต้องเข้าใจก่อนว่าใน Passage นั้นสาเหตุที่มันมีหลายย่อหน้า เพราะมันมีหลายประเด็น
เราหาแค่ประเด็นของมันในแต่ละย่อหน้าให้ได้เป็นพอ (และส่วนมากมันจะขึ้นต้นย่อหน้า)
วิธีทำ : ในแต่ละ Passage บนหัวกระดาษจะบอกมาว่าเป็น Advertisement, Notice หรือ Email ในสวนนี้น้องชอบละเลยไปอ่านเนื้อเรื่องก่อนเลย ซึ่งตรงนี้นับว่าเป็นประโยชน์กับเราอย่างมาก Advertisement จะมีการขาย Notice เพราะมีปัญหาเลยต้องประกาศ หรือไม่ก็เป็นการแจ้งข้อมูล เห็นได้ว่าในแต่ละอันจะมี Pattern ของมันอยู่ เพราะฉะนั้น
"ดูหัวกระดาษก่อน"
2) Skim - จับประเด็นให้ได้ว่า POINT ของแต่ละย่อหน้าคืออะไร
วิธีทำ : ขีดเส้นใต้ประโยคแรกของทุกย่อหน้า แล้วเขียนสั้นๆไว้ว่ามันเกี่ยวกับอะไร มันจะเป็นประโยชน์อย่างมากหากเรารู้โดยรวมก่อน เพราะเวลาเราอ่านคำถาม เราจะพอรู้ว่ามันอยู่ในย่อหน้าไหน?
3) Smart - เลือกคำถามให้ฉลาด - เราจะรวบรวมข้อมูลโดยการทำคำถามแคบๆ เจาะจง ก่อน (Specific information) อย่าอ่านไปเรื่อยๆ ให้ทำไปเรื่อยๆ ซึ่งวิธีการเลือกคำถามสามารถดูได้ในคลิปด้านบน
หวังว่าเทคนิคนี้จะช่วยน้องๆที่ติดเรื่อง Reading สอบหลายรอบแล้วไม่ผ่านซักที
**
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ "การฝึกนำไปใช้" ทำให้ชินกับมัน เซ็ตตัวเองว่าต้องเหนื่อยประมาณนี้ (แต่ได้ผลชัวร์) เตือนตัวเองว่าค่าสอบ TOEIC แพง (1500 แหนะสำหรับแบบ Personal) **
สู้ๆนะครับ พี่เป็นกำลังใจให้ มันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ แต่หลายกระทู้ที่เค้าเตรียมตัวดี สอบผ่าน เค้ามีเหมือนกันหมดคือ การวางแผน+ความพยายามที่มากพอ
ขอให้น้องๆโชคดีกับการสอบครับ
3 สูตรลับ TOEIC อ่าน Reading Passage อย่างไร ให้ไวที่สุด
ที่มี 48 ข้อ (ไม่รวม Grammar 52 ข้อแรก)
ปัญหา : ไม่ใช่ทำไม่ได้... แต่ส่วนมากจะทำไม่ทัน เหนื่อยเพราะอ่านเนื้อหาจนตาลาย และไม่รู้ว่าจะหาคำตอบจากตรงไหน
วิธีแก้ : เผื่อเวลาไว้ 1 ชั่วโมง (จากทั้งหมด 1 ชั่วโมง 15 นาที)
สาเหตุที่เรา ALL-IN กับ Reading เพราะ "คำตอบมันอยู่ข้างใน" ถ้าเรามีเวลามากขึ้น เราจะทำ Reading ได้แบบชัวร์ๆ
ซึ่งไม่เหมือน Grammar หากเรามีเวลาเพิ่ม เราก็ไม่ชัวร์ 100% ว่าคำตอบนั้นถูกหรือไม่?
Reading ที่ถูกต้องมีแค่ 3 Steps คือ
1) Prescreen - เราจะดึงเทคนิค Skim อ่านแบบคร่าวๆมาใช้
โดยน้องต้องเข้าใจก่อนว่าใน Passage นั้นสาเหตุที่มันมีหลายย่อหน้า เพราะมันมีหลายประเด็น
เราหาแค่ประเด็นของมันในแต่ละย่อหน้าให้ได้เป็นพอ (และส่วนมากมันจะขึ้นต้นย่อหน้า)
วิธีทำ : ในแต่ละ Passage บนหัวกระดาษจะบอกมาว่าเป็น Advertisement, Notice หรือ Email ในสวนนี้น้องชอบละเลยไปอ่านเนื้อเรื่องก่อนเลย ซึ่งตรงนี้นับว่าเป็นประโยชน์กับเราอย่างมาก Advertisement จะมีการขาย Notice เพราะมีปัญหาเลยต้องประกาศ หรือไม่ก็เป็นการแจ้งข้อมูล เห็นได้ว่าในแต่ละอันจะมี Pattern ของมันอยู่ เพราะฉะนั้น
"ดูหัวกระดาษก่อน"
2) Skim - จับประเด็นให้ได้ว่า POINT ของแต่ละย่อหน้าคืออะไร
วิธีทำ : ขีดเส้นใต้ประโยคแรกของทุกย่อหน้า แล้วเขียนสั้นๆไว้ว่ามันเกี่ยวกับอะไร มันจะเป็นประโยชน์อย่างมากหากเรารู้โดยรวมก่อน เพราะเวลาเราอ่านคำถาม เราจะพอรู้ว่ามันอยู่ในย่อหน้าไหน?
3) Smart - เลือกคำถามให้ฉลาด - เราจะรวบรวมข้อมูลโดยการทำคำถามแคบๆ เจาะจง ก่อน (Specific information) อย่าอ่านไปเรื่อยๆ ให้ทำไปเรื่อยๆ ซึ่งวิธีการเลือกคำถามสามารถดูได้ในคลิปด้านบน
หวังว่าเทคนิคนี้จะช่วยน้องๆที่ติดเรื่อง Reading สอบหลายรอบแล้วไม่ผ่านซักที
** แต่ที่สำคัญที่สุดคือ "การฝึกนำไปใช้" ทำให้ชินกับมัน เซ็ตตัวเองว่าต้องเหนื่อยประมาณนี้ (แต่ได้ผลชัวร์) เตือนตัวเองว่าค่าสอบ TOEIC แพง (1500 แหนะสำหรับแบบ Personal) **
สู้ๆนะครับ พี่เป็นกำลังใจให้ มันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ แต่หลายกระทู้ที่เค้าเตรียมตัวดี สอบผ่าน เค้ามีเหมือนกันหมดคือ การวางแผน+ความพยายามที่มากพอ
ขอให้น้องๆโชคดีกับการสอบครับ