สวัสดีครับ... หลังจากที่ผมใช้เว็บ Pantip เป็นแหล่งข้อมูลประสบการณ์การสอบ TOEIC มาได้สักพักแล้ว จนกระทั่งผมได้ไปสอบ TOEIC และได้รับ Score มาแล้ว ... วันนี้ครับ วันนี้ผมจะขอแชร์ประสบการณ์นั้นบ้างครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับสมาชิกไม่มากก็น้อยล่ะครับ
หลังจากที่ผมเริ่มสนใจการสอบ TOEIC เพราะคิดอยากเอาคะแนนมาใส่ใน Resume เผื่อจะเปลี่ยนงานหลังจากใกล้จะจบป.โทในไม่ช้านี้ ผมจึงเริ่มจากการรีเสิร์ชข้อมูลในเว็บพันทิพนี่แหละครับ หากระทู้ของคนที่เคยไปสอบมาอ่านเพื่อเตรียมตัวแบบชิวๆ จนกระทั่งผมตัดสินใจแล้วว่าวันรุ่งขึ้นจะไปสอบ ในช่วงบ่ายวันนั้นผมจึงโทรไปจองที่นั่งสอบครับ ขอสอบเป็นรอบเก้าโมงเช้าของวันรุ่งขึ้นครับ มันเป็นการตัดสินใจแบบกระทันหัน คิดอยากจะไปสอบก็ตัดสินใจเลยครับ โดยลืมคิดถึงเงินค่าสอบ 1,500.- บาทแหน่ะ ... แต่ก็นะ..โทรไปจองแล้วไม่อยากยกเลิกครับ หนังสือหนังหาหรือติวอะไรก็ไม่มี ไม่เตรียมตัวไรทั้งนั้น เรียกว่าไปสอบแบบใช้ schemata ภาษาอังกฤษที่เรียนมาทั้งชีวิตเกือบสามสิบปีเลยทีเดียว
วันรุ่งขึ้นครับเป็นวันเสาร์ ผมเดินทางไปสอบ สถานที่สอบ TOEIC คือ ศูนย์ CPA อยู่ที่ตึก BB ชั้น 19 ถ. อโศก ผมจองสอบรอบ 9 โมง แต่แนะนำว่าท่านควรจะไปถึงก่อนเวลาอย่างน้อยสัก 45 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง เพราะท่านต้องไปเข้าแถวรอคิวเพื่อผ่านกระบวนการลงทะเบียน ทำบัตรประจำตัวผู้สอบ จ่ายเงิน ฯ สารพัดซึ่งกินเวลาไปเกือบชั่วโมงล่ะ ในวันเสาร์ที่ผมไปคนไม่ค่อยเยอะนะ เพราะยังเป็นเสาร์ที่หยุดยาวมาจากสงกรานต์ กว่าจะทำอะไรเสร็จก็ได้เวลาเข้าห้องสอบละ ประมาณ 8.45 น. ก็ต้องผ่านการตรวจสแกนต่างๆ สิ่งที่เอาเข้าห้องสอบได้คือกระเป๋าสตางค์ บัตรประจำตัวสอบ และบัตรประชาชนเท่านั้น ส่วนโทรศัพท์มือถือและอื่นๆ ต้องใส่กระเป๋าและนำไปวางไว้บน shelf ซึ่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ชำระเงิน ในตอนก่อนไปสอบผมก็เกรงว่าอะไรเหล่านี้จะหายนะเพราะเขาแจ้งว่าแค่มีบริเวณชั้นวางของแต่ไม่ถือเป็นความรับผิดชอบในการจะเฝ้าของให้ แต่ก็ไม่หายนะหลังจากสอบเสร็จ หลังจากผ่านขั้นตอนการสแกนร่างกายแล้วก็จะได้เข้าไปในห้องสอบซึ่งเราจะไม่รู้ว่าจะได้นั่งที่สอบตรงไหน (แล้วแต่เวรแต่กรรมเลยครับ) ผู้คุมห้องสอบจะกำหนดให้เราไปนั่งเอง วันนั้นผมถือว่าโชคดีมากเพราะได้นั่งใต้ลำโพงเลยครับ โต๊ะสอบเป็นโต๊ะยาวกั้นด้วยฉากที่ถูกผนึกไปกับโต๊ะเลย หนึ่งโต๊ะจะนั่งสอบได้สองคนข้างๆกันโดยมีฉากกั้นทำให้ลอกกันไม่ได้ บนโต๊ะสอบจะมีปากกา ยางลบ และดินสอเตรียมไว้ให้เราแล้ว ไม่ต้องเตรียมไปครับ ที่นี่ก็ต้องนั่งรอเวลาจนกว่าผู้เข้าสอบจะทยอยเข้ามาจนเต็มห้องครับ กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงแหน่ะ ระหว่างนี้ก็นั่งอ่าน intake questionnaire ไปพลางๆครับ มันเป็นเหมือนแบบสอบถามข้อมูลส่วนตัวของเราที่เราจะต้องฝนลงในกระดาษคำตอบครับ ตรงนี้ก็นั่งหาคำตอบสำหรับตัวเองไว้เตรียมไปฝนในกระดาษคำตอบครับ ไม่มีอะไรมาก แต่อาจจะนานหน่อยเพราะคำถามเยอะ 555+
เมื่อผู้สอบเข้าห้องสอบครบทุกคนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงแจกข้อสอบ กระดาษคำตอบ และเริ่มอธิบายวิธีตอบ questionnaire นั้นครับ พร้อมกับให้ผู้เข้าสอบทุกคนเริ่มฝนคำตอบไปทีละข้อพร้อมๆ กันจนครบทุกข้อครับ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะเปิดแผ่นซีดีอธิบายวิธีการสอบ TOEIC ทั้ง 2 part ครับ ... ไม่นานหลังจากนั้นทุกคนจะได้รับอนุญาตให้เปิดข้อสอบพร้อมกับเริ่มทำข้อสอบ listening part ครับ มี 100 ข้อ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ตรงนี้บอกเลยว่าต้องพยายามฟังและจับใจความให้ได้ในรอบเดียวแล้วจึงฝนคำตอบไปเลยครับ ไม่มีการย้อนกลับใดๆ ทั้งสิ้นครับ ถ้าฟังไม่เข้าใจก็ต้องเดาอย่างเดียวครับ สอบการฟังนี่ต้องใช้สมาธิสูงมากครับ ต้องฟังตามแผ่นซีดีให้ทันนะครับ สอบการฟังมีทั้งให้ดูภาพแล้วตอบ ฟังประกาศต่างหรือบทสนทนาแล้วตอบครับ เทคนิคผมคือฟัง keyword และพวก wh-question ให้ดีๆ ให้เข้าใจในครั้งเดียว แล้วรีบไปตอบ ระหว่างนั้นจะมีเวลาเหลือสักเสี้ยวนาทีให้รีบข้ามไปอ่านคำตอบของข้อถัดไปและเตรียมฟังคำถามข้อถัดไปครับ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนครบครับ ต้องอ่านคำถามคำตอบล่วงหน้าแล้วมาฟัง conver เพื่อหาคำตอบครับ ส่วนตัวผมก็โอเคครับ ได้คะแนนจาก part นี้ 390 ครับ ...
หลังจากนั้นจึงเป็น reading part ครับ อีก 100 ข้อ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครับ มีทั้งวัด grammar ต่างๆ วัด vocab วัดความสามารถในการอ่านประกาศ อ่านอีเมล์ อ่าน single passage และ double passage ครับ... ก็ต้องใช้สมาธิครับ ใช้ทักษะการอ่านแบบ skim เลยครับ อ่านอย่างเร็วและกวาดสายตาเพื่อหาคำตอบจากในเนื้อหาเลยครับ เวลาแค่ชั่วโมงเดียวกับคำถาม 100 ข้อนี่โหดนะครับ เทคนิคผมคืออ่านคำถามแล้วค่อยกลับมา skim หาคำตอบครับ (อันนี้เทคนิคฉบับ entrance ม.ปลายแหละครับ) ตรง double passage นี่ถือว่าใหม่สำหรับผมนะ ไม่เคยเจอข้อสอบ reading ประเภทที่ให้อ่านข้อมูลจาก 2 แหล่งแล้วต้องสรุปหรืออนุมานเพื่อตอบคำถามเอาเอง บางทีมันไม่ได้มีคำตอบให้ตรงๆ จาก double passage เหล่านั้นครับ ต้องใช้ทักษะการอ่านประมาณหนึ่งเลยล่ะ สุดท้ายผมทำข้อสอบเสร็จก่อนเวลาที่กำหนด 10 นาทีครับ ตรงนี้ผมได้มา 400 คะแนนครับ
หลังจากสอบเสร็จรู้สึกได้ชัดเจนเลยว่าหัวตึงๆ เพราะใช้สมาธิมากเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ก็ถือเป็นการจบประสบการณ์สอบ TOEIC ครั้งแรกในชีวิตแบบไร้การเตรียมตัวใดๆ เลย จองปุ๊บ มาสอบวันถัดไปปั๊ปเลย สรุปว่าวันรุ่งขึ้นผมมารับผลสอบด้วยตนเองครับ เปิดซองมาพบว่าได้คะแนนรวม 790 เองครับ ก็เฟลเบาๆ ครับ เพราะตั้งใจอยากได้เลข 8 ขึ้นครับ ... บอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวอีกสักพักหลังจากทำวิทยานิพนธ์เสร็จแล้วจะมาสอบใหม่ แก้ตัว ต้องให้ได้มากกว่า 850 ครับครั้งหน้า 555+
มาถึงตรงนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้ครับ ประสบการณ์สอบ TOEIC ครั้งแรกในชีวิต (แต่เดี๋ยวมีครั้งสองแน่ แบบกลับไปฟิตมาก่อนเพราะครั้งนี้คะแนนน้อย) ขอบคุณที่ทนอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ครับ แต่ไม่รับประกันว่าจะรู้เรื่องรึป่าวนะ 555+
แชร์ประสบการณ์การไปสอบ TOEIC ครั้งแรกในชีวิตแบบไม่เตรียมตัวอะไรเลย
หลังจากที่ผมเริ่มสนใจการสอบ TOEIC เพราะคิดอยากเอาคะแนนมาใส่ใน Resume เผื่อจะเปลี่ยนงานหลังจากใกล้จะจบป.โทในไม่ช้านี้ ผมจึงเริ่มจากการรีเสิร์ชข้อมูลในเว็บพันทิพนี่แหละครับ หากระทู้ของคนที่เคยไปสอบมาอ่านเพื่อเตรียมตัวแบบชิวๆ จนกระทั่งผมตัดสินใจแล้วว่าวันรุ่งขึ้นจะไปสอบ ในช่วงบ่ายวันนั้นผมจึงโทรไปจองที่นั่งสอบครับ ขอสอบเป็นรอบเก้าโมงเช้าของวันรุ่งขึ้นครับ มันเป็นการตัดสินใจแบบกระทันหัน คิดอยากจะไปสอบก็ตัดสินใจเลยครับ โดยลืมคิดถึงเงินค่าสอบ 1,500.- บาทแหน่ะ ... แต่ก็นะ..โทรไปจองแล้วไม่อยากยกเลิกครับ หนังสือหนังหาหรือติวอะไรก็ไม่มี ไม่เตรียมตัวไรทั้งนั้น เรียกว่าไปสอบแบบใช้ schemata ภาษาอังกฤษที่เรียนมาทั้งชีวิตเกือบสามสิบปีเลยทีเดียว
วันรุ่งขึ้นครับเป็นวันเสาร์ ผมเดินทางไปสอบ สถานที่สอบ TOEIC คือ ศูนย์ CPA อยู่ที่ตึก BB ชั้น 19 ถ. อโศก ผมจองสอบรอบ 9 โมง แต่แนะนำว่าท่านควรจะไปถึงก่อนเวลาอย่างน้อยสัก 45 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง เพราะท่านต้องไปเข้าแถวรอคิวเพื่อผ่านกระบวนการลงทะเบียน ทำบัตรประจำตัวผู้สอบ จ่ายเงิน ฯ สารพัดซึ่งกินเวลาไปเกือบชั่วโมงล่ะ ในวันเสาร์ที่ผมไปคนไม่ค่อยเยอะนะ เพราะยังเป็นเสาร์ที่หยุดยาวมาจากสงกรานต์ กว่าจะทำอะไรเสร็จก็ได้เวลาเข้าห้องสอบละ ประมาณ 8.45 น. ก็ต้องผ่านการตรวจสแกนต่างๆ สิ่งที่เอาเข้าห้องสอบได้คือกระเป๋าสตางค์ บัตรประจำตัวสอบ และบัตรประชาชนเท่านั้น ส่วนโทรศัพท์มือถือและอื่นๆ ต้องใส่กระเป๋าและนำไปวางไว้บน shelf ซึ่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ชำระเงิน ในตอนก่อนไปสอบผมก็เกรงว่าอะไรเหล่านี้จะหายนะเพราะเขาแจ้งว่าแค่มีบริเวณชั้นวางของแต่ไม่ถือเป็นความรับผิดชอบในการจะเฝ้าของให้ แต่ก็ไม่หายนะหลังจากสอบเสร็จ หลังจากผ่านขั้นตอนการสแกนร่างกายแล้วก็จะได้เข้าไปในห้องสอบซึ่งเราจะไม่รู้ว่าจะได้นั่งที่สอบตรงไหน (แล้วแต่เวรแต่กรรมเลยครับ) ผู้คุมห้องสอบจะกำหนดให้เราไปนั่งเอง วันนั้นผมถือว่าโชคดีมากเพราะได้นั่งใต้ลำโพงเลยครับ โต๊ะสอบเป็นโต๊ะยาวกั้นด้วยฉากที่ถูกผนึกไปกับโต๊ะเลย หนึ่งโต๊ะจะนั่งสอบได้สองคนข้างๆกันโดยมีฉากกั้นทำให้ลอกกันไม่ได้ บนโต๊ะสอบจะมีปากกา ยางลบ และดินสอเตรียมไว้ให้เราแล้ว ไม่ต้องเตรียมไปครับ ที่นี่ก็ต้องนั่งรอเวลาจนกว่าผู้เข้าสอบจะทยอยเข้ามาจนเต็มห้องครับ กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงแหน่ะ ระหว่างนี้ก็นั่งอ่าน intake questionnaire ไปพลางๆครับ มันเป็นเหมือนแบบสอบถามข้อมูลส่วนตัวของเราที่เราจะต้องฝนลงในกระดาษคำตอบครับ ตรงนี้ก็นั่งหาคำตอบสำหรับตัวเองไว้เตรียมไปฝนในกระดาษคำตอบครับ ไม่มีอะไรมาก แต่อาจจะนานหน่อยเพราะคำถามเยอะ 555+
เมื่อผู้สอบเข้าห้องสอบครบทุกคนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงแจกข้อสอบ กระดาษคำตอบ และเริ่มอธิบายวิธีตอบ questionnaire นั้นครับ พร้อมกับให้ผู้เข้าสอบทุกคนเริ่มฝนคำตอบไปทีละข้อพร้อมๆ กันจนครบทุกข้อครับ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะเปิดแผ่นซีดีอธิบายวิธีการสอบ TOEIC ทั้ง 2 part ครับ ... ไม่นานหลังจากนั้นทุกคนจะได้รับอนุญาตให้เปิดข้อสอบพร้อมกับเริ่มทำข้อสอบ listening part ครับ มี 100 ข้อ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ตรงนี้บอกเลยว่าต้องพยายามฟังและจับใจความให้ได้ในรอบเดียวแล้วจึงฝนคำตอบไปเลยครับ ไม่มีการย้อนกลับใดๆ ทั้งสิ้นครับ ถ้าฟังไม่เข้าใจก็ต้องเดาอย่างเดียวครับ สอบการฟังนี่ต้องใช้สมาธิสูงมากครับ ต้องฟังตามแผ่นซีดีให้ทันนะครับ สอบการฟังมีทั้งให้ดูภาพแล้วตอบ ฟังประกาศต่างหรือบทสนทนาแล้วตอบครับ เทคนิคผมคือฟัง keyword และพวก wh-question ให้ดีๆ ให้เข้าใจในครั้งเดียว แล้วรีบไปตอบ ระหว่างนั้นจะมีเวลาเหลือสักเสี้ยวนาทีให้รีบข้ามไปอ่านคำตอบของข้อถัดไปและเตรียมฟังคำถามข้อถัดไปครับ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนครบครับ ต้องอ่านคำถามคำตอบล่วงหน้าแล้วมาฟัง conver เพื่อหาคำตอบครับ ส่วนตัวผมก็โอเคครับ ได้คะแนนจาก part นี้ 390 ครับ ...
หลังจากนั้นจึงเป็น reading part ครับ อีก 100 ข้อ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครับ มีทั้งวัด grammar ต่างๆ วัด vocab วัดความสามารถในการอ่านประกาศ อ่านอีเมล์ อ่าน single passage และ double passage ครับ... ก็ต้องใช้สมาธิครับ ใช้ทักษะการอ่านแบบ skim เลยครับ อ่านอย่างเร็วและกวาดสายตาเพื่อหาคำตอบจากในเนื้อหาเลยครับ เวลาแค่ชั่วโมงเดียวกับคำถาม 100 ข้อนี่โหดนะครับ เทคนิคผมคืออ่านคำถามแล้วค่อยกลับมา skim หาคำตอบครับ (อันนี้เทคนิคฉบับ entrance ม.ปลายแหละครับ) ตรง double passage นี่ถือว่าใหม่สำหรับผมนะ ไม่เคยเจอข้อสอบ reading ประเภทที่ให้อ่านข้อมูลจาก 2 แหล่งแล้วต้องสรุปหรืออนุมานเพื่อตอบคำถามเอาเอง บางทีมันไม่ได้มีคำตอบให้ตรงๆ จาก double passage เหล่านั้นครับ ต้องใช้ทักษะการอ่านประมาณหนึ่งเลยล่ะ สุดท้ายผมทำข้อสอบเสร็จก่อนเวลาที่กำหนด 10 นาทีครับ ตรงนี้ผมได้มา 400 คะแนนครับ
หลังจากสอบเสร็จรู้สึกได้ชัดเจนเลยว่าหัวตึงๆ เพราะใช้สมาธิมากเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ก็ถือเป็นการจบประสบการณ์สอบ TOEIC ครั้งแรกในชีวิตแบบไร้การเตรียมตัวใดๆ เลย จองปุ๊บ มาสอบวันถัดไปปั๊ปเลย สรุปว่าวันรุ่งขึ้นผมมารับผลสอบด้วยตนเองครับ เปิดซองมาพบว่าได้คะแนนรวม 790 เองครับ ก็เฟลเบาๆ ครับ เพราะตั้งใจอยากได้เลข 8 ขึ้นครับ ... บอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวอีกสักพักหลังจากทำวิทยานิพนธ์เสร็จแล้วจะมาสอบใหม่ แก้ตัว ต้องให้ได้มากกว่า 850 ครับครั้งหน้า 555+
มาถึงตรงนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้ครับ ประสบการณ์สอบ TOEIC ครั้งแรกในชีวิต (แต่เดี๋ยวมีครั้งสองแน่ แบบกลับไปฟิตมาก่อนเพราะครั้งนี้คะแนนน้อย) ขอบคุณที่ทนอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ครับ แต่ไม่รับประกันว่าจะรู้เรื่องรึป่าวนะ 555+