เข้าเรื่องเลยนะครับ เนื้อๆไม่น้ำ เพราะรายละเอียดทั่วไปมีคนแชร์เยอะแล้ว และในเว็บ Duolingo เองก็อธิบายทุกอย่างละเอียดมากๆแล้ว
ผมพึ่งสอบไปเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2567 นะครับ สดๆร้อนๆ
ได้มา 135 คะแนนครับ
ลุยตามแต่ละหมวดเลยนะครับ
Read and Select
คำไหนไม่มั่นใจ ไม่เคยเห็นผ่านๆให้เลือก ไม่ใช่คำศัพท์ ไปเลย อย่าคิดนาน มีเวลาแค่ข้อละ 5 วินาที ควรกดตอบทุกข้อ อย่าข้าม
Fill in the Blanks
สะกดคำให้ถูกต้องทุกตัวอักษร เผื่อเวลาตรวจตัวสะกดเสมอ อย่าลืม ข้อละ 20 วินาที เวลาผ่านไปไวมาก อย่าเหม่อลอย อย่าคิดนาน
Read and Complete
ใช้บริบทช่วย คำไหนใส่ได้ใส่ไปก่อนเพื่อเพิ่มบริบท และสะกดคำให้ถูกต้องทุกตัวอักษร เผื่อเวลาตรวจตัวสะกดเสมอ พาร์ทนี้มักมีเวลาเหลือ แต่ก็ต้องบริหารเวลาให้ดีๆ ถ้าทำเสร็จก่อนไม่ต้องรีบกดไปข้อต่อไป ให้ใช้เวลา หายใจ พักสมอง (ใช้กับทุกพาร์ท ไม่มีคะแนนตอบไว นะครับ)
Listen and Type
ฟังครั้งแรก พยายามเขียนให้เยอะที่สุด และพยายามคิดภาพ เชื่อมโยง ในหัว ว่าเค้าพูดเรื่องอะไร จะช่วยในการเติมคำศัพท์ต่างๆได้มาก
ครั้งที่สอง ไล่ที่เราเขียนไปตามที่เค้าพูด แล้วเติมที่ขาด พร้อมกับเช็คความถูกต้อง
ครั้งที่สาม เติมพวก article a/an/the & s or no s & tenses & all other grammar
เขียนให้ถูกให้เป๊ะ ตัวเล็ก ตัวใหญ่ จุด full stop ปิดประโยค ต่างๆ สำคัญมากๆ
Read Aloud
สำหรับประโยคไม่ยาว ให้ซ้อมพูด (ไวๆ) ก่อนกดอัดเสียง กันคำศัพท์ที่เราออกเสียงไม่ถนัด
สำหรับประโยคยาวๆ ให้ใช้ตามองสแกนไวๆแล้วพูดเลย ถ้าซ้อม ไม่ทันแน่นอน ห้ามพูดไม่ทันโดยเด็ดขาด เสียคะแนนโดยใช่เหตุ
พูดด้วยสปีดที่ไม่ต้องเร็วมากแต่ก็ไม่ช้า ให้เหมือนคนปกติ ใส่ใจรายละเอียดพวกเสียงลงท้าย เช่น s หรือพวก past tense
Write About the Photo
บริหารเวลาให้ดี และพยายามใส่รายละเอียดให้ครบ พร้อมทั้งพยายามใส่คำศัพท์ระดับกลางถึงสูงลงไปเสมอ อย่าใช้ศัพท์พื้นฐานเกินไป อย่างน้อยสัก 2-3 คำต่อข้อ
Speak About the Photo
บริหารเวลาให้ดี และพยายามใส่รายละเอียดให้ครบ เวลาพูดให้นึกถึงว่าเราพูดอธิบายให้คนที่อยู่ในโทรศัพท์ฟังซึ่งเขาไม่ได้เห็นรูปนี้กับเรา
Read, Then Speak
บริหารเวลาให้ดี (แบ่งง่ายๆตรงๆเช่นถ้ามี 3 คำถามย่อยก็ ตอบคำถามละ 30 วินาที) ตอบคำถามให้ครบถ้วน ตรงประเด็น และ ใส่คำศัพท์
Listen, Then Speak
ตั้งใจฟังให้ดีๆ พลาดแล้วพลาดเลย ถ้าฟังผิด บริหารเวลาให้ดี ตอบคำถามให้ครบถ้วน ตรงประเด็น และ ใส่คำศัพท์
Interactive Reading
ใช้บริบทช่วยเยอะๆ
Interactive Listening
ใช้บริบทช่วยเยอะๆ ตั้งใจฟังให้ดี และเชื่อมโยงข้อมูล พร้อมทั้ง ระวังคำตอบตัวหลอก (ส่วนมากจะเหลือ 2 ตัวเลือกที่ก้ำกึ่งๆ)
Writing Sample และ Speaking Sample
ไม่นับรวมในคะแนน แต่จะเป็นสิ่งที่ทางมหาลัยดูเพิ่มเติมได้ เพื่อวัดสกิลเราในเชิงลึกขึ้น ก็ประยุกต์เทคนิคจากด้านบนทั้งหมดรวมกันนะครับ
จบแล้วครับ
สุดท้ายก็ขอให้ทุกคนได้คะแนนที่หวังนะครับ
ส่วนใหญ่มหาลัยระดับท็อปๆก็จะมีขั้นต่ำประมาณ 120 ครับ
สามารถคอมเม้นพูดคุยกันได้ครับ
สู้ๆครับ
แชร์เทคนิคสอบ Duolingo English Test 2024 กับคะแนน 135
ผมพึ่งสอบไปเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2567 นะครับ สดๆร้อนๆ
ได้มา 135 คะแนนครับ
ลุยตามแต่ละหมวดเลยนะครับ
Read and Select
คำไหนไม่มั่นใจ ไม่เคยเห็นผ่านๆให้เลือก ไม่ใช่คำศัพท์ ไปเลย อย่าคิดนาน มีเวลาแค่ข้อละ 5 วินาที ควรกดตอบทุกข้อ อย่าข้าม
Fill in the Blanks
สะกดคำให้ถูกต้องทุกตัวอักษร เผื่อเวลาตรวจตัวสะกดเสมอ อย่าลืม ข้อละ 20 วินาที เวลาผ่านไปไวมาก อย่าเหม่อลอย อย่าคิดนาน
Read and Complete
ใช้บริบทช่วย คำไหนใส่ได้ใส่ไปก่อนเพื่อเพิ่มบริบท และสะกดคำให้ถูกต้องทุกตัวอักษร เผื่อเวลาตรวจตัวสะกดเสมอ พาร์ทนี้มักมีเวลาเหลือ แต่ก็ต้องบริหารเวลาให้ดีๆ ถ้าทำเสร็จก่อนไม่ต้องรีบกดไปข้อต่อไป ให้ใช้เวลา หายใจ พักสมอง (ใช้กับทุกพาร์ท ไม่มีคะแนนตอบไว นะครับ)
Listen and Type
ฟังครั้งแรก พยายามเขียนให้เยอะที่สุด และพยายามคิดภาพ เชื่อมโยง ในหัว ว่าเค้าพูดเรื่องอะไร จะช่วยในการเติมคำศัพท์ต่างๆได้มาก
ครั้งที่สอง ไล่ที่เราเขียนไปตามที่เค้าพูด แล้วเติมที่ขาด พร้อมกับเช็คความถูกต้อง
ครั้งที่สาม เติมพวก article a/an/the & s or no s & tenses & all other grammar
เขียนให้ถูกให้เป๊ะ ตัวเล็ก ตัวใหญ่ จุด full stop ปิดประโยค ต่างๆ สำคัญมากๆ
Read Aloud
สำหรับประโยคไม่ยาว ให้ซ้อมพูด (ไวๆ) ก่อนกดอัดเสียง กันคำศัพท์ที่เราออกเสียงไม่ถนัด
สำหรับประโยคยาวๆ ให้ใช้ตามองสแกนไวๆแล้วพูดเลย ถ้าซ้อม ไม่ทันแน่นอน ห้ามพูดไม่ทันโดยเด็ดขาด เสียคะแนนโดยใช่เหตุ
พูดด้วยสปีดที่ไม่ต้องเร็วมากแต่ก็ไม่ช้า ให้เหมือนคนปกติ ใส่ใจรายละเอียดพวกเสียงลงท้าย เช่น s หรือพวก past tense
Write About the Photo
บริหารเวลาให้ดี และพยายามใส่รายละเอียดให้ครบ พร้อมทั้งพยายามใส่คำศัพท์ระดับกลางถึงสูงลงไปเสมอ อย่าใช้ศัพท์พื้นฐานเกินไป อย่างน้อยสัก 2-3 คำต่อข้อ
Speak About the Photo
บริหารเวลาให้ดี และพยายามใส่รายละเอียดให้ครบ เวลาพูดให้นึกถึงว่าเราพูดอธิบายให้คนที่อยู่ในโทรศัพท์ฟังซึ่งเขาไม่ได้เห็นรูปนี้กับเรา
Read, Then Speak
บริหารเวลาให้ดี (แบ่งง่ายๆตรงๆเช่นถ้ามี 3 คำถามย่อยก็ ตอบคำถามละ 30 วินาที) ตอบคำถามให้ครบถ้วน ตรงประเด็น และ ใส่คำศัพท์
Listen, Then Speak
ตั้งใจฟังให้ดีๆ พลาดแล้วพลาดเลย ถ้าฟังผิด บริหารเวลาให้ดี ตอบคำถามให้ครบถ้วน ตรงประเด็น และ ใส่คำศัพท์
Interactive Reading
ใช้บริบทช่วยเยอะๆ
Interactive Listening
ใช้บริบทช่วยเยอะๆ ตั้งใจฟังให้ดี และเชื่อมโยงข้อมูล พร้อมทั้ง ระวังคำตอบตัวหลอก (ส่วนมากจะเหลือ 2 ตัวเลือกที่ก้ำกึ่งๆ)
Writing Sample และ Speaking Sample
ไม่นับรวมในคะแนน แต่จะเป็นสิ่งที่ทางมหาลัยดูเพิ่มเติมได้ เพื่อวัดสกิลเราในเชิงลึกขึ้น ก็ประยุกต์เทคนิคจากด้านบนทั้งหมดรวมกันนะครับ
จบแล้วครับ
สุดท้ายก็ขอให้ทุกคนได้คะแนนที่หวังนะครับ
ส่วนใหญ่มหาลัยระดับท็อปๆก็จะมีขั้นต่ำประมาณ 120 ครับ
สามารถคอมเม้นพูดคุยกันได้ครับ
สู้ๆครับ