สิ่งที่อยู่ใน Spoil คือรายละเอียดที่มีอยู่ในเกม
เปิดฉากสืบหาตัวคนร้าย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในเกมจะเริ่มต้นบทสนทนาด้วยประเด็นที่ว่าการตายของไมโซโนะที่เกิดขึ้นในห้องของนาเอกิ เนื่องจากมีร่องรอยของการต่อสู้ภายในห้องจึงสรุปว่าไม่โซโนะถูกทำร้ายภายในห้องก่อนที่จะหนีเข้าห้องน้ำ
เริ่มต้นด้วยการถกเถียงเรื่องอาวุธที่ถูกนำมาใช้ในการฆาตกรรม
หลังจากที่ถกกันก็ได้ข้อสรุปว่าอาวุธที่ใช้เป็นมีดทำครัว
จากคำให้การของสองสาวจึงทำให้รู้ว่าคนที่เอามีดออกมาจากในครัวก็คือไมโซโนะผู้เคราะห์ร้ายนั่นเอง
ทุกคนจึงสรุปว่าคนร้ายแย่งมีดมาจากผู้ตายแล้วจึงนำมาใช้เป็นอาวุธสังหาร ด้วยเหตุนี้นาเอกิจึงไม่สามารถใช้เรื่องนี้เป็นข้อแก้ต่างได้(ในเกมนาเอกิดริฟครั้งแรกโดยการบอกว่าตัวเองไม่ได้เข้าไปในครัวจึงไม่มีทางที่จะนำมีดเล่มนั้นออกมาได้)
แต่จู่ ๆ คิริกิริก็เปิดประเด็นใหม่ขึ้นมาว่าพอจะมีหลักฐานแสดงความบริสุทธิให้กับนาเอกิได้อยู่
สิ่ง ๆ นั้นก็คือสภาพของลูกบิดประตูห้องน้ำ
เนื่องจากมีเพียงแค่ประตูห้องน้ำของห้องนอนหญิงเท่านั้นที่จะสามารถทำการล็อคได้ ห้องนอนของนักเรียนชายอย่างนาเอกิจึงไม่สามารถล็อคได้ แต่เนื่องจากสภาพประตูห้องน้ำที่ไม่ดีจึงทำให้คนร้ายเข้าใจผิดว่าประตูห้องน้ำถูกล็อคอยู่ คนร้ายจึงใช้เครื่องมือช่างทำการงัดแงะเข้าไปก่อนที่จะลงมือสังหารผู้ตายภายในห้องน้ำ
นอกจากนั้นในเกมยังมีหลักฐานอีกอย่างหนึ่งที่สนับสนุนว่านาเอกิไม่ใช่คนร้าย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สิ่ง ๆ นั้นคือการที่สภาพภายในห้องนอนที่ไม่มีเส้นผมของใครหลงเหลืออยู่เลย ถ้าหากว่านาเอกิเป็นคนร้ายจริงเขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำความสะอาดห้องซะจนหมดจดขนาดนี้ เนื่องจากการที่มีเส้นผมของตัวเองตกอยู่ภายในห้องของตัวเองนั้นก็เป็นเรื่องปกติ แต่เนื่องจากคนร้ายไม่ต้องการที่จะหลงเหลือเส้นผมของตัวเองเอาไว้จึงได้ทำความสะอาดห้องอีกครั้งหลังจากลงมือฆาตกรรม
ดังนั้นการอภิปรายจึงดำเนินต่อไปโดยมีสมมติฐานที่ว่าคนร้ายไม่ใช่นาเอกิ
Q:ทำไมคนร้ายถึงได้เข้าใจผิดคิดว่าประตูห้องน้ำที่เสียนั้นเป็นประตูที่ถูกล็อคอยู่
A:เพราะคนร้ายคิดว่าที่นั่นเป็นห้องนอนของไมโซโนะ
Q:คนร้ายเข้าไปในห้องที่เกิดเหตุได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ไมโซโนะได้พูดไว้ในตอนขอแลกห้องว่าเธอจะไม่ยอมเปิดประตูให้ใครเป็นอันขาด
A:ไมโซโนะพูดโกหก จริง ๆ แล้วเธอได้เชิญชวนใครบางคนเข้าไปในห้องด้วยตัวเธอเอง หลักฐานก็คือร่องรอยของกระดาษโน้ตที่มีลายมือของผู้ตายที่คิริกิริพบในห้องของนาเอกิ
เนื้อหาคือคำเชิญชวนใครบางคนให้เข้ามาในห้องของเธอเอง
Q:คนร้ายไปหาผู้ตายที่ห้องของนาเอกิได้อย่างไร
A:เพราะป้ายชื่อหน้าห้องถูกสลับโดยตัวผู้ตาย
หลังจากนั้นก็เริ่มการวิเคราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อทั้งเหยื่อและคนร้ายพบกันจากหลักฐานต่าง ๆ ที่มีอยู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เริ่มจากการถกกันเรื่องดาบเคลือบสีทองที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ มีการสงสัยว่าดาบถูกนำมาใช้เพื่อเปิดฉากการโจมตีหรือไม่ แต่เนื่องจากมีการพบร่องรอยของการถูกของมีคมบาดลงบนปลอกดาบ จึงสรุปได้ว่าการโจมตีในครั้งแรกนั้นเริ่มต้นด้วยมีด ผู้ที่ถูกโจมตีไหวตัวทันจึงรีบคว้าเอาดาบทองเล่มนั้นขึ้นมาป้องกันตัว ส่งผลให้คมมีดบาดเข้าใส่ฝักดาบ
หลังจากนั้นก็มีตั้งข้อสันนิษฐานว่าคนร้ายอาจจะบังเอิญไปเจอมีดที่ไมโซโนะซ่อนเอาไว้ จึงใช้มันเข้าจู่โจมใส่เธอ แต่ด้วย
สภาพมือที่สะอาดของไมโซโนะ + การที่น้ำจะไม่ไหลในตอนกลางคืน คนที่สามารถใช้ดาบทองเล่มนั้นได้จึงมีเพียงแค่ตัวคนร้ายเท่านั้น (สีทองของดาบลอกออกมาได้ง่ายมาก) ด้วยเหตุนี้จึงสรุปได้อีกว่าคนที่เป็นฝ่ายใช้มีดลงมือก่อนก็คือตัวไมโซโนะเอง
นอกจากนี้ข้อมือขวาที่บาดเจ็บและมีคราบสีทองติดอยู่ของไมโซโนะยังแสดงให้เห็นว่าหลังจากที่คนร้ายป้องกันตัวเองได้สำเร็จคนร้ายก็ชักดาบออกจากฝักแล้วฟาดลงไปที่ข้อมือของไมโซโนะจนทำให้มีดหลุดออกมาจากมือของเธอ
หลังจากนั้นไมโซโนะจึงหนีเข้าไปหลบอยู่ในห้องน้ำ แต่สุดท้ายก็ถูกคนร้ายบุกเข้าไปแล้วใช้มีดแทงเข้าใส่จนเสียชีวิต
หลักฐานทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าไมโซโนะตั้งใจจะก่อคดีฆาตกรรมแล้วโยนความผิดไปให้นาเอกิซึ่งเป็นเจ้าของห้อง แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ทำพลาดแล้วก็กลายไปเป็นเหยื่อไปซะเอง
ถึงจะเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้
ด้วยเหตุนี้นาเอกิจึงได้ยกประเด็น Dying Message ขึ้นมา
เนื่องจากผู้ตายเขียนในท่านั่งหันหลังให้กำแพงตัวหนังสือที่ออกมาจึงมีสภาพกลับหัวกลับหาง ซึ่งถ้านำมากลับหัวดูแล้วสิ่งที่ปรากฏออกมาก็คือชื่อของคนร้ายนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานอื่นนอกจาก Dying Message ที่สามารถเชื่อมโยงไปที่เลออนได้อีกนั่นก็คือสภาพของเตาเผาขยะ
เนื่องจากห้องถูกปิดล็อคด้วยลูกกรงจึงทำให้บุคคลที่ไม่ใช่เวรเก็บกวาดไม่สามารถเข้าไปใช้งานเตาเผาได้ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ยังมีคนที่สามารถเปิดสวิซเตาเผาที่อยู่ห่างออกไปกว่า 10 เมตรได้ ซึ่งคน ๆ นั้นก็คือสุดยอดนักเบสบอสที่สามารถขว้างบอลได้อย่างแม่นยำนั่นเอง
เลออนใช้ลูกแก้วขว้างใส่ปุ่มเปิดเครื่องเผาหลังจากนั้นก็ปั้นเสื้อเป็นก้อนกลมแล้วขว้างใส่เตาเผา แต่โชคไม่ดีที่ดันมีเศษแขนเสื้อส่วนหนึ่งขาดหลุดออกมาก่อนที่จะไหม้ไปจนหมด
ใช่ไหมหละ? คุวาตะ เลออนคุง
หลักฐานสุดท้ายที่ใช้ในการไล่ต้อนคนร้ายให้มุมก็คือการขอดูกล่องเครื่องมือของคนร้าย เนื่องจากกล่องเครื่องมือในห้องของนาเอกิซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุนั้นไม่มีร่องรอยของการถูกเปิดอยู่ใช้เลย (ในเกมจะระบุไว้ชัดเจนว่ากล่องเครื่องมือจะถูกแจกให้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น และเนื่องจากเลออนไม่รู้ว่าห้อง ๆ นั้นเป็นห้องของนาเอกิจึงได้กลับไปเอากล่องเครื่องมือของตัวเองออกมาใช้)
และสิ่งที่ขัดใจที่สุดก็คือประโยคเด็ดของเซเลสที่ถูกตัดทิ้งไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เลออน: เดี๋ยวก่อนสิ...
เลออน: ที่ฉันต้องทำแบบนี้ก็เพราะว่าฉันไม่มีทางเลือกนี่นา!
เลออน: ที่ฉันทำมันก็เป็นแค่ป้องกันตัวเท่านั้นเองไม่ใช่รึ!? ใช่แล้ว... ฉันก็แค่ป้องกันตัว
เซเลส: สิ่งที่นายทำมันเรียกว่าเป็นการป้องกันตัวตรงไหนไม่ทราบ?
เซเลส: ตอนที่นายงัดประตูห้องน้ำเข้าไปนั่นนายก็ใช้เครื่องมือของตัวเองไม่ใช่รึ?
เซเลส: หลังจากที่เธอหนีเข้าไปในห้องน้ำแล้ว นายก็จงใจกลับไปเอาไขควงที่ห้องของนายมาเพื่อแกะกลอนประตูออกก่อนที่จะใช้มีดเล่มนั้นปลิดชีวิตของเธอ
เซเลส: ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าถ้านายต้องการที่จะหยุดจริง ๆ แล้วหละก็ นายก็มีโอกาสอยู่ถมเถไปนี่นา
เซเลส: แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นนายก็ยังไม่ยอมหยุด
เซเลส: ซึ่งก็แปลว่าจริง ๆ แล้วนายเองก็ตั้งใจที่จะฆ่าเธอไม่ใช่รึ?
[Spoil] Danganronpa – The Animation ตอนที่ 3 เฉพาะในส่วนของ Classroom Trials + รายละเอียดที่ถูกตัดออกจากในเกมคร่าว ๆ
เปิดฉากสืบหาตัวคนร้าย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เริ่มต้นด้วยการถกเถียงเรื่องอาวุธที่ถูกนำมาใช้ในการฆาตกรรม
หลังจากที่ถกกันก็ได้ข้อสรุปว่าอาวุธที่ใช้เป็นมีดทำครัว
จากคำให้การของสองสาวจึงทำให้รู้ว่าคนที่เอามีดออกมาจากในครัวก็คือไมโซโนะผู้เคราะห์ร้ายนั่นเอง
ทุกคนจึงสรุปว่าคนร้ายแย่งมีดมาจากผู้ตายแล้วจึงนำมาใช้เป็นอาวุธสังหาร ด้วยเหตุนี้นาเอกิจึงไม่สามารถใช้เรื่องนี้เป็นข้อแก้ต่างได้(ในเกมนาเอกิดริฟครั้งแรกโดยการบอกว่าตัวเองไม่ได้เข้าไปในครัวจึงไม่มีทางที่จะนำมีดเล่มนั้นออกมาได้)
แต่จู่ ๆ คิริกิริก็เปิดประเด็นใหม่ขึ้นมาว่าพอจะมีหลักฐานแสดงความบริสุทธิให้กับนาเอกิได้อยู่
สิ่ง ๆ นั้นก็คือสภาพของลูกบิดประตูห้องน้ำ
เนื่องจากมีเพียงแค่ประตูห้องน้ำของห้องนอนหญิงเท่านั้นที่จะสามารถทำการล็อคได้ ห้องนอนของนักเรียนชายอย่างนาเอกิจึงไม่สามารถล็อคได้ แต่เนื่องจากสภาพประตูห้องน้ำที่ไม่ดีจึงทำให้คนร้ายเข้าใจผิดว่าประตูห้องน้ำถูกล็อคอยู่ คนร้ายจึงใช้เครื่องมือช่างทำการงัดแงะเข้าไปก่อนที่จะลงมือสังหารผู้ตายภายในห้องน้ำ
นอกจากนั้นในเกมยังมีหลักฐานอีกอย่างหนึ่งที่สนับสนุนว่านาเอกิไม่ใช่คนร้าย[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดังนั้นการอภิปรายจึงดำเนินต่อไปโดยมีสมมติฐานที่ว่าคนร้ายไม่ใช่นาเอกิ
Q:ทำไมคนร้ายถึงได้เข้าใจผิดคิดว่าประตูห้องน้ำที่เสียนั้นเป็นประตูที่ถูกล็อคอยู่
A:เพราะคนร้ายคิดว่าที่นั่นเป็นห้องนอนของไมโซโนะ
Q:คนร้ายเข้าไปในห้องที่เกิดเหตุได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ไมโซโนะได้พูดไว้ในตอนขอแลกห้องว่าเธอจะไม่ยอมเปิดประตูให้ใครเป็นอันขาด
A:ไมโซโนะพูดโกหก จริง ๆ แล้วเธอได้เชิญชวนใครบางคนเข้าไปในห้องด้วยตัวเธอเอง หลักฐานก็คือร่องรอยของกระดาษโน้ตที่มีลายมือของผู้ตายที่คิริกิริพบในห้องของนาเอกิ
เนื้อหาคือคำเชิญชวนใครบางคนให้เข้ามาในห้องของเธอเอง
Q:คนร้ายไปหาผู้ตายที่ห้องของนาเอกิได้อย่างไร
A:เพราะป้ายชื่อหน้าห้องถูกสลับโดยตัวผู้ตาย
หลังจากนั้นก็เริ่มการวิเคราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อทั้งเหยื่อและคนร้ายพบกันจากหลักฐานต่าง ๆ ที่มีอยู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลักฐานทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าไมโซโนะตั้งใจจะก่อคดีฆาตกรรมแล้วโยนความผิดไปให้นาเอกิซึ่งเป็นเจ้าของห้อง แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ทำพลาดแล้วก็กลายไปเป็นเหยื่อไปซะเอง
ถึงจะเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้
ด้วยเหตุนี้นาเอกิจึงได้ยกประเด็น Dying Message ขึ้นมา
เนื่องจากผู้ตายเขียนในท่านั่งหันหลังให้กำแพงตัวหนังสือที่ออกมาจึงมีสภาพกลับหัวกลับหาง ซึ่งถ้านำมากลับหัวดูแล้วสิ่งที่ปรากฏออกมาก็คือชื่อของคนร้ายนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานอื่นนอกจาก Dying Message ที่สามารถเชื่อมโยงไปที่เลออนได้อีกนั่นก็คือสภาพของเตาเผาขยะ
เนื่องจากห้องถูกปิดล็อคด้วยลูกกรงจึงทำให้บุคคลที่ไม่ใช่เวรเก็บกวาดไม่สามารถเข้าไปใช้งานเตาเผาได้ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ยังมีคนที่สามารถเปิดสวิซเตาเผาที่อยู่ห่างออกไปกว่า 10 เมตรได้ ซึ่งคน ๆ นั้นก็คือสุดยอดนักเบสบอสที่สามารถขว้างบอลได้อย่างแม่นยำนั่นเอง
เลออนใช้ลูกแก้วขว้างใส่ปุ่มเปิดเครื่องเผาหลังจากนั้นก็ปั้นเสื้อเป็นก้อนกลมแล้วขว้างใส่เตาเผา แต่โชคไม่ดีที่ดันมีเศษแขนเสื้อส่วนหนึ่งขาดหลุดออกมาก่อนที่จะไหม้ไปจนหมด
ใช่ไหมหละ? คุวาตะ เลออนคุง
หลักฐานสุดท้ายที่ใช้ในการไล่ต้อนคนร้ายให้มุมก็คือการขอดูกล่องเครื่องมือของคนร้าย เนื่องจากกล่องเครื่องมือในห้องของนาเอกิซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุนั้นไม่มีร่องรอยของการถูกเปิดอยู่ใช้เลย (ในเกมจะระบุไว้ชัดเจนว่ากล่องเครื่องมือจะถูกแจกให้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น และเนื่องจากเลออนไม่รู้ว่าห้อง ๆ นั้นเป็นห้องของนาเอกิจึงได้กลับไปเอากล่องเครื่องมือของตัวเองออกมาใช้)
และสิ่งที่ขัดใจที่สุดก็คือประโยคเด็ดของเซเลสที่ถูกตัดทิ้งไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้