นางสาว ปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง วันอาสาฬหบูชา และบุคคลควรเป็นต้นแบบด้านคุณธรรมในสายตาประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 17 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สิงห์บุรี สระแก้ว พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี พิจิตร เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ หนองคาย กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ อุบลราชธานี นครราชสีมา พัทลุง สงขลา และนครศรีธรรมราช จำนวนทั้งสิ้น 2,102 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 14-17 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น ที่สุ่มเลือกจังหวัด อำเภอ ตำบล ชุมชน ครัวเรือน และประชาชนที่ตอบแบบสอบถามระดับครัวเรือน พบว่า
กลุ่มตัวอย่างกว่า 2 ใน 3 หรือร้อยละ 66.4 ทราบและสามารถระบุได้ถูกต้องว่าวันอาสาฬหบูชาที่จะมาถึงในปีนี้ตรงกับวันที่ 22 กรกฎาคม 2556 ในขณะที่ร้อยละ 33.6 ไม่ทราบ
เมื่อสอบถามถึงความสำคัญของวันอาสาฬหบูชา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.2 ไม่ทราบว่าวันอาสาฬหบูชามีความสำคัญอย่างไรในพระพุทธศาสนา ใขณะที่ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 25.8 ทราบและสามารถระบุได้ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างระบุความดีที่ตั้งใจจะทำเนื่องในวันอาสาฬหบูชา อันดับแรก ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.3 ระบุทำบุญ ตักบาตร ร้อยละ 62.4 ระบุไปทำบุญที่วัด ร้อยละ 40.4 ระบุไปเวียนเทียน ร้อยละ 35.6 ระบุสวดมนต์ ฟังธรรมเทศนา ร้อยละ 35.2 ระบุรักษาศีล ร้อยละ 28.9 ระบุนั่งสมาธิ และรอง ๆ ลงมาระบุดูแลเอาใจใส่คนในครอบครัว ปล่อยสัตว์ ทำประโยชน์ต่อสังคม เช่น ปลูกต้นไม้ ทำความดีในที่สาธารณะ บริจาคสิ่งของ มีความเมตตากรุณา มีน้ำใจ ให้อภัยผู้อื่น เป็นต้น
ที่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.2 คิดว่าคุณธรรม จริยธรรมในสังคมไทยนั้นเสื่อมลง ในขณะที่ร้อยละ 17.2 คิดว่าเหมือนเดิม และมีเพียงร้อยละ 7.6 คิดว่าดีขึ้น
ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.1 ระบุครอบครัวควรเป็นบุคคลหรือสถาบันทางสังคมที่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม รองลงมา ร้อยละ 63.9 ระบุผู้เผยแผ่ศาสนา เช่น พระสงฆ์ แม่ชี นักบวช เป็นต้น ร้อยละ 43.8 ระบุโรงเรียน/ที่ทำงาน ร้อยละ 43.1 ระบุผู้ใหญ่ในสังคม ร้อยละ 39.4 ระบุนักการเมือง ร้อยละ 38.7 ระบุข้าราชการ ร้อยละ 38.0 ระบุชุมชนที่พักอาศัย และร้อยละ 37.0 ระบุอื่นๆ อาทิ ผู้ที่มีอำนาจในการร่างและบังคับใช้กฎหมาย ผู้นำชุมชน ตามลำดับ
เมื่อสอบถามถึงนักการเมืองที่ควรเป็นต้นแบบในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า อันดับแรก ร้อยละ 41.7 ระบุ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อันดับสอง ร้อยละ 31.6 ระบุ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน และอันดับสาม ร้อยละ 18.4 ระบุ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามลำดับ
สำหรับบุคคลที่เป็นข้าราชการที่ควรเป็นต้นแบบในเรื่องคุณธรรม จริยธรรมในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า อันดับแรก ร้อยละ 44.8 ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก อันดับสอง ร้อยละ 27.8 ระบุ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) อันดับสาม ร้อยละ 12.3 ระบุ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอันดับสี่ ร้อยละ 11.0 ระบุ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ตามลำดับ
นอกจากนี้ผู้ใหญ่ในสังคมที่กลุ่มตัวอย่างคิดว่าควรเป็นต้นแบบในเรื่องคุณธรรม จริยธรรมในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า อันดับแรก ร้อยละ 41.2 ระบุ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อันดับสอง ร้อยละ 23.0 ระบุ นายชวน หลีกภัย อันดับสาม ร้อยละ 15.1 ระบุ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อันดับสี่ ร้อยละ 7.9 ระบุนายอานันท์ ปันยารชุน และอันดับห้า ร้อยละ 7.1 ได้แก่ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล
นางสาวปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ทางด้านคุณธรรม จริยธรรมที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่มองว่าคุณธรรม จริยธรรมในสังคมไทย และความศรัทธาในกลุ่มคนชนชั้นนำในสถาบันต่างๆ นั้นเสื่อมลง รัฐบาลจึงต้องคำนึงถึงการให้ความสำคัญในปัญหาสังคม คุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย เพราะการพัฒนาประเทศต้องมีหลายปัจจัยที่ต้องขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน ประเทศไทยอาจจะสามารถพัฒนาไปได้ไกลและดีกว่านี้หากรัฐบาลและฝ่ายการเมืองแบ่งเบาเวลาจากการเล่นเกมทางการเมือง หันหน้าเข้าหากัน ร่วมกันพัฒนาประเทศและเยียวยาความรู้สึกของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้
ดังนั้นเนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันอาสาฬหบูชานี้ รัฐบาล และหน่วยงานต่างๆ ในทุกภาคส่วนควรส่งเสริมให้คนไทยเข้าวัด ทำบุญ สร้างความดี และที่สำคัญต้องประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชน อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแค่เฉพาะในวันสำคัญเท่านั้น แต่ควรร่วมกันสร้างทุกวันให้เป็น “วันแห่งการทำความดี”
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 47.1 เป็นชาย ร้อยละ 52.9 เป็นหญิง ตัวอย่างร้อยละ 3.6 อายุน้อยกว่า 20 ปี ร้อยละ 20.8 อายุระหว่าง 20–29 ปี ร้อยละ 22.8 อายุระหว่าง 30–39 ปี ร้อยละ 19.7 อายุระหว่าง 40–49 ปี และ ร้อยละ 33.1 อายุ 50 ปีขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 64.8 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 30.1 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ในขณะที่ร้อยละ 5.1 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี ตัวอย่างร้อยละ 33.4 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป ร้อยละ 31.2 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 9.8 ระบุเป็นพนักงานเอกชน ร้อยละ 8.4 ระบุข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 7.0 ระบุเป็นนักเรียนนักศึกษา ร้อยละ 8.2 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ ร้อยละ 2.0 ว่างงาน/ไม่ได้ประกอบอาชีพ มาจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1374116583&grpid=00&catid=&subcatid=
งานนี้ ปชป.จะว่าอย่างไรครัย????
@@@นายกปูต้นเเบบนักการเมืองที่มี คุณธรรม จริยธรรม@@@
กลุ่มตัวอย่างกว่า 2 ใน 3 หรือร้อยละ 66.4 ทราบและสามารถระบุได้ถูกต้องว่าวันอาสาฬหบูชาที่จะมาถึงในปีนี้ตรงกับวันที่ 22 กรกฎาคม 2556 ในขณะที่ร้อยละ 33.6 ไม่ทราบ
เมื่อสอบถามถึงความสำคัญของวันอาสาฬหบูชา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.2 ไม่ทราบว่าวันอาสาฬหบูชามีความสำคัญอย่างไรในพระพุทธศาสนา ใขณะที่ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 25.8 ทราบและสามารถระบุได้ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างระบุความดีที่ตั้งใจจะทำเนื่องในวันอาสาฬหบูชา อันดับแรก ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.3 ระบุทำบุญ ตักบาตร ร้อยละ 62.4 ระบุไปทำบุญที่วัด ร้อยละ 40.4 ระบุไปเวียนเทียน ร้อยละ 35.6 ระบุสวดมนต์ ฟังธรรมเทศนา ร้อยละ 35.2 ระบุรักษาศีล ร้อยละ 28.9 ระบุนั่งสมาธิ และรอง ๆ ลงมาระบุดูแลเอาใจใส่คนในครอบครัว ปล่อยสัตว์ ทำประโยชน์ต่อสังคม เช่น ปลูกต้นไม้ ทำความดีในที่สาธารณะ บริจาคสิ่งของ มีความเมตตากรุณา มีน้ำใจ ให้อภัยผู้อื่น เป็นต้น
ที่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.2 คิดว่าคุณธรรม จริยธรรมในสังคมไทยนั้นเสื่อมลง ในขณะที่ร้อยละ 17.2 คิดว่าเหมือนเดิม และมีเพียงร้อยละ 7.6 คิดว่าดีขึ้น
ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.1 ระบุครอบครัวควรเป็นบุคคลหรือสถาบันทางสังคมที่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม รองลงมา ร้อยละ 63.9 ระบุผู้เผยแผ่ศาสนา เช่น พระสงฆ์ แม่ชี นักบวช เป็นต้น ร้อยละ 43.8 ระบุโรงเรียน/ที่ทำงาน ร้อยละ 43.1 ระบุผู้ใหญ่ในสังคม ร้อยละ 39.4 ระบุนักการเมือง ร้อยละ 38.7 ระบุข้าราชการ ร้อยละ 38.0 ระบุชุมชนที่พักอาศัย และร้อยละ 37.0 ระบุอื่นๆ อาทิ ผู้ที่มีอำนาจในการร่างและบังคับใช้กฎหมาย ผู้นำชุมชน ตามลำดับ
เมื่อสอบถามถึงนักการเมืองที่ควรเป็นต้นแบบในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า อันดับแรก ร้อยละ 41.7 ระบุ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อันดับสอง ร้อยละ 31.6 ระบุ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน และอันดับสาม ร้อยละ 18.4 ระบุ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามลำดับ
สำหรับบุคคลที่เป็นข้าราชการที่ควรเป็นต้นแบบในเรื่องคุณธรรม จริยธรรมในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า อันดับแรก ร้อยละ 44.8 ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก อันดับสอง ร้อยละ 27.8 ระบุ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) อันดับสาม ร้อยละ 12.3 ระบุ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอันดับสี่ ร้อยละ 11.0 ระบุ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ตามลำดับ
นอกจากนี้ผู้ใหญ่ในสังคมที่กลุ่มตัวอย่างคิดว่าควรเป็นต้นแบบในเรื่องคุณธรรม จริยธรรมในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า อันดับแรก ร้อยละ 41.2 ระบุ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อันดับสอง ร้อยละ 23.0 ระบุ นายชวน หลีกภัย อันดับสาม ร้อยละ 15.1 ระบุ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อันดับสี่ ร้อยละ 7.9 ระบุนายอานันท์ ปันยารชุน และอันดับห้า ร้อยละ 7.1 ได้แก่ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล
นางสาวปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ทางด้านคุณธรรม จริยธรรมที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่มองว่าคุณธรรม จริยธรรมในสังคมไทย และความศรัทธาในกลุ่มคนชนชั้นนำในสถาบันต่างๆ นั้นเสื่อมลง รัฐบาลจึงต้องคำนึงถึงการให้ความสำคัญในปัญหาสังคม คุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย เพราะการพัฒนาประเทศต้องมีหลายปัจจัยที่ต้องขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน ประเทศไทยอาจจะสามารถพัฒนาไปได้ไกลและดีกว่านี้หากรัฐบาลและฝ่ายการเมืองแบ่งเบาเวลาจากการเล่นเกมทางการเมือง หันหน้าเข้าหากัน ร่วมกันพัฒนาประเทศและเยียวยาความรู้สึกของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้
ดังนั้นเนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันอาสาฬหบูชานี้ รัฐบาล และหน่วยงานต่างๆ ในทุกภาคส่วนควรส่งเสริมให้คนไทยเข้าวัด ทำบุญ สร้างความดี และที่สำคัญต้องประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชน อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแค่เฉพาะในวันสำคัญเท่านั้น แต่ควรร่วมกันสร้างทุกวันให้เป็น “วันแห่งการทำความดี”
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 47.1 เป็นชาย ร้อยละ 52.9 เป็นหญิง ตัวอย่างร้อยละ 3.6 อายุน้อยกว่า 20 ปี ร้อยละ 20.8 อายุระหว่าง 20–29 ปี ร้อยละ 22.8 อายุระหว่าง 30–39 ปี ร้อยละ 19.7 อายุระหว่าง 40–49 ปี และ ร้อยละ 33.1 อายุ 50 ปีขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 64.8 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 30.1 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ในขณะที่ร้อยละ 5.1 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี ตัวอย่างร้อยละ 33.4 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป ร้อยละ 31.2 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 9.8 ระบุเป็นพนักงานเอกชน ร้อยละ 8.4 ระบุข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 7.0 ระบุเป็นนักเรียนนักศึกษา ร้อยละ 8.2 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ ร้อยละ 2.0 ว่างงาน/ไม่ได้ประกอบอาชีพ มาจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1374116583&grpid=00&catid=&subcatid=
งานนี้ ปชป.จะว่าอย่างไรครัย????