“คนเลว” ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนก็เสียชาติเกิด
จะอยู่หรือตายไม่มีใครอยากสนใจใคร่รู้
<
<
<
ความจริงของเมืองไทยอีกทางหนึ่งก็สามารถดูได้จากเอแบคโพลล์ล่าสุด...
เราจะเห็นได้ถึงความกลับหัวกลับหาง
กลับตาลปัตรของสังคมไทยในยุคกินข้าวรมยา กินหญ้าเรืองไกร
เอแบค โพลล์เขาถามหลายเรื่องเกี่ยวกับวันอาสฬหบูชา ความดี และคนดี
ผลออกมาน่าใจหายว่า วิธีคิดของคนบ้านเรา เหมือนกินยาคุมย้อนศร
แล้วออกไปแข่งกันมีตึกสูง กับรถสวย
“เรื่องความสำคัญของวันอาสาฬหบูชา” พบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 74.2
ไม่ทราบว่าวันอาสาฬหบูชามีความสำคัญอย่างไรในพระพุทธศาสนา มีเพียงร้อยละ 25.8
เท่านั้นที่ทราบและสามารถระบุได้ถูกต้อง…มิน่าเรื่อง “สมีคำ” ถึงมีทุกยุคทุกสมัย
“ความดีที่ตั้งใจจะทำเนื่องในวันอาสาฬหบูชา” อันดับแรกร้อยละ 84.3
ระบุทำบุญ ตักบาตร ร้อยละ 62.4 ระบุไปทำบุญที่วัด ร้อยละ 40.4 ระบุไปเวียนเทียน
ร้อยละ 35.6 ระบุสวดมนต์ ฟังธรรมเทศนา ร้อยละ 35.2 ระบุรักษาศีล ร้อยละ 28.9
ระบุนั่งสมาธิ และรองๆ ลงมาระบุดูแลเอาใจใส่คนในครอบครัว ปล่อยสัตว์
ทำประโยชน์ต่อสังคม เช่น ปลูกต้นไม้ ทำความดีในที่สาธารณะ บริจาคสิ่งของ
มีความเมตตากรุณา มีน้ำใจ ให้อภัยผู้อื่น เป็นต้น
อันนี้ค่อยยังชั่ว...ชั่วแต่กลัวว่าจะไปเจอพระปลอม
อมน้ำตาลหวานลิ้นมากรีดกระเป๋าเราเสียนะสิ
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.2
คิดว่าคุณธรรม จริยธรรมในสังคมไทยนั้นเสื่อมลง ในขณะที่ร้อยละ 17.2
คิดว่าเหมือนเดิม และมีเพียงร้อยละ 7.6 คิดว่าดีขึ้น
ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.1 ระบุ
ครอบครัวควรเป็นบุคคลหรือสถาบันทางสังคมที่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องคุณธรรม
จริยธรรม รองลงมาร้อยละ 63.9 ระบุผู้เผยแผ่ศาสนา เช่น พระสงฆ์ แม่ชี นักบวช
ร้อยละ 43.8 ระบุโรงเรียน/ที่ทำงาน ร้อยละ 43.1 ระบุผู้ใหญ่ในสังคม ร้อยละ 39.4
ระบุนักการเมือง ร้อยละ 38.7 ระบุข้าราชการ ร้อยละ 38.0 ระบุชุมชนที่พักอาศัย
และร้อยละ 37.0 ระบุอื่นๆ อาทิ ผู้ที่มีอำนาจในการร่างและบังคับใช้กฎหมาย
ผู้นำชุมชน ตามลำดับ
มาถึงหัวข้อที่น่าสนใจมาก...เมื่อสอบถามถึง “นักการเมือง”
ที่ควรเป็นต้นแบบเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า “อันดับแรก
ร้อยละ 41.7 ระบุนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม” อันดับสอง
ร้อยละ 31.6 ระบุนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน และอันดับสาม ร้อยละ
18.4 ระบุ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกฯและรมว.เกษตรและสหกรณ์ ตามลำดับ
...เห็นหัวข้อและผลที่ออกมา บอกได้เลยว่ามาจากอิทธิพลของการใช้สื่อชัดๆ การโฆษณา
ประชาสัมพันธ์ถี่ยิบ ยิงสลุตด้วยการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี
ทำให้ยิ่งลักษณ์ได้ครองตำแหน่ง นักการเมืองต้นแบบแห่งจริยธรรม คุณธรรม
ทิ้งห่างหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ขาดลอย
ไม่เรือหายหนนี้ก็ไม่รู้ว่าสังคมไทยจะเรือหายเมื่อไร
แต่อย่างว่าคำตอบนี้มาจากคำตอบโน้น ถ้าลองคุณธรรมเราเสื่อม
เราจะไม่มีทางเลี่ยงยิ่งลักษณ์ได้เลย คนแบบไหนก็ชอบคนแบบเดียวกัน
ยุคยิ่งลักษณ์เหมือนกับที่เขาพูดกันว่า “ยามเรืองรุ่งพุ่งเปรี้ยงดุจเสียงฟ้า
แม้เทวายังสยบหลบทางให้ จะหยิบดาวเดือนชมก็สมใจ คงร้องให้วันหนึ่งแน่
คราวแพ้มี”...ก็ได้แต่สาปแช่งปากเปียกปากแฉะไปวันๆ และหวังลมๆแล้งๆว่าสักวันหนึ่ง
เราจะหลุดพ้นจากซ่องโจรของพี่น้องคู่นี้เสียที
สำหรับบุคคลที่เป็น “ข้าราชการ” ที่ควรเป็นต้นแบบในเรื่องคุณธรรม
จริยธรรมในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า อันดับแรก ร้อยละ 44.8 ระบุ พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พออันดับสอง ร้อยละ 27.8 ระบุ นายธาริต เพ็งดิษฐ์
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) อันดับสาม ร้อยละ 12.3 ระบุ พล.ต.อ.อดุลย์
แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอันดับสี่ ร้อยละ 11.0 ระบุ นายอารีพงศ์
ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ตามลำดับ...หัวข้อนี้อ่านแล้วอึ้งเลย...คน
“สันดานธาริต”เนี่ยนะเป็นข้าราชต้นแบบในในสายตาคนที่เอแบคโพลล์ไปสำรวจ
อย่างนี้บอกได้เลยว่า คนวันนี้ได้ดีเพราะเลียพี่ทักษิณ
นอกจากนี้ “ผู้ใหญ่ในสังคม”
ที่กลุ่มตัวอย่างคิดว่าควรเป็นต้นแบบในเรื่องคุณธรรม จริยธรรมในสถานการณ์ปัจจุบัน
พบว่า อันดับแรก ร้อยละ 41.2 ระบุ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อันดับสอง ร้อยละ 23.0
ระบุ นายชวน หลีกภัย อันดับสาม
ร้อยละ 15.1 ระบุ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อันดับสี่
ร้อยละ 7.9 ระบุนายอานันท์ ปันยารชุน และอันดับห้า ร้อยละ 7.1 ได้แก่ ดร.สุเมธ
ตันติเวชกุล…หัวข้อนี้ก็เช่นกันทะๆนะ เมื่อนักโทษหนีคดี คนโกง ทรราช
หัวหน้ากองโจรเสื้อแดง บัญชาการเผาบ้านเผาเมือง
เจ้าแห่งการทุจริตคอรัปชั่นกลับมีคนมองเห็นค่ามากกว่า ท่านอดีตนายกรัฐมนตรี อานันท์
ปันยารชุน หรือ คนดีของแผ่นดินอย่า งดร สุเมธ ตันติเวชกุล ...
การทุจริตคอรัปชั่นเป็นหัวใจสำคัญของปัญหาชาติ ทักษิณรู้และเห็น
เขาเอาผลประโยชน์มาเจือจานหยิบยื่นเพื่อหาพวก
เลี้ยงพลพรรคให้เชื่องให้เสพประโยชน์จนเคยชินและติดงอม
ถ้าวันนี้ไม่จัดการแก้ที่จุดนี้ อย่าหวังจะแก้ไขอะไรได้
และภาคประชาชนต้องมีส่วนสำคัญ เราต้องต่อต้านไม่เว้นหน้าอินทร์หน้าพรหม
ไม่ผ่อนปรนให้ใครหน้าไหนทั้งสิ้น
เงินภาษีของเราต้องถูกนำไปพัฒนาประเทศเต็มเม็ดเต็มหน่วย เรามีคุกไว้ขังคนผิด
ไม่ใช่ขังหมากับคนจน
<
<
<
สะท้อนความจริงของความเป็นอยู่คือของประเทศไทยยุคคนพากันกราบhereและเชิดชู
ขึ้นมาเป็นใหญ่อย่างหน้ามืดตามัว.
อัญชะลี ไพรีรัก
http://www.naewna.com/politic/columnist/7712
ตามไปอ่านเต็มๆจาก link กันได้ ไม่ต่างจากที่ "หมัดเหล็ก" เขียนไว้ในกระทู้ที่แล้ว
นี่คือจาก "แนวหน้า" ด่าหยาบคายเข้าไว้ สะใจคนเขียน ทำให้สังคมต่ำทราม
อย่างที่ตัวเอง ต้องการ เขียนแบบนี้ ไม่ง่ายนะ
แล้วคะแนน นายก ฯ จะหายไปบ้างไหมเนี่ยะ หรือแนวหน้า คนจะอ่านน้อยลงไปอีก
16บวชผ้าเหลืองก็เสียหาย สึกผ้าลายก็เปลือง เล่าหลังไมค์ อัญชะลี ไพรีรัก แนวหน้าออนไลน์
จะอยู่หรือตายไม่มีใครอยากสนใจใคร่รู้
<
<
<
ความจริงของเมืองไทยอีกทางหนึ่งก็สามารถดูได้จากเอแบคโพลล์ล่าสุด...
เราจะเห็นได้ถึงความกลับหัวกลับหาง
กลับตาลปัตรของสังคมไทยในยุคกินข้าวรมยา กินหญ้าเรืองไกร
เอแบค โพลล์เขาถามหลายเรื่องเกี่ยวกับวันอาสฬหบูชา ความดี และคนดี
ผลออกมาน่าใจหายว่า วิธีคิดของคนบ้านเรา เหมือนกินยาคุมย้อนศร
แล้วออกไปแข่งกันมีตึกสูง กับรถสวย
“เรื่องความสำคัญของวันอาสาฬหบูชา” พบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 74.2
ไม่ทราบว่าวันอาสาฬหบูชามีความสำคัญอย่างไรในพระพุทธศาสนา มีเพียงร้อยละ 25.8
เท่านั้นที่ทราบและสามารถระบุได้ถูกต้อง…มิน่าเรื่อง “สมีคำ” ถึงมีทุกยุคทุกสมัย
“ความดีที่ตั้งใจจะทำเนื่องในวันอาสาฬหบูชา” อันดับแรกร้อยละ 84.3
ระบุทำบุญ ตักบาตร ร้อยละ 62.4 ระบุไปทำบุญที่วัด ร้อยละ 40.4 ระบุไปเวียนเทียน
ร้อยละ 35.6 ระบุสวดมนต์ ฟังธรรมเทศนา ร้อยละ 35.2 ระบุรักษาศีล ร้อยละ 28.9
ระบุนั่งสมาธิ และรองๆ ลงมาระบุดูแลเอาใจใส่คนในครอบครัว ปล่อยสัตว์
ทำประโยชน์ต่อสังคม เช่น ปลูกต้นไม้ ทำความดีในที่สาธารณะ บริจาคสิ่งของ
มีความเมตตากรุณา มีน้ำใจ ให้อภัยผู้อื่น เป็นต้น
อันนี้ค่อยยังชั่ว...ชั่วแต่กลัวว่าจะไปเจอพระปลอม
อมน้ำตาลหวานลิ้นมากรีดกระเป๋าเราเสียนะสิ
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.2
คิดว่าคุณธรรม จริยธรรมในสังคมไทยนั้นเสื่อมลง ในขณะที่ร้อยละ 17.2
คิดว่าเหมือนเดิม และมีเพียงร้อยละ 7.6 คิดว่าดีขึ้น
ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.1 ระบุ
ครอบครัวควรเป็นบุคคลหรือสถาบันทางสังคมที่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องคุณธรรม
จริยธรรม รองลงมาร้อยละ 63.9 ระบุผู้เผยแผ่ศาสนา เช่น พระสงฆ์ แม่ชี นักบวช
ร้อยละ 43.8 ระบุโรงเรียน/ที่ทำงาน ร้อยละ 43.1 ระบุผู้ใหญ่ในสังคม ร้อยละ 39.4
ระบุนักการเมือง ร้อยละ 38.7 ระบุข้าราชการ ร้อยละ 38.0 ระบุชุมชนที่พักอาศัย
และร้อยละ 37.0 ระบุอื่นๆ อาทิ ผู้ที่มีอำนาจในการร่างและบังคับใช้กฎหมาย
ผู้นำชุมชน ตามลำดับ
มาถึงหัวข้อที่น่าสนใจมาก...เมื่อสอบถามถึง “นักการเมือง”
ที่ควรเป็นต้นแบบเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า “อันดับแรก
ร้อยละ 41.7 ระบุนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม” อันดับสอง
ร้อยละ 31.6 ระบุนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน และอันดับสาม ร้อยละ
18.4 ระบุ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกฯและรมว.เกษตรและสหกรณ์ ตามลำดับ
...เห็นหัวข้อและผลที่ออกมา บอกได้เลยว่ามาจากอิทธิพลของการใช้สื่อชัดๆ การโฆษณา
ประชาสัมพันธ์ถี่ยิบ ยิงสลุตด้วยการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี
ทำให้ยิ่งลักษณ์ได้ครองตำแหน่ง นักการเมืองต้นแบบแห่งจริยธรรม คุณธรรม
ทิ้งห่างหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ขาดลอย
ไม่เรือหายหนนี้ก็ไม่รู้ว่าสังคมไทยจะเรือหายเมื่อไร
แต่อย่างว่าคำตอบนี้มาจากคำตอบโน้น ถ้าลองคุณธรรมเราเสื่อม
เราจะไม่มีทางเลี่ยงยิ่งลักษณ์ได้เลย คนแบบไหนก็ชอบคนแบบเดียวกัน
ยุคยิ่งลักษณ์เหมือนกับที่เขาพูดกันว่า “ยามเรืองรุ่งพุ่งเปรี้ยงดุจเสียงฟ้า
แม้เทวายังสยบหลบทางให้ จะหยิบดาวเดือนชมก็สมใจ คงร้องให้วันหนึ่งแน่
คราวแพ้มี”...ก็ได้แต่สาปแช่งปากเปียกปากแฉะไปวันๆ และหวังลมๆแล้งๆว่าสักวันหนึ่ง
เราจะหลุดพ้นจากซ่องโจรของพี่น้องคู่นี้เสียที
สำหรับบุคคลที่เป็น “ข้าราชการ” ที่ควรเป็นต้นแบบในเรื่องคุณธรรม
จริยธรรมในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า อันดับแรก ร้อยละ 44.8 ระบุ พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พออันดับสอง ร้อยละ 27.8 ระบุ นายธาริต เพ็งดิษฐ์
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) อันดับสาม ร้อยละ 12.3 ระบุ พล.ต.อ.อดุลย์
แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอันดับสี่ ร้อยละ 11.0 ระบุ นายอารีพงศ์
ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ตามลำดับ...หัวข้อนี้อ่านแล้วอึ้งเลย...คน
“สันดานธาริต”เนี่ยนะเป็นข้าราชต้นแบบในในสายตาคนที่เอแบคโพลล์ไปสำรวจ
อย่างนี้บอกได้เลยว่า คนวันนี้ได้ดีเพราะเลียพี่ทักษิณ
นอกจากนี้ “ผู้ใหญ่ในสังคม”
ที่กลุ่มตัวอย่างคิดว่าควรเป็นต้นแบบในเรื่องคุณธรรม จริยธรรมในสถานการณ์ปัจจุบัน
พบว่า อันดับแรก ร้อยละ 41.2 ระบุ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อันดับสอง ร้อยละ 23.0
ระบุ นายชวน หลีกภัย อันดับสาม ร้อยละ 15.1 ระบุ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อันดับสี่
ร้อยละ 7.9 ระบุนายอานันท์ ปันยารชุน และอันดับห้า ร้อยละ 7.1 ได้แก่ ดร.สุเมธ
ตันติเวชกุล…หัวข้อนี้ก็เช่นกันทะๆนะ เมื่อนักโทษหนีคดี คนโกง ทรราช
หัวหน้ากองโจรเสื้อแดง บัญชาการเผาบ้านเผาเมือง
เจ้าแห่งการทุจริตคอรัปชั่นกลับมีคนมองเห็นค่ามากกว่า ท่านอดีตนายกรัฐมนตรี อานันท์
ปันยารชุน หรือ คนดีของแผ่นดินอย่า งดร สุเมธ ตันติเวชกุล ...
การทุจริตคอรัปชั่นเป็นหัวใจสำคัญของปัญหาชาติ ทักษิณรู้และเห็น
เขาเอาผลประโยชน์มาเจือจานหยิบยื่นเพื่อหาพวก
เลี้ยงพลพรรคให้เชื่องให้เสพประโยชน์จนเคยชินและติดงอม
ถ้าวันนี้ไม่จัดการแก้ที่จุดนี้ อย่าหวังจะแก้ไขอะไรได้
และภาคประชาชนต้องมีส่วนสำคัญ เราต้องต่อต้านไม่เว้นหน้าอินทร์หน้าพรหม
ไม่ผ่อนปรนให้ใครหน้าไหนทั้งสิ้น
เงินภาษีของเราต้องถูกนำไปพัฒนาประเทศเต็มเม็ดเต็มหน่วย เรามีคุกไว้ขังคนผิด
ไม่ใช่ขังหมากับคนจน
<
<
<
สะท้อนความจริงของความเป็นอยู่คือของประเทศไทยยุคคนพากันกราบhereและเชิดชู
ขึ้นมาเป็นใหญ่อย่างหน้ามืดตามัว.
อัญชะลี ไพรีรัก
http://www.naewna.com/politic/columnist/7712
ตามไปอ่านเต็มๆจาก link กันได้ ไม่ต่างจากที่ "หมัดเหล็ก" เขียนไว้ในกระทู้ที่แล้ว
นี่คือจาก "แนวหน้า" ด่าหยาบคายเข้าไว้ สะใจคนเขียน ทำให้สังคมต่ำทราม
อย่างที่ตัวเอง ต้องการ เขียนแบบนี้ ไม่ง่ายนะ
แล้วคะแนน นายก ฯ จะหายไปบ้างไหมเนี่ยะ หรือแนวหน้า คนจะอ่านน้อยลงไปอีก