ทุกคนใช้เวลาในการทานข้าวกันอยู่พักใหญ่กับบรรยากาศในการทานข้าวที่เปลี่ยมไปด้วยความอบอุ่นทั้งจากเจ้าของโฮมสเตย์และแขกทุกคน ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานราวกับว่ารู้จักกันมานานและเมื่อทานเสร็จแขกที่มาพักก็เริ่มขอตัวออกไปเดินเล่นย่อยอาหารริมฝั่งโขงบางคนก็ไปเป็นคู่บางคนก็ไปคนเดียวโดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีอันตรายใดๆเพราะลุงชาติบอกว่าที่นี่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็น ส่วนผู้ชายบางคนก็นั่งตั้งวงดื่มสังสรรค์กันต่อที่แคร่ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีลุงชาติและมนัสด้วย ทางด้านป้าเพ็ญและดุจดาวก็ขอตัวทำหน้าที่เก็บถ้วยจานไปล้าง ส่วนมังกรก็ขอตัวไปนั่งเล่นตรงแคร่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโฮมสเตย์ที่อยู่ริมแม่น้ำพอดี มังกรนั่งมองแม่น้ำโขงที่กว้างใหญ่หมู่ดาวนับร้อยพันที่โอบกอดหุบเขาและสายน้ำนี่ไว้มันทำให้จิตใจของเขารู้สึกสงบและเป็นสุขมาก ตลอดสี่ปีที่ผ่านมาชีวิตของเขาเหมือนมีเมฆหมอกปรกคลุมอยู่ตลอดเวลาจนทำให้เขาไม่สามารถที่จะมองเห็นหนทางที่เขาจะก้าวเดินไปข้างหน้าเขาได้แต่หยุดนิ่งอยู่ที่เดิมที่ที่เขาเสียคนรักไปและมักจะหันหลังกลับมามองอดีตอยู่เสมอๆโดยไม่เคยคิดที่จะมองหาอนาคตและก้าวต่อไปข้างหน้า จนกระทั่งวันนี้วันที่เขาได้มาเยือนดินแดนแห่งนี้มันทำให้เหมือนมีแสงสว่างส่องทางให้เขาสามารถมองเห็นอนาคตที่จะก้าวเดินต่อไปเขาเพราะได้สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตกลับคืนมาเป็นอะไรที่เขาไม่คาดฝันและเป็นอะไรที่ทำให้เขารู้สึกมีความสุขที่สุดในชีวิต
“ขอดาวนั่งด้วยคนได้มั้ยคะคุณกร”
เสียงหนึ่งที่แว่วดังมาจากทางด้านหลังทำให้จิตใจที่กำลังล่องลอยไปไกลของมังกรหวนกลับมาเขาหันกลับไปมองหน้าเจ้าของเสียงหวานก่อนจะส่งยิ้มให้และเชิญให้เธอมานั่งด้วยกัน
“เชิญตามสบายครับคุณดาว” ความจริงมังกรอยากจะทำมากกว่ากว่าการเชิญเธอมานั่งข้างๆเขาอยากจะดึงเธอเข้ามาโอบกอดดั่งเช่นวันวานที่เขาและเธอเคยมีกันและกันแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าการสงบเงียบเพื่อไม่ให้เธอนั้นได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาคือใครเพราะหากเป็นเช่นนั้นเขาอาจจะเสียเธออีกก็เป็นได้
“ขอบคุณค่ะ” ดุจดาวเอ่ยขอบคุณเขาที่ขยับให้เธอนั่งด้วยบนแคร่ไม้ไผ่เล็กๆที่ซึ่งเป็นมุมสงบที่เธอมักจะหลบมานั่งคิดอะไรเงียบๆตรงนี้คนเดียวเป็นประจำแต่วันนี้เมื่อเธอมาเพื่อจะนั่งคิดทบทวนอะไรหลายๆและอย่างก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่ามีแขกมาเยือนสถานที่พักใจของเธอและก็เป็นคนที่เธอไม่อยากจะเจอมากที่สุดในตอนนี้ ในตอนแรกเธออยากจะหันหลังและเดินกลับเข้าไปในบ้านแต่อีกใจหนึ่งก็อยากที่จะพิสูจน์ให้แน่ใจไปเลยว่ามังกรคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกับมังกรที่เธอรู้จักเพราะในตอนแรกที่เธอได้พบกับเขาตอนที่เอาผ้าห่มไปให้ก็ตกใจไปแล้วรอบหนึ่งเพราะทั้งน้ำเสียงสีหน้าแววตาหรือแม้กระทั่งชื่อของเขาก็ยังเหมือนกับมังกรที่เธอรู้จักแต่เขาก็ทำเหมือนกับว่าไม่เคยรู้จักกับเธอมาก่อนเลยทำให้เธอสบายใจไปได้เปราะหนึ่งว่าเขาคงจะไม่ใช่ผู้ชายที่เธอพยายามหนีมาตลอดสี่ปีนี้หรอก
“ไม่ไปสังสรรค์กับเพื่อนๆหรอคะ” ดุจดาวชวนคุย
“ผมไม่ดื่มครับ” มังกรตอบเรียบๆเขาเลิกดื่มเด็จขาดแล้วนับตั้งแต่วันที่เขาเสียเธอไปเพราะการเป็นคนชอบสังสรรค์นี้ล่ะที่ทำให้เขาโดดเดี่ยวมาจนถึงทุกวันนี้เขาจึงตัดสินใจละทิ้งทุกอย่างหวังว่าซักวันหนึ่งเขาจะได้เธอกลับมาอยู่เคียงข้างและดีใจที่เขาสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอได้
“ดีจังค่ะ” ดุจดาวพยักหน้ายิ้มๆให้กับมังกรเพียงแค่คำถามแรกก็ทำให้เธอมั่นใจแล้วว่ามังกรคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกันกับมังกรของเธอเพราะพี่มังกรของเธอนั้นรักการสังสรรค์และการดื่มเป็นชีวิตจิตใจจึงทำให้ดุจดาวรู้สึกสนิทใจที่จะพูดคุยกับมังกรคนนี้มากขึ้น
“คุณดาวยังไม่นอนอีกหรอครับนี่ก็ดึกมากแล้ว”
“ยังหรอกค่ะดาวกะว่าจะมานั่งเล่นซักพักก่อนค่อยขึ้นนอน”
“ครับ ที่นี่อากาศดีมากเลยนะครับ อาหารอร่อยบรรยากาศดีผู้คนก็น่ารักผมชักชอบที่นี่แล้วล่ะสิครับ” มังกรพูดพร้อมกับลอบมองใบหน้าของดุจดาวที่กำลังเหม่อมองไปยังผืนน้ำเบื้องหน้าอย่างเพลิดเพลินและหลงไหล
“ดาวดีใจค่ะที่คุณกรชอบที่นี่ ดาวอยากให้แขกทุกคนที่มาพักที่นี่มีแต่ความสุขแล้วก็ประทับใจค่ะ ที่นี่เป็นบ้านเกิดของดาว ดาวรักที่นี่มากและก็หวังว่าผู้คนที่ผ่านมาเยี่ยมเยือนที่นี่จะรักที่นี่เหมือนกับดาว”
“ทุกคนต้องรักที่นี่อยู่แล้วล่ะครับขนาดผมเพิ่งมาแค่วันเดียวยังหลงรักที่นี่เข้าเต็มเปาเพราะฉะนั้นทุกคนคงหลงรักที่นี่ไม่ต่างจากผมหรอกครับ”
ลมหนาวที่พัดผ่านส่งผลให้ร่างของสองหนุ่มสาวเย็นยะเยือกแต่ไม่ได้ทำหัวใจของมังกรหนาวเหน็บอีกต่อไปแล้วเพราะตอนนี้เขามีเธออยู่ข้างๆหัวใจของเขาก็อบอุ่นโดยไม่ต้องพึ่งผ้าห่มใดๆและเมื่อเห็นว่าดุจดาวเริ่มหนาวสั่นเขาจึงได้ชวนเธอเข้าบ้านเพราะเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะไม่สบายเพราะดุจดาวของเขาเป็นหญิงสาวที่ค่อนข้างบอบบางป่วยง่ายข้อนี้เขารู้ดีกว่าใคร
“อากาศหนาวมากแล้วเราเข้าบ้านกันดีกว่านะครับคุณดาวเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
“ค่ะ”
ทั้งสองเดินข้ามถนนและลอดซุ้มดอกรักเข้าไปในบ้านซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่หนุ่มๆที่กำลังนั่งสังสรรค์กันกำลังเลิกเพื่อแยกย้ายกันไปพักผ่อนพอดีเพราะพวกเขาดื่มเพื่อเพิ่มรสชาติในการสนทนาไม่ได้ดื่มเพื่อเมามายอะไรมากนักสองเพื่อนรักจึงเดินขึ้นห้องเพื่อพักผ่อนพร้อมกันส่วนดุจดาวก็แยกตัวพาพ่อขึ้นไปนอนเช่นกันเพราะดูท่าจะดื่มนักกว่าใครเพื่อน
ก๊อกๆๆๆ
“ใครมาน่ะไปดูหน่อยสิครับคุณกร” มนัสที่กำลังนอนอ่านการ์ตูนอย่างเพลิดเพลินบอกเพื่อนที่กำลังยืนเช็ดผมอยู่เนื่องจากเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ทำให้คนถูกสั่งถึงกับเซ็งกับนิสัยขี้เกียจของเพื่อน
“แกนี่นะนอนอ่านการ์ตูนอยู่แท้ๆทำไมไม่ไปเปิดวะฉันแต่งตัวไม่เรียบร้อยเนี้ยเห็นมั้ย”
“เออน่ารีบไปเปิดเถอะเขารอนานแล้วบ่นอยู่นั้น”
“มาแล้วครับๆๆๆ”
มังกรเปิดประตูต้อนรับแขกที่มาเยือนด้วยสภาพที่ไม่ค่อยเรียบร้อยนักเพราะมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันอยู่รอบเอวส่วนท่อนบนก็เปลือยเปล่าโชว์แผงอกที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนที่ใส่ใจในการออกกำลังกายอยู่เสมอทำให้คนที่ยืนอยู่หน้าแดงก่ำ มือไม้สั่นจนแก้วนมอุ่นที่ถืออยู่ในมือแทบล่วง
“เออคือดาวเอานมอุ่นมาให้น่ะค่ะ” ดุจดาวรีบส่งถาดใส่นมให้กับมังกรทันทีเพราะไม่สามารถทีจะยืนอยู่ตรงนี้ได้อีกแม้แต่วินาทีเดียวหลังจากที่ได้เห็นหุ่นที่สุดแสนทรมานใจของมังกร
“ขอบคุณครับ” มังกรรับถาดนมอย่างยิ้มๆกับท่าทีเขินอายของดุจดาวให้ตายสิไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนดุจดาวก็ยังเป็นคนเดิมไร้เดียงสาจนเขาไปกล้าล่วงเกินและนี่ก็เป็นเหตุผลที่เขามักจะแอบไปมีความสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงอื่นเพื่อปลดปล่อยสันชาติญาณความเป็นชายที่มีอยู่มากของเขาจนทำให้ต้องเลิกรากับเธอ
“อ้อคุณกรคะพรุ่งนี้ที่บ้านจะไปไหว้พระธาตุพนมกันถ้าคุณกรสนใจไปด้วยกันเจอกันสิบโมงที่หน้าบ้านนะคะ”
ดุจดาวหันกับมาบอกเขาอย่างรีบๆและรีบเดินจากไปเพราะขืนเธออยู่นานกว่านี้มีหวังได้หัวใจวายตายอยู่แทบเท้าของมังกรเป็นแน่ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้หุ่นเซ็กซี่ชะมัด
“ครับผม ฝันดีนะครับคุณดาว”
น้ำเสียงอ่อนโยนของเขาทำให้เธอรู้สึกตัวลอยๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมานานมากแล้ว ก่อนจะรีบเดินกลับเข้าห้องที่อยู่ห่างออกไปประมาณสี่ห้อง
“แหมๆยิ้มไม่หุบเลยนะครับคุณกร เห็นมั้ยถ้าฉันไปเปิดแกก็ไม่ได้สวีทกับน้องดาวน่ะสิแกต้องขอบคุณฉันนะเนี้ย” มนัสยียวน
“อย่าพูดมากรีบนอนพรุ่งนี้จะไปไหว้พระธาตุ”
มังกรส่งสายตาดุๆให้กับมนัสอย่างกับพ่อสั่งลูกชายจอมดื้อให้เข้านอนอย่างงั้นล่ะ
ไม่นานไฟห้องนองมนัสและมังกรก็ดับลงพร้อมๆกับอีกหลายคนในบ้านที่กำลังล่วงเข้าสู่นิทราที่แสนหวานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวในวันพรุ่งนี้
นิยายพอไหวไหมคะ ขอกำลังใจจากทุกคนด้วยนะคะ
ทวงใจรักซาตานร้าย(ตอนที่ 3 ต่อ)
ทุกคนใช้เวลาในการทานข้าวกันอยู่พักใหญ่กับบรรยากาศในการทานข้าวที่เปลี่ยมไปด้วยความอบอุ่นทั้งจากเจ้าของโฮมสเตย์และแขกทุกคน ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานราวกับว่ารู้จักกันมานานและเมื่อทานเสร็จแขกที่มาพักก็เริ่มขอตัวออกไปเดินเล่นย่อยอาหารริมฝั่งโขงบางคนก็ไปเป็นคู่บางคนก็ไปคนเดียวโดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีอันตรายใดๆเพราะลุงชาติบอกว่าที่นี่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็น ส่วนผู้ชายบางคนก็นั่งตั้งวงดื่มสังสรรค์กันต่อที่แคร่ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีลุงชาติและมนัสด้วย ทางด้านป้าเพ็ญและดุจดาวก็ขอตัวทำหน้าที่เก็บถ้วยจานไปล้าง ส่วนมังกรก็ขอตัวไปนั่งเล่นตรงแคร่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโฮมสเตย์ที่อยู่ริมแม่น้ำพอดี มังกรนั่งมองแม่น้ำโขงที่กว้างใหญ่หมู่ดาวนับร้อยพันที่โอบกอดหุบเขาและสายน้ำนี่ไว้มันทำให้จิตใจของเขารู้สึกสงบและเป็นสุขมาก ตลอดสี่ปีที่ผ่านมาชีวิตของเขาเหมือนมีเมฆหมอกปรกคลุมอยู่ตลอดเวลาจนทำให้เขาไม่สามารถที่จะมองเห็นหนทางที่เขาจะก้าวเดินไปข้างหน้าเขาได้แต่หยุดนิ่งอยู่ที่เดิมที่ที่เขาเสียคนรักไปและมักจะหันหลังกลับมามองอดีตอยู่เสมอๆโดยไม่เคยคิดที่จะมองหาอนาคตและก้าวต่อไปข้างหน้า จนกระทั่งวันนี้วันที่เขาได้มาเยือนดินแดนแห่งนี้มันทำให้เหมือนมีแสงสว่างส่องทางให้เขาสามารถมองเห็นอนาคตที่จะก้าวเดินต่อไปเขาเพราะได้สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตกลับคืนมาเป็นอะไรที่เขาไม่คาดฝันและเป็นอะไรที่ทำให้เขารู้สึกมีความสุขที่สุดในชีวิต
“ขอดาวนั่งด้วยคนได้มั้ยคะคุณกร”
เสียงหนึ่งที่แว่วดังมาจากทางด้านหลังทำให้จิตใจที่กำลังล่องลอยไปไกลของมังกรหวนกลับมาเขาหันกลับไปมองหน้าเจ้าของเสียงหวานก่อนจะส่งยิ้มให้และเชิญให้เธอมานั่งด้วยกัน
“เชิญตามสบายครับคุณดาว” ความจริงมังกรอยากจะทำมากกว่ากว่าการเชิญเธอมานั่งข้างๆเขาอยากจะดึงเธอเข้ามาโอบกอดดั่งเช่นวันวานที่เขาและเธอเคยมีกันและกันแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าการสงบเงียบเพื่อไม่ให้เธอนั้นได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาคือใครเพราะหากเป็นเช่นนั้นเขาอาจจะเสียเธออีกก็เป็นได้
“ขอบคุณค่ะ” ดุจดาวเอ่ยขอบคุณเขาที่ขยับให้เธอนั่งด้วยบนแคร่ไม้ไผ่เล็กๆที่ซึ่งเป็นมุมสงบที่เธอมักจะหลบมานั่งคิดอะไรเงียบๆตรงนี้คนเดียวเป็นประจำแต่วันนี้เมื่อเธอมาเพื่อจะนั่งคิดทบทวนอะไรหลายๆและอย่างก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่ามีแขกมาเยือนสถานที่พักใจของเธอและก็เป็นคนที่เธอไม่อยากจะเจอมากที่สุดในตอนนี้ ในตอนแรกเธออยากจะหันหลังและเดินกลับเข้าไปในบ้านแต่อีกใจหนึ่งก็อยากที่จะพิสูจน์ให้แน่ใจไปเลยว่ามังกรคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกับมังกรที่เธอรู้จักเพราะในตอนแรกที่เธอได้พบกับเขาตอนที่เอาผ้าห่มไปให้ก็ตกใจไปแล้วรอบหนึ่งเพราะทั้งน้ำเสียงสีหน้าแววตาหรือแม้กระทั่งชื่อของเขาก็ยังเหมือนกับมังกรที่เธอรู้จักแต่เขาก็ทำเหมือนกับว่าไม่เคยรู้จักกับเธอมาก่อนเลยทำให้เธอสบายใจไปได้เปราะหนึ่งว่าเขาคงจะไม่ใช่ผู้ชายที่เธอพยายามหนีมาตลอดสี่ปีนี้หรอก
“ไม่ไปสังสรรค์กับเพื่อนๆหรอคะ” ดุจดาวชวนคุย
“ผมไม่ดื่มครับ” มังกรตอบเรียบๆเขาเลิกดื่มเด็จขาดแล้วนับตั้งแต่วันที่เขาเสียเธอไปเพราะการเป็นคนชอบสังสรรค์นี้ล่ะที่ทำให้เขาโดดเดี่ยวมาจนถึงทุกวันนี้เขาจึงตัดสินใจละทิ้งทุกอย่างหวังว่าซักวันหนึ่งเขาจะได้เธอกลับมาอยู่เคียงข้างและดีใจที่เขาสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอได้
“ดีจังค่ะ” ดุจดาวพยักหน้ายิ้มๆให้กับมังกรเพียงแค่คำถามแรกก็ทำให้เธอมั่นใจแล้วว่ามังกรคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกันกับมังกรของเธอเพราะพี่มังกรของเธอนั้นรักการสังสรรค์และการดื่มเป็นชีวิตจิตใจจึงทำให้ดุจดาวรู้สึกสนิทใจที่จะพูดคุยกับมังกรคนนี้มากขึ้น
“คุณดาวยังไม่นอนอีกหรอครับนี่ก็ดึกมากแล้ว”
“ยังหรอกค่ะดาวกะว่าจะมานั่งเล่นซักพักก่อนค่อยขึ้นนอน”
“ครับ ที่นี่อากาศดีมากเลยนะครับ อาหารอร่อยบรรยากาศดีผู้คนก็น่ารักผมชักชอบที่นี่แล้วล่ะสิครับ” มังกรพูดพร้อมกับลอบมองใบหน้าของดุจดาวที่กำลังเหม่อมองไปยังผืนน้ำเบื้องหน้าอย่างเพลิดเพลินและหลงไหล
“ดาวดีใจค่ะที่คุณกรชอบที่นี่ ดาวอยากให้แขกทุกคนที่มาพักที่นี่มีแต่ความสุขแล้วก็ประทับใจค่ะ ที่นี่เป็นบ้านเกิดของดาว ดาวรักที่นี่มากและก็หวังว่าผู้คนที่ผ่านมาเยี่ยมเยือนที่นี่จะรักที่นี่เหมือนกับดาว”
“ทุกคนต้องรักที่นี่อยู่แล้วล่ะครับขนาดผมเพิ่งมาแค่วันเดียวยังหลงรักที่นี่เข้าเต็มเปาเพราะฉะนั้นทุกคนคงหลงรักที่นี่ไม่ต่างจากผมหรอกครับ”
ลมหนาวที่พัดผ่านส่งผลให้ร่างของสองหนุ่มสาวเย็นยะเยือกแต่ไม่ได้ทำหัวใจของมังกรหนาวเหน็บอีกต่อไปแล้วเพราะตอนนี้เขามีเธออยู่ข้างๆหัวใจของเขาก็อบอุ่นโดยไม่ต้องพึ่งผ้าห่มใดๆและเมื่อเห็นว่าดุจดาวเริ่มหนาวสั่นเขาจึงได้ชวนเธอเข้าบ้านเพราะเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะไม่สบายเพราะดุจดาวของเขาเป็นหญิงสาวที่ค่อนข้างบอบบางป่วยง่ายข้อนี้เขารู้ดีกว่าใคร
“อากาศหนาวมากแล้วเราเข้าบ้านกันดีกว่านะครับคุณดาวเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
“ค่ะ”
ทั้งสองเดินข้ามถนนและลอดซุ้มดอกรักเข้าไปในบ้านซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่หนุ่มๆที่กำลังนั่งสังสรรค์กันกำลังเลิกเพื่อแยกย้ายกันไปพักผ่อนพอดีเพราะพวกเขาดื่มเพื่อเพิ่มรสชาติในการสนทนาไม่ได้ดื่มเพื่อเมามายอะไรมากนักสองเพื่อนรักจึงเดินขึ้นห้องเพื่อพักผ่อนพร้อมกันส่วนดุจดาวก็แยกตัวพาพ่อขึ้นไปนอนเช่นกันเพราะดูท่าจะดื่มนักกว่าใครเพื่อน
ก๊อกๆๆๆ
“ใครมาน่ะไปดูหน่อยสิครับคุณกร” มนัสที่กำลังนอนอ่านการ์ตูนอย่างเพลิดเพลินบอกเพื่อนที่กำลังยืนเช็ดผมอยู่เนื่องจากเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ทำให้คนถูกสั่งถึงกับเซ็งกับนิสัยขี้เกียจของเพื่อน
“แกนี่นะนอนอ่านการ์ตูนอยู่แท้ๆทำไมไม่ไปเปิดวะฉันแต่งตัวไม่เรียบร้อยเนี้ยเห็นมั้ย”
“เออน่ารีบไปเปิดเถอะเขารอนานแล้วบ่นอยู่นั้น”
“มาแล้วครับๆๆๆ”
มังกรเปิดประตูต้อนรับแขกที่มาเยือนด้วยสภาพที่ไม่ค่อยเรียบร้อยนักเพราะมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันอยู่รอบเอวส่วนท่อนบนก็เปลือยเปล่าโชว์แผงอกที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนที่ใส่ใจในการออกกำลังกายอยู่เสมอทำให้คนที่ยืนอยู่หน้าแดงก่ำ มือไม้สั่นจนแก้วนมอุ่นที่ถืออยู่ในมือแทบล่วง
“เออคือดาวเอานมอุ่นมาให้น่ะค่ะ” ดุจดาวรีบส่งถาดใส่นมให้กับมังกรทันทีเพราะไม่สามารถทีจะยืนอยู่ตรงนี้ได้อีกแม้แต่วินาทีเดียวหลังจากที่ได้เห็นหุ่นที่สุดแสนทรมานใจของมังกร
“ขอบคุณครับ” มังกรรับถาดนมอย่างยิ้มๆกับท่าทีเขินอายของดุจดาวให้ตายสิไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนดุจดาวก็ยังเป็นคนเดิมไร้เดียงสาจนเขาไปกล้าล่วงเกินและนี่ก็เป็นเหตุผลที่เขามักจะแอบไปมีความสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงอื่นเพื่อปลดปล่อยสันชาติญาณความเป็นชายที่มีอยู่มากของเขาจนทำให้ต้องเลิกรากับเธอ
“อ้อคุณกรคะพรุ่งนี้ที่บ้านจะไปไหว้พระธาตุพนมกันถ้าคุณกรสนใจไปด้วยกันเจอกันสิบโมงที่หน้าบ้านนะคะ”
ดุจดาวหันกับมาบอกเขาอย่างรีบๆและรีบเดินจากไปเพราะขืนเธออยู่นานกว่านี้มีหวังได้หัวใจวายตายอยู่แทบเท้าของมังกรเป็นแน่ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้หุ่นเซ็กซี่ชะมัด
“ครับผม ฝันดีนะครับคุณดาว”
น้ำเสียงอ่อนโยนของเขาทำให้เธอรู้สึกตัวลอยๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมานานมากแล้ว ก่อนจะรีบเดินกลับเข้าห้องที่อยู่ห่างออกไปประมาณสี่ห้อง
“แหมๆยิ้มไม่หุบเลยนะครับคุณกร เห็นมั้ยถ้าฉันไปเปิดแกก็ไม่ได้สวีทกับน้องดาวน่ะสิแกต้องขอบคุณฉันนะเนี้ย” มนัสยียวน
“อย่าพูดมากรีบนอนพรุ่งนี้จะไปไหว้พระธาตุ”
มังกรส่งสายตาดุๆให้กับมนัสอย่างกับพ่อสั่งลูกชายจอมดื้อให้เข้านอนอย่างงั้นล่ะ
ไม่นานไฟห้องนองมนัสและมังกรก็ดับลงพร้อมๆกับอีกหลายคนในบ้านที่กำลังล่วงเข้าสู่นิทราที่แสนหวานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวในวันพรุ่งนี้
นิยายพอไหวไหมคะ ขอกำลังใจจากทุกคนด้วยนะคะ