5 ปี ที่ใช้ "ผลาญ" ไขมัน

กระทู้สนทนา
ตอนปี พ.ศ.2551 อยู่ปี 4 ช่วงนั้น กินจุ กินจุกจิก เครียดมากเพราะ ทำทีสิต ระบายความเครียดด้วยวิธีที่น่ากลัวมากๆเลยทีเดียว

เราเป็นคนตัวเตี้ย เพราะความสูงที่หยุดอยู่แค่ 153 ซม. จากตอนปี 1 ที่น้ำหนัก 45 กิโล พุ่งมาเป็น 58 กิโล
เสื้อผ้าสวยๆที่เคยใส่ได้ก็เก็บลืม ใส่เพียงแค่ เสื้อยืดตัวใหญ่ กับ กางเกงคล้ายๆที่พวกผู้ชายใส่ไปตกปลาอะค่ะขากระบอก

มันเกิดขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมการกิน ไม่ออกกำลังกาย ขี้เกียจ กินๆนอนๆทำทีสิต

จนถึงช่วงรับปริญญา อยากผอม จะได้ถ่ายรูปสวยๆ อดอาหาร ไม่กินอะไรเลย กินแต่น้ำกับผลไม้ เล็กน้อย
เวลาผ่านไป  ได้ 2 -3 วันเท่านั้น มันกระหาย มันอยาก เหมือนกับยิ่งอด ก็ยิ่งอยากกิน
ไม่รู้จะทำยังไงกับความรู้สึกที่มันไม่เต็มนี้ มันยังหิวอยู่ ก็ค้นหาข้อมูลตามเว็ปต่างๆ
ไปเจอ ข้อความที่ ดาราฮอลิวู้ด กินสำลีจุ่มน้ำส้ม เพื่อ รักษาหุ่น ไม่ให้อ้วน

โอ้ ตอนนั้นเห็นดีเห็นงาม ไปกับเค้าด้วย ก็ไปซื้อสำลีก้อนอย่างดีมา 1 ห่อใหญ่ กับส้มเอามาคั้นเอง

ตอนจะกินลงไป ก็รู้สึกแปลกๆ แต่พอกินลงไป
- เฮ้ยย!มันไม่ใช่หว่ะ ( มันอารมณ์แปลกๆไม่รู้จะอธิบายยังไง )มันไม่ใช่ของที่จะเอามากินนะโว๊ย  -
ความคิดมันอยู่ในหัว อืออึงไปหมด เลิกลดความอ้วน ดีมั๊ยหน่อ
เลิกล้มความคิดลดความอ้วน

เวลาล่วงเลยไปเป็นเดือนๆ ทำงานกับมาบ้าน
ขี้เกียจมาก มีเวลาว่างกินๆนอนๆ จนอ้วนขึ้นมาอีก เป็น 62 กิโล
เดินเนื้อต้นขาเสียดสีกัน แต่งตัวก็ไม่สวย เพราะอ้วนไม่สมส่วน ไม่สบายตัว เหนื่อยง่าย ขี้เกียจ และก็เกลียดตัวเอง
เริ่มลดความอ้วนอีกที
ลองซื้อยาถ่ายมากิน ดีใจ น้ำหนักลดมา 1 กิโล แต่กินไปได้ 4 วัน มารู้ความจริงว่า
ไอ้ที่น้ำหนักลดไปเนี๊ยะมันเป็นเพราะร่างกายขาดน้ำ

เอากับมันซิ ไปซื้อยาลดความอ้วนมา เพราะเห็นเพื่อนกินแล้วน้ำหนักลด เร็วมาก 4-5 กิโล เลยไปซื้อยี่ห้อเดียวกันมากิน
ห่อ1 หลายตังค์อยู่ จำได้ว่า อาทิตย์หละ 1500 บาท มัน แพงมากเลยนะ กินได้ 1 เดือนเศษ น้ำหนักลด เหลือ 57 กิโล
แต่มันมีผลข้างเคียงอยู่ อย่าง 1 ที่เราสังเกตุตัวเองได้ชัดๆเลยคือหน้ามืดบ่อยๆ
แต่ช่วงนั้นมีข่าวเยอะแยะมาก ลดความอ้วน กินยาเกินขนาด เสียชีวิต บราบราบรา ๆๆ
น่ากลัว เราก็เลิกกิน ดีนะ ที่ยังรอดตายจากไอ้การลดความอ้วนนี้มาได้ เอาหละ ไว้จะควบคุมอาหารแล้วค่อยๆลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นเอา
เพราะตอนนี้มีกำลังใจในการลดน้ำหนักแล้ว

แต่ .... ผ่านไปได้ ไม่ถึงอาทิตย์มีอาการบวมน้ำ น้ำหนักขึ้นๆ เริ่มรู้ตัวเลยว่า โย่โย่ แล้วไงกูเอ้ย ตอนซื้อมากินบอกไม่โย่โย่แน่นอน
เป็นที่เราเอง ที่ไปเชื่อเอง

การที่เจอภาวะโยโย่นี้ ทำให้น้ำหนัก พุ่งขึ้นมา 64 กิโล ภายใน 1 เดือนกว่าๆ

- บอกตรงๆเลยว่า ณ ขณะนั้น ท้อแท้มาก ไม่รู้จะทำยังไง -

ปี 2553 ตัดสินใจ เลิกกินจุกจิกกินแก้เครียด เลิกกินน้ำอัดลม บอกตัวเอง ฉันจะเลิกนิสัยเสีย นี้ซะที แล้ว ฉันก็ทำได้
5-6 เดือนที่สังเกตตัวเองมา น้ำหนักค่อยๆลดลง 1-2กิโล จนมาหยุดที่ 56 กิโล พอใจมากๆแล้วในตอนนั้น

ปี 2554 ต้นๆปี ได้ไปเมืองจีน ไปเรียนภาษา ที่เมืองจีน ดังมากฝังเข็มลดความอ้วน เป็นคนกลัวเข็มนะ แต่ก็คิดจะไปลองฝังเข็ม แต่พอไปถึงสถานที่จริง ฮึ ~บายยยยย
  - ฉันไม่เอาด้วยหรอก ฝังซะพรุนเป็นเม่นเลย -

แต่หลังจากที่เรียนคอร์ดภาษาจีน 1 ปี จบ กลับมาเมืองไทย พบว่า
น้องชายแท้ๆของเราเอง อ้วน แน่น ตัน มีหน้าท้องห้อย แตกเป็นริวแดงๆเลย
เราถามน้องเราว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง เพราะตอนที่ ยังไม่ไปจีน เรา2 คน
คุยกันว่าจะลดความอ้วนด้วยกันเพราะน้องเราก็อ้วนเหมือนกัน แต่ไม่อ้วนขนาดนี้
น้องเรา ยังกินจุกจิก ชอบกินเนื้อ ไม่ออกกำลังกาย เรากลัวมาก กลัวที่จะเป็นแบบนั้น

เราบอกว่า เราจะเข้าฟิตเนส เข้าฟิตเนตด้วยกันทุกเย็นเถอะ
ไม่ได้แล้ว จะปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้ได้ยังไง ยิ่งนานวันก็จะยิ่งแก่ ยิ่งลดยาก
เราเลยยังไม่สมัครงาน เพื่อการนี้ก่อน ( เกาะพ่อกิน ไปก่อนช่วงนั้น  )
ตอนนั้นพักอยู่ใกล้ๆ โรงพยาบาลวิภาวดี น้องเราบอกว่าเพื่อนๆแนะนำให้ไปที่นั้น
ที่นั้นมีศูนย์ออกกำลังกาย ฟิตเนต เต้นเเอโรบิก มีโยคะในบางวัน
สระว่ายน้ำก็สะอาดด้วย
เอาหละไปสมัครสมาชิกกัน แม้ค่าสมาชิกจะแพง  เราก็สมัคร ไปแล้ว
ตอนนั้น 1 เดือน 4500 บาท เล่นเครื่องเล่นได้ทุกชนิด รวมทั้งสระว่ายน้ำด้วย
เรารู้สึกไม่เสียดายเงินเลยนะ
ที่นั้นมีคอร์ดที่มีเทรนเนอร์ดูแลต่างหากด้วย แบบตัวต่อตัวเลยต้องสมัครต่างหาก  เราแอบ งก นิดหนึ่ง
เลยไม่ได้สมัคร แต่ไปตีซี้กับเพื่อนรุ่นพี่คน 1 ในคอร์ดนั้น พี่เค้าบอกว่า ก่อนออกกำลังกายต้องวอร์มร่างกายก่อน
แล้วไปวิ่งเหยาะๆ  เพื่อ เผาผลาญพลังงานออกไป

ส่วนตัวไม่ชอบการวิ่งเลย  เพราะรู้สึกมันไม่ดีกับเข่า กับข้อเท้า มันเจ็บๆ ไม่ชอบ
การวิ่งไม่เหมาะกับเราเลย


เลยถามพี่เค้าว่ามีวิธีอื่นอีกมั๊ย
----- ปั่นจักรยาน ----
โอ้ นั้นเป็นวิธีการที่เราก็รู้สึกยินดีนะ
รุ่นพี่เเนะนำมาว่าปั่นห้าม หยุด 1 โปรแกรม ประมาณ 45 นาที
แต่เราปั่นที่ระดับ 1 10นาที จากนั้นปรับเป็น ระดับ 3 35นาที
อันนี้เป็นโปรแกรมเราคิดเอง เพราะไม่อยากน่องปูด 5555+
( แรกๆ โคตรๆๆๆๆๆเหนื่อยเลยค่ะ )
จากนั้นหมด 1 โปรแกรมแล้ว รุ่นพี่ก็แยก ไปกับเทรนเนอร์
เอะแล้วเราจะทำอะไรต่อดี หละ เตรียมชุดว่ายน้ำมา
วันพีชธรรมดา เลย เอาแบบ ฉันมาว่ายน้ำๆไม่ได้มาสวยๆนะ
ว่ายน้ำดีกว่า ก็เลยไปถามพี่เทรนเนอร์ของรุ่นพี่ว่าว่ายน้ำท่าไหนยังไง ลดความอ้วนได้ผลเร็วๆ
พี่เทรนเนอร์ผู้ใจดีตอบมาแบบหน้านิ่งๆยิ้มๆว่า
" ท่าไหนก็ได้คับ ว่ายเรื่อยๆ อย่าหยุดอย่างน้อย 1-2 ชม."

คิดในใจ เทรนเนอร์กวนประสาทรึเป่าหว่ะเนี๊ยะ

แต่ด้วยความที่พ่อเรา จับเราโยนน้ำมาแต่เด็ก ว่ายน้ำมาแต่เด็กๆ พาไปเล่นน้ำบ่อยๆ
เหมือนร่ายกายมันจำได้ และเราก็ชอบมากๆ
ยิ่งว่ายยิ่งสนุก ว่ายลืมเลย ว่าว่ายไปนานเท่าไหร่ ว่ายจนคนที่ว่ายข้างๆเปลี่ยนคนแล้วเปลี่ยนคนอีก
ว่ายจนคนเค้าทักว่า
สระว่าน้ำสะอาดมากๆค่ะ  เรา ชอบไปว่ายตอนบ่าย 3โมงครึ่ง เพราะสระจะว่างมากๆ หลัง 5-6 โมง คนจะเยอะค่ะ
หลังจากว่ายน้ำเสร็จ ไป ซาวน่า15 นาที ค่ะ สุดยอดเลย
กิจกรรมแบบนี้ทำทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือน เทรนเนอร์ให้กินข้าวตามปรกติค่ะ ที่สำคัญคือ ไม่กินจุกจิก และน้ำอัดลมค่ะ


น้ำหนักลดใน 1 อาทิตย์แรก ลดมา 2 กิโลเลยค่ะ  สุดยอด
และหลังจากที่ร่างกายปรับสภาพได้ดี ทำกิจกรรมและออกกำลังกายต่อเนื่อง
บางวัน ว่ายน้ำ 2 ชม.ครึ่งไม่หยุดเลย เพราะสระยังว่างอยู่ จน
กระทั่ง ครบเดือน เราไปชั่งน้ำหนัก น้ำตาซึมเลย มันเป็นเลข 49 ร้องไห้ด้วยความดีใจเงียบๆที่หน้าแท่นชั่งน้ำหนัก
มันดีใจจริงๆนะ มันนานมากแล้ว นานจน ไม่คิดว่าจะลดมาได้

มันรู้สึกได้เลยว่าร่างกายเรากระชับกระเชงขึ้น มีกล้ามนิดๆด้วย กล้ามเนื้อกระชับ

ช่วงนั้น มีกางเกงเอวสูง ขา สั้น ฮิตๆ เราเลยไปลองซื้อมาใส่ดู
โอ๊ย รู็สึกดีๆ ถึงขามันจะไม่ได้เรียวงามเหมือนนางแบบ
แต่ฉันก็ใส่มันได้แล้ว ซื้อ ไซด์M มาเพราะกลัวใส่ไม่เข้า 555+ ขาดความมั่นใจนิดหน่อย
แต่ใส่เข้าไปแล้วมันยังมีพื้นที่ว่างๆนิดหน่อย ดีใจจัง

เราเลยตัวสินใจ ต่ออีก เดือน 1 ด้วยโปรแกรมเดิมๆ จนจบ คอร์ด
ที่น้ำหนักสุดท้าย 46 กิโลค่ะ กล้ามเนื้อกระชับ มีกล้ามด้วย ฮาาาา
แต่ยังเตี้ยเหมือนเดิม

ส่วนน้องเรา ก็ลดไปบ้าง แต่เขาไม่ได้ไปทุกวัน เพราะทำงานเป็นสถาปนิก ไม่ค่อยว่าง
แต่ก็ดีขึ้นเยอะ

หลังจากนั้นก็ได้ไปเรียนต่อที่จีนอีก แต่ก็ยังไม่ทิ้งการออกกำลังกาย
ที่มหาลัยเมืองจีนก็มีสระว่ายน้ำ แต่มัน ว่ายได้แค่ ชม.เดียวคนเยอะด้วย
ก็เลย ซื้อเครื่อง X - Box มาเล่น
เพราะติดใจตอนเล่นกับเพื่อนอเมริกากับเพื่อนเกาหลี โดยเฉพาะเกมส์เต้นนี้ ชอบมาก
หลังเลิกเรียน ก็กลับห้องทำรายงาน ทำเสร็จก็เล่น X-Box เล่น รวดเดียว 1 ชม. ครึ่งทุกวัน ไม่เบื่อเลย
แล้วยังมีเกมส์อื่นอีกเยอะแยะไปหมด

เรียกได้ว่า เป็นเกมส์เรียกเหงื่อ  ที่ได้ทั้ง ออกกำลังกาย และเล่นเกมส์ไปพร้อมๆกัน สนุกมาก

เรียกได้ว่าในเซฟ แทบจะเป็น AAA ทั้งหมด สุดยอด ( แอบเกรียนนิดหนึ่ง )

แล้วมาจนถึงณ ตอนนี้ น้ำหนักยังคงเป็น 46-48 ราวๆนี้ค่ะ
ไม่อดอาหาร กินตามปกติ ไม่กินจุกจิก ไม่ดื่มน้ำอัดลม ดื่มน้ำให้เพียงพอทุกวันค่ะ

ปล. เราดื่มน้ำหลังจากที่ ตื่นนอนมาก 1.5 ลิตร โดยที่ยังไม่ทันล้างหน้าเลยนะ
ตอนแรกๆ เข้าห้องน้ำบ่อยมากๆ ตอนนี้ เข้าครั้งเดียวหลังกินน้ำค่ะ แล้วในระหว่างวันก็ดื่มเวลากระหายค่ะ
ถึงแม้จะเป็นคนไม่เป็นสิว ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า รึสึกผิวมันดีกว่าแต่ก่อนอีกค่ะ


จากประสบณ์การณ์

อย่า ใช้ยา อย่าอดอาหาร อย่าดื่มน้ำอัดลม อย่ากินจุกจิก
หมั่นออกกำลังกาย ดื่มน้ำ และ พักผ่อนให้เพียงพอ ดีที่สุดค่ะ

ช่วงนี้ เล่น แพลงกิ้ง ( คล้ายๆท่าวิดพื้น แต่ งอศอกตั้งฉากยันพื้น ยกตัวขึ้น ค้างไว้)  กระชับหน้าท้อง นาน 1 นาทีขึ้นไป
ส่วนตัว ค้างได้ 3 นาที แล้วนะค่ะ ฮิฮิ
ส่วน X - Box ก็ยังเล่นอยู่ค่ะ สนุกแต่ก็มีเกมส์อื่นๆเล่นด้วย เล่นกับน้องชายเวลาว่างๆ
ช่วงนี้ว่าจะมาจับๆโยคะซะหน่อย แต่ท่ามันยากเหลือเกิน

มีอะไรดีๆแนะนำมาได้เลยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ หัวเราะหัวเราะหัวเราะอมยิ้ม17
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่