′สุทธิพงษ์′พิธีกรคนค้นคนเดินสายเข้าชี้แจง′ยรรยง′ รวมทั้งซีพี กรณีโพสต์ข้อความสารพิษตกค้างในข้าวหลายยี่ห้อ
ผู้บริหารข้าวซีพีส่งฝ่าย กม.พิจารณาจะถอนแจ้งความหรือเอาผิด
รวมทั้งตรวจเยี่ยมโรงงานข้าวนครหลวง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ รองผู้ว่าฯ
พระนครศรีอยุธยา นายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มการค้าระหว่างประเทศบริษัทเจริญโภคภัณฑ์
พร้อมผู้บริหารและพนักงานให้การต้อนรับ ชมกระบวนการผลิตข้าวอย่างละเอียด ประมาณกว่า 1 ชั่วโมง
นายยรรยงกล่าวว่า จากการตรวจสอบและดูกระบวนการผลิตพบว่าการผลิตข้าวถุงต้องมีการผ่านกระบวนการตรวจสอบ
คุณภาพและทดสอบคุณภาพตั้งแต่การรับข้าวสารถึงการบรรจุถุง ควบคุมการทำงานแบบระบบปิดทำให้ยากที่จะมีสัตว์
แมลง หรือสิ่งเจือปนเข้ามาแปลกปลอมในข้าวถุงได้ เชื่อว่ายี่ห้ออื่นๆ จะมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานเช่นเดียวกัน
"วันนี้ได้ทดลองกินข้าวตราฉัตร เพิ่งออกมาจากกระบวนการผลิต นำมาหุงกินแล้วมีความปลอดภัยรสชาติดี ขอให้
ประชาชนมีความมั่นใจว่าข้าวไทยไม่เป็นอันตราย ไม่มีสารตกค้างอย่างที่เป็นข่าว" นายยรรยงกล่าว
<
<
<
พิธีกร′คนค้นคน′ขอเคลียร์
นายยรรยงกล่าวว่า นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัททีวีบูรพา และเป็นพิธีกรรายการคนค้นคน
ได้ติดต่อขอเข้าพบเพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจกรณีโพสต์ข้อความจนกระทบต่ออุตสาหกรรมข้าวไทย ทั้งนี้
กำหนดวันนัดพบเป็นวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ เบื้องต้นคงให้นายสุทธิพงษ์ร่วมทำแนวทางฟื้นฟูข้าวไทยและทำ
ความเข้าใจกับผู้ถูกพาดพิง ส่วนการจะดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายหรือไม่ คงต้องดูที่เจตนา
ซีพีใช้50ล.เรียกความเชื่อมั่น
นายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ เครือเจริญโภคภัณฑ์
บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวตราฉัตร กล่าวว่า ยังไม่ได้ประเมินว่าข้าวตราฉัตรได้รับความเสียหาย
ในแง่มูลค่าเท่าไหร่ แต่ยอมรับว่าเกิดความเสียหายต่อภาพพจน์ตราสินค้าและบริษัทแล้ว จึงได้มีการดำเนินการจะ
ฟ้องร้องกับผู้โพสต์ข้อความที่เป็นเท็จแล้ว
"ได้รับการติดต่อจากนายสุทธิพงษ์เพื่อขอเข้ามาชี้แจง คงขึ้นอยู่กับฝ่ายกฎหมายของ ซี.พี.ว่าจะถอนแจ้งความหรือ
ดำเนินคดีต่อทั้งทางแพ่งและอาญา" นายสุเมธกล่าว
นายสุเมธกล่าวว่า บริษัทได้ทำแผนการฟื้นฟูข้าวตราฉัตรโดยได้ทำหนังสือและเอกสารประกอบชี้แจงถึงกระบวนการ
ผลิตที่ได้มาตรฐานสูงและรับรองความปลอดภัยให้กับคู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศรับทราบ และเตรียม
งบประมาณ 30-50 ล้านบาท ในการทำประชาสัมพันธ์เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นข้าวไทย
<
<
<
′สุทธิพงษ์′แจงยาวผ่านเฟซบุ๊ก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 12 กรกฎาคม เฟซบุ๊ก Suttipong Thamawuit ของนายสุทธิพงษ์
ธรรมวุฒิ พิธีกรรายการคนค้นคน ได้โพสต์รูปถ่ายหนังสือฉบับหนึ่งที่พาดหัวข่าวเกี่ยวกับกรณีนายสุทธิพงษ์โดนเเจ้ง
ความผิดฐานหมิ่นประมาทและกฎหมายคอมพิวเตอร์ และได้เขียนข้อความลงเฟซบุ๊กว่า "ผมพยายามทำสิ่งที่ถูกต้อง
แต่ยังมีข้อผิดพลาดบกพร่องอยู่มาก คือบทสรุปสำคัญของชีวิตผม ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ผมไม่ได้สะเทือนใจกับการ
ถูกก่นด่า วิพากษ์วิจารณ์บนพื้นฐานของอคติและความเกลียดชัง เพราะผมตระหนักดีอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนตัดสินใจกระทำ
ว่าตัวเองจะต้องพบกับอะไร แต่นอกจากผลอันไปเบียดเบียนทำร้ายผู้อื่นแล้ว สิ่งที่ผมรู้สึกเสียใจมากคือเรื่องที่ผมถูก
ตำหนิในเรื่องความล่าช้าในการออกมาแสดงความรับผิดชอบและไม่กล้าหาญพอที่จะเอ่ยคำ ′ขอโทษ′ ซึ่งดูเหมือนผม
ไม่มีความใส่ใจและจริงใจต่อผู้ได้รับผลกระทบ"
ไม่เคยคิดที่จะต่อสู้กับใคร
นายสุทธิพงษ์ โพสต์ต่ออีกว่า "ผมอยากเรียนข้อเท็จจริงว่า ในวันแถลงข่าวนั้นคำพูดที่ผมอยากพูดที่สุดและอยากพูดคำแรก
คือการขออภัยในสิ่งที่ไม่ได้เจตนา แต่ผมไม่สามารถพูดตามสามัญสำนึกได้ ผมขัดแย้งในจิตใจในเรื่องนี้มาก แต่สุดท้ายต้อง
ยอมจำนนต่อเหตุผลของผู้ปรารถนาดี เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของการต่อสู้กับใคร ผมไม่เคยคิดที่จะต่อสู้ ไม่มีความรู้ ความสามารถ
ที่จะต่อสู้ ที่ต้องต่อสู้อย่างแท้จริงก็คือจิตใจของตัวเอง ความล่าช้าหลายอย่างมาจากการที่ผมไม่อยู่ในสถานะของผู้ที่สามารถ
จะตัดสินใจได้เอง เพราะมันเป็นอีกสนามหนึ่งซึ่งผมพึ่งสามัญสำนึกของตัวเองไม่ได้เลย รวมทั้งการที่ผมไม่ได้รับข่าวสาร
ที่ชัดเจน โดยเฉพาะการติดต่อเข้ามาด้วยเจตนาอันเปิดเผยของข้าวที่ได้รับผลกระทบตามที่เป็นข่าว สองวันที่ผ่านมา ไม่ใช่
สถานการณ์ปกติสำหรับผม แต่เหมือนระเบิดลงในเฟซบุ๊ก มีผู้โพสต์เข้ามามากมายมหาศาลทั้งบวกและลบจนเกินกว่าที่จะ
อ่านได้ไหว โทรศัพท์ดังทั้งวัน บวกกับความวุ่นวายของการจัดการปัญหา ผมจึงไม่ได้รับข่าวสารจริงๆ กระทั่งข่าวตนเองในทีวี
ยังแทบไม่ได้ดู แม้กระทั่งวันนี้ ผมอยากเขียนสิ่งนี้ตั้งแต่เมื่อเช้าแต่ก็เพิ่งสามารถตอนนี้ ในการเงียบหายไปผมไม่ได้เพิกเฉย
ผมกำลังทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ด้วยจิตใจที่ไม่เคยคิดจะไม่รับผิดชอบ สิ่งที่ผมอยากขอร้องโดยเฉพาะผู้มีจิตเมตตาต่อผม
ผมคิดว่าสำหรับเจตนาที่ต้องการทุกอย่างเพียงพอแล้ว"
พร้อมเข้าไปพบและชี้แจง
พิธีกรรายการคนค้นคนโพสต์ตอนท้ายว่า "ขออย่ากระพือสิ่งที่เป็นเหตุแห่งปัญหาซึ่งเป็นความบกพร่องโดยไม่ตั้งใจของผม
ให้ขยายวงอีกเลย หากกรรมเป็นผลของการกระทำ ผมควรจะได้รับผลอันสมควร
ผมอยากให้ทุกท่านใช้ปัญญาแยกแยะ เพราะสำหรับจิตใจผมเอง ผมพร้อมเช่นที่ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ผมพร้อมมากกว่า
ที่จะเข้าไปพบและชี้แจง..."
<
<
<
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1373780519&grpid=00&catid=&subcatid=
"....สิ่งที่ผมรู้สึกเสียใจมากคือเรื่องที่ผมถูกตำหนิในเรื่องความล่าช้าในการออกมาแสดงความรับผิดชอบและไม่กล้าหาญ
พอที่จะเอ่ยคำ ′ขอโทษ′ ซึ่งดูเหมือนผม ไม่มีความใส่ใจและจริงใจต่อผู้ได้รับผลกระทบ"
นายสุทธิพงษ์ โพสต์ต่ออีกว่า "ผมอยากเรียนข้อเท็จจริงว่า ในวันแถลงข่าวนั้นคำพูดที่ผมอยากพูดที่สุดและอยากพูดคำแรก
คือการขออภัยในสิ่งที่ไม่ได้เจตนา แต่ผมไม่สามารถพูดตามสามัญสำนึกได้ ผมขัดแย้งในจิตใจในเรื่องนี้มาก แต่สุดท้ายต้อง
ยอมจำนนต่อเหตุผลของผู้ปรารถนาดี เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของการต่อสู้กับใคร ผมไม่เคยคิดที่จะต่อสู้ ไม่มีความรู้ ความสามารถ
ที่จะต่อสู้ ที่ต้องต่อสู้อย่างแท้จริงก็คือจิตใจของตัวเอง ความล่าช้าหลายอย่างมาจากการที่ผมไม่อยู่ในสถานะของผู้ที่สามารถ
จะตัดสินใจได้เอง
อ่านจนจบ ไม่รู้ว่า ตกลงว่า "เช็ค" ขอโทษ กับการกระทำหรือเปล่า มาช่วยกัน ดูหน่อย
ดูเหมือน เขาเขียน วกวน สับสนไหม แต่ก็บอกไม่ได้ ว่าจะทำอย่างไร เพื่อแก้ไข กับผลกระทบ
และความเสียหาย ที่เกิดขึ้น กับการกระทำของตัวเอง ?
ทุกตัวอักษร เหมือนตั้งใจประดิษฐ์ อ่านเหมือนเป็นปรัชญา ความคิด แต่บอกอะไร ไม่เข้าใจ
ทำไมเรื่องแค่นี้ ตัดสินใจไม่ได้ จิตใจเป็นอะไรไป ต้องมาออกตัวใน fb
"ซีพี"โอดเร่งกู้ภาพข้าวถุง ควัก50ล้าน ฮึ่มฟ้องแพ่ง"สุทธิพงษ์" ....... ข่าวมติชนออนไลน์
ผู้บริหารข้าวซีพีส่งฝ่าย กม.พิจารณาจะถอนแจ้งความหรือเอาผิด
รวมทั้งตรวจเยี่ยมโรงงานข้าวนครหลวง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ รองผู้ว่าฯ
พระนครศรีอยุธยา นายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มการค้าระหว่างประเทศบริษัทเจริญโภคภัณฑ์
พร้อมผู้บริหารและพนักงานให้การต้อนรับ ชมกระบวนการผลิตข้าวอย่างละเอียด ประมาณกว่า 1 ชั่วโมง
นายยรรยงกล่าวว่า จากการตรวจสอบและดูกระบวนการผลิตพบว่าการผลิตข้าวถุงต้องมีการผ่านกระบวนการตรวจสอบ
คุณภาพและทดสอบคุณภาพตั้งแต่การรับข้าวสารถึงการบรรจุถุง ควบคุมการทำงานแบบระบบปิดทำให้ยากที่จะมีสัตว์
แมลง หรือสิ่งเจือปนเข้ามาแปลกปลอมในข้าวถุงได้ เชื่อว่ายี่ห้ออื่นๆ จะมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานเช่นเดียวกัน
"วันนี้ได้ทดลองกินข้าวตราฉัตร เพิ่งออกมาจากกระบวนการผลิต นำมาหุงกินแล้วมีความปลอดภัยรสชาติดี ขอให้
ประชาชนมีความมั่นใจว่าข้าวไทยไม่เป็นอันตราย ไม่มีสารตกค้างอย่างที่เป็นข่าว" นายยรรยงกล่าว
<
<
<
พิธีกร′คนค้นคน′ขอเคลียร์
นายยรรยงกล่าวว่า นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัททีวีบูรพา และเป็นพิธีกรรายการคนค้นคน
ได้ติดต่อขอเข้าพบเพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจกรณีโพสต์ข้อความจนกระทบต่ออุตสาหกรรมข้าวไทย ทั้งนี้
กำหนดวันนัดพบเป็นวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ เบื้องต้นคงให้นายสุทธิพงษ์ร่วมทำแนวทางฟื้นฟูข้าวไทยและทำ
ความเข้าใจกับผู้ถูกพาดพิง ส่วนการจะดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายหรือไม่ คงต้องดูที่เจตนา
ซีพีใช้50ล.เรียกความเชื่อมั่น
นายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ เครือเจริญโภคภัณฑ์
บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวตราฉัตร กล่าวว่า ยังไม่ได้ประเมินว่าข้าวตราฉัตรได้รับความเสียหาย
ในแง่มูลค่าเท่าไหร่ แต่ยอมรับว่าเกิดความเสียหายต่อภาพพจน์ตราสินค้าและบริษัทแล้ว จึงได้มีการดำเนินการจะ
ฟ้องร้องกับผู้โพสต์ข้อความที่เป็นเท็จแล้ว
"ได้รับการติดต่อจากนายสุทธิพงษ์เพื่อขอเข้ามาชี้แจง คงขึ้นอยู่กับฝ่ายกฎหมายของ ซี.พี.ว่าจะถอนแจ้งความหรือ
ดำเนินคดีต่อทั้งทางแพ่งและอาญา" นายสุเมธกล่าว
นายสุเมธกล่าวว่า บริษัทได้ทำแผนการฟื้นฟูข้าวตราฉัตรโดยได้ทำหนังสือและเอกสารประกอบชี้แจงถึงกระบวนการ
ผลิตที่ได้มาตรฐานสูงและรับรองความปลอดภัยให้กับคู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศรับทราบ และเตรียม
งบประมาณ 30-50 ล้านบาท ในการทำประชาสัมพันธ์เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นข้าวไทย
<
<
<
′สุทธิพงษ์′แจงยาวผ่านเฟซบุ๊ก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 12 กรกฎาคม เฟซบุ๊ก Suttipong Thamawuit ของนายสุทธิพงษ์
ธรรมวุฒิ พิธีกรรายการคนค้นคน ได้โพสต์รูปถ่ายหนังสือฉบับหนึ่งที่พาดหัวข่าวเกี่ยวกับกรณีนายสุทธิพงษ์โดนเเจ้ง
ความผิดฐานหมิ่นประมาทและกฎหมายคอมพิวเตอร์ และได้เขียนข้อความลงเฟซบุ๊กว่า "ผมพยายามทำสิ่งที่ถูกต้อง
แต่ยังมีข้อผิดพลาดบกพร่องอยู่มาก คือบทสรุปสำคัญของชีวิตผม ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ผมไม่ได้สะเทือนใจกับการ
ถูกก่นด่า วิพากษ์วิจารณ์บนพื้นฐานของอคติและความเกลียดชัง เพราะผมตระหนักดีอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนตัดสินใจกระทำ
ว่าตัวเองจะต้องพบกับอะไร แต่นอกจากผลอันไปเบียดเบียนทำร้ายผู้อื่นแล้ว สิ่งที่ผมรู้สึกเสียใจมากคือเรื่องที่ผมถูก
ตำหนิในเรื่องความล่าช้าในการออกมาแสดงความรับผิดชอบและไม่กล้าหาญพอที่จะเอ่ยคำ ′ขอโทษ′ ซึ่งดูเหมือนผม
ไม่มีความใส่ใจและจริงใจต่อผู้ได้รับผลกระทบ"
ไม่เคยคิดที่จะต่อสู้กับใคร
นายสุทธิพงษ์ โพสต์ต่ออีกว่า "ผมอยากเรียนข้อเท็จจริงว่า ในวันแถลงข่าวนั้นคำพูดที่ผมอยากพูดที่สุดและอยากพูดคำแรก
คือการขออภัยในสิ่งที่ไม่ได้เจตนา แต่ผมไม่สามารถพูดตามสามัญสำนึกได้ ผมขัดแย้งในจิตใจในเรื่องนี้มาก แต่สุดท้ายต้อง
ยอมจำนนต่อเหตุผลของผู้ปรารถนาดี เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของการต่อสู้กับใคร ผมไม่เคยคิดที่จะต่อสู้ ไม่มีความรู้ ความสามารถ
ที่จะต่อสู้ ที่ต้องต่อสู้อย่างแท้จริงก็คือจิตใจของตัวเอง ความล่าช้าหลายอย่างมาจากการที่ผมไม่อยู่ในสถานะของผู้ที่สามารถ
จะตัดสินใจได้เอง เพราะมันเป็นอีกสนามหนึ่งซึ่งผมพึ่งสามัญสำนึกของตัวเองไม่ได้เลย รวมทั้งการที่ผมไม่ได้รับข่าวสาร
ที่ชัดเจน โดยเฉพาะการติดต่อเข้ามาด้วยเจตนาอันเปิดเผยของข้าวที่ได้รับผลกระทบตามที่เป็นข่าว สองวันที่ผ่านมา ไม่ใช่
สถานการณ์ปกติสำหรับผม แต่เหมือนระเบิดลงในเฟซบุ๊ก มีผู้โพสต์เข้ามามากมายมหาศาลทั้งบวกและลบจนเกินกว่าที่จะ
อ่านได้ไหว โทรศัพท์ดังทั้งวัน บวกกับความวุ่นวายของการจัดการปัญหา ผมจึงไม่ได้รับข่าวสารจริงๆ กระทั่งข่าวตนเองในทีวี
ยังแทบไม่ได้ดู แม้กระทั่งวันนี้ ผมอยากเขียนสิ่งนี้ตั้งแต่เมื่อเช้าแต่ก็เพิ่งสามารถตอนนี้ ในการเงียบหายไปผมไม่ได้เพิกเฉย
ผมกำลังทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ด้วยจิตใจที่ไม่เคยคิดจะไม่รับผิดชอบ สิ่งที่ผมอยากขอร้องโดยเฉพาะผู้มีจิตเมตตาต่อผม
ผมคิดว่าสำหรับเจตนาที่ต้องการทุกอย่างเพียงพอแล้ว"
พร้อมเข้าไปพบและชี้แจง
พิธีกรรายการคนค้นคนโพสต์ตอนท้ายว่า "ขออย่ากระพือสิ่งที่เป็นเหตุแห่งปัญหาซึ่งเป็นความบกพร่องโดยไม่ตั้งใจของผม
ให้ขยายวงอีกเลย หากกรรมเป็นผลของการกระทำ ผมควรจะได้รับผลอันสมควร
ผมอยากให้ทุกท่านใช้ปัญญาแยกแยะ เพราะสำหรับจิตใจผมเอง ผมพร้อมเช่นที่ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ผมพร้อมมากกว่า
ที่จะเข้าไปพบและชี้แจง..."
<
<
<
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1373780519&grpid=00&catid=&subcatid=
"....สิ่งที่ผมรู้สึกเสียใจมากคือเรื่องที่ผมถูกตำหนิในเรื่องความล่าช้าในการออกมาแสดงความรับผิดชอบและไม่กล้าหาญ
พอที่จะเอ่ยคำ ′ขอโทษ′ ซึ่งดูเหมือนผม ไม่มีความใส่ใจและจริงใจต่อผู้ได้รับผลกระทบ"
นายสุทธิพงษ์ โพสต์ต่ออีกว่า "ผมอยากเรียนข้อเท็จจริงว่า ในวันแถลงข่าวนั้นคำพูดที่ผมอยากพูดที่สุดและอยากพูดคำแรก
คือการขออภัยในสิ่งที่ไม่ได้เจตนา แต่ผมไม่สามารถพูดตามสามัญสำนึกได้ ผมขัดแย้งในจิตใจในเรื่องนี้มาก แต่สุดท้ายต้อง
ยอมจำนนต่อเหตุผลของผู้ปรารถนาดี เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของการต่อสู้กับใคร ผมไม่เคยคิดที่จะต่อสู้ ไม่มีความรู้ ความสามารถ
ที่จะต่อสู้ ที่ต้องต่อสู้อย่างแท้จริงก็คือจิตใจของตัวเอง ความล่าช้าหลายอย่างมาจากการที่ผมไม่อยู่ในสถานะของผู้ที่สามารถ
จะตัดสินใจได้เอง
อ่านจนจบ ไม่รู้ว่า ตกลงว่า "เช็ค" ขอโทษ กับการกระทำหรือเปล่า มาช่วยกัน ดูหน่อย
ดูเหมือน เขาเขียน วกวน สับสนไหม แต่ก็บอกไม่ได้ ว่าจะทำอย่างไร เพื่อแก้ไข กับผลกระทบ
และความเสียหาย ที่เกิดขึ้น กับการกระทำของตัวเอง ?
ทุกตัวอักษร เหมือนตั้งใจประดิษฐ์ อ่านเหมือนเป็นปรัชญา ความคิด แต่บอกอะไร ไม่เข้าใจ
ทำไมเรื่องแค่นี้ ตัดสินใจไม่ได้ จิตใจเป็นอะไรไป ต้องมาออกตัวใน fb