ฝากเตือนกันด้วยนะครับ ทั้งภิกษุทั้งญาติโยมเอง
ในพระวินัยข้อสำคัญ กับรายละเอียดเล็กน้อย ที่ไม่อาจจะมองข้ามไปได้
โดยเฉพาะผู้ที่ต้องหิ้วของ ขนสินค้า เข้าเมืองหลบศุลกากร
ไม่ว่าจะพระขนของตัวเอง หรือญาติโยมฝากพระช่วยขน โดยจงใจหนีภาษี
รวมทั้งกลุ่มที่สั่งสินค้าต่างประเทศ แต่ไม่ระบุมูลค่าราคาเต็มของสินค้าบนพัสดุนั้น ด้วยเจตนาจะหลบภาษี
(หรือสั่งรถหรูจากนอก แล้วหลบภาษี โดยพระรู้เห็นเป็นใจด้วย)
เรื่องนำแก้วมณีล่วงด่านภาษี ๓ เรื่อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้[๑๕๒] ๑. ก็โดยสมัยนั้นแล บุรุษผู้หนึ่งนำแก้วมณีซึ่งมีราคามากเดินทางไกลไปกับภิกษุรูปหนึ่ง
ครั้นบุรุษนั้นเห็นด่านภาษี จึงหย่อนแก้วมณีลงในถุงย่ามของภิกษุนั้นผู้ไม่รู้ตัว
เดินพ้นด่านภาษีไปแล้ว จึงถือนำไปเอง
ภิกษุนั้นได้มีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกแล้ว กระมังหนอ
จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิดอย่างไร?
ภิ. ข้าพระพุทธเจ้าไม่รู้ตัว พระพุทธเจ้าข้า
ภ. ดูกรภิกษุ ภิกษุผู้ไม่รู้ตัว ไม่ต้องอาบัติ
๒. ก็โดยสมัยนั้นแล บุรุษผู้หนึ่งนำแก้วมณีซึ่งมีราคามาก เดินทางไกลไปกับภิกษุรูปหนึ่ง
ครั้นบุรุษนั้นเห็นด่านภาษี จึงทำลวงว่าเป็นไข้ แล้วได้ให้ห่อของของตนแก่ภิกษุนั้น
ครั้นเดินทางพ้นด่านภาษีไปแล้ว บุรุษนั้นจึงได้กล่าวกะภิกษุนั้นว่า
ท่านผู้เจริญ ขอท่านจงนำห่อของของผมมา ผมหาได้เป็นไข้ไม่
ภิกษุนั้นถามว่า ท่าน ท่านได้ทำทีท่าเช่นนั้นเพื่อประสงค์อะไร บุรุษนั้นได้แจ้งความแก่ภิกษุนั้นแล้ว
เธอได้มีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกแล้ว กระมังหนอ
จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอคิดอย่างไร?
ภิ. ข้าพระพุทธเจ้าไม่รู้ตัว พระพุทธเจ้าข้า
ภ. ดูกรภิกษุ ภิกษุผู้ไม่รู้ตัว ไม่ต้องอาบัติ
๓. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเดินทางไกลไปกับพวกเกวียน
บุรุษคนหนึ่งเกลี้ยกล่อม ภิกษุนั้นด้วยอามิสแล้ว เห็นด่านภาษี
จึงส่งแก้วมณีซึ่งมีราคามากให้แก่ภิกษุนั้น ด้วยขอร้องว่า
ท่านผู้เจริญ ขอท่านจงช่วยนำแก้วมณีนี้ผ่านด่านภาษีด้วย
จึงภิกษุนั้นนำแก้วมณีนั้นให้ผ่านด่านภาษีไปแล้ว ได้มีความรังเกียจว่า
เราต้องอาบัติปาราชิกแล้ว กระมังหนอ
จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า
ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว.
ที่มา
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=1&A=7100
[กระทู้เตือน] เลี่ยงภาษี ต้องอาบัติปาราชิก
ในพระวินัยข้อสำคัญ กับรายละเอียดเล็กน้อย ที่ไม่อาจจะมองข้ามไปได้
โดยเฉพาะผู้ที่ต้องหิ้วของ ขนสินค้า เข้าเมืองหลบศุลกากร
ไม่ว่าจะพระขนของตัวเอง หรือญาติโยมฝากพระช่วยขน โดยจงใจหนีภาษี
รวมทั้งกลุ่มที่สั่งสินค้าต่างประเทศ แต่ไม่ระบุมูลค่าราคาเต็มของสินค้าบนพัสดุนั้น ด้วยเจตนาจะหลบภาษี
(หรือสั่งรถหรูจากนอก แล้วหลบภาษี โดยพระรู้เห็นเป็นใจด้วย)
เรื่องนำแก้วมณีล่วงด่านภาษี ๓ เรื่อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
๓. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเดินทางไกลไปกับพวกเกวียน
บุรุษคนหนึ่งเกลี้ยกล่อม ภิกษุนั้นด้วยอามิสแล้ว เห็นด่านภาษี
จึงส่งแก้วมณีซึ่งมีราคามากให้แก่ภิกษุนั้น ด้วยขอร้องว่า
ท่านผู้เจริญ ขอท่านจงช่วยนำแก้วมณีนี้ผ่านด่านภาษีด้วย
จึงภิกษุนั้นนำแก้วมณีนั้นให้ผ่านด่านภาษีไปแล้ว ได้มีความรังเกียจว่า
เราต้องอาบัติปาราชิกแล้ว กระมังหนอ
จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกรภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว.
ที่มา
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=1&A=7100