(18+) .. เรื่องในพระวินัย - ฝ่ายภิกษุสงฆ์





อมยิ้ม33
คุณโยม เฉพาะเรื่องนี้รูปอาจทำได้ ท่านพระสุทินน์ตอบแล้วจูงแขนปุราณทุติยิกาพาเข้าป่ามหาวัน เป็นผู้มีความเห็นว่าไม่มีโทษ
เพราะสิกขาบทยังมิได้ทรงบัญญัติ จึงเสพเมถุนธรรมกับปุราณทุติยิกา ๓ ครั้ง นางได้ตั้งครรภ์เพราะอัฌาจารนั้น.
................................................................................................................................................................
ดูกรโมฆบุรุษ เมื่อการกระทำนั้น มีโทษอยู่ เธอยังชื่อว่าได้ต้องอสัทธรรม อันเป็นเรื่องของชาวบ้าน เป็นมรรยาทของคนชั้นต่ำ
อันชั่วหยาบ มีน้ำเป็นที่สุด มีในที่ลับ เป็นของคนคู่ อันคนคู่พึงร่วมกันเป็นไป เธอเป็นคนแรกที่กระทำอกุศลธรรม
เป็นหัวหน้าของคนเป็นอันมาก
การกระทำของเธอนั่นไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความ
เลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว โดยที่แท้ การกระทำของเธอนั่น เป็นไปเพื่อความไม่เลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส
และเพื่อความเป็นอย่างอื่นของชนบางพวกที่เลื่อมใสแล้ว.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=01&A=316&Z=670





อมยิ้ม33
ลิงตัวเมียนั้นแลเห็นภิกษุเหล่านั้นกำลังเดินมาแต่ไกลเทียว ครั้นแล้วได้เข้าไปหาภิกษุเหล่านั้นยกสะเอวบ้าง
โก่งหางบ้าง แอ่นตะโพกบ้าง ทำนิมิตบ้าง เบื้องหน้าภิกษุเหล่านั้น จึงภิกษุเหล่านั้นสันนิษฐานว่า ภิกษุเจ้าของถิ่น
เสพเมถุนธรรมในลิงตัวเมียนี้แน่
ไม่ต้องสงสัย แล้วแฝงอยู่ ณ ที่กำบังแห่งหนึ่ง.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=1&A=671&Z=750&pagebreak=0




อมยิ้ม33
ถ้าเธอยินดีการเข้าไป ยินดีการเข้าไปถึงที่แล้ว ยินดีการหยุดอยู่ ยินดีการถอนออก
ต้องอาบัติปาราชิก
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=1&A=1350&Z=2187&pagebreak=0





อมยิ้ม33
ต่อมา ท่านพระเสยยสกะฉันอาหารพอแก่ความต้องการ จำวัดพอแก่ความต้องการสรงน้ำพอแก่ความต้องการ
ครั้นฉันอาหาร จำวัด สรงน้ำพอแก่ความต้องการแล้ว เมื่อใดความกระสันบังเกิด ราคะรบกวนจิต
เมื่อนั้นก็ใช้มือพยายามปล่อยอสุจิ
สมัยต่อมา ท่านพระเสยยสกะ ได้เป็นผู้มีผิวพรรณ มีอินทรีย์อิ่มเอิบ
มีสีหน้าสดใส มีฉวีวรรณผุดผ่อง จึงพวกภิกษุสหายของท่านพระเสยยสกะถามท่านพระเสยยสกะว่า
อาวุโส เสยยสกะ เมื่อก่อนคุณซูบผอม
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=1&A=11379&Z=11520&pagebreak=0





อมยิ้ม33
ภิกษุจงใจ พยายาม เมื่อเวลาถูกบุ้งขน สุกกะเคลื่อน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=1&A=11521&Z=11933&pagebreak=0





อมยิ้ม33
ภิกษุรูปหนึ่งกำลังตรึกถึงกามวิตกอยู่ อสุจิเคลื่อนแล้ว เธอได้มีความรังเกียจว่า
เราต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค
.............................................................................................................................................................................
ภิกษุรูปหนึ่งมีแผลที่องค์กำเนิด เธอมีความประสงค์จะให้อสุจิเคลื่อน กำลังทายา อสุจิเคลื่อน
เธอได้มีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค

................................................................................................................................................................................
ภิกษุรูปหนึ่งกำลังเกาอัณฑะ อสุจิเคลื่อน เธอได้มีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วกระมังหนอ
จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่ผู้มีพระภาค

.................................................................................................................................................................................
ภิกษุรูปหนึ่งมีความประสงค์จะให้อสุจิเคลื่อน อาบน้ำทวนกระแส อสุจิเคลื่อน เธอได้มีความรังเกียจว่า
เราต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค

................................................................................................................................................................................
ภิกษุรูปหนึ่งมีความประสงค์จะให้อสุจิเคลื่อน สีองค์กำเนิดบนที่นอน อสุจิเคลื่อน
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=1&A=12740&Z=13151&pagebreak=0










อมยิ้ม33
[๕๔] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุผู้ถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตรรูปหนึ่ง เห็นเด็กหญิงนอนอยู่บนตั่ง เกิดความกำหนัด
จึงสอดนิ้วแม่มือเข้าไปในองค์กำเนิดเด็กหญิงๆ นั้นตาย

...................................................................................................................................................................................
เวลาปัจฉาภัตรภิกษุณีอุปปลวัณณากลับจากบิณฑบาต ล้างเท้าแล้วเข้ากุฎีนั่งบนเตียง มาณพนั้นจึงเข้าปลุกปล้ำ
ประทุษร้ายภิกษุณีอุปปลวัณณา
นางจึงแจ้งเหตุนั้นแก่ภิกษุณีทั้งหลายๆ ได้แจ้งเรื่องนั้นแก่ภิกษุทั้งหลายๆ
จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีผู้ไม่ยินดี ไม่ต้องอาบัติ.

...................................................................................................................................................................................
ภิกษุรูปหนึ่งคิดว่า เราจักไม่ต้องอาบัติด้วยวิธีอย่างนี้ แล้วเสพเมถุนธรรมในมารดา เธอได้มีความรังเกียจว่า

...................................................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................................................
ภิกษุชื่อสุนทระ บวชจากกรุงราชคฤห์ แล้วเดินไปตามถนน สตรีผู้หนึ่งเห็นท่านแล้วกล่าวว่า ท่านเจ้าข้า
นิมนต์หยุดประเดี๋ยวก่อน ดิฉันจักไหว้ นางไหว้ พลางเลิกผ้าอันตรวาสกขึ้นแล้ว ได้อมองค์กำเนิดด้วยปาก

...................................................................................................................................................................................
ภิกษุรูปหนึ่งไปป่าช้า เห็นศพซึ่งมีศีรษะขาด ได้สอดองค์กำเนิดเข้าไปกระทบในปากที่อ้า

...................................................................................................................................................................................
[๗๐] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอยู่ในที่พักกลางวัน ณ กูฎาคารศาลาป่ามหาวัน แขวงเมืองเวสาลี เปิดประตูจำวัดหลับอยู่
อวัยวะใหญ่น้อยของเธอ ถูกลมรำเพยให้ตึงตัวครั้งนั้น สตรีหลายคนถือของหอมและดอกไม้ไปสู่อาราม มุ่งตรงไปยังวิหาร
พบภิกษุนั้น แล้วได้นั่งคร่อมองค์กำเนิด กระทำการพอแก่ความประสงค์ แล้วกล่าวว่าภิกษุนี้เป็นบุรุษองอาจนัก
แล้วถือของหอมและดอกไม้กลับไป

...................................................................................................................................................................................
ภิกษุเห็นองค์กำเนิดเปรอะเปื้อน จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคๆ ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
องค์กำเนิดย่อมเป็นอวัยวะใช้การได้ด้วยอาการ ๕ อย่าง

คือ กำหนัด ๑ ปวดอุจจาระ ๑ ปวดปัสสาวะ ๑ ถูกลมรำเพย ๑ ถูกบุ้งขน ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย องค์กำเนิดเป็นอวัยวะใช้การได้ด้วยอาการ ๕ อย่างนี้แล องค์กำเนิดของภิกษุนั้น
พึงใช้การได้ด้วยความกำหนัดใด ข้อนั้น ไม่ใช่ฐานะ ไม่ใช่โอกาส เพราะภิกษุนั้นเป็นอรหันต์ ภิกษุนั้นไม่ต้องอาบัติ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุผู้จะพักผ่อนในกลางวัน ปิดประตูก่อนจึงจะพักผ่อนได้.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=01&A=5569&Z=6086





อมยิ้ม33
นางบอกว่า ส่งมาเถิดเจ้าข้า ดิฉันเองจักซักถวาย. ครั้นแล้วนางได้ดูดอสุจินั้นของท่าน
ส่วนหนึ่ง
อีกส่วนหนึ่งได้สอดเข้าไปในองค์กำเนิด นางได้ตั้งครรภ์เพราะเหตุนั้นแล้ว.
http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=02&A=553&Z=751



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่