SPOILER!!! สงครามจอกเกาะฮัตสึมิ (World Embryo) #87 - ความหวังสุดท้ายก่อนโลกดับสูญ...

หมู่นี้ความขี้เกียจเริ่มเข้าสิงจริงๆ แล้วแฮะ ค้างไว้ 2 ตอนแล้วยังไม่ทำต่อซะที คงเพราะฉากที่รอคอยมาหลายตอน (ฉากย้อนอดีตอามาเนะ + ซัดตัวๆ กับทาคาโอะ) ยังไม่มาด้วยล่ะมั้ง -3-

แต่เอาจริงอ่านตอนนี้ไปก็นึกภาพตามอะไรไปด้วยได้หลายฉากเลยแฮะ ทำเอาทนอ่านตอนต่อไปแทบไม่ไหวขึ้นมาเลยเชียว


อนึ่ง เนื้อหาบางส่วนที่จะกล่าวถึงดังต่อไปนี้ผมเพ้อเล่นๆ ตามอารมณ์สมัยยังดู Fate/Zero อยู่ครับ ส่วนใครเป็นคลาสไหนเชิญดูในกระทู้เก่าที่ผมลงไว้ครับ

[Spoil ถึงตอน 73] หากตัวละครในเรื่อง World Embryo เป็นเซอร์แวนท์แบบในซีรี่ส์ Fate ละก็...

http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/2012/03/A11898239/A11898239.html







- เปิดตอนมาทางฝั่งเรน่าที่โดนเถาวัลย์หนามสีดำที่เกิดจากน้ำดำจากเอมบริโอรัดไว้จนขยับไม่ออก โชคดีได้อามาเนะส่งพลังเฮือกสุดท้ายก่อนตายมาทำลายเถาวัลย์ให้จนหลุดออกจากผนึกมาได้

- ตัดมาทางยอดตึกที่เป็นสถานที่ต่อสู้ตัดสินระหว่างแก๊งค์ผู้ใช้จิงกิกับอามาเนะในตอนก่อน พวกผู้ใช้จิงกิที่ยังตื่นอยู่ไม่ได้โดนสะกดให้อยู่ในความฝันกำลังสู้กับหน่วยสหบาทา (แก๊งค์คังชุดำ) ของอามาเนะอยู่ (น้ำดำจากเอมบริโอยังเข้ามาไม่ถึงในนี้ คาดว่าเป็นเพราะในนี้ยังมีเคจของอามาเนะคุ้มกันอยู่ เลยยังไม่โดนผลของน้ำดำ)

- อามาเนะใช้พลังครั้งสุดท้าย วาร์ปพวกผู้ใช้จิงกิทั้งหมดขึ้นมาอยู่บนยอดหอคอยชั้นบนสุดของเอมบริโอที่เป็นที่ที่อามาเนะกับริคุสู้ตัดสินกันเมื่อ 2 ตอนก่อน

- หลังปลุกพวกผู้ใช้จิงกิที่หลับอยู่ให้ตื่นแล้ว สิ่งที่ผู้ใช้จิงกิทั้งหมดได้เห็น ก็คือภาพเมืองโตเกียวที่โดนน้ำดำจากเอมบริโอท่วมจนมิดเหมือนโดนซึนามิถล่ม

- ทั้งหมดได้แต่หน้าซีดพูดไม่ออกกับสภาพเมืองตรงหน้าที่ไม่ว่าดูยังไงก็ไม่น่ามีใครรอดชีวิตเลย พวกผู้ใช้จิงกิหน่วยลงทะเบียนสำรองบางคนเกิดคลั่งขึ้นมา หันไปแผดเสียงด่าใส่ริคุว่าเป็นต้นเหตุให้เรื่องมันเลวร้ายถึงขนาดนี้ (อ้าว...เขาอุตส่าห์หาวิธีช่วยพวกเอ็งไม่ให้ตายกันตั้งกะตอนนั้น ยังไปด่าเขาอีก ถามจริงเหอะ น้ำหน้าอย่างพวกเอ็งถ้าไม่ได้ริคุช่วยออกอุบายซื้อเวลาให้จะมีปัญญาเอาตัวรอดกันเองเรอะ อยากจะรู้)

- แต่สิ่งที่ทุกคนได้เห็นก็คือ...สภาพของริคุที่นั่งนิ่งกับพื้นเฉยๆ ดวงตาเลื่อนลอยเหมือนคนใกล้บ้าอยู่ท่ามกลางกองเถ้าจากร่างของอามาเนะ


สภาพของเบอร์เซอร์เกอร์ริคุหลังไรเดอร์อามาเนะดับสูญ...Mad Enhancement ถึงกับ Rank Down ดิ่งเหวลงมาอยู่ที่ระดับ Extra E Minus ในพริบตา เม่าจอแดง



- ตอนนั้นเอง น้ำดำจากเอมบริโอก็แปรสภาพเป็นเถาวัลย์หนามสีดำเลื้อยพรวดขึ้นมายังยอดบนสุดที่พวกผู้ใช้จิงกิอยู่ พวกนี้เลยเลิกหาเรื่องแล้วหันไปรับมือกับเถาวัลย์ดำที่พุ่งเข้ามา

- มีแต่ริคุเท่านั้นที่ไม่มีทีท่าคิดต่อสู้เลย ได้แต่นั่งตาค้างอยู่เฉยๆ ปล่อยให้เถาวัลย์ดำแล่นมาโจมตีอยู่อย่างนั้น

- แต่ก่อนที่เถาวัลย์ดำจะทันถึงตัว ก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมาจากกองฝุ่นเถ้าจากซากร่างของอามาเนะที่สลายไป เถาวัลย์ดำพอโดนแสงนั้นเข้าก็ชะงักอย่างตกใจ แล้วหดกลับไปจากยอดหอคอยจนหมด

- ริคุเบิกตากว้าง หันขวับกลับไปคุ้ยกองเถ้านั้นอีกครั้ง และสิ่งที่เขาได้พบจากกองเถ้านั้นก็คือ...




- เถาวัลย์ดำเริ่มเลื้อยขึ้นมาอีกครั้ง เรียกให้ผู้ใช้จิงกิหันกลับไปเตรียมรับมือกันอีกรอบ

- แต่ยังไม่ทันที่เถาวัลย์ดำจะเลื้อยขึ้นมาถึง อยู่ๆ ยอดหอคอยทั้งหอก็โดนเทเลพอร์ทวาร์ปไปยังยอดตึกอีกแห่งไกลลิบจากตำแหน่งของเอมบริโอ โดยคนที่สั่งเทเลพอร์ทก็คือเรน่านั่นเอง

- ผู้ใช้จิงกิทุกคนยืดตัวขึ้นอย่างระวังตัว เพราะรู้มาว่าเรน่าในตอนนี้กลายเป็ํนคิวกิในอาณัติของพวกตาแก่กับทาคาโอะไปแล้ว ดังนั้นจึงถือว่าเป็นศัตรูคนหนึ่ง

- ทว่า สิ่งที่คิวกิเรน่าทำเป็นอย่างแรกหลังจากเทเลพอร์ทแก๊งค์ผู้ใช้จิงกิมา ก็คือ...ตบเรียกสติบักริคุ




- ตบเรียกสติบักริคุเสร็จ เรน่าก็หันไปบอกกับผู้ใช้จิงกิคนอื่นๆ ว่าอย่าเพิ่งสิ้นหวังไป โลกยังไม่ได้จบสิ้นแล้วซักหน่อย

- ว่าจบ เรน่าก็ชี้นิ้วไปยังน้ำดำที่ไหลอยู่เต็มถนนหนทางในเมืองโตเกียวนั้น พวกผู้ใช้จิงกิมองตาม แล้วก็ต้องตะลึง เมื่อพบว่าท่ามกลางของเหลวสีดำนั้นมีดวงแสงเล็กๆ นับหมื่นๆ หรืออาจจะแสนๆ ดวงกำลังส่องประกายระยิบระยับอยู่

- ฉากตัดไปยังภายในน้ำดำที่ท่วมเมือง ภาพฉายให้เห็นว่ามีละอองแสงระยิบระยับลอยออกมาจากโทรศัพท์มือถือที่แต่ละคนถืออยู่ กลายเป็นอาณาเขตคุ้มกันไม่ให้พวกน้ำดำที่ท่วมเมืองเข้าใกล้คนที่อยู่ในรัศมีแสงนั้นได้

- และเจ้าของปาฏิหาริย์อันเหลือเชื่อในครั้งนี้...ก็คือคิวกิเอนเด และซาโกมิซึกับบรรดาหน่วยสนับสนุนนั่นเอง



*หมายเหตุ - อ่านถึงตรงนี้แล้วเหมือนประชดกันจริงๆ เลยแฮะ ทั้งที่เรื่องช่วงแรกๆ จนถึงเล่ม 7 คังชุเกิดมาเพราะเอนเดกับคาราซาว่าเป็นคนแพร่เชื้อผ่านมือถือกับสื่ออิเล็กทรอนิกส์แท้ๆ มาตอนนี้กลับเป็นฝ่ายช่วยคนให้รอดจากความตายด้วยวิธีเดียวกับที่ตัวเองเคยใช้ทำร้ายคนมา โลกเรานี่มันเอาอะไรแน่นอนไม่ได้เลยจริงๆ


- ภาพที่เห็นทำให้ขวัญของฝั่งผู้ใช้จิงกิเริ่มกลับมาอีกครั้ง มีแต่เอนเดที่ยังแอบเครียดอยู่เงียบๆ คนเดียวเพราะรู้ว่าลูกเล่นนี้ใช้ได้ผลแค่ชั่วคราวเท่านั้น ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด (เพราะน้ำดำจากเอมบริโอยังท่วมอยู่เต็มเมือง ลำพังแค่เรน่ากับเอนเดไม่สามารถยับยั้งไว้ได้)

- เอนเดตัดสินใจดำดิ่งลึกลงไปในความทรงจำของเอมบริโอเพื่อหาวิธีแก้ไข และสิ่งที่เอนเดได้พบในนั้นก็คือ...




- ตัดฉากกลับมาทางฝั่งผู้ใช้จิงกิที่กำลังดีใจกันอยู่ มีแต่บักริคุที่ยังยืนถือรังไหมตีหน้าซึมกะทืออยู่เหมือนเดิม

- เรน่าต้องเข้ามาเรียกสติอีกครั้ง โดยบอกว่า อย่าคิดเชียวนะว่าโลกนี้จะเป็นยังไงก็ช่าง โลกนี้คือสถานที่ที่อามาเนะทุ่มตัวปกป้องถึงขนาดยอมเดิมพันด้วยชีวิต ยอมเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกเชียวนะ

- เรน่า "โลกที่เธอคนนั้น (อามาเนะ) ฝากไว้กับเธอใบนี้ จะปล่อยให้เป็นยังไงก็ช่างได้ยังไงกัน!"




- ริคุเบิกตากว้างอย่างตะลึงอีกครั้ง เรน่าก็กระทุ้งต่อว่า อามาเนะเองถึงจะหายไปแล้วก็จริง แต่ก็ไม่ได้หายไปทั้งหมด ยังมีเสี้ยวหนึ่งของตัวอามาเนะที่เจ้าตัวพยายามปกป้องไว้ด้วยชีวิตของตัวเองอยู่

- และสิ่งที่อามาเนะปกป้องไว้ด้วยชีวิตในวินาทีสุดท้ายนั้น...ก็คือเสี้ยวหนึ่งของเนเน่ซึ่งอยู่ในรังไหมเล็กๆ ในมือริคุนั่นเอง




- คราวนี้บักริคุเลยบ่อน้ำตาแตก ระเบิดเสียงร้องไห้ออกมาดังลั่นจนตัวโยน เรน่าก็ปลอบริคุจนหยุดร้อง แล้วบอกริคุให้หาทางนำเนเน่กลับคืนมาด้วยกัน

- ปลอบริคุจนได้กำลังใจคืนมาเสร็จ เรน่าก็หันไปบอกพวกผู้ใช้จิงกิทุกคนว่าเธอกับริคุจะดำดิ่งลงไปปลุกความทรงจำของเนเน่ที่หลับอยู่ในรังไหมเล็กๆ นี้ให้ตื่นขึ้นมาเป็นคิวกิอีกครั้ง โดยระหว่างนั้นทั้งริคุและเรน่าจะอยู่ในสภาพป้องกันตัวไม่ได้โดยสิ้นเชิง ให้พวกผู้ใช้จิงกิช่วยกันคุ้มกันร่างของเธอกับริคุไว้อย่าให้ศัตรูเข้ามาใกล้ได้

- เรน่าอธิบายเหตุผลว่า ลำพังมีคิวกิแค่ 2 ตนคงไม่เพียงพอจะหยุดยั้งน้ำดำจากเอมบริโอพวกนั้นได้แน่ ต้องมีคิวกิตั้งแต่ 3 ตนขึ้นไปเท่านั้นถึงจะพอรับมือได้

- ระหว่างที่พวกเอนเดกับผู้ใช้จิงกิคุยกันอยู่ ซาโกมิซึก็นั่งเครื่องบินลำเลียงพลเอา "พาร์ทเสริม" ชิ้นใหม่มาส่งให้โทโงถึงที่ (ส่วนจะเป็นอะไรคงได้เห็นกันในตอนหน้านี่แหละครับ)

- ตอนนั้นเอง พวกน้ำดำที่รับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของคิวกิอีกตนก็มุ่งหน้าตรงมายังยอดตึกที่พวกผู้ใช้จิงกิอยู่เพื่อทำลายรังไหมให้สิ้นซากก่อนที่คิวกิตนใหม่จะถือกำเนิด

- งวดนี้แก๊งค์ผู้ใช้จิงกิ ทั้งหน่วยหลัก หน่วยย่อย กระทั่งพวกหน่วยลงทะเบียนสำรอง (ที่ส่วนใหญ่ปอดแหกหมอไม่รับเย็บกันทั้งนั้น) เลยต้องมาผนึกกำลังร่วมกัน ตั้งแนวป้องกันล้อมริคุกับเรน่าไว้ตรงกลาง แล้วคอยต่อสู้ป้องกันไว้ไม่ยอมให้น้ำดำที่แปลงตัวเป็นเถาวัลย์เหล่านั้นเข้าถึงตัวทั้งคู่แม้แต่นิดเดียว

- ริคุกับเรน่าผนึกจิตร่วมกัน ดำดิ่งลงไปในรังไหมเพื่อเรียกเนเน่ที่หลับอยู่ให้ตื่นขึ้นมา




- จบตอนที่ 87 -







อ่านถึงตอนที่พวกผู้ใช้จิงกิผนึกกำลังกันเตรียมรับมือกับน้ำดำจากจอกคุง...เอ๊ย!!...จากเอมบริโอแล้ว ผมนึกภาพฉากนี้ใน Fate/Hollow Ataraxia ขึ้นมาเลยครับ หัวเราะ


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



แต่ที่แน่ๆ ฉากที่ผมรอดูที่สุด นอกจากฉากย้อนอดีตของอามาเนะ (ที่มีแนวโน้มว่าจะได้เห็นแน่ๆ จากการดำดิ่งลงไปในรังไหมของเนเน่) กับฉากเนเน่คืนชีพแล้ว ก็คงจะเป็นฉากเผชิญหน้าระหว่างบักริคุกับทาคาโอะมาซัดกันครั้งสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะเป็นคู่เอกปิดท้ายรายการแน่ๆ ละ

อนึ่ง บอกตรงๆ ขณะนี้ผมนึกภาพฉากบักริคุกับทาคาโอะซัดกันออกมาแบบเดียวกับฉากสองคนนี้ซัดกันจาก Fate/Stay Night ไปแล้วสิ หัวเราะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ส่วนจะเป็นตามนี้จริงหรือไม่...รอดูตอนหน้าโลดครับ ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่