SPOILER!!! World Embryo #89 - reborn

กลับมาพบ Spoil เนื้อเรื่องแบบขี้เกียจๆ ของคนขี้เกียจๆ กันอีกครั้งนะครับ

งวดนี้ข้ามไปสองเดือนเพราะความขี้เกียจบวกกับงานอย่างอื่นที่กองเป็นภูเขา (ข้ามไปไกลขนาดตอน 90 ออกแล้วยังไม่ได้เล่าตอน 89 ต่อเลย) เพราะงั้นเชิญไปพบกับเนื้อเรื่องตอนใหม่กันได้เลยครับ ยิ้ม








- เปิดตอนมาที่ฉากริคุดำดิ่งลงไปในส่วนที่ลึกที่สุดของรังไหม จนไปเจอกับเนเน่ (เรน่าไม่ได้ลงไปด้วยเพราะต้องคอยใช้พลังประคองไว้ไม่ให้รังไหมคิดว่าจิตของริคุที่แทรกซึมเข้ามาเป็นสิ่งแปลกปลอมและทำลาย)

- ริคุออกปากชวนเนเน่ให้กลับออกไปด้วยกัน แต่เนเน่ปฏิเสธไม่ยอมไป




- ตัดมาทางฝั่งโลกภายนอก น้ำดำจากเอมบริโอก็พยายามบุกเข้ามายังยอดตึกที่เป็นฐานที่มั่นของพวกผู้ใช้จิงกิเพื่อหยุดยั้งไม่ให้ริคุกับเรน่าปลุกเนเน่ขึ้นมาได้สำเร็จ

- ทีมผู้ใช้จิงกิกับทีมสนับสนุนจาก F.L.A.G. ต่อสู้ป้องกันเต็มที่ โดยให้พวกผู้ใช้จิงกิสำนักงานใหญ่กับหน่วยย่อยเป็นแนวหน้าคอยไล่ตบพวกน้ำดำ ส่วนพวกหน่วยลงทะเบียนสำรองให้อยู่ป้องกันแนวหลังพร้อมกับสึคิชิโระ (ไม่ได้ออกแนวหน้าด้วยเพราะขาขาดขยับไม่ได้ เลยต้องอยู่คุมแนวหลังทำหน้าที่บัญชาการรบแทน) ส่วนทีมสนับสนุนขับฮ.ลำเลียงพลลงมาทิ้งเครื่องแจมเมอร์พ็อตขนาดยักษ์ตั้งเป็นแนวป้องกันชั้นนอกสุด

- การทำงานแบบเข้าขากันของเหล่าผู้ใช้จิงกิจากสำนักงานใหญ่และหน่วยย่อย ทำเอาไอ้เด็กเกรียนคนหนึ่งในกลุ่มผู้ใช้จิงกิขี้ขลาดจากหน่วยลงทะเบียนสำรองถึงกับทึ่งในความสามารถของพวกตัวจริงที่รบแนวหน้ามาตลอด





แจมเมอร์พ็อดขนาดยักษ์ที่หน่วยสนับสนุนขับฮ.มาทิ้งเป็นแนวกีดขวางน้ำดำจากเอมบริโอ



- แต่แล้วกลับเกิดเหตุผิดปกติขึ้น เมื่อบรรดาน้ำดำที่บุกเข้าใส่ทีมผู้ใช้จิงกิดันเกิดหัวหมอขึ้นมา เลื้อยหลบผ่านช่องว่างระหว่างแจมเมอร์พ็อตยักษ์แต่ละอันเข้ามาเฉย เล่นเอาทั้งผู้ใช้จิงกิทั้งหน่วยสนับสนุนงงเป็นไก่ตาแตก

- เห็นดังนั้น สึคิชิโระก็สันนิษฐานว่า "ต้องมีอะไรบางอย่างทำหน้าที่เป็นหอบัญชาการของพวกมันอยู่แน่ๆ" (เพราะน้ำดำปกติไม่น่ามีความคิดเป็นของตัวเองถึงขนาดจะเลี้ยวซิกแซกหลบได้แน่)

- และสถานที่ที่สึคิชิโระสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นหอบัญชาการของพวกน้ำดำ ก็คือเอมบริโอที่เริ่มโดนน้ำดำกลืนกินไปทีละน้อยนั่นเอง

- ทางด้านเอนเดก็ดำดิ่งลงไปในกองภูเขาทีวีซึ่งคาราซาว่าเคยใช้แพร่เชื้อคังชุเพื่อหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับสถานการณ์ปัจจุบัน

- ทว่า สิ่งที่เอนเดได้พบ ณ ภายใต้ส่วนลึกที่สุดของกองภูเขาทีวีนั้นก็คือ...ความทรงจำเสี้ยวหนึ่งของคาราซาว่าที่ยังหลงเหลืออยู่ในวงจรดักและในสมองของ "อุโระ (ร่างเปล่า)" ซึ่งใช้เป็นที่เก็บความทรงจำนั่นเอง




- เอนเดถึงกับดีใจจนร้องไห้ที่ได้เจอคาราซาว่าอีกครั้ง แม้จะเป็นเพียงความทรงจำเสี้ยวเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในวงจรก็ตาม

- คาราซาว่าบอกเอนเดว่า ตนได้รู้เรื่องทั้งหมดในโลกภายนอกผ่านทางการรับรู้ของร่างเปล่าแล้ว และบอกกับเอนเดว่า "มาคุยเรื่องที่เธอยากถามกันมั้ย"


- ฉากตัดอีกครั้ง ไปยังฝั่งริคุกับเนเน่ที่อยู่ในรังไหม เนเน่เล่าให้ริคุฟังถึงเรื่องราวหลังจากตัวเองโดนเอนเดโจมตีใส่ในเล่ม 7 โดยความรุนแรงของการโจมตีครั้งนั้นทำเอาเนเน่ถึงกับสูญเสียแขนขาและร่างกายไปบางส่วน เหลือแต่ส่วนหัวกับร่างกายท่อนบนอีกนิดหน่อยเท่านั้น

- เนเน่ในสภาพที่บาดเจ็บสาหัส โดนเอมบริโอดึงกลับเข้าไปข้างใน และหวิดโดนน้ำดำจากเอมบริโอดูดกลืนเข้าไปแล้ว แต่โชคดีที่ได้สุโอ (คังชุดำรูปร่างเหมือนหมาป่าที่โผล่มาในช่วงเล่ม 9) ช่วยออกมาได้ และพาไปซ่อนตัวรอให้อาการบาดเจ็บหายขาด

- โดยระหว่างที่พักรักษาตัวอยู่นี้เอง เนเน่ก็ได้พบได้พูดคุยกับอามาเนะเป็นครั้งแรก อามาเนะคอยช่วยเหลืออามาเนะหลายๆ อย่าง ตั้งแต่แนะวิธีการดูแลร่างกายที่บาดเจ็บของตัวเอง จนถึงเรื่องคอยปลอบให้หายเศร้าจากความทรงจำเจ็บปวดต่างๆ และความรู้สึกที่มีต่อริคุ


การพบกันครั้งแรกระหว่างอามาเนะกับเนเน่



- ฝ่ายเนเน่เมื่อได้เห็นอามาเนะดังนั้นก็นึกอยากรู้จักอามาเนะ อยากรู้เรื่องของอามาเนะให้มากขึ้น เพราะคิดว่าถ้าตัวเองเป็นอย่างอามาเนะได้ ริคุก็จะดีใจ

- ดังนั้นระหว่างที่พักรักษาตัวรอให้แขนขาร่างกายที่ถูกทำลายงอกกลับมา เนเน่จึงคอยเฝ้าสังเกตทุกอย่างเกี่ยวกับอามาเนะเพื่อหาทางเลียนแบบอามาเนะ ทำตัวเองให้เป็นเหมือนอามาเนะที่ริคุรักให้ได้ (ระหว่างนี้เราจะได้เห็นมุมมองการดำเนินแผนของอามาเนะ เช่น การใช้ให้สุโอออกรวบรวมแก่นจิงกิจากผู้ใช้จิงกิ ผ่านสายตาของเนเน่ด้วย)

- อามาเนะเองก็ไว้ใจเนเน่มาก ถึงขนาดเล่าเรื่องแผนการช่วยโลกของตัวเองให้เนเน่ฟังจนเกือบหมด เนเน่ฟังจบก็ออกความเห็นว่าไม่ชวนริคุมาร่วมมือด้วยกันเหรอ แต่อามาเนะปฏิเสธเสียงแข็งว่าให้ริคุร่วมมือด้วยไม่ได้เด็ดขาด แต่เนเน่ก็ยืนกรานขอให้ตัวเองได้คุยกับริคุดูก่อนบอกว่าถ้าเป็นริคุละก็ต้องยอมเข้าใจแผนการของอามาเนะแน่ๆ จนในที่สุดก็ได้โอกาสคุยกับริคุสมใจ (เหตุการณ์ในช่วงเปิดเล่ม 10 ที่ริคุไล่ล่าสุโอหลังจากฆ่านานามิกับลุงป้าผู้ใช้จิงกิหน่วยลงทะเบียนสำรองมาจนเจอเนเน่นั่นแหละ)

- แต่ผลกลับออกมาผิดจากที่เนเน่คาดไว้โดยสิ้นเชิง เพราะริคุไม่ยอมรับฟังไม่ยอมตามเนเน่กลับไป แถมยังด่าเอาเป็นชุดๆ เรื่องทำเรื่องร้ายๆ จนมีคนตายไปมากมายอีก

- แล้วหลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์แพร่เชื้อครั้งใหญ่จนกลายเป็นเหตุนองเลือดไปทั่วโลก ซึ่งอยู่ในเนื้อหาของเล่ม 10 นั่นเอง

- เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นแถมยังร้ายแรงขึ้นเป็นลำดับ ทำให้เนเน่งุนงงสับสนเป็นอย่างมาก ไม่เข้าใจว่าทำไมริคุถึงไม่ยอมฟังแผนช่วยโลกของอามาเนะ ทำไมอามาเนะถึงต้องใช้ให้คังชุจำนวนมากทำร้ายคนจนบาดเจ็บล้มตายทั่วโลกแบบนั้นด้วย และยิ่งไม่เข้าใจว่าทำไมหลังจากทำเรื่องเหล่านี้ลงไปแล้ว อามาเนะถึงต้องแอบร้องไห้อยู่ตามลำพังโดยไม่ให้ใครเห็นด้วย

*หมายเหตุ - อ่านไปอ่านมา ผมว่าคนอ่านเองก็งงพอๆ กับเนเน่นั่นแหละว่าตรงนี้มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะอ.แกเล่นตัดฉากตัดบทพูดเร็วมากจนจับความไม่ได้เลยว่าตกลงแกจะสื่ออะไรกันแน่




- ผลพวงจากเหตุร้ายที่เกิดขึ้นนี้เอง ทำให้เนเน่ฝังใจว่าที่เรื่องทั้งหมดบานปลายใหญ่โตถึงขนาดนี้ก็เป็นเพราะตัวเองไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังทำเรื่องผิด ทำเรื่องที่ทำให้คนต้องเจ็บปวด ทำเรื่องที่อาจบานปลายกลายเป็นเหตุร้ายแรงไปได้ เหมือนอย่างสมัยที่เผลอตัวใช้พลังทำร้ายคนในสวนสาธารณะ ทั้งๆ ที่ตอนแรกแค่อยากจะเล่นด้วยเท่านั้น (เหตุการณ์อยู่ในช่วงเล่ม 6 ที่เนเน่ไปเล่นกับเพื่อน แต่โดนเด็กแย่งชิงช้าไปเล่น เลยโกรธเผลอใช้พลังทำร้ายเด็กคนนั้นบาดเจ็บ ทำให้คนทั้งสนามเด็กเล่นกลัวกัน)

- เนเน่ "เด็กที่ไม่เข้าใจความเจ็บปวดของคนอื่นอยู่ร่วมกับคนอื่นไม่ได้ เพราะงั้นเนเน่ถึงอยู่ข้างปาป้าไม่ได้อีกแล้ว"

- ฝ่ายริคุพอได้รู้ถึงสิ่งที่เนเน่หวาดกลัวมาตลอดเข้าก็นึกโกรธตัวเองขึ้นมาทันควันที่ตลอดมาไม่เคยพยายามทำความเข้าใจความรู้สึกของเนเน่จริงๆ จังๆ มาก่อนเลย ดีแต่นึกถึงเรื่องของตัวเองอยู่ถ่ายเดียว

- คิดได้ดังนั้น ริคุก็ยกกำปั้นขึ้นหวดหน้าตัวเองเข้าเปรี้ยงใหญ่เป็นการลงโทษต่อความโง่และความไม่เอาใจใส่ของตัวเอง

- เนเน่เห็นริคุต่อยหน้าตัวเองก็ตกใจร้องว่าทำแบบนั้นทำไม มันเจ็บไม่ใช่เหรอ ริคุก็บอกกลับว่า อ้าว พูดแบบนี้ก็แสดงว่าเข้าใจไม่ใช่เหรอว่าทำแบบนี้กับคนอื่นมันเจ็บน่ะ

- เนเน่ก็อึ้งไป ริคุก็บอกต่อว่า ไอ้เรื่องประเภทไม่เข้าใจความรู้สึกคนอื่นน่ะไม่ใช่เรื่องแปลกตรงไหน เพราะตัวเนเน่ยังเด็กอยู่ ไม่ว่าใครก็ต้องเคยผิดพลาด เคยทำร้ายเคยสร้างบาดแผลให้คนอื่นจนต้องมาเสียใจทีหลังกันทั้งนั้นแหละ แต่เพราะแบบนั้น เด็กทุกคนถึงได้เรียนรู้ ได้เข้าใจทีละน้อยว่าจะรับมือและแก้ไขสิ่งที่เคยพลาดไปแล้วเหล่านั้นได้ยังไง

- พูดถึงตรงนี้ ริคุเองก็ยอมรับผิดต่อเนเน่เรื่องที่ตลอดมาตัวเองไม่เคยมองเนเน่ในฐานะ "เนเน่" เลย แต่มองเป็นตัวแทนของ "พี่อามาเนะ" เท่านั้น ไม่เคยสำเหนียกแม้แต่น้อยว่าทำให้เนเน่ต้องเจ็บปวดทรมานมาตลอด ว่าจบก็ก้มหัวขอโทษเนเน่ตรงๆ ด้วยอาการสำนึกผิดจากใจจริง

- ริคุ "ตราบเท่าที่มีชีวิตอยู่ ไม่ว่าใครก็ต้องเคยทำผิดพลาด เคยทำร้ายคนอื่นเพื่อหาที่อยู่ให้ตัวเองด้วยกันทั้งนั้น แต่เรื่องนั้นช่างมันสิ ที่อยู่ของเธอพวกเราจะเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง ทั้งชั้น ทั้งคุณชิซึรุ ทั้งพ่อ ทั้งมาม้า ทุกคนในหน่วยย่อย รวมทั้งคนของ F.L.A.G. ทุกคนก็ด้วย เนเน่ไม่ใช่คนแล้วจะทำไม ชั้นจะทำให้โลกใบนี้ยอมรับเธอเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นชั้นก็จะอยู่เคียงข้างเธอ จะแบกรับไปด้วยกันกับเธอ"

- ว่าถึงตรงนี้ ริคุก็ยื่นมือออกไปหาเนเน่แล้วบอกต่อว่า "เพราะงั้นจงเลือกเถอะ ว่าอยากอยู่กับพวกเรา...หรือว่าไม่อยาก"

- และคำตอบของเนเน่ต่อคำพูดอันจริงใจของริคุในครั้งนี้ก็คือ

"ไม่อยาก...อยู่คนเดียว...อีกต่อไปแล้ว..."




- ตัดฉากไปยังด้านนอก การโจมตีจากน้ำดำของเอมบริโอเริ่มหนุนเนื่องเข้ามาเรื่อยๆ จนแนวป้องกันของฝ่ายผู้ใช้จิงกิเริ่มรับมือไม่อยู่ ปล่อยให้น้ำดำตีฝ่าเข้าไปจนถึงตำแหน่งที่พวกริคุกับเรน่าอยู่จนได้

- น้ำดำทั้งหมดโถมเข้าใส่ริคุกับเรน่าที่ยืนล้อมรังไหมนิ่งอยู่ตรงกลางลานเป็นจุดเดียว รวดเร็วรุนแรงเกินกว่าที่ผู้ใช้จิงกิที่คุ้มกันอยู่จะเข้าช่วยได้ทัน

- ทว่าพริบตาก่อนที่น้ำดำจะโถมเข้ากลืนกินร่างทั้งคู่นั้นเอง ก็บังเกิดแสงสว่างวาบขึ้น สลายน้ำดำที่โถมเข้าใส่จากทุกทิศทางจนสลายวับไปหมด

- และที่ปรากฏขึ้นท่ามกลางแสงสว่างอันเจิดจ้านั้นก็คือ...





- บัดนี้ "สามเสาหลักแห่งศาลเจ้า" ได้มาอยู่รวมกันพร้อมหน้าแล้ว





- จบตอนที่ 89 -







ก็จบแค่นี้นะครับสำหรับตอน 89 นี้

จริงๆ แอบตัดรายละเอียดยิบๆ ย่อยๆ ที่โผล่มาในตอนนี้ไปเยอะเหมือนกัน เช่น ในตอนที่พวกน้ำดำฝ่าวงล้อมชั้นนอกเข้ามาถึงชั้นในได้ พวกหน่วยลงทะเบียนสำรองถึงกับแตกหนีไม่เป็นขบวนเลย จนต้องให้พวกหน่วยแนวหน้ามาช่วยปรับกระบวนรบให้ หรือเรื่องของไอ้เด็กเกรียนจากหน่วยลงทะเบียนสำรองคนหนึ่ง (ไอ้เด็กผู้ชายเกรียนๆ อิเมจประมาณแจนจากผ่าพิภพไททันยุคแรกๆ ที่โผล่มาซ่าประจำเวลามีบทหน่วยลงทะเบียนสำรองจำได้มั้ย) ที่เริ่มสังเกตวิธีการต่อสู้ของพวกริคุ จนเริ่มตั้งคำถามเป็นครั้งแรกว่า "คนพวกนี้สู้ไปเพื่ออะไร?" ซึ่งถ้าอยากอ่านรายละเอียดส่วนนี้ก็รอบงกชไม่ก็สแกนอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งนะครับ

ไม่ผิดความคาดหมายมากแฮะสำหรับตอนนี้ กับการดึงเอาเนเน่กลับมา ที่น่าลุ้นจริงๆ คือศึกปะทะน้ำดำจากเอมบริโอในตอนหน้ามากกว่าว่าจะสู้กันอีแบบไหน ได้คิวกิมาเป็นพวกครบ 3 ตน แถมด้วยผู้ใช้จิงกิกันเกือบครบทีมแบบนี้


ไว้ถ้ามีเวลาแล้วจะค่อยๆ เขียนออกมาดูนะครับ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่