สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 90
บอกตามตรงนะ
เราไม่รู้ว่าพระธรรมโดนตัดต่อหรือไม่อย่างไร เพราะขี้เกียจอ่าน ไม่อยากใช้จินตามยปัญญา มาตัดสินว่าถูกผิด
ทุกวันนี้ ปฏิบัติธรรมควบคู่ไปกับทฤษฎี พอถึงจุดไหน ก็จะเข้าใจเองว่าพระพุทธเจ้าท่านตรัสอย่างนี้ หมายถึงอย่างนี้นี่เอง
(พระไตรปิฎก คือการรวบรวมเอาคำสอนของพระพุทธเจ้า ต่างเวลา ต่างสถานที่ ต่างบริบท ต่างระดับขั้นของการก้าวหน้าในธรรมที่ท่านสอน มาบันทึกไว้ เหมือนกับรวบรวมคำสอนของคุณครู ที่สอนเด็กอนุบาล จนถึงด็อกเตอร์ มารวมไว้ในที่เดียวกัน ถ้าไม่ปฏิบัติควบคู่ไปด้วย จะไม่รู้เลยว่าตัวเองก้าวหน้าอย่างไรบ้าง อาจเผลอหยิบคำสอนระดับด็อกเตอร์ แต่ตัวเองอยู่ชั้นอนุบาล แล้วมามโนว่าเข้าใจแล้วได้ง่ายๆ)
แต่คลิปที่คห. 77 เอามาลง
ในความเห็นส่วนตัว มันน่ากลัวมากนะ ที่ให้คำตอบแบบนี้
เพราะจากประสบการณ์การปฏิบัติที่ผ่านมา
โสดาบันไม่ใช่นึกคิดแล้วบรรลุได้ ไม่ใช่การวางกรอบกฎระเบียบว่าถือศีล 5 แล้วบรรลุได้
ไม่ใช่ว่าตัดกิเลศตัวนั้นนี้แล้วบรรลุได้ (จะเอาอะไรมาวัดว่าตัดกิเลศตัวนี้ได้จริง กลัวแต่จะมโนกันไปเอง)
ปฏิบัติไปเรื่อยๆ ปัญญามันจะเกิดขึ้นเองโดยหลักธรรมชาติของมัน มันเห็นของจริง มันเลยเข้าใจ
ดังนั้น บุคคลใดจะก้าวไปสู่หนทางโสดาบัน ศีลเขาจะครบถ้วนเองโดยปัญญาที่เกิดขึ้น ไม่ต้องบังคับต้องถือศีล
เพราะมันเป็นผลพลอยได้อยู่แล้วจากการปฏิบัติ (ที่ถูกวิธี)
สติไม่มี ---> ทำผิดศีลข้อใดข้อหนึ่ง ---> มรรค 8 ไม่ครบถ้วน ---> ก้าวสู่หนทางอริยะไม่ได้
ทุกอย่างที่พระพุทธเจ้าตรัส ล้วนเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกัน มีที่มาที่ไปกันหมด
ไม่เห็นด้วยกับท่าน ที่ยกมาเป็นจุดๆ หยิบพุทธวจนมาเป็นจุดๆ ตอบคำถามเป็นจุดๆ ตอบตามความเข้าใจเอง(คหสต. เหมือนท่านไม่เข้าใจหลักการ)
ไม่ต้องถามว่าโสดาบันดื่มเหล้าได้ไหมหรอก
ถามก่อนเหอะว่า จิตโสดาบัน เขาอยากจะแตะเหล้าไหม
เฮ้อ วิปัสสนา วิปัสสนึก
เราไม่รู้ว่าพระธรรมโดนตัดต่อหรือไม่อย่างไร เพราะขี้เกียจอ่าน ไม่อยากใช้จินตามยปัญญา มาตัดสินว่าถูกผิด
ทุกวันนี้ ปฏิบัติธรรมควบคู่ไปกับทฤษฎี พอถึงจุดไหน ก็จะเข้าใจเองว่าพระพุทธเจ้าท่านตรัสอย่างนี้ หมายถึงอย่างนี้นี่เอง
(พระไตรปิฎก คือการรวบรวมเอาคำสอนของพระพุทธเจ้า ต่างเวลา ต่างสถานที่ ต่างบริบท ต่างระดับขั้นของการก้าวหน้าในธรรมที่ท่านสอน มาบันทึกไว้ เหมือนกับรวบรวมคำสอนของคุณครู ที่สอนเด็กอนุบาล จนถึงด็อกเตอร์ มารวมไว้ในที่เดียวกัน ถ้าไม่ปฏิบัติควบคู่ไปด้วย จะไม่รู้เลยว่าตัวเองก้าวหน้าอย่างไรบ้าง อาจเผลอหยิบคำสอนระดับด็อกเตอร์ แต่ตัวเองอยู่ชั้นอนุบาล แล้วมามโนว่าเข้าใจแล้วได้ง่ายๆ)
แต่คลิปที่คห. 77 เอามาลง
ในความเห็นส่วนตัว มันน่ากลัวมากนะ ที่ให้คำตอบแบบนี้
เพราะจากประสบการณ์การปฏิบัติที่ผ่านมา
โสดาบันไม่ใช่นึกคิดแล้วบรรลุได้ ไม่ใช่การวางกรอบกฎระเบียบว่าถือศีล 5 แล้วบรรลุได้
ไม่ใช่ว่าตัดกิเลศตัวนั้นนี้แล้วบรรลุได้ (จะเอาอะไรมาวัดว่าตัดกิเลศตัวนี้ได้จริง กลัวแต่จะมโนกันไปเอง)
ปฏิบัติไปเรื่อยๆ ปัญญามันจะเกิดขึ้นเองโดยหลักธรรมชาติของมัน มันเห็นของจริง มันเลยเข้าใจ
ดังนั้น บุคคลใดจะก้าวไปสู่หนทางโสดาบัน ศีลเขาจะครบถ้วนเองโดยปัญญาที่เกิดขึ้น ไม่ต้องบังคับต้องถือศีล
เพราะมันเป็นผลพลอยได้อยู่แล้วจากการปฏิบัติ (ที่ถูกวิธี)
สติไม่มี ---> ทำผิดศีลข้อใดข้อหนึ่ง ---> มรรค 8 ไม่ครบถ้วน ---> ก้าวสู่หนทางอริยะไม่ได้
ทุกอย่างที่พระพุทธเจ้าตรัส ล้วนเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกัน มีที่มาที่ไปกันหมด
ไม่เห็นด้วยกับท่าน ที่ยกมาเป็นจุดๆ หยิบพุทธวจนมาเป็นจุดๆ ตอบคำถามเป็นจุดๆ ตอบตามความเข้าใจเอง(คหสต. เหมือนท่านไม่เข้าใจหลักการ)
ไม่ต้องถามว่าโสดาบันดื่มเหล้าได้ไหมหรอก
ถามก่อนเหอะว่า จิตโสดาบัน เขาอยากจะแตะเหล้าไหม
เฮ้อ วิปัสสนา วิปัสสนึก
สมาชิกหมายเลข 1259339 ถูกใจ, แมงกุ๊ดจี่ ถูกใจ, กิง การณา ถูกใจ, ชาวมหาวิหาร ถูกใจ, Bg-view ถูกใจ, ยามประจำวัน ถูกใจ, cantona_z ถูกใจ
ความคิดเห็นที่ 14
ขอบคุณครับ
1. ได้สังเกตุ จึงพบว่า ชอบใช้ตัวย่อ เช่น จขกท พอจ
2. เขาตัดสินอะไรไม่ได้ครับ เขาศึกษาแบบเชื่่อตามกันไป โดยไม่ศึกษาของจริง
จึงทำให้ความผิดพลาดโดยความจงใจ และทำการเผยแพร่พระธรรมที่ถูกตัดทอนและแต่งเิ่พิ่ม โดยวัดและศิษย์ไปมากมายขนาดนี้ได้เลย
3. เขาติดกับ ของเขาเอง ว่าต้องไม่อธิบายพระธรรม(ซึ่งเป็๋นความเข้าใจผิด ความจริงการอธิบายพระธรรม เป็นสิ่งที่ทำได้ เพราะไม่ได้แก้ไขพุทธพจน์ แม้อธิบายผิดไป พุทธพจน์ก็ไม่เปลี่ยนไป วันหนึ่งก็เข้าใจถูกต้องหรือมีผู้อธิบายถูกต้องได้
แต่เขาหาทางออกที่เขาบอกว่าอย่าเชื่อคนอื่น อย่าฟังคนอื่นเลย แม้เป็นผู้บรรลุธรรม(ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ ทำให้ไม่มีทางที่จะทำความเข้าในพระธรรมที่ตนไม่เข้าใจเลย)
ทางออกของเขาเลยต้องมา แก้ไขเพิ่มเติม ที่ตัวพระสูตรที่ตัวเองแปล ทำให้เกิดข้อผิดพลาดร้ายแรง เป็นไปตามสิ่งที่เขาบอกว่าจะไม่ทำ แต่ตนได้ทำไปเต็มๆ ทั้งผู้ที่ทำ และผู้ที่เชื่อตามโดยไม่ตรวจสอบ
เป็นทำการทำผิด ในสิ่งที่ตนบอกว่า จะไม่ทำ
เป็นการคิดที่จะทำดี แต่คิดไม่ถูกวิธี กลายเป็นตัวเองเป็นคำทำลายเอง
ถ้าได้ฟัีงคนอื่นบ้าง จะได้เข้าใจและกระทำได้ถูกต้องตาม พุทธพจน์ที่แท้จริง
1. ได้สังเกตุ จึงพบว่า ชอบใช้ตัวย่อ เช่น จขกท พอจ
2. เขาตัดสินอะไรไม่ได้ครับ เขาศึกษาแบบเชื่่อตามกันไป โดยไม่ศึกษาของจริง
จึงทำให้ความผิดพลาดโดยความจงใจ และทำการเผยแพร่พระธรรมที่ถูกตัดทอนและแต่งเิ่พิ่ม โดยวัดและศิษย์ไปมากมายขนาดนี้ได้เลย
3. เขาติดกับ ของเขาเอง ว่าต้องไม่อธิบายพระธรรม(ซึ่งเป็๋นความเข้าใจผิด ความจริงการอธิบายพระธรรม เป็นสิ่งที่ทำได้ เพราะไม่ได้แก้ไขพุทธพจน์ แม้อธิบายผิดไป พุทธพจน์ก็ไม่เปลี่ยนไป วันหนึ่งก็เข้าใจถูกต้องหรือมีผู้อธิบายถูกต้องได้
แต่เขาหาทางออกที่เขาบอกว่าอย่าเชื่อคนอื่น อย่าฟังคนอื่นเลย แม้เป็นผู้บรรลุธรรม(ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ ทำให้ไม่มีทางที่จะทำความเข้าในพระธรรมที่ตนไม่เข้าใจเลย)
ทางออกของเขาเลยต้องมา แก้ไขเพิ่มเติม ที่ตัวพระสูตรที่ตัวเองแปล ทำให้เกิดข้อผิดพลาดร้ายแรง เป็นไปตามสิ่งที่เขาบอกว่าจะไม่ทำ แต่ตนได้ทำไปเต็มๆ ทั้งผู้ที่ทำ และผู้ที่เชื่อตามโดยไม่ตรวจสอบ
เป็นทำการทำผิด ในสิ่งที่ตนบอกว่า จะไม่ทำ
เป็นการคิดที่จะทำดี แต่คิดไม่ถูกวิธี กลายเป็นตัวเองเป็นคำทำลายเอง
ถ้าได้ฟัีงคนอื่นบ้าง จะได้เข้าใจและกระทำได้ถูกต้องตาม พุทธพจน์ที่แท้จริง
แสดงความคิดเห็น
-------------- วัดนาป่าพงและศิษย์วัดนาป่าพง เผยแพร่บทพระธรรมที่มีการตัดต่อ ทางวัดและศิษย์ จะแก้ไขอย่างไร ?
2. วัดนาป่าพงและศิษย์ บอกว่า จะไม่ตัด หรือ เพิ่ม พระพุทธวจนะ แล้วที่ทำนี้ คืออะไร
3. นี้ เป็นเพียง 1 ใน 10(หรือ มากกว่านั้น) บทพระธรรม ที่ยกมาอ้างอิง ที่เหลือจะได้ตรวจสอบต่อไป แล้วทางวัดและศิษย์ จะดำเนินการอย่างไร ในเรื่องนี้
วงกลม
------------------------------------------- พระธรรม ที่คุณยกมา แปลโดยท่า่นใด ?
พระธรรมนั้น แปลโดยการตัดต่อได้หรือ ?
นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ ถ้าคุณคิดว่าจะหาที่มาของพระสูตร ที่ตัวเองยกมาอ้าง
ก็ัยังหาได้ยาก เพราะเป็นการตัดต่อข้อความในพระธรรม และแปลไม่เหมือนที่คณะสงฆ์สังคายนาและแปล
--------------
http://ppantip.com/topic/30669828/comment84
ความคิดเห็นที่ 35
เชื่อว่ามีการปลอมปน...
...
๑. พระองค์ทรงสามารถกำหนดสมาธิ เมื่อจะพูด ทุกถ้อยคำจึงไม่ผิดพลาด
อัคคิเวสนะ ! เรานั้นหรือ, จำเดิมแต่เริ่มแสดง กระทั่งคำสุดท้ายแห่งการกล่าว
เรื่องนั้นๆ ย่อมตั้งไว้ซึ่งจิตในสมาธินิมิตอันเป็นภายในโดยแท้ ให้จิตดำรงอยู่
ให้จิตตั้งมั่นอยู่ กระทำให้มีจิตเป็นเอก ดังเช่นที่คนทั้งหลายเคยได้ยินว่าเรากระทำ
อยู่เป็นประจำ ดังนี้.
มู. ม. ๑๒/๔๕๘/๔๓๐.
------------------------------------- ผลการตรวจสอบ กับ พระไตรปิฎก
1. เวบ พระไตรปิฎกบาลี ไทย เปรียบเทียบ ( เล่ม หน้า หมายเลขข้อพระธรรม ที่อ้างอิงไว้)
http://etipitaka.com/compare?utf8=%E2%9C%93&lang1=thai&volume=12&p1=322&lang2=pali&commit=%E2%96%BA#
2. เวบ 84000 จาก พระไตรปิฎก ฉบับสยามรัฐ
พระสูตร ใน พระไตรปิฎก ที่พระสงฆ์ท่านสังคายนา และแปลไว้
[๔๓๐] ดูกรอัคคิเวสสนะ เรารู้เฉพาะอยู่ว่า เป็นผู้แสดงธรรมแก่บริษัทหลายร้อย.
ถึงแม้บุคคลคนหนึ่งๆ สำคัญเราอย่างนี้บ้างว่า พระสมณโคดมแสดงธรรมปรารภเราเท่านั้น. ท่าน
อย่าพึงเห็นอย่างนั้น พระตถาคตย่อมแสดงธรรมแก่บุคคลเหล่านั้นโดยชอบ เพื่อประโยชน์ให้รู้
แจ้งอย่างเดียว. เราประคองจิต สงบตั้งมั่น ทำให้เป็นสมาธิ ณ ภายใน ในสมาธินิมิตเบื้องต้น
จนจบคาถานั้นทีเดียว เราอยู่ด้วยผลสมาธิเป็นสุญญะ ตลอดนิตยกาล.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_item.php?book=12&item=430
******************************************************************************************************************************
พระไตรปิฏก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔
มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
๖. มหาสัจจกสูตร
สัจจกนิครนถ์ทูลถามปัญหา
...
...
...
****************************************************************************************************************************