หน้าเปิด
ต่อจากตอนที่แล้ว ฮินะกำลังเริ่มกินอิเสะอุด้งที่พึ่งยกมาเสิร์ฟพูดเลยว่านี่เหรออาหารขึ้นชื่อของอิเสะขนาดคายูระยังน้ำลายไหล พอกินคำแรกก็บอกอร่อยเลยทันที เส้นทั้งนุ่มหนา อาเธเน่ยังบอกเลยว่ารสเรียบง่ายนี่แหละยอดเยี่ยม
หลังจากกินอุด้งกันเสร็จแล้วก็มาเดินที่ตรอกที่เรียกว่า "ตรอกขอบคุณ" ที่ปรารถนาให้ความขอบคุณแก่เหล่าเทพ และในตรอกนี้เองที่ฮินะสนใจชวนทุกคนลองกินอย่างหนึ่งดู นั้นคืออาคาฟุคุ(โมจิที่มีถั่วแดงกวนโปะหนาทั้งชิ้น) เป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของที่นี่เลย(ร้านดังด้วย) อาเธเน่ลองกินแค่ชิ้นเดียวก็เคลิ้มไปกับความหวานอร่อยทั่วทั้งชิ้น มาเรียเองยังบอกรู้สึกได้ว่าซึมเข้าไปในใจเลย ฮินะบอกอิเสะมีของขึ้นชื่ออยู่ไม่น้อยเลย คายูระก็รู้ว่ายังมีทั้งลูกพลับ เนื้อวัวมัตสึซากะ หอยเม่น กุ้งล็อบสเตอร์ ของขึ้นชื่อมากมายจริงๆ
แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้รู้สึกสนุกด้วยเลย นั้นคือผู้เป็นต้นตอของการเที่ยวครั้งนี้ นางิโวยเลยว่าไม่มีเวลาจะมาสนุกกับการเที่ยวนะ บอกเลยว่าคิดว่ามาอิเสะเพื่ออะไร ถ้าเธอยังคิดเนมไม่ออกภายในคืนนี้ก็จบกัน ย้ำเลยว่าเธอไม่มีเวลาแล้ว ฮินะบอกรู้อยู่แล้วแต่จิฮารุยังมาไม่ถึงและนางิเองก็ยังคิดไอเดียไม่ออกเลย ฮินะเลยถามนางิว่าแล้วจะให้พวกเธอช่วยอะไรได้ มาเรียเองก็ยังไม่รู้จะช่วยยังไงเลย
ตอนนั้นเองที่มีคนบอกนางิคงยังจนมุมไม่พอ นั้นคือคายูระซึ่งบอกนางิว่าดูยังสิ้นหวังไม่พอที่จะถึงโอกาสสุดท้ายที่นี่ นางิอาจยังมีทางข้างค้างในจิตใจเหลืออยู่ คายูระจึงบอกให้นางิจนมุมให้มากยิ่งๆไปกว่านี้ รู้สึกให้มันจนมุมจริงๆแล้วมนุษย์ก็จะดึงพลังที่สุดจากก้นบึงได้ คายูระบอกเลยว่าเธอเรียกมันว่าทฤษฎีซุปเปอร์ไซยันยังไงล่ะ นางิฟังแล้วก็เข้าใจทันทีเลยบอกงั้นเอาเลย ทำให้เธอรู้สึกว่าจนมุมอย่างที่ว่าดู
คายูระ: มะ.. แม่เธอสะดือจุ้น
นางิ: .........
นางิโวยเลยว่านั้นก็แค่การดูถูกเอง ถึงยังไงก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกอะไรเลย นางิเลยถามคนอื่นซึ่งงวดนี้ก็มาลงที่ฮินะว่ามีอีกไหม ฮินะตกใจเล็กน้อยที่นางิถามเธอเลยถามนางิว่าแค่เรื่องผลทางจิตใจที่จะทำให้นางิทำงานได้เต็มทีก็พอใช่มั้ย นางิบอกใช่ ฮินะเลยคิดๆแล้วจึงพูดว่า...
ฮินะ: นางิน่ะส.. สู้ให้เต็มที่เลยนะ!!
นางิ: .........(เหงื่อตก)
นางิ: แบบนี้จะกลายเป็นฉุดความอยากทำงานที่มีได้เลยนะเนี้ย(กระซิบกับคายูระ)
คายูระ: เอาน่า เธอแค่พยายามรักษาภาพพจน์ของตัวเอง
ฮินะ: ไม่ใช่ๆนะ!!
คราวนี้อาเธเน่พูดบ้างว่านางิช่างเป็นคนน่าเบื่อจริงๆ แค่อยากได้คำที่ทรงพลังที่จะจับใจได้ใช่มั้ยล่ะ นางิบอกใช่แต่ถามด้วยความสงสัยว่าเด็กๆอย่างอาเธเน่จะทำได้เหรอ อาเธเน่บอกง่ายมาก
อาเธเน่: ถ้าเธอทำอะไรไม่ได้เลยในเวลาแบบนี้...
อาเธเน่: ก็พิสูจน์แล้วว่าชีวิตของเธอก็จบแค่นี้!!
นางิเจอแบบนี้เข้าไปทำเอานางิถึงกับช็อคจนทรุดเข่าอ่อนไปเลย แต่ยังไม่พอ...
อาเธเน่: โห เข่าอ่อนซะแล้วเหรอ
อาเธเน่: ยังจะกลับมายืนไหวรึเปล่า
อาเธเน่: ไม่งั้นก็จงคลานไปแบบนี้ทั้งชีวิตเถอะ
อาเธเน่: แล้วก็อยู่แต่ในเงาเหมือนกับหนอนแมลงไปซะ
นางิถึงกับช็อคอีกรอบ คายูระก็พยายามพูดให้นางิพยายามลุกขึ้นมาให้ได้ แต่นางิก็ยังตัวสั่นเจ็บใจและยังลุกไม่ขึ้น
อาเธเน่: เปล่าประโยชน์
อาเธเน่: พวกหนอนแมลงมันก็ทำได้แค่...
อาเธเน่: ชอนไชไปรอบๆน้ำหวานๆโดยทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่างไปจนตายนั้นแหละ
เท่านี้เอง นางิก็ลุกขึ้นตะโกนสุดเสียงและพูดเลยว่าจะทำให้ดู จะแสดงให้ดูเดี๋ยวนี้ว่าเธอไม่ใช่หนอนแมลง ว่าแล้วนางิก็ขอกระดาษทันทีบอกเลยว่าจะวาดมันทั้งคืนเลย พอฮินะเห็นนางิไฟลุกขนาดนี้ก็พูดว่าตอนนี้นางิคงเริ่มทำได้แล้วสินะ แต่อาเธเน่บอกอีกว่าจริงๆเธอยังอยากจะพูดกับนางิมากกว่านี้อีกแท้ๆ ทำเอาฮินะกับคายูระคิดเลยว่าอาเธเน่ S ตัวแม่เลย แค่ 6 ขวบแต่ S ตัวแม่จริงๆ
หลังจากนั้นพอมืดนางิมานั่งคิดคนเดียว นึกถึงตอนที่ได้ไอเดียจากตอนที่คุยกับอายุมุเรื่องคนตายที่เหลือเวลาบนโลก 49 วันแต่อนิเมะที่อยากดูให้จบอยู่วันที่ 50 นางิคิดอยากจะวาดด้วยไอเดียนั้นอยู่แต่ก็ยังคิดเนื้อหาไม่ออก คิดว่าจะวาดโดยใช้ประสบการณ์เป็นพื้นฐานแต่ก็คิดว่าตัวเองจะไปเป็นผีก็ไม่ได้เลยคิดอยู่ว่าแล้วจะทำไงดี
ตอนนั้นเองที่มีคนทักนางิ นั้นคือคุโรสุ คุโรสุบอกต้องรีบตื่นแต่เช้าไปที่ศาลเจ้าอิเสะนะรีบๆนอนจะดีกว่า นางิถามคุโรสุว่าพึ่งมาถึงเหรอ คุโรสุบอกใช่และถามนางิเรื่องการ์ตูนของนางิว่าถึงไหนแล้ว นางิบอกให้พูดจริงๆคือทางเลือกของเธอคือมีแต่ต้องขอเหล่าเทพแล้วละมั้งว่าทำยังไง แต่คุโรสุบอกแบบนั้นจะใช้ได้ยังไง ถึงจะมาอธิษฐานกับเหล่าเทพในอิเสะ นางิก็ไม่ควรขอเรื่องความปรารถนาของตัวเอง
คุโรสุบอกมนุษย์นั้นอ่อนแอ ไม่อาจเดินบนเส้นทางของตัวเองไปได้ตลอด แต่หากจะขอให้ช่วยดูแลในขณะที่กำลังทำความปรารถนาก็ทำได้ คุโรสุบอกเลยว่านั้นแหละวิธีที่นางิจะขออธิษฐานจากที่นี่
แล้วนางิก็นึกถึงเนื้อเรื่องจากไอเดียวิญญาณที่อยู่ได้ 49 วันแต่อยากดูอนิเมะในวันที่ 50 พร้อมกับนึกถึงที่ตัวเองผ่านมาในอดีต เรื่องที่ตัวเองบอกจะชนะและไม่ยอมเสียฮายาเตะ ทำให้นึกเนื้อหาช่วยที่วิญญาณไม่คิดจะยอมแพ้ได้ เนื้อหาที่ไปขอร้องผู้กำกับแต่ผู้กำกับบอกทำไม่ได้ซึ่งเหมือนกับที่พ่อของคายูระเจอกับคนทำเกมที่บอกเกมยังไม่เสร็จ นึกถึงเนื้อหาที่รู้ว่าการเร่งฉายเร็วขึ้นอีกวันนั้นยากแสนแยกจากการที่ได้เดินอยู่คนเดียวในฮอกไกโดไปเรื่อยๆ เนื้อหาที่ไปขอให้คนอื่นช่วยจากตอนที่ได้คุโรสุช่วย เนื้อหาที่วิญญาณกำลังจะจากไปจากตอนที่ตัวเองมาถึงเกียวโตในที่สุด ความสิ้นหวังที่มาถึงจุดหมายแต่ยังไม่ได้อะไรเลยและคนอื่นบอกจะช่วยกลายเป็นเนื้อหาที่ผู้กำกับพยายามทำให้ แรงกระตุ้นสุดท้ายจากการจนตรอกอย่างถึงที่สุด และคิดได้ถึงฉากสุดท้ายที่ทำได้สำเร็จและผู้ทำอนิเมะหวังว่าวิญญาณจะได้ดูอนิเมะตอนสุดท้ายและดูพวกเขาอยู่
นางินึกเนื้อหาของการ์ตูนทั้งหมดได้แล้วจากประสบการณ์สิ่งที่เจอมาในการเดินทางครั้งนี้ทั้งหมด
จบตอน
[Spoil] Hayate no Gotoku! - 411
ต่อจากตอนที่แล้ว ฮินะกำลังเริ่มกินอิเสะอุด้งที่พึ่งยกมาเสิร์ฟพูดเลยว่านี่เหรออาหารขึ้นชื่อของอิเสะขนาดคายูระยังน้ำลายไหล พอกินคำแรกก็บอกอร่อยเลยทันที เส้นทั้งนุ่มหนา อาเธเน่ยังบอกเลยว่ารสเรียบง่ายนี่แหละยอดเยี่ยม
หลังจากกินอุด้งกันเสร็จแล้วก็มาเดินที่ตรอกที่เรียกว่า "ตรอกขอบคุณ" ที่ปรารถนาให้ความขอบคุณแก่เหล่าเทพ และในตรอกนี้เองที่ฮินะสนใจชวนทุกคนลองกินอย่างหนึ่งดู นั้นคืออาคาฟุคุ(โมจิที่มีถั่วแดงกวนโปะหนาทั้งชิ้น) เป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของที่นี่เลย(ร้านดังด้วย) อาเธเน่ลองกินแค่ชิ้นเดียวก็เคลิ้มไปกับความหวานอร่อยทั่วทั้งชิ้น มาเรียเองยังบอกรู้สึกได้ว่าซึมเข้าไปในใจเลย ฮินะบอกอิเสะมีของขึ้นชื่ออยู่ไม่น้อยเลย คายูระก็รู้ว่ายังมีทั้งลูกพลับ เนื้อวัวมัตสึซากะ หอยเม่น กุ้งล็อบสเตอร์ ของขึ้นชื่อมากมายจริงๆ
แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้รู้สึกสนุกด้วยเลย นั้นคือผู้เป็นต้นตอของการเที่ยวครั้งนี้ นางิโวยเลยว่าไม่มีเวลาจะมาสนุกกับการเที่ยวนะ บอกเลยว่าคิดว่ามาอิเสะเพื่ออะไร ถ้าเธอยังคิดเนมไม่ออกภายในคืนนี้ก็จบกัน ย้ำเลยว่าเธอไม่มีเวลาแล้ว ฮินะบอกรู้อยู่แล้วแต่จิฮารุยังมาไม่ถึงและนางิเองก็ยังคิดไอเดียไม่ออกเลย ฮินะเลยถามนางิว่าแล้วจะให้พวกเธอช่วยอะไรได้ มาเรียเองก็ยังไม่รู้จะช่วยยังไงเลย
ตอนนั้นเองที่มีคนบอกนางิคงยังจนมุมไม่พอ นั้นคือคายูระซึ่งบอกนางิว่าดูยังสิ้นหวังไม่พอที่จะถึงโอกาสสุดท้ายที่นี่ นางิอาจยังมีทางข้างค้างในจิตใจเหลืออยู่ คายูระจึงบอกให้นางิจนมุมให้มากยิ่งๆไปกว่านี้ รู้สึกให้มันจนมุมจริงๆแล้วมนุษย์ก็จะดึงพลังที่สุดจากก้นบึงได้ คายูระบอกเลยว่าเธอเรียกมันว่าทฤษฎีซุปเปอร์ไซยันยังไงล่ะ นางิฟังแล้วก็เข้าใจทันทีเลยบอกงั้นเอาเลย ทำให้เธอรู้สึกว่าจนมุมอย่างที่ว่าดู
คายูระ: มะ.. แม่เธอสะดือจุ้น
นางิ: .........
นางิโวยเลยว่านั้นก็แค่การดูถูกเอง ถึงยังไงก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกอะไรเลย นางิเลยถามคนอื่นซึ่งงวดนี้ก็มาลงที่ฮินะว่ามีอีกไหม ฮินะตกใจเล็กน้อยที่นางิถามเธอเลยถามนางิว่าแค่เรื่องผลทางจิตใจที่จะทำให้นางิทำงานได้เต็มทีก็พอใช่มั้ย นางิบอกใช่ ฮินะเลยคิดๆแล้วจึงพูดว่า...
ฮินะ: นางิน่ะส.. สู้ให้เต็มที่เลยนะ!!
นางิ: .........(เหงื่อตก)
นางิ: แบบนี้จะกลายเป็นฉุดความอยากทำงานที่มีได้เลยนะเนี้ย(กระซิบกับคายูระ)
คายูระ: เอาน่า เธอแค่พยายามรักษาภาพพจน์ของตัวเอง
ฮินะ: ไม่ใช่ๆนะ!!
คราวนี้อาเธเน่พูดบ้างว่านางิช่างเป็นคนน่าเบื่อจริงๆ แค่อยากได้คำที่ทรงพลังที่จะจับใจได้ใช่มั้ยล่ะ นางิบอกใช่แต่ถามด้วยความสงสัยว่าเด็กๆอย่างอาเธเน่จะทำได้เหรอ อาเธเน่บอกง่ายมาก
อาเธเน่: ถ้าเธอทำอะไรไม่ได้เลยในเวลาแบบนี้...
อาเธเน่: ก็พิสูจน์แล้วว่าชีวิตของเธอก็จบแค่นี้!!
นางิเจอแบบนี้เข้าไปทำเอานางิถึงกับช็อคจนทรุดเข่าอ่อนไปเลย แต่ยังไม่พอ...
อาเธเน่: โห เข่าอ่อนซะแล้วเหรอ
อาเธเน่: ยังจะกลับมายืนไหวรึเปล่า
อาเธเน่: ไม่งั้นก็จงคลานไปแบบนี้ทั้งชีวิตเถอะ
อาเธเน่: แล้วก็อยู่แต่ในเงาเหมือนกับหนอนแมลงไปซะ
นางิถึงกับช็อคอีกรอบ คายูระก็พยายามพูดให้นางิพยายามลุกขึ้นมาให้ได้ แต่นางิก็ยังตัวสั่นเจ็บใจและยังลุกไม่ขึ้น
อาเธเน่: เปล่าประโยชน์
อาเธเน่: พวกหนอนแมลงมันก็ทำได้แค่...
อาเธเน่: ชอนไชไปรอบๆน้ำหวานๆโดยทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่างไปจนตายนั้นแหละ
เท่านี้เอง นางิก็ลุกขึ้นตะโกนสุดเสียงและพูดเลยว่าจะทำให้ดู จะแสดงให้ดูเดี๋ยวนี้ว่าเธอไม่ใช่หนอนแมลง ว่าแล้วนางิก็ขอกระดาษทันทีบอกเลยว่าจะวาดมันทั้งคืนเลย พอฮินะเห็นนางิไฟลุกขนาดนี้ก็พูดว่าตอนนี้นางิคงเริ่มทำได้แล้วสินะ แต่อาเธเน่บอกอีกว่าจริงๆเธอยังอยากจะพูดกับนางิมากกว่านี้อีกแท้ๆ ทำเอาฮินะกับคายูระคิดเลยว่าอาเธเน่ S ตัวแม่เลย แค่ 6 ขวบแต่ S ตัวแม่จริงๆ
หลังจากนั้นพอมืดนางิมานั่งคิดคนเดียว นึกถึงตอนที่ได้ไอเดียจากตอนที่คุยกับอายุมุเรื่องคนตายที่เหลือเวลาบนโลก 49 วันแต่อนิเมะที่อยากดูให้จบอยู่วันที่ 50 นางิคิดอยากจะวาดด้วยไอเดียนั้นอยู่แต่ก็ยังคิดเนื้อหาไม่ออก คิดว่าจะวาดโดยใช้ประสบการณ์เป็นพื้นฐานแต่ก็คิดว่าตัวเองจะไปเป็นผีก็ไม่ได้เลยคิดอยู่ว่าแล้วจะทำไงดี
ตอนนั้นเองที่มีคนทักนางิ นั้นคือคุโรสุ คุโรสุบอกต้องรีบตื่นแต่เช้าไปที่ศาลเจ้าอิเสะนะรีบๆนอนจะดีกว่า นางิถามคุโรสุว่าพึ่งมาถึงเหรอ คุโรสุบอกใช่และถามนางิเรื่องการ์ตูนของนางิว่าถึงไหนแล้ว นางิบอกให้พูดจริงๆคือทางเลือกของเธอคือมีแต่ต้องขอเหล่าเทพแล้วละมั้งว่าทำยังไง แต่คุโรสุบอกแบบนั้นจะใช้ได้ยังไง ถึงจะมาอธิษฐานกับเหล่าเทพในอิเสะ นางิก็ไม่ควรขอเรื่องความปรารถนาของตัวเอง
คุโรสุบอกมนุษย์นั้นอ่อนแอ ไม่อาจเดินบนเส้นทางของตัวเองไปได้ตลอด แต่หากจะขอให้ช่วยดูแลในขณะที่กำลังทำความปรารถนาก็ทำได้ คุโรสุบอกเลยว่านั้นแหละวิธีที่นางิจะขออธิษฐานจากที่นี่
แล้วนางิก็นึกถึงเนื้อเรื่องจากไอเดียวิญญาณที่อยู่ได้ 49 วันแต่อยากดูอนิเมะในวันที่ 50 พร้อมกับนึกถึงที่ตัวเองผ่านมาในอดีต เรื่องที่ตัวเองบอกจะชนะและไม่ยอมเสียฮายาเตะ ทำให้นึกเนื้อหาช่วยที่วิญญาณไม่คิดจะยอมแพ้ได้ เนื้อหาที่ไปขอร้องผู้กำกับแต่ผู้กำกับบอกทำไม่ได้ซึ่งเหมือนกับที่พ่อของคายูระเจอกับคนทำเกมที่บอกเกมยังไม่เสร็จ นึกถึงเนื้อหาที่รู้ว่าการเร่งฉายเร็วขึ้นอีกวันนั้นยากแสนแยกจากการที่ได้เดินอยู่คนเดียวในฮอกไกโดไปเรื่อยๆ เนื้อหาที่ไปขอให้คนอื่นช่วยจากตอนที่ได้คุโรสุช่วย เนื้อหาที่วิญญาณกำลังจะจากไปจากตอนที่ตัวเองมาถึงเกียวโตในที่สุด ความสิ้นหวังที่มาถึงจุดหมายแต่ยังไม่ได้อะไรเลยและคนอื่นบอกจะช่วยกลายเป็นเนื้อหาที่ผู้กำกับพยายามทำให้ แรงกระตุ้นสุดท้ายจากการจนตรอกอย่างถึงที่สุด และคิดได้ถึงฉากสุดท้ายที่ทำได้สำเร็จและผู้ทำอนิเมะหวังว่าวิญญาณจะได้ดูอนิเมะตอนสุดท้ายและดูพวกเขาอยู่
นางินึกเนื้อหาของการ์ตูนทั้งหมดได้แล้วจากประสบการณ์สิ่งที่เจอมาในการเดินทางครั้งนี้ทั้งหมด
จบตอน