เรื่องนี้เกิดมาประมาณ 5 ปีแล้วค่ะ ซึ่งตอนนั้น ลูกสาวอายุ 6 ขวบ เป็นเด็กผู้หญิงน้ำหนักส่วนสูงตามเกณฑ์ปกติ ไม่อ้วนไม่ผอมคะ แต่สิ่งที่ผิดปกติ ก็คือ น้องเค้าค่อนข้างที่จะเป็นหวัดบ่อย บ่อยมาก ประมาณ 2-3 อาทิตย์ครั้ง ซึ่งเราก็คิดว่า ด้วยความที่น้องเค้าเป็นคนอะเลิท อยู่ไม่เป็นที่ ชอบวิ่งเล่น เลยทำให้น้องเค้าเป็นหวัดบ่อยๆ ซึ่งช่วงแรกที่เป็น ตอน 6 ขวบคือน้องค่อนข้างที่จะเป็นหวัดติดๆกัน จนครอบครัวเราเห็นเป็นเรื่องปกติ มียาลดไข้ ต่างๆติดบ้านไว้เสมอ .....(ตอนนั้นคิดว่าแค่เป็นหวัดจริงๆคะ ) พอใกล้เข้าช่วงอายุ 7 ขวบ น้องเค้าเริ่มมีอาการแปลกๆ เช่นหายใจไม่ค่อยออกในช่วงที่เป็นหวัด เราเริ่มสังเกตเห็น จากอาการหอบถี่ๆ ตอนนั้นก็คิดว่าน้องคงคัดจมูกเฉยๆ ประจวบเหมาะกับตอนที่น้องเค้าวิ่งเล่นอยู่พอดี แต่พอหลังจากนั้น ไม่ถึงชั่วโมง น้องก็ฟุบตัวลง และบอกว่าหนูหายใจไม่ออก.....เราถึงกลับตกใจ....เพราะคิดไม่ถึงว่าลูกสาวจะเป็นหนักขนาดนี้.....จึงรีบพาลูกสาวส่งโรงพยาบาล.....พอถึงโรงพยาบาลคุณหมอก็ทำการตรวจโรคและพ่นยา
และสิ่งที่ทำให้เราตกใจคือ หลังจากตรวจ ที่มาของโรคเกิดจากต่อมไอดีนอยด์โต ทำให้ต่อมทางเดินหายใจทำงานไม่สะดวก ซึ่งคุณหมอก็แนะนำให้ทำการผ่าตัด เมื่อพร้อม ....... ณ เวลานั้น เหมือนกับว่าเรามองข้ามเหตุที่เกิดขึ้น กับลูกสาวจนมันเลยเถิดมาถึง อาการดังกล่าว....แถมยังคิดอีกว่า ถ้าเราไม่อยู่ตอนลูกล้มฟุบไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้างคิดไปสารพัด......จำได้ว่าพอคุณหมอบอก เราก็ไม่รู้หรอก ว่าโรคที่ลูกสาวเป็นร้ายแรงแค่ไหน แต่พอคุณหมอบอกว่าอาจจะต้องผ่าตัด แค่นั้น ขาเราไม่มีแรงทรุดตัวลงนั่งเลยค่ะ.....จนคุณสามีเข้ามาปลอบว่าลูกเราไม่เป็นอะไรหรอก อย่าเพิ่งคิดไปไกล ถึงได้สติกลับมา หลังจากตอนนั้น ก็ได้ปรึกษา และพูดคุยกับคุณหมออย่างละเอียดถึงอาการของโรค และการผ่าตัดว่า ควรทำเลยหรือรอดูอาการไปก่อนดี เพราะด้วยความที่ลูกสาวยังเด็กมาก ทำให้เรายิ่งห่วงเค้ามากกว่าเก่า กลัวค่ะบอกตามตรง ซึ่งคุณหมอก็อธิบายว่า จริงๆแล้วการผ่าตัดก็เป็นอีก ทางเลือกหนึ่งในการรักษา ถ้าเด็กมีอาการที่ดีขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดก็ได้ แต่ต้องให้เด็กออกกำลังกาย เล่นกีฬา ที่ใช้แรงไม่มาก ณ เวลานั้น ก็ค่อนข้างเอาใจใส่ดูแลเค้าเป็นพิเศษ ตลอดจนคอยปรึกษาเพื่อนที่เป็นพยาบาล ในการดูแล เด็กที่เป็นโรคนี้อยู่ตลอด เพื่อนก็แนะนำหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องการออกกำลังกายตลอดจนการกินอยู่ โดยเฉพาะ เรื่องของการหาเห็ดสกัดหลินจือมาให้ลูกสาวดื่ม เพราะจะช่วยในเรื่องของการสร้างภูมิคุ้มกัน และไม่รู้เป็นความโชคดี บนความโชคร้ายหรือยังไงไม่ทราบ ลูกสาวของเราเป็นเด็กที่ทานยาน้ำขมๆมาตั้งแต่เด็กเพราะไม่สบายบ่อย เลยทานเห็ดหลินจือสกัดได้
หลังจากที่ตรวจพบว่าเป็น ต่อมไอดีนอยด์โต ในครั้งนั้น ก็แวะเวียนไปหาหมอ พร้อมกับดื่มเครื่องดื่มเห็ดสกัด ได้ประมาณ ครึ่งปี เจ้าตัวน้อยของเราก็ค่อยๆดีขึ้น ผนวกกับการเล่นกีฬาคาราเต้ ก็ไม่ค่อยป่วยหรือมีอาการหอบเหมือนเมื่อก่อนเลยค่ะ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ กีฬาหรือเพราะเห็ดสกัด หรือเพราะความรักของเราที่เอาใจใส่เค้ามากขึ้น หรือรวมทุกอย่าง ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านมา 5 ปี เจ้าตัวน้อยของเราไม่ต้องผ่าตัด และแข็งแรงแถมเป็นนักกีฬาคาราเต้ด้วยค่ะ แต่เราก็ไม่นิ่งนอนใจนะคะ คอยสังเกตอาการต่างๆของเค้าตลอด.....ตอนนี้ถือว่าเบาใจและหายห่วงเรื่องอาการดังกล่าว เพราะล่าสุดเมื่อต้นปีที่แล้ว ไปหาคุณหมอคุณหมอก็บอกว่า....ลูกสาวแข็งแรงมาก แถมไม่ต้องกังวลเรื่องต่อมไอดีนอยด์โต อีกด้วยคะ
เรื่องที่จะแชร์ให้ฟังก็มีเท่านี้แหละคะ อยากให้ข้อคิดกับคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย ว่าอย่ามองข้ามและอย่าคิดวินิจฉัยเอาเองว่าลูกของเราเป็นแค่หวัด เพราะบางทีอาจะเป็นมากกว่าแค่หวัดคัดจมูก ก็ได้ค่ะ
เล่าสู่กันฟัง ประสบการณ์ เกือบเสียลูกสาวเพราะคิดว่าเป็นหวัด
และสิ่งที่ทำให้เราตกใจคือ หลังจากตรวจ ที่มาของโรคเกิดจากต่อมไอดีนอยด์โต ทำให้ต่อมทางเดินหายใจทำงานไม่สะดวก ซึ่งคุณหมอก็แนะนำให้ทำการผ่าตัด เมื่อพร้อม ....... ณ เวลานั้น เหมือนกับว่าเรามองข้ามเหตุที่เกิดขึ้น กับลูกสาวจนมันเลยเถิดมาถึง อาการดังกล่าว....แถมยังคิดอีกว่า ถ้าเราไม่อยู่ตอนลูกล้มฟุบไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้างคิดไปสารพัด......จำได้ว่าพอคุณหมอบอก เราก็ไม่รู้หรอก ว่าโรคที่ลูกสาวเป็นร้ายแรงแค่ไหน แต่พอคุณหมอบอกว่าอาจจะต้องผ่าตัด แค่นั้น ขาเราไม่มีแรงทรุดตัวลงนั่งเลยค่ะ.....จนคุณสามีเข้ามาปลอบว่าลูกเราไม่เป็นอะไรหรอก อย่าเพิ่งคิดไปไกล ถึงได้สติกลับมา หลังจากตอนนั้น ก็ได้ปรึกษา และพูดคุยกับคุณหมออย่างละเอียดถึงอาการของโรค และการผ่าตัดว่า ควรทำเลยหรือรอดูอาการไปก่อนดี เพราะด้วยความที่ลูกสาวยังเด็กมาก ทำให้เรายิ่งห่วงเค้ามากกว่าเก่า กลัวค่ะบอกตามตรง ซึ่งคุณหมอก็อธิบายว่า จริงๆแล้วการผ่าตัดก็เป็นอีก ทางเลือกหนึ่งในการรักษา ถ้าเด็กมีอาการที่ดีขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดก็ได้ แต่ต้องให้เด็กออกกำลังกาย เล่นกีฬา ที่ใช้แรงไม่มาก ณ เวลานั้น ก็ค่อนข้างเอาใจใส่ดูแลเค้าเป็นพิเศษ ตลอดจนคอยปรึกษาเพื่อนที่เป็นพยาบาล ในการดูแล เด็กที่เป็นโรคนี้อยู่ตลอด เพื่อนก็แนะนำหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องการออกกำลังกายตลอดจนการกินอยู่ โดยเฉพาะ เรื่องของการหาเห็ดสกัดหลินจือมาให้ลูกสาวดื่ม เพราะจะช่วยในเรื่องของการสร้างภูมิคุ้มกัน และไม่รู้เป็นความโชคดี บนความโชคร้ายหรือยังไงไม่ทราบ ลูกสาวของเราเป็นเด็กที่ทานยาน้ำขมๆมาตั้งแต่เด็กเพราะไม่สบายบ่อย เลยทานเห็ดหลินจือสกัดได้
หลังจากที่ตรวจพบว่าเป็น ต่อมไอดีนอยด์โต ในครั้งนั้น ก็แวะเวียนไปหาหมอ พร้อมกับดื่มเครื่องดื่มเห็ดสกัด ได้ประมาณ ครึ่งปี เจ้าตัวน้อยของเราก็ค่อยๆดีขึ้น ผนวกกับการเล่นกีฬาคาราเต้ ก็ไม่ค่อยป่วยหรือมีอาการหอบเหมือนเมื่อก่อนเลยค่ะ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ กีฬาหรือเพราะเห็ดสกัด หรือเพราะความรักของเราที่เอาใจใส่เค้ามากขึ้น หรือรวมทุกอย่าง ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านมา 5 ปี เจ้าตัวน้อยของเราไม่ต้องผ่าตัด และแข็งแรงแถมเป็นนักกีฬาคาราเต้ด้วยค่ะ แต่เราก็ไม่นิ่งนอนใจนะคะ คอยสังเกตอาการต่างๆของเค้าตลอด.....ตอนนี้ถือว่าเบาใจและหายห่วงเรื่องอาการดังกล่าว เพราะล่าสุดเมื่อต้นปีที่แล้ว ไปหาคุณหมอคุณหมอก็บอกว่า....ลูกสาวแข็งแรงมาก แถมไม่ต้องกังวลเรื่องต่อมไอดีนอยด์โต อีกด้วยคะ
เรื่องที่จะแชร์ให้ฟังก็มีเท่านี้แหละคะ อยากให้ข้อคิดกับคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย ว่าอย่ามองข้ามและอย่าคิดวินิจฉัยเอาเองว่าลูกของเราเป็นแค่หวัด เพราะบางทีอาจะเป็นมากกว่าแค่หวัดคัดจมูก ก็ได้ค่ะ