สั่งสอนที่ดอนเมือง โดย วรศักดิ์ ประยูรศุข ......คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 ..... มติชนออนไลน์

กระทู้สนทนา
คงยังไม่ช้าเกินที่จะพูดถึงการเลือกตั้งซ่อมเขต 12 กทม.หรือดอนเมือง ที่ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ
จากพรรคปชป. ชนะ นายยุรนันท์ ภมรมนตรี จากเพื่อไทยไป 2 พันกว่าคะแนน

สำหรับนักการเมือง อะไรจะน่าภาคภูมิใจเท่ากับการที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ เดินเข้าออกสภา
ยืดอกสบตาคนได้เต็มที่

สำหรับนายแทนคุณ แลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากความอุตสาหะ
เฝ้าพื้นที่มายาวนาน ตั้งแต่เป็น ส.ต.ในรอบแรก

และยังสร้างสถิติใหม่ เพราะ ปชป.ไม่เคยชนะที่นี่มา 37 ปีแล้ว

ส่วนนายยุรนันท์ไม่มีอะไรต้องเสียใจ เพราะข้ามเขตมาหาเสียงอยู่ประมาณ 20 วัน
กวาดไป 3 หมื่นคะแนน แพ้แค่ 2 พันคะแนน

ก็ถือว่ายัง "หล่อ" อยู่

ส่วนที่เชื่อว่าฐานคะแนนของพรรคเพื่อไทยที่ดอนเมืองนั้นแข็งแรงกว่า
ก็ต้องเข้าใจกันใหม่ว่าฐานคะแนน ไม่ใช่สิ่งก่อสร้าง หรือเครื่องจักร

แต่เป็นคนตัวเป็นๆ นี่แหละ รู้เรื่องการเมืองและตัดสินใจไปตามเหตุผล เหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

3 หมื่นคะแนนที่ยังเลือกก็ต้องหาคำตอบว่า ทำไมยังเลือก ส่วนคะแนนของพรรค
ที่หายไป 8 พัน หรือ 1 หมื่น หายไปไหน ก็ต้องหาคำตอบเหมือนกัน

8 พันที่ว่า นับจากคะแนน 3.8 หมื่นที่ เก่ง การุณ โหสกุล เคยได้เมื่อตอนชนะอี้ แทนคุณ
ในการเลือกตั้งใหญ่ 2554

พรรคเพื่อไทยรู้ดีว่า คะแนนหายไปยังไง ก็เห็นๆ กันว่า ทั้งเรื่องจำนำข้าว ปัญหาขัดแย้ง
ทางการเมืองต่างๆ มีคนเสิร์ฟให้ไม่หยุด จานต่อจาน ขณะที่รัฐบาลเองก็แก้ไขไม่ทันการณ์

ชี้แจงช้า เครื่องร้อนช้า ผลเลยเป็นอย่างที่เห็น

เป็นเรื่องของระบอบประชาธิปไตย ใครทำอะไรไว้ ก็ต้องถูกตัดสินโดยประชาชน
ต้องรับผลของการกระทำในการเลือกตั้ง

ชัยชนะและความพ่ายแพ้ใน 1 เขตเลือกตั้งของกรุงเทพฯ ถ้ามองว่าเป็นเรื่องเล็ก
ก็แล้วไป เก็บฉากกลับไปนอนตีพุงอยู่บ้านรอเวลาแก้มือ

แต่ถ้ามองว่าเป็นเรื่องใหญ่ ผลเลือกตั้งที่ดอนเมือง ใช้ต่อยอดทำอะไรได้อีกมาก

หนังสือพิมพ์บางฉบับ เขียนข่าวว่าประชาชน "สั่งสอน" พรรคเพื่อไทย

โดยความหมายก็ไม่ได้เกินเลย เพราะพรรคเพื่อไทยผิดพลาดหลายเรื่องจริงๆ

แต่ในการเมืองประชาธิปไตย เขาสั่งสอนกันแบบนี้

ไม่ใช่ด้วยการเอารถถังออกมาฉีกรัฐธรรมนูญ เลิกสภา

คนแพ้ก็ต้องน้อมรับการสั่งสอนจากประชาชนด้วย ไม่ใช่อ้างว่าเสียงที่สั่งสอนนั้น
เป็นเสียงไร้คุณภาพ ซื้อได้

ถึงตอนนี้ รัฐบาลจะครบครึ่งเทอม หรือเข้าสู่ห้วงครบ 2 ปีแล้ว เท่ากับว่าการเลือกตั้งอยู่ไม่ไกล

ไกลสุดก็ 2 ปี ถ้ามียุบสภาก็ต้องก่อน 2 ปี เป็นเวลา ไม่มากไม่น้อย

การเมืองไทยตอนนี้ ความพร้อมจะเล่นตามกฎกติกามีอยู่สูง
ประชาชนตื่นตัวและเข้าใจ พร้อมจะโอบอุ้มและสั่งสอน

และพร้อมจะ "ตีกลับ" หากไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบมาพากล

ปัญหาคือ "นักการเมือง" บางกลุ่มบางพวกพร้อมหรือไม่ !?

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1371726984&grpid=&catid=02&subcatid=0207

เห็นกระทู้ข้างล่าง ...มีเพื่อน...ถามว่า  ด่าฝ่ายค้าน  ทำให้รัฐบาลดูดีขึ้นไหม?
อยากจะบอกว่า  ...น่าจะทำให้เห็นว่า  "ก็เลวเหมือนกัน"  แข่งกันเลว   หรือ  ใครเลวน้อยกว่ากัน
มาอ่าน คอลัมน์ ใน "มติชน" ดีกว่า   ไม่บอกว่า ใครดี  ใครเลว   แต่ให้ข้อคิด  บอกถึงการตัดสินใจ
ของปชช.  ผ่านผลการเลือกตั้ง  ....   2  พรรค  กลับไปคิดกันเองต่อ  ก็แล้วกัน

เรื่อง  "ข้าว"  ประเด็นร้อน  พักเอาไว้ก่อน  ก็แล้วกัน  เต็มกระดานไปหมดแล้ว

อ้อ  intrend    ก็ต้อง  สุขสันต์วันเกิด ...  "นายกฯหญิง"  ของเราต่ะ     ยิ้ม

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่