คดีอุ้มฆ่านายเอกยุทธ อัญชัญบุตร นักธุรกิจนักเปิดโปงระบอบทักษิณยังคงดำมืดเป็นปริศนาคาใจสังคมต่อไป
ทั้งๆที่มีพิรุธมากมายที่ทำให้สงสัยว่าคดีนี้อาจจะเป็น”ฆาตกรรมอำพราง” โดยมีทีมสังหารตัวจริงซ้อนทีมสังหาร
ที่นำโดยนายสันติภาพ เพ็งด้วง ที่เป็นแค่ตัวละครประกอบฉาก เพื่อเบี่ยงเบนคดีเป็นการอุ้มฆ่าเพื่อ”ชิงทรัพย์”
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของนายเอกยุทธ ซึ่งออกมาตั้งข้อสงสัยว่าคดีนี้อาจเป็น
“ฆาตกรรมอำพราง” โดยเป็นใบสั่ง “ฆ่า” จากผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองผ่าน “เสธ.คนดัง” เพราะมีพิรุธมากมายทั้ง
การให้ปากคำของ นายสันติภาพ ที่กลับไปกลับมาและหลักฐานสำคัญคือกล้องวงจรปิดที่หน้าบ้านพักของ
นายเอกยุทธ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอยอันแสดงถึงการวางแผนมาเป็นอย่างดีของทีม
สังคมมืออาชีพซึ่งไม่น่าจะใช่สมองของเด็กหนุ่มอย่าง นายสันติภาพ จะทำได้ รวมทั้งไม่น่าเชื่อว่า นายสันติภาพ
จะสามารถลงมือบีบคอ นายเอกยุทธ จนตายคามือด้วยกำลังเพียงลำพัง แต่ล่าสุด ทนายนักสู้เพื่อความถูกต้องอย่าง
นายสุวัตร ก็ต้องยอมถอยโดยเปิดเผยว่า บรรดาญาติของ นายเอกยุทธ เห็นพ้องต้องกันว่าจะยุติคดีนี้และไม่ติดใจใดๆ
อีกเนื่องจากหวาดผวามากเกรงว่าภัยมืดจะมาถึงตัวเหมือนนายเอกยุทธ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พี่ชายของ นายเอกยุทธ
ยืนยันว่าจะต่อสู้คดีจนถึงที่สุดเพราะเชื่อว่าเป็น “ฆาตกรรมอำพราง”
เพราะฉะนั้นคดีอุ้มฆ่า นายเอกยุทธ คงเป็นปริศนาดำมืดท่ามกลางความคาใจสังคมภายใต้บรรยากาศที่ถูกตั้งข้อสังเกต
ว่าเหมือนอยู่ในยุคอำนาจมืดไปตลอดกาล
ไม่เพียงคดีอุ้มฆ่า นายเอกยุทธ ปรากฏการณ์ในบ้านเมืองภายใต้อำนาจรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณขณะนี้ไม่ต่าง
อะไรจากบ้านป่าเมืองเถื่อนที่แก๊งอันธพาลการเมืองซึ่งเป็นพวกเดียวกับรัฐบาลทำตัวอยู่เหนือกฎหมายและถูกตั้ง
ข้อสังเกตว่ารัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะตำรวจคอยให้ท้ายแก๊งอันธพาลการเมืองที่เที่ยวข่มขู่คุกคามหรือ
ใช้กำลังกับใครก็ตามที่เห็นต่างหรือขัดขวางเส้นทางผลประโยชน์และอำนาจหรือไม่ยอมสยบให้ระบอบทักษิณ
ซึ่งแม้แต่ศาลสถิตยุติธรรมก็ไม่เว้นตกเป็นเหยื่อถูกข่มขู่คุกคามภายใต้ยุคมืดแก๊งอันธพาลเสื้อแดงครองเมือง
ทั้งๆ ที่ปากสร้างภาพอ้างอุดมการณ์ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาตลอด แต่พฤติกรรมกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงโดยรัฐบาล
หุ่นเชิดระบอบทักษิณกลับสถาปนารัฐตำรวจเป็นเครื่องมือเพื่อรักษาอำนาจของตัวเอง ขณะเดียวกันก็ใช้เป็นเครื่องทำลาย
ฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งอาศัยแก๊งอันธพาลเสื้อแดงเที่ยวข่มขู่คุกคามฝ่ายที่เห็นต่างแม้แต่ศาลรัฐธรรมนูญอย่างเหิมเกริม
ขณะเดียวกันแก๊งเสื้อแดงทำตัวเหนือกฎหมายยึดประชาธิปไตยแบบหลักกูโดยตัวเองเท่านั้นที่แสดงออกทางการเมืองได้
ห้ามฝ่ายที่เห็นต่างออกมาเคลื่อนไหว ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากเหตุการณ์แก๊งเสื้อแดงทำตัวดุจอันธพาลยกพวกไปก่อกวน
คุกคามรวมไปถึงการใช้กำลังเพื่อล้มการปราศรัยของพรรคฝ่ายค้านที่พยายามเปิดโปงตีแผ่ความล้มเหลวและความไม่ชอบ
มาพากลในการบริหารประเทศของรัฐบาล
ล่าสุดแก๊งเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ยกพวกซึ่งมีจำนวนมากกว่าทำร้ายกลุ่มหน้ากากขาวทั้งๆ ที่เป็นการชุมนุมขับไล่
รัฐบาลอย่างสงบต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เหมือนปล่อยให้แก๊งเสื้อแดงแสดงพฤติกรรมถ่อยดิบเถื่อนไล่ทุบกลุ่ม
หน้ากากขาวอย่างย่ามใจทั้งๆ ที่สามารถป้องกันเหตุรุนแรงได้ตั้งแต่แรก
ที่สำคัญแกนนำในรัฐบาลและกลุ่มคนเสื้อแดง อาทิ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย
นายวรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ออกมาส่งสัญญาณเตือนกลุ่มหน้ากากขาวให้ระวังจะเจ็บตัวหาก
ยังออกมาเคลื่อนไหวตามท้องถนนและอาจจะมีม็อบประชาชนทั่วประเทศพร้อมออกมาปะทะกับม็อบหน้ากากขาว
บ้านเมืองขณะนี้จึงไม่ต่างอะไรจากยุคทมิฬของบ้านป่าเมืองเถื่อนอันธพาลครองเมืองโดยเผด็จการในคราบประชาธิปไตย
ภายใต้อำนาจมืดและแก๊งอันธพาลการเมืองที่ทำตัวอยู่เหนือกฏหมาย
ทีมข่าวการเมือง
http://www.naewna.com/creative/55995
ขึ้นต้นเป็น เอกยุทธ ... ลงท้าย กลายเป็นหน้ากากขาว .... แดงจะเป็นยังไง ลงท้ายก็ให้ปชช.เชียงใหม่
ตัดสินเมื่อถึงเวลาเลือกตั้งก็แล้วกัน
แต่เอกยุทธ ...นี่ เป็นยังไง ถึงดูจะปกป้อง เหลือเกิน น่าจะเป็น "คนดีศรีสังคม" ไหม
ดูข่าว ก็เห็นว่าจะเชิญ ปชป.ที่ยังไม่เชื่อในการสอบสวนของตำรวจไป ไปร่วมด้วย กับตำรวจนะ
สื่อแบบ "แนวหน้า" ก็น่าจะไปขอร่วมด้วยนะ ดีกว่า มานั่งเทียนเขียนแบบนี้ ....
กระดาษเปื้อนหมึก เป็นตัวอักษร จริงๆ ด้วย
ยุคทมิฬบ้านป่าเมืองเถื่อน ภายใต้อำนาจมืดใคราบปชต.? ...ผ่าประเด็นร้อน ... แนวหน้าออนไลน์
ทั้งๆที่มีพิรุธมากมายที่ทำให้สงสัยว่าคดีนี้อาจจะเป็น”ฆาตกรรมอำพราง” โดยมีทีมสังหารตัวจริงซ้อนทีมสังหาร
ที่นำโดยนายสันติภาพ เพ็งด้วง ที่เป็นแค่ตัวละครประกอบฉาก เพื่อเบี่ยงเบนคดีเป็นการอุ้มฆ่าเพื่อ”ชิงทรัพย์”
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของนายเอกยุทธ ซึ่งออกมาตั้งข้อสงสัยว่าคดีนี้อาจเป็น
“ฆาตกรรมอำพราง” โดยเป็นใบสั่ง “ฆ่า” จากผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมืองผ่าน “เสธ.คนดัง” เพราะมีพิรุธมากมายทั้ง
การให้ปากคำของ นายสันติภาพ ที่กลับไปกลับมาและหลักฐานสำคัญคือกล้องวงจรปิดที่หน้าบ้านพักของ
นายเอกยุทธ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอยอันแสดงถึงการวางแผนมาเป็นอย่างดีของทีม
สังคมมืออาชีพซึ่งไม่น่าจะใช่สมองของเด็กหนุ่มอย่าง นายสันติภาพ จะทำได้ รวมทั้งไม่น่าเชื่อว่า นายสันติภาพ
จะสามารถลงมือบีบคอ นายเอกยุทธ จนตายคามือด้วยกำลังเพียงลำพัง แต่ล่าสุด ทนายนักสู้เพื่อความถูกต้องอย่าง
นายสุวัตร ก็ต้องยอมถอยโดยเปิดเผยว่า บรรดาญาติของ นายเอกยุทธ เห็นพ้องต้องกันว่าจะยุติคดีนี้และไม่ติดใจใดๆ
อีกเนื่องจากหวาดผวามากเกรงว่าภัยมืดจะมาถึงตัวเหมือนนายเอกยุทธ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พี่ชายของ นายเอกยุทธ
ยืนยันว่าจะต่อสู้คดีจนถึงที่สุดเพราะเชื่อว่าเป็น “ฆาตกรรมอำพราง”
เพราะฉะนั้นคดีอุ้มฆ่า นายเอกยุทธ คงเป็นปริศนาดำมืดท่ามกลางความคาใจสังคมภายใต้บรรยากาศที่ถูกตั้งข้อสังเกต
ว่าเหมือนอยู่ในยุคอำนาจมืดไปตลอดกาล
ไม่เพียงคดีอุ้มฆ่า นายเอกยุทธ ปรากฏการณ์ในบ้านเมืองภายใต้อำนาจรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณขณะนี้ไม่ต่าง
อะไรจากบ้านป่าเมืองเถื่อนที่แก๊งอันธพาลการเมืองซึ่งเป็นพวกเดียวกับรัฐบาลทำตัวอยู่เหนือกฎหมายและถูกตั้ง
ข้อสังเกตว่ารัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะตำรวจคอยให้ท้ายแก๊งอันธพาลการเมืองที่เที่ยวข่มขู่คุกคามหรือ
ใช้กำลังกับใครก็ตามที่เห็นต่างหรือขัดขวางเส้นทางผลประโยชน์และอำนาจหรือไม่ยอมสยบให้ระบอบทักษิณ
ซึ่งแม้แต่ศาลสถิตยุติธรรมก็ไม่เว้นตกเป็นเหยื่อถูกข่มขู่คุกคามภายใต้ยุคมืดแก๊งอันธพาลเสื้อแดงครองเมือง
ทั้งๆ ที่ปากสร้างภาพอ้างอุดมการณ์ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาตลอด แต่พฤติกรรมกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงโดยรัฐบาล
หุ่นเชิดระบอบทักษิณกลับสถาปนารัฐตำรวจเป็นเครื่องมือเพื่อรักษาอำนาจของตัวเอง ขณะเดียวกันก็ใช้เป็นเครื่องทำลาย
ฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งอาศัยแก๊งอันธพาลเสื้อแดงเที่ยวข่มขู่คุกคามฝ่ายที่เห็นต่างแม้แต่ศาลรัฐธรรมนูญอย่างเหิมเกริม
ขณะเดียวกันแก๊งเสื้อแดงทำตัวเหนือกฎหมายยึดประชาธิปไตยแบบหลักกูโดยตัวเองเท่านั้นที่แสดงออกทางการเมืองได้
ห้ามฝ่ายที่เห็นต่างออกมาเคลื่อนไหว ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากเหตุการณ์แก๊งเสื้อแดงทำตัวดุจอันธพาลยกพวกไปก่อกวน
คุกคามรวมไปถึงการใช้กำลังเพื่อล้มการปราศรัยของพรรคฝ่ายค้านที่พยายามเปิดโปงตีแผ่ความล้มเหลวและความไม่ชอบ
มาพากลในการบริหารประเทศของรัฐบาล
ล่าสุดแก๊งเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ยกพวกซึ่งมีจำนวนมากกว่าทำร้ายกลุ่มหน้ากากขาวทั้งๆ ที่เป็นการชุมนุมขับไล่
รัฐบาลอย่างสงบต่อหน้าต่อตาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เหมือนปล่อยให้แก๊งเสื้อแดงแสดงพฤติกรรมถ่อยดิบเถื่อนไล่ทุบกลุ่ม
หน้ากากขาวอย่างย่ามใจทั้งๆ ที่สามารถป้องกันเหตุรุนแรงได้ตั้งแต่แรก
ที่สำคัญแกนนำในรัฐบาลและกลุ่มคนเสื้อแดง อาทิ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย
นายวรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ออกมาส่งสัญญาณเตือนกลุ่มหน้ากากขาวให้ระวังจะเจ็บตัวหาก
ยังออกมาเคลื่อนไหวตามท้องถนนและอาจจะมีม็อบประชาชนทั่วประเทศพร้อมออกมาปะทะกับม็อบหน้ากากขาว
บ้านเมืองขณะนี้จึงไม่ต่างอะไรจากยุคทมิฬของบ้านป่าเมืองเถื่อนอันธพาลครองเมืองโดยเผด็จการในคราบประชาธิปไตย
ภายใต้อำนาจมืดและแก๊งอันธพาลการเมืองที่ทำตัวอยู่เหนือกฏหมาย
ทีมข่าวการเมือง
http://www.naewna.com/creative/55995
ขึ้นต้นเป็น เอกยุทธ ... ลงท้าย กลายเป็นหน้ากากขาว .... แดงจะเป็นยังไง ลงท้ายก็ให้ปชช.เชียงใหม่
ตัดสินเมื่อถึงเวลาเลือกตั้งก็แล้วกัน
แต่เอกยุทธ ...นี่ เป็นยังไง ถึงดูจะปกป้อง เหลือเกิน น่าจะเป็น "คนดีศรีสังคม" ไหม
ดูข่าว ก็เห็นว่าจะเชิญ ปชป.ที่ยังไม่เชื่อในการสอบสวนของตำรวจไป ไปร่วมด้วย กับตำรวจนะ
สื่อแบบ "แนวหน้า" ก็น่าจะไปขอร่วมด้วยนะ ดีกว่า มานั่งเทียนเขียนแบบนี้ ....
กระดาษเปื้อนหมึก เป็นตัวอักษร จริงๆ ด้วย