คดี อุ้มฆ่า นายเอกยุทธ อัญชันบุตร กำลังเป็น กระจก สะท้อนสังคมไทยที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
ถ้าย้อนเวลากลับไปประมาณ 1 สัปดาห์ ในวันที่พี่สาวของนายเอกยุทธแจ้งความว่าน้องชายหายตัวไป
ข้อสมมติฐานในช่วงแรกมีเพียง 2 ประเด็น
ประเด็นแรก คือ อำนาจรัฐ อุ้มฆ่าแบบเดียวกับคดีทนายสมชาย นีละไพจิตร
ประเด็นที่สอง นายเอกยุทธสร้างสถานการณ์ทำลายรัฐบาล
กลุ่มแรก คือ คนที่อยู่คนละฝั่งกับรัฐบาล
กลุ่มที่สอง คือ คนที่อยู่ฝ่ายรัฐบาล
น้อยคนนักที่จะเชื่อว่าเป็นความขัดแย้งส่วนตัว หรือเรียกค่าไถ่
แต่ทันทีที่จับตัว บอล หรือ นายสันติภาพ เพ็งด้วง คนขับรถประจำตัวนายเอกยุทธได้
รูปคดีเริ่มเปลี่ยนไป
ยิ่งนายสันติภาพสารภาพว่าเป็นคนฆ่านายเอกยุทธเพื่อชิงทรัพย์ พาเจ้าหน้าที่ไปขุดศพนายเอกยุทธ
และแหล่งฝังเงินที่ปล้นมา
รวมทั้งจับเพื่อนที่ร่วมขบวนการได้
หลักฐานของฝั่งตำรวจเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งใครที่ติดตามข่าวอาชญากรรมมาตลอด จะรู้ดีว่าถ้าเป็น มืออาชีพ ระดับมาเฟียใหญ่หรือคนในเครื่องแบบจริง
เขาต้องพร้อมกว่านี้
แต่การสังหารนายเอกยุทธครั้งนี้ ผู้ต้องหาไม่มีแม้แต่ปืนส่วนตัว ต้องใช้ปืนของนายเอกยุทธ
เชือกที่รัดคอก็ไม่ได้เตรียมการไว้ก่อน ต้องใช้เชือกผูกรองเท้า
นอกจากนั้นยังแห่ศพไปไกลถึงพัทลุงบ้านเกิด แสดงว่าไม่ได้คิดเรื่องแหล่งกำจัดศพ หรือไม่ได้ตั้งใจฆ่า
นอกจากนั้นยังใช้วิธีการฝังศพ แทนที่จะกำจัดศพด้วยการนั่งยางเหมือนทนายสมชาย
เพราะถ้าไม่เจอซากศพ กระบวนการยุติธรรมถือว่าเป็นแค่ผู้สูญหาย
แม้หลักฐานจะเริ่มชัด แต่กลุ่มที่เชื่อว่า อำนาจรัฐ อุ้มฆ่านายเอกยุทธ ก็ยังคงยืนยันในความเชื่อเดิม
จุดอ่อน ของกลุ่มนี้อยู่ที่ไม่มี หลักฐาน มีแต่ ข้อสันนิษฐาน
ในขณะที่หลายคนนำคดีนายเอกยุทธไปเทียบกับคดีทนายสมชาย
แต่จริงๆ แล้วคดีนี้คล้ายกับคดี คาร์บอมบ์ พยายามฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
หลักฐาน ไม่ตรงกับ ความเชื่อ
เพราะช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงปลายรัฐบาล ทักษิณ
ในขณะที่หลักฐานชัดเจนว่า คาร์บอมบ์ แต่คนกลุ่มหนึ่งกลับมองว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของ ทักษิณ
และเรียกคดีนี้ว่า คาร์บ๊อง
ตอนนั้นคะแนนนิยมของ ทักษิณ ค่อนข้างตกต่ำ
ความเชื่อ จึงเหนือกว่า ความจริง
คดีนายเอกยุทธจึงเป็น กระจก ทางการเมืองที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในรัฐบาลชุดนี้
ถ้าคนส่วนใหญ่ยังมี ความเชื่อ เหนือกว่า ความจริง
แสดงว่าเสถียรภาพของรัฐบาลมีปัญหา
กระจก ชื่อ เอกยุทธ นอกจากจะสะท้อนรัฐบาลแล้วยังสะท้อนให้เห็นเนื้อแท้ของ คน ด้วย
ความคิดเห็นที่ออกมาจะแสดงให้เห็นว่า คนคนนั้นเป็นคนอย่างไร
มีเหตุผล
หรือมุ่งคิดทำลายเพียงอย่างเดียว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1371289102&grpid=&catid
.....เอกยุทธ ...อีกสักรอบนะคะ ไม่ได้แปะเรื่องนี้ จาก "มติชน" สักที เพราะเข้าเว็ปไม่ได้
วันนี้ขอฉลอง ด้วย ข้อเขียนของ "หนุ่มเมืองจันทร์" คอลัมนิสต์ที่ ไม่ถูกกับ คุณอภิทธิ์
แต่ สาวเหลือน้อย ช็อบ ชอบค่ะ เอาว่า เป็นแฟนคลับเขาก็แล้วกัน ...เขียนได้ตรงใจเรา ...
ใครอยากรู้จักหน้าตา ...ลองติดตามรายการ "เจาะใจ" ได้ คุณเธอ ไปออกรายการบาง
ครั้งด้วย เป็นหนึ่งในทีมงานค่ะ ...
กระจกชื่อ เอกยุทธ โดย สรกล อดุลยานนท์ ..... คอลัมน์ สถานีคิดเลขที 12 ... มติชนออนไลน์
ถ้าย้อนเวลากลับไปประมาณ 1 สัปดาห์ ในวันที่พี่สาวของนายเอกยุทธแจ้งความว่าน้องชายหายตัวไป
ข้อสมมติฐานในช่วงแรกมีเพียง 2 ประเด็น
ประเด็นแรก คือ อำนาจรัฐ อุ้มฆ่าแบบเดียวกับคดีทนายสมชาย นีละไพจิตร
ประเด็นที่สอง นายเอกยุทธสร้างสถานการณ์ทำลายรัฐบาล
กลุ่มแรก คือ คนที่อยู่คนละฝั่งกับรัฐบาล
กลุ่มที่สอง คือ คนที่อยู่ฝ่ายรัฐบาล
น้อยคนนักที่จะเชื่อว่าเป็นความขัดแย้งส่วนตัว หรือเรียกค่าไถ่
แต่ทันทีที่จับตัว บอล หรือ นายสันติภาพ เพ็งด้วง คนขับรถประจำตัวนายเอกยุทธได้
รูปคดีเริ่มเปลี่ยนไป
ยิ่งนายสันติภาพสารภาพว่าเป็นคนฆ่านายเอกยุทธเพื่อชิงทรัพย์ พาเจ้าหน้าที่ไปขุดศพนายเอกยุทธ
และแหล่งฝังเงินที่ปล้นมา
รวมทั้งจับเพื่อนที่ร่วมขบวนการได้
หลักฐานของฝั่งตำรวจเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งใครที่ติดตามข่าวอาชญากรรมมาตลอด จะรู้ดีว่าถ้าเป็น มืออาชีพ ระดับมาเฟียใหญ่หรือคนในเครื่องแบบจริง
เขาต้องพร้อมกว่านี้
แต่การสังหารนายเอกยุทธครั้งนี้ ผู้ต้องหาไม่มีแม้แต่ปืนส่วนตัว ต้องใช้ปืนของนายเอกยุทธ
เชือกที่รัดคอก็ไม่ได้เตรียมการไว้ก่อน ต้องใช้เชือกผูกรองเท้า
นอกจากนั้นยังแห่ศพไปไกลถึงพัทลุงบ้านเกิด แสดงว่าไม่ได้คิดเรื่องแหล่งกำจัดศพ หรือไม่ได้ตั้งใจฆ่า
นอกจากนั้นยังใช้วิธีการฝังศพ แทนที่จะกำจัดศพด้วยการนั่งยางเหมือนทนายสมชาย
เพราะถ้าไม่เจอซากศพ กระบวนการยุติธรรมถือว่าเป็นแค่ผู้สูญหาย
แม้หลักฐานจะเริ่มชัด แต่กลุ่มที่เชื่อว่า อำนาจรัฐ อุ้มฆ่านายเอกยุทธ ก็ยังคงยืนยันในความเชื่อเดิม
จุดอ่อน ของกลุ่มนี้อยู่ที่ไม่มี หลักฐาน มีแต่ ข้อสันนิษฐาน
ในขณะที่หลายคนนำคดีนายเอกยุทธไปเทียบกับคดีทนายสมชาย
แต่จริงๆ แล้วคดีนี้คล้ายกับคดี คาร์บอมบ์ พยายามฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
หลักฐาน ไม่ตรงกับ ความเชื่อ
เพราะช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงปลายรัฐบาล ทักษิณ
ในขณะที่หลักฐานชัดเจนว่า คาร์บอมบ์ แต่คนกลุ่มหนึ่งกลับมองว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของ ทักษิณ
และเรียกคดีนี้ว่า คาร์บ๊อง
ตอนนั้นคะแนนนิยมของ ทักษิณ ค่อนข้างตกต่ำ
ความเชื่อ จึงเหนือกว่า ความจริง
คดีนายเอกยุทธจึงเป็น กระจก ทางการเมืองที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในรัฐบาลชุดนี้
ถ้าคนส่วนใหญ่ยังมี ความเชื่อ เหนือกว่า ความจริง
แสดงว่าเสถียรภาพของรัฐบาลมีปัญหา
กระจก ชื่อ เอกยุทธ นอกจากจะสะท้อนรัฐบาลแล้วยังสะท้อนให้เห็นเนื้อแท้ของ คน ด้วย
ความคิดเห็นที่ออกมาจะแสดงให้เห็นว่า คนคนนั้นเป็นคนอย่างไร
มีเหตุผล
หรือมุ่งคิดทำลายเพียงอย่างเดียว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1371289102&grpid=&catid
.....เอกยุทธ ...อีกสักรอบนะคะ ไม่ได้แปะเรื่องนี้ จาก "มติชน" สักที เพราะเข้าเว็ปไม่ได้
วันนี้ขอฉลอง ด้วย ข้อเขียนของ "หนุ่มเมืองจันทร์" คอลัมนิสต์ที่ ไม่ถูกกับ คุณอภิทธิ์
แต่ สาวเหลือน้อย ช็อบ ชอบค่ะ เอาว่า เป็นแฟนคลับเขาก็แล้วกัน ...เขียนได้ตรงใจเรา ...
ใครอยากรู้จักหน้าตา ...ลองติดตามรายการ "เจาะใจ" ได้ คุณเธอ ไปออกรายการบาง
ครั้งด้วย เป็นหนึ่งในทีมงานค่ะ ...