ท่านปยุตโต อธิบายเรื่อง สัมมาทิฐิระดับโลกียะ ความว่า ................



กล่าวโดยสังเขป ท่านปยุตโต ระบุว่า โลกียสัมมาทิฐิ เป็นเรื่องของ "ศีลธรรม" ที่เกี่ยวโยงกับบริบททางสังคม ไม่ว่าจะเป็น ความเชื่อความศรัทธา ค่านิยม หรือ การกำหนดคุณค่าความดีงามของสังคม เป็นต้น โดยมีลักษณะเป็น กฏเกณฑ์ ที่ถูกสร้างสรร หรือบัญญัติขึ้นโดยมนุษย์ในสังคม ที่ต่างหากไปจาก กฏของธรรมชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนขึ้นอยู่กับกาลเทศะ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ ตามอิทธิพลของสภาพแวดล้อม และวิวัฒนาการของสังคมโลก

แต่สิ่งหนึ่งที่เป็น "แกนหลัก" สำหรับวัดความเป็น "สัมมาทิฐิ" ก็คือ ความสอดคล้องต้องกันกับ "กฏแห่งกรรม" หมายความว่า กฏเกณฑ์ทางศีลธรรมใดๆ  ก็ตามที่บัญญัติขึ้นโดยมนุษย์ จะนับว่าเป็น สัมมาทิฐิระดับโลกียะ ได้ก็ต่อเมื่อ กฏเกณฑ์ทางศีลธรรมเหล่านั้น มีความสอดคล้องกับ กฏแห่งกรรม เท่านั้น

ตัวอย่างเช่น การฆ่ามนุษย์ หรือ สัตว์(เดรัจฉาน) เพื่อบูชายัญ นับเป็น ค่านิยมพื้นฐาน เป็นศีลธรรม ที่ใช้กำหนดคุณค่าความดีงาม ของสังคมหนึ่ง ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ว่าเมื่อทำแล้วย่อมส่งผลดีทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

ประเด็นที่พึงพิจารณา ก็คือ (๑) กฏทางศีลธรรมดังกล่าวนี้ ไม่สอดคล้องกับหลักกรรม เพราะการกล่าวว่า กรรม คือ ปาณาติบาต จะให้วิบากผลที่ดีนั้นเป็นไปไม่ได้ (๒) จะเห็นว่า ความเชื่อในโลกนี้โลกหน้า ในกรณีนี้ ไม่เอื้อเฟื้อต่อความดีงาม(ของสังคม)อย่างที่บัณฑิตทั้งหลายจะพึงสรรเสริญ ด้วยเหตุดังนี้ เราจึงมิอาจกล่าวว่า การฆ่าสัตว์บูชายัญ นี้เป็นความคิดความเชื่อในระดับ โลกียสัมมาทิฐิ !

ที่น่าแปลกใจ ประการหนึ่ง ก็คือ ในคำอธิบายเรื่อง โลกียสัมมาทิฐิ โดยท่านปยุตโตนี้ มิได้กล่าวเลยว่า จะต้องหมายถึงผู้ที่เชื่อในเรื่อง การเวียนว่ายตายเกิดข้ามภพข้ามชาติ(แบบตายเข้าโลง) เพราะในความเป็นจริง เราย่อมทราบโดยไม่ยากว่า แม้ในหมู่ชนที่เชื่อถือในการฆ่าสัตว์บูชายัญ ก็มีความเชื่อในเรื่อง การเวียนว่ายตายเกิดข้ามภพข้ามชาติ(แบบตายเข้าโลง) เช่นกัน นั่นจึงหมายความว่า ความเชื่อในเรื่องแบบนี้ มิได้เป็น เกณฑ์ ในการวัดความเป็น โลกียสัมมาทิฐิ นั่นเอง

หรือมิใช่ ?



ตรงกันข้ามกับ ชาวพุทธงมงาย บางพวก ที่พยายามจะบิดเบือนหลักธรรมในพระพุทธศาสนา เพื่อสนองต่อกิเลสตัณหาส่วนตน ด้วยการยัดเยียดความเชื่อนอกพระศาสนา อันเป็นความงมงายส่วนบุคคลเข้ามาสู่พระธรรมวินัย โดยมิชอบ เพราะเมื่อพิจารณาความ ตามหลักฐานชั้นพระบาลีไตรปิฎกแล้ว กลับไม่พบว่า เราจะสามารถใช้ความเชื่อเรื่อง การเวียนว่ายตายเกิดข้ามภพข้ามชาติ(แบบตายเข้าโลง) มาเป็นเกณฑ์วัดความเป็น โลกียสัมมาทิฐิ ได้จริง สมกับที่ชาวพุทธจอมปลอมเหล่านั้นพยายามแอบอ้างกันอยู่

แต่ที่น่าสมเพชยิ่งกว่า ก็คือ เมื่อทำการทวงถาม "ความรับผิดชอบ" ต่อความถูกต้องตามพระธรรมวินัย คนพวกนี้กลับพยายามทำเป็นตาบอดตาใส ไม่ยอมรับรู้ และเพิกเฉยไปเสีย ประหนึ่งว่า ข้อเท็จจริงทางหลักฐานตามที่ปรากฏอยู่นี้ เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงในโลก พร้อมๆ กับที่คนพวกนี้ ก็ทำการ กล่าวตู่ใส่ร้ายพระมหาเถระอย่างท่านพุทธทาส ด้วยข้อมูลหลักฐานที่ไม่ถูกต้องชอบธรรมกันต่อไป อย่างปราศจากความละอาย







สุดท้ายนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อเท็จจริงต่างๆ จะได้รับการเปิดเผย ให้เกิดความกระจ่างแจ้งแก่ใจ และ เผยแพร่ให้ได้รับรู้กันอย่างกว้างขวาง ยิ่งๆ ขึ้นไป นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่