Http:// www.Freedom.Holidaytours.In.Th : YOYO คนสวนคน » ประวัติเซียนหุ้น
ขี่_กระทิง >> วิ่งราว_เซียน ในบรรดา “เซียน” ในตลาดหุ้นเวลานี้ “จอร์จ ตัน” หรือ เอกยุทธ อัญชันบุตร เปิดเผยว่า คนที่เล่นหุ้น ระดับ 1,000 ล้านขึ้นไป มีไม่เกิน 30 คน ที่เล่นหุ้นระดับ 2,000 ล้านบาทขึ้นไปมีอยู่ 4 - 5คน ในตลาด พวกนี้รู้จักกันเองผ่านหน้าจอComputer ซึ่งจะมาชนกันในตลาด รู้เลยว่าซื้อขายStyleนี้_ใครเล่น ถ้าเห็นลักษณะ_การขาย ที่รุนแรงออกมา จะรู้ได้ว่าเขาถือ... “ต้นทุนต่ำ” ได้กำไรกลับ ออกไป เยอะ คนพวกนี้เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนรัฐบาล”
รายใหญ่จะวนเวียนกับ โบรกเกอร์ 5 - 6แห่ง ใครก๊วนใคร หุ้นตัวนี้ “ทุ่น” ของใคร สามารถยกหูเช็คข้อมูลง่ายมาก ผ่านโบรกเกอร์ที่ตัวเองใช้บริการ ข่าวสารสำหรับรายใหญ่ค่อนข้าง “แม่นยำ” แต่บางครั้ง ก็มี“ข่าวลวง” ถูกปล่อยออกมา เช่นเดียวกัน พวกนี้จะมี “War Room” (ห้องปฏิบัติการ) บางกลุ่มชอบไปคุยกันในร้านอาหารฯ .. จะเล่นตัวไหนดี ?
ตลาดหุ้นปี 2546 เป็นตลาดหุ้นวัดฝีมือเซียน ถ้า “ขาใหญ่” คนไหนกำไรไม่เกิน “เท่าตัว” ของทุนที่ลง ถือว่าเป็น “หมู” มือไม่ถึง แต่ในปี 2547 หนังคนละม้วน… หุ้นเล่นยากกว่า ปีที่แล้ว มาก , ชื่อย่อถูกเรียกขาน & รู้กันเองในหมู่เซียน ภาษาที่ “เซียน” ใช้กันในตลาด เอกยุทธ เล่าให้ฟังว่า คนที่ตกใจรีบขาย หุ้นราคาถูก ออกมา เขาเรียกว่า “ขายหมู” , คำว่า “ซื้อยกไม้” หมายถึง การเก็บหุ้นเพื่อไล่ราคา , “ทุ่นใคร” หมายถึง
“หุ้นตัวนี้ของใคร” เช่น ทุ่น “นาย_ก” ปีที่แล้วเป็นหุ้นที่Hit คนเชื่อถือมาก
กฎการทำกำไรของเซียน : “
จังหวะ ” นั้นสำคัญที่สุด
คุณต้องรู้วิธีเข้า & วิธีออก แต่ไม่ใช่รู้วิธีเข้าๆ ออกๆ คนที่เข้าเร็วออกเร็วไม่มีทางรวยหุ้น…”เชื่อผม!!!” จังหวะตลาดสำคัญมากในการกำหนด “กำไร” ในช่วงที่ตลาดหุ้น “ขาลง” หรือ ”Side Way” รายใหญ่ที่ชอบกินคำใหญ่ๆ จะถอนตัว พวกที่เล่นจะใช้วิธี “วิ่งราว” หรือ “วิ่งเร็ว” กำไร 2-3 ช่อง (ช่วง) ราคา…”หนี”
“ ช่วงที่จังหวะตลาดไม่ดี เวลาไล่หุ้นเขาจะ “ซื้อขึ้น” จะใช้วิธีกวาดทีเดียว 3-4 ช่อง ล่อพวกตามแห่ ถ้าอยู่ดีๆ ช่องOffer หายไป 3 - 4ช่อง คนจะรีบคีย์คำสั่ง Bid (ซื้อ) ตามเข้ามา จากนั้นเขาจะลากขึ้นไป “ปล่อยของ” เหลือกำไร 2-3 ช่องก็ทิ้ง >>
รายใหญ่ ที่เล่นหุ้นในลักษณะนี้เขาเรียกว่าพวก “Fast Food” (กินเร็ว) กินคำเล็ก แล้ว รีบออก”
นักเล่นหุ้น ที่ มือ_ระดับเซียน เขาไม่มานั่งดู Technics แล้วซื้อๆ ขายๆ
แต่ๆๆ เขาจะเก็บข้อมูลหุ้นเป้าหมาย ต้องรู้หมดทุกเรื่องเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้น “Free Float” (จำนวนหุ้นหมุนเวียน)ในตลาด “หน้าตัก” เจ้าของหุ้นดูว่าเจ้าของหุ้น “เซียน” แค่ไหนถือหุ้น กี่% แล้วติดต่อขอนัดคุย จากนั้นถึงมาเลือกกลยุทธ์ในการเก็บหุ้นว่าจะใช้วิธี ทุบ หรือ จะค่อยๆเก็บ
“ขั้นตอนทั้งหมดนี้จะต้องทำควบคู่ไปกับขบวนการสร้างข่าว” เขาเล่าว่า นักเล่นหุ้นที่พบมีหลากหลายประเภท ทั้งดูGraph ดูเป้าฯ_ราคา มีจุดตัดลากกันมั่วไปหมด แล้วก็มีอีกประเภทหนึ่งฟังข่าวลือในตลาดอย่างเดียว พวกนี้สั่งซื้อหุ้นยังไม่รู้เลย ว่า บริษัททำธุรกิจอะไร ประเภทนี้ในตลาดหุ้นมีเยอะ… ”เจ๊งลูกเดียว”
“ประเภทเซียนตัวจริง ข่าวลือมาไม่สนใจ ส่วนผมชอบ “ขี่หุ้น” ก็ไม่รู้ว่าจัดอยู่ประเภทไหน ผมจะให้น้ำหนักกับ “Volume” มากกว่า สัญญาณทุกอย่าง หุ้นไม่มีVolume ผมไม่เล่น ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับTewchnics รู้ว่าตัวไหนกำลังถูกเก็บ ก็จะเข้าก่อน เวลาออกก็จะหนีก่อน”
หุ้นที่เอกยุทธ เล่น : จะเลือกหุ้นที่มีโอกาสขายทำกำไรมากกว่า 10% ขึ้นไป
จังหวะที่ตลาดไม่ดีเขาจะออกจากตลาด เพราะฉะนั้น กำไรมากหรือน้อย มันบอกเป็น… กฎตายตัวไม่ได้ ต้องดูแนวโน้มของหุ้น ดูแนวโน้มตลาดว่ามันขึ้นมาแล้ว … กี่แต้ม (จุด)
“ช่วงที่ขึ้นจาก 605 แต้มขึ้นไป 800 แต้ม ใช้เวลา 2เดือน ตลาดกำลังบ้าเลือด ช่วงนี้ผมได้กำไรเยอะมาก ไปเก็บไว้ก่อน ช่วง 600 - 605จุดเทหมดหน้าตัก”
ในการลงทุนของเอกยุทธ จะซื้อครั้งละไม่เกิน 4 - 5ตัว_มากที่สุด
หุ้นที่เขาเล่นมีกฎตายตัวว่าต้องมีสภาพคล่องสูงๆ & มี Volume แน่นๆ (เท่านั้น)….” เช่น PTT BANPU ผมได้กำไรมาเยอะ” ช่วงนั้นจะเข้าแต่ตัวใหญ่ๆ ตัวละ หลายร้อยล้านบ. , พวกกองทุนใหญ่ๆ ในต่างประเทศที่เข้ามา เล่นหุ้นไทย มันจะวนเวียนมาเจอกันในตลาด เขาเคยเจอ “จอร์จ โซรอส” มาแล้วหลายตลาด ไปเจอกันที่London ตอนไปทุบค่าเงินปอนด์
“ตอน จอร์จ โซรอส ทุบเงินบาทปี 2540ผมอยู่ Malaysiaย ช่วงนั้นหายนะประเทศไทย ผมอยู่ข้างนอก มองเห็น… โหม๊ด ยังโทรมาบอกเพื่อนๆ ว่าขายทรัพย์สินให้หมด เก็บเงินสดๆ ไว้เดี๋ยว จะได้ซื้อ.. ของถูกๆ”
ส่วนหุ้น “IPO” วิธีการที่จะได้เงินตอนเข้าตลาด จะกำหนดค่า P/E Ratio สูงๆ
บางบริษัทพื้นฐานไม่ดี แต่ขายP/E 12 - 13เท่า , บางตัวขาย 15เท่า , * ในความเห็นผมที่ Malaysia หรือ สิงคโปร์ บริษัทใหม่เขาจะให้ P/E อีไม่เกิน 8เท่า ตลาดฯ จะต้องเป็นผู้กำหนด ไม่ใช่ให้เจ้าของบริษัทเป็นผู้กำหนด หรือ ให้โบรกเกอร์ เป็นคนกำหนด ผมคิดว่าไม่ถูกต้อง
ก่อนเอาหุ้นเข้าตลาดต้องประมาณการ Cashflow คาดการณ์กำไรปีถัดไป พอเข้าตลาดได้เงินแล้วประกาศ ตัวเลขขาดทุน จริงๆ แล้วเขาต้องมี Profit การันตี 3ปี โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ต้องเป็นคนรับประกัน” ที่ไม่ถูกต้องอีกข้อทางการ
ต้องห้าม ผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือ ผู้บริหาร ซื้อๆ ขายๆ (Trade_หุ้น)เพราะคุณรู้ข้อมูลภายใน ในต่างประเทศเขาไม่ให้เรื่องนี้ เพราะ เป็น การ ชี้นำ... " ราคา "
.
*** ฅน 2ด้าน >> George Ton >> วิ่ง ราว... " เซียน "
ขี่_กระทิง >> วิ่งราว_เซียน ในบรรดา “เซียน” ในตลาดหุ้นเวลานี้ “จอร์จ ตัน” หรือ เอกยุทธ อัญชันบุตร เปิดเผยว่า คนที่เล่นหุ้น ระดับ 1,000 ล้านขึ้นไป มีไม่เกิน 30 คน ที่เล่นหุ้นระดับ 2,000 ล้านบาทขึ้นไปมีอยู่ 4 - 5คน ในตลาด พวกนี้รู้จักกันเองผ่านหน้าจอComputer ซึ่งจะมาชนกันในตลาด รู้เลยว่าซื้อขายStyleนี้_ใครเล่น ถ้าเห็นลักษณะ_การขาย ที่รุนแรงออกมา จะรู้ได้ว่าเขาถือ... “ต้นทุนต่ำ” ได้กำไรกลับ ออกไป เยอะ คนพวกนี้เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนรัฐบาล”
รายใหญ่จะวนเวียนกับ โบรกเกอร์ 5 - 6แห่ง ใครก๊วนใคร หุ้นตัวนี้ “ทุ่น” ของใคร สามารถยกหูเช็คข้อมูลง่ายมาก ผ่านโบรกเกอร์ที่ตัวเองใช้บริการ ข่าวสารสำหรับรายใหญ่ค่อนข้าง “แม่นยำ” แต่บางครั้ง ก็มี“ข่าวลวง” ถูกปล่อยออกมา เช่นเดียวกัน พวกนี้จะมี “War Room” (ห้องปฏิบัติการ) บางกลุ่มชอบไปคุยกันในร้านอาหารฯ .. จะเล่นตัวไหนดี ?
ตลาดหุ้นปี 2546 เป็นตลาดหุ้นวัดฝีมือเซียน ถ้า “ขาใหญ่” คนไหนกำไรไม่เกิน “เท่าตัว” ของทุนที่ลง ถือว่าเป็น “หมู” มือไม่ถึง แต่ในปี 2547 หนังคนละม้วน… หุ้นเล่นยากกว่า ปีที่แล้ว มาก , ชื่อย่อถูกเรียกขาน & รู้กันเองในหมู่เซียน ภาษาที่ “เซียน” ใช้กันในตลาด เอกยุทธ เล่าให้ฟังว่า คนที่ตกใจรีบขาย หุ้นราคาถูก ออกมา เขาเรียกว่า “ขายหมู” , คำว่า “ซื้อยกไม้” หมายถึง การเก็บหุ้นเพื่อไล่ราคา , “ทุ่นใคร” หมายถึง
“หุ้นตัวนี้ของใคร” เช่น ทุ่น “นาย_ก” ปีที่แล้วเป็นหุ้นที่Hit คนเชื่อถือมาก
กฎการทำกำไรของเซียน : “ จังหวะ ” นั้นสำคัญที่สุด
คุณต้องรู้วิธีเข้า & วิธีออก แต่ไม่ใช่รู้วิธีเข้าๆ ออกๆ คนที่เข้าเร็วออกเร็วไม่มีทางรวยหุ้น…”เชื่อผม!!!” จังหวะตลาดสำคัญมากในการกำหนด “กำไร” ในช่วงที่ตลาดหุ้น “ขาลง” หรือ ”Side Way” รายใหญ่ที่ชอบกินคำใหญ่ๆ จะถอนตัว พวกที่เล่นจะใช้วิธี “วิ่งราว” หรือ “วิ่งเร็ว” กำไร 2-3 ช่อง (ช่วง) ราคา…”หนี”
“ ช่วงที่จังหวะตลาดไม่ดี เวลาไล่หุ้นเขาจะ “ซื้อขึ้น” จะใช้วิธีกวาดทีเดียว 3-4 ช่อง ล่อพวกตามแห่ ถ้าอยู่ดีๆ ช่องOffer หายไป 3 - 4ช่อง คนจะรีบคีย์คำสั่ง Bid (ซื้อ) ตามเข้ามา จากนั้นเขาจะลากขึ้นไป “ปล่อยของ” เหลือกำไร 2-3 ช่องก็ทิ้ง >> รายใหญ่ ที่เล่นหุ้นในลักษณะนี้เขาเรียกว่าพวก “Fast Food” (กินเร็ว) กินคำเล็ก แล้ว รีบออก”
นักเล่นหุ้น ที่ มือ_ระดับเซียน เขาไม่มานั่งดู Technics แล้วซื้อๆ ขายๆ
แต่ๆๆ เขาจะเก็บข้อมูลหุ้นเป้าหมาย ต้องรู้หมดทุกเรื่องเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้น “Free Float” (จำนวนหุ้นหมุนเวียน)ในตลาด “หน้าตัก” เจ้าของหุ้นดูว่าเจ้าของหุ้น “เซียน” แค่ไหนถือหุ้น กี่% แล้วติดต่อขอนัดคุย จากนั้นถึงมาเลือกกลยุทธ์ในการเก็บหุ้นว่าจะใช้วิธี ทุบ หรือ จะค่อยๆเก็บ
“ขั้นตอนทั้งหมดนี้จะต้องทำควบคู่ไปกับขบวนการสร้างข่าว” เขาเล่าว่า นักเล่นหุ้นที่พบมีหลากหลายประเภท ทั้งดูGraph ดูเป้าฯ_ราคา มีจุดตัดลากกันมั่วไปหมด แล้วก็มีอีกประเภทหนึ่งฟังข่าวลือในตลาดอย่างเดียว พวกนี้สั่งซื้อหุ้นยังไม่รู้เลย ว่า บริษัททำธุรกิจอะไร ประเภทนี้ในตลาดหุ้นมีเยอะ… ”เจ๊งลูกเดียว”
“ประเภทเซียนตัวจริง ข่าวลือมาไม่สนใจ ส่วนผมชอบ “ขี่หุ้น” ก็ไม่รู้ว่าจัดอยู่ประเภทไหน ผมจะให้น้ำหนักกับ “Volume” มากกว่า สัญญาณทุกอย่าง หุ้นไม่มีVolume ผมไม่เล่น ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับTewchnics รู้ว่าตัวไหนกำลังถูกเก็บ ก็จะเข้าก่อน เวลาออกก็จะหนีก่อน”
หุ้นที่เอกยุทธ เล่น : จะเลือกหุ้นที่มีโอกาสขายทำกำไรมากกว่า 10% ขึ้นไป
จังหวะที่ตลาดไม่ดีเขาจะออกจากตลาด เพราะฉะนั้น กำไรมากหรือน้อย มันบอกเป็น… กฎตายตัวไม่ได้ ต้องดูแนวโน้มของหุ้น ดูแนวโน้มตลาดว่ามันขึ้นมาแล้ว … กี่แต้ม (จุด)
“ช่วงที่ขึ้นจาก 605 แต้มขึ้นไป 800 แต้ม ใช้เวลา 2เดือน ตลาดกำลังบ้าเลือด ช่วงนี้ผมได้กำไรเยอะมาก ไปเก็บไว้ก่อน ช่วง 600 - 605จุดเทหมดหน้าตัก”
ในการลงทุนของเอกยุทธ จะซื้อครั้งละไม่เกิน 4 - 5ตัว_มากที่สุด
หุ้นที่เขาเล่นมีกฎตายตัวว่าต้องมีสภาพคล่องสูงๆ & มี Volume แน่นๆ (เท่านั้น)….” เช่น PTT BANPU ผมได้กำไรมาเยอะ” ช่วงนั้นจะเข้าแต่ตัวใหญ่ๆ ตัวละ หลายร้อยล้านบ. , พวกกองทุนใหญ่ๆ ในต่างประเทศที่เข้ามา เล่นหุ้นไทย มันจะวนเวียนมาเจอกันในตลาด เขาเคยเจอ “จอร์จ โซรอส” มาแล้วหลายตลาด ไปเจอกันที่London ตอนไปทุบค่าเงินปอนด์
“ตอน จอร์จ โซรอส ทุบเงินบาทปี 2540ผมอยู่ Malaysiaย ช่วงนั้นหายนะประเทศไทย ผมอยู่ข้างนอก มองเห็น… โหม๊ด ยังโทรมาบอกเพื่อนๆ ว่าขายทรัพย์สินให้หมด เก็บเงินสดๆ ไว้เดี๋ยว จะได้ซื้อ.. ของถูกๆ”
ส่วนหุ้น “IPO” วิธีการที่จะได้เงินตอนเข้าตลาด จะกำหนดค่า P/E Ratio สูงๆ
บางบริษัทพื้นฐานไม่ดี แต่ขายP/E 12 - 13เท่า , บางตัวขาย 15เท่า , * ในความเห็นผมที่ Malaysia หรือ สิงคโปร์ บริษัทใหม่เขาจะให้ P/E อีไม่เกิน 8เท่า ตลาดฯ จะต้องเป็นผู้กำหนด ไม่ใช่ให้เจ้าของบริษัทเป็นผู้กำหนด หรือ ให้โบรกเกอร์ เป็นคนกำหนด ผมคิดว่าไม่ถูกต้อง
ก่อนเอาหุ้นเข้าตลาดต้องประมาณการ Cashflow คาดการณ์กำไรปีถัดไป พอเข้าตลาดได้เงินแล้วประกาศ ตัวเลขขาดทุน จริงๆ แล้วเขาต้องมี Profit การันตี 3ปี โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ต้องเป็นคนรับประกัน” ที่ไม่ถูกต้องอีกข้อทางการ ต้องห้าม ผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือ ผู้บริหาร ซื้อๆ ขายๆ (Trade_หุ้น)เพราะคุณรู้ข้อมูลภายใน ในต่างประเทศเขาไม่ให้เรื่องนี้ เพราะ เป็น การ ชี้นำ... " ราคา "
.