Source : http://www.schau-thai.de/?p=17438

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ว่า นายขิ่น ซอ อู รองผู้อำนวยสำนักงานป้องกันการฟอกเงินและกำกับดูแลธนาคารกลางของพม่า เปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง จะลงนามในกฎหมายใหม่เพื่อตั้ง “ธนาคารกลางที่มีอำนาจและการตัดสินใจด้วยตัวเอง” ก่อนการประชุมสามัญของสภาเมียนมาร์สมัยหน้า ก่อนสิ้นเดือนก.ค.นี้ โดยธนาคารแห่งนี้ จะมีกระบวนการถ่ายโอนไปสู่ธนาคารกลางอิสระอย่างเต็มรูปแบบ โดยจะตัดสัดส่วนการขาดดุลของรัฐบาลจากระดับ 40 เปอร์เซนต์ เหลือระดับศูนย์เปอร์เซนต์ และจะมีอำนาจในการกำหนด”อัตราดอกเบี้ย”ได้อย่างอิสระ และจะมีผู้บริหารจาก”ภายนอก”มาดำรงตำแหน่งผู้บริหารฯ

รายงานระบุว่า ธนาคารแห่งนี้ จะตั้งอยู่ในกรุงเนปิดอว์ โดยจะแยกเป็นอิสระออกจากกระทรวงการคลังภายในปีนี้ ขณะที่ความเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่า เป็นเส้นทางสำคัญที่จะทำให้เมียนมาร์ปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบเศรษฐกิจ และทำให้นักการเมืองไม่มีสิทธิก้าวก่ายกับสถาบันแห่งนี้ และสำหรับนักลงทุน ธนาคารกลางอิสระแห่งนี้ ถือเป็นแหล่งปกป้องเงินคงคลังชั้นดี เหมือนในบรรดาประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น ฟิลิปปินส์ และไทย ซึ่งถือว่ามีนโยบายทางเศรษฐกิจที่มั่นคงมากกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเดียวกัน เช่น เวียดนาม และการผ่านร่างกม.นี้ จะถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่สถาบันต่าง ๆ ของพม่า รวมทั้งยังช่วยสนับสนุนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจด้วย

ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงเมียนมาร์ระบุด้วยว่า สำหรับธนาคารกลางนี้ จะมีคณะกรรมการ 4 คน รับผิดชอบด้านนโยบายทางคลัง,ความมั่นคงด้านการเงิน,ระบบการจ่ายชำระเงินของหน่วยงานต่าง ๆ  และการบริหารควบคุมด้านอัตราแลกเปลี่ยน และธนาคารกลางเมียนมาร์ พร้อมจะร่วมมือกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เพื่อพัฒนากลไกและนโยบายด้านการคลัง ที่จะให้ระบบของธนาคารกลางแห่งนี้มีมาตรฐานในระดับสากล

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายยังกังวลว่า ผู้นำเมียนมาร์จะสามารถยึดมั่นกับกรอบเวลาในการผ่านร่างกม.นี้ได้หรือไม่ เนื่องจากพม่ามีกำหนดจะต้องจัดการประชุมใหญ่ระดับสากลในเร็ว ๆ นี้ คือ การประชุมเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม”ที่จะมีขึ้นในกรุงเนปิดอว์ ในเร็ว ๆ นี้