นิยาย พิสูจน์รักข้ามเวลา บทนำ และ ตอนที่ 11 โดย ณ พัชระ

กระทู้สนทนา



คงไม่มีใครคาดคิด ว่าในหนึ่งปีจะมีมากกว่า 365 วัน เพียงรดาเองก็เช่นกัน ในวันที่เธอต้องการ "สารภาพรัก"
กับคนที่เธอพยายามผลักไส คนที่เห็นและรักเธอเพียงเพราะเธอเป็นเงาของใครอีกคนมาโดยตลอด
"เธอไม่ได้ความจำเสื่อม" "เธอไม่ได้แกล้งที่จะลืมเพื่อให้ชายคนนั้นต้องเจ็บช้ำ"
แต่เธอหาสาเหตุไม่ได้ว่า "เพราะอะไร" ภีร์ชิต นักแสดงที่มีชื่อเสียง ถึงได้รู้สึก "รัก" เธอมากมายขนาดนี้
"เธอจะสวมรอยเป็นใครคนนั้นของเขา... ดีไหม?"
และแล้วในวันที่เธอพร้อมให้ "หัวใจ" มาก่อน "เหตุผล"
กับเป็นวันที่อุบัติเหตุพราก "เธอ" ไปจาก "เขา" ในโลก "ปัจจุบัน" ตลอดกาล
แต่ "โชคชะตา" ไม่ได้ "โหดร้าย"
แค่พา "เธอ" ไปพบว่า "เขารักเธอ" เพราะเหตุใด?
เพียงรดา มี "โอกาสใช้ชีวิตในจุดเดิมอีกครั้ง 2 ปี"
กับ "เขา" ที่มีท่าที ห่างเหิน เย็นชา และ กวนประสาท ไม่มีความรู้สึก "รัก" เธอ แม้แต่น้อย
จาก "เขา" ที่เป็นฝ่ายเฝ้าตามหาเธอ กลับกลายเป็นเธอ "ที่ต้องเฝ้าตามเขา"

เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ?
ภีร์ชิตต้องเจ็บซ้ำสองหรือไม่ ?
เพียงรดาจะกลับมาโลกปัจุบันได้อีกครั้ง หรือ ร่างกายต้องสูญสลาย เพียงเพื่อต้องการปกป้องคนที่เธอรัก?
ลองติดตามดูนะค่ะ ^_^



ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/30471581
ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/30475331
ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/30479031
ตอนที่ 4 http://ppantip.com/topic/30482894
ตอนที่ 5 http://ppantip.com/topic/30487272
ตอนที่ 6 http://ppantip.com/topic/30492193
ตอนที่ 7 http://ppantip.com/topic/30503825
ตอนที่ 8 http://ppantip.com/topic/30523537
ตอนที่ 9 http://ppantip.com/topic/30526970
ตอนที่ 10 http://ppantip.com/topic/30549316

ตอนที่ 11

ปี 2556

          ภีร์ชิตมาถ่ายละครที่สวนสาธารณะใจกลางเมื่องของกรุงเทพ ช่วงพักเขาเดินมาที่ลานน้ำพุกลางสวน ตรงนี้ เมื่อเกือบสองปีที่แล้ว
ที่เค้าสูญเสียเพียงรดาไปครั้งแรก เขาเฝ้าตามหาเธอ จนมาหยุดที่ตรงนี้ ตรงที่ว่างเปล่ากลางสวน แต่เพราะเพียงรดาเคยบอกเขาว่า
"ที่ตรงนี้จะมีลานน้ำพุและตรงกลางมีรูปปั้นปลาโลมาคู่" เขาจึงเป็นคนสร้างมันขึ้น เพื่อรอการกลับมาของเพียงรดา
          ภีร์ชิต ยืนมองสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างชินชา เพราะนี่เป็นครั้งที่ 2 ที่เธอหายไป และเป็นครั้งที่เขาเจ็บปวดใจมากที่สุด
เพราะใครต่างก็คิดว่า เพียงรดานั้นได้ตายจากไปแล้ว
"ผมรอคุณอยู่นะ รดา ผมรู้ความหมายของมันแล้ว กลับมาสักที   ได้โปรด"  เขายืนบ่นอยู่ตรงลานน้ำพุนั้นเพียงลำพัง เขาอยากจะบอกกับเธอเหลือเกิน ว่าความหมายที่เธอเคยถามเค้าเรื่องปลาโลมาคู่ คืออะไร อัศนัยเดินผ่านเข้ามาเห็นภีร์ชิตยืนอย่างสิ้นหวัง เขาเข้าใจความรู้สึก
ของเพื่อน สิ่งที่เขาทำได้คือปลอบใจ ทั้งภีร์ชิตและเจนจิราเท่านั้น อัศนัยชั่งใจจะบอกเรื่องแผนการของวิจิตราดีหรือเปล่า แต่เขาคิดว่าภีร์ชิต
มีเรื่องไม่สบายใจมากพออยู่แล้ว จึงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเพื่อนของเขา

ปี 2553

           หลายวันมานี้เพียงรดาทำงานได้คล่องมากขึ้น ภีร์ชิตเองก็แอบชื่นชมเธออยู่แต่ได้ไม่ได้พูดออกไปให้เธอได้รับรู้
"พี่เอมไปพักร้อนหลายวัน ช่วงนี้เธอต้องเหนื่อยหน่อย" ภีร์ชิตบอก ตอนนี้เขามานั่งพักอยู่ที่ห้องแต่งตัว
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทำไหว" เพียงรดาบอก ก่อนที่ภีร์ชิตจะถามอะไรเธอต่อ ก็มีกลุ่มนางแบบเดินเข้ามาผิดห้อง ผู้หญิงหลายคนยิ้มหวานให้ภีร์ชิต
และอีกหลายคนเช่นกันที่ส่งตาหวานให้เพียงรดา กลุ่มนางแบบมาขอถ่ายรูปคู่กับภีร์ชิต และบางคนก็ขอถ่ายรูปกับเพียงรดา ภีร์ชิตแอบมองอยู่ ถึงแม้จะเป็นผู้หญิงด้วยกัน แต่ทำไมเข้ารู้สึกขัดหูขัดตาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เมื่อกลุ่มนางแบบออกไปแล้ว เพียงรดาเลยแกล้งแซวภีร์ชิต
"สงสัยคุณคงอยากให้นางแบบเดินเข้าผิดบ่อยๆ เพราะผู้หญิงสวยๆทั้งนั้น"
"ก็แหง่สิ เพราะคุณไม่สวยไง นางแบบพวกนั้นก็เลยดูสวยขึ้นมาเยอะเลย" เขาแกล้งแซวกลับ เพียงรดารู้สึกเข้าตัวเธออย่างไรไม่รู้
"อืม ก็จริงนะ ฉันมันไม่สวย บางทีฉันอาจจะเปลี่ยนใจ เป็นทอมแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะเมื่อกี้ มีคนแอบมองฉันด้วย"
เพียงรดาบอกตามความคิดของเธอ ก่อนจะมองดูตัวเองในกระจก แต่สื่งที่ไม่ขาดฝันก็เกิดขึ้น เพราะเงาในกระจกสะท้อนให้เธอเห็นว่า
ภีร์ชิตกำลังเดินเข้ามาใกล้ๆ เธอมากขึ้นเรื่อยๆ เธอรู้สึกว่ามันใกล้เกินไปแล้ว จึงรีบหันกลับมา ทำให้ใบหน้าของเธอเกือบชนที่หน้าอกของเขา
"คุณจะทำอะไร" เพียงรดาถามด้วยเสียงที่สั่นเครือ
ภีร์ชิตไม่ตอบ แต่ยิ้มให้เธอแทน เพียงรดาพยายามใช้มือดันหน้าอกเขาออกไป ภีร์ชิตกับใช้มือของเขาจับมือของเธอไว้แน่น
เขาโน้มใบหน้าลงมาเกือบแนบชิดใบหน้าของเพียงรดา หญิงสาวเริ่มใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ได้แต่หลับตานิ่ง ปล่อยให้ตัวมี่สั่นเทาตกอยู่ในพันธนาการของเขา ภีร์ชิตเห็นอย่างนั้นเขาก็หลุดขำออกมาทันที ใช่ เขาแกล้งเธอ และมันก็ได้ผลเสมอ
"คุณภีร์ชิตสนุกมากใช่มั้ย" เพียงรดาเริ่มไม่พอใจ
"ใช่ สนุกมาก แค่นี้คุณก็ทำให้ผมรู้แล้ว ว่าคุณ เป็นทอมจริงๆ ไม่ได้หรอก" นี่คือเหตุผลที่เขาแกล้งเธอสินะ
"คุณหนะ Sensitive ขนาดนี้ ถ้าภาษาไทยเนี่ย ต้องเรียกว่า ไวต่อความรู้สึกใช่มั้ย" ภีร์ชิตพูดไปขำไป
เพียงรดาได้แต่ยืนโกรธ มองเขาอย่างน้อยใจ ที่ครั้งนี้ ภีร์ชิตล้อเล่นกับความรู้สึกของเธอมากเกินไป
"ฉันไม่ขำ คุณหยุดมองว่ามันเป็นเรื่องตลกได้แล้ว" เพียงรดาบอก ก่อนจะเดินออกจากห้องนั้นไปอย่างน้อยใจเป็นที่สุด
ภีร์ชิตหยุดขำ ท่าทางของเพียงรดาทำให้เขารู้สึกผิด ครั้งนี้เขาคงแกล้งเธอแรงเกินไปจริงๆ
          เมื่อถึงเวลาเลิกงาน ภีร์ชิตอาสาที่จะเป็นคนขับรถ เพียงรดาเลือกที่จะไปนั่งด้านหลัง ทำให้เขาอดที่จะพูดเหน็บเธอไม่ได้
"ไอ้การที่ผมมาขับรถแทนคุณ ไม่ได้หมายความว่าผมเป็นคนขับรถให้คุณหรอกนะ"
"วันนี้ฉันอยากนั่งหลัง ถ้าคุณไม่พอใจ ก็ให้ฉันขับ และคุณก็มานั่งตรงนี้แทนฉัน" เพียงรดาบอกอย่างไม่เต็มใจที่จะพูดคุยกับเขาสักเท่าไหร่
ภีร์ชิตรู้ได้ทันทีว่าเพียงรดานั้นยังคงไม่หายโกรธเขา
"อารมณ์มาเต็มเลยนะ วันนี้" ภีร์ชิตพูดแหย่ แต่เพียงรดาไม่ขำด้วย
          ภีร์ชิตขับรถตามทางไปเรื่อยๆ เพียงรดาแกะวิกผมออก และจัดแจงหวีให้เรียบร้อย ภีร์ชิตแอบมองด้วยสายตาที่หวั่นไหว
แต่ต้องซ่อนความรู้สึก ค่ำคืนนี้จราจรติดขัดเหมือนเดินแต่เพราะความเหนื่อยล้าทำบวกกับแอร์เย็นๆ ทำให้เธอเผลอหลับไป
ภีร์ชิตเห็นเพียงรดาหลับแล้วก็มองเธออย่างเอ็นดู เมื่อเขาขับรถมาถีงทางแยก มีทางเลือกให้เขาสองทาง คือจะกลับคอนโด หรือ จะไปที่อื่น
ภีร์ชิตตัดสินใจเล็กน้อยก่อนที่จะเลือกไปอีกทาง ที่ไม่ใช่ทางไปคอนโดของเขา ภีร์ชิตขับพาเพียงรดามาที่ชายหาดบางแสน เขาไปหาซื้อของ
มาทานแก้หิวโดยที่ยังไม่ได้ปลุกเพียงรดา เมื่อเขาซื้อของมาแล้ว ภีร์ชิตเลือกที่จะมานั่งด้านหลังกับเพียงรดา สักพักเพียงรดาก็รู้สึกตัวขึ้น
เธอตกใจไม่น้อยที่เห็นภีร์ชิตนั่งอยู่ข้างๆ และเมื่อเธอมองออกไปนอกรถก็เห็นน้ำทะเลแทนที่จะเป็นคอนโดของเขา
"คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม คุณจะแกล้งอะไรฉันอีก" เพียงรดาถาม แต่ภีร์ชิตยังไม่ตอบ เขาส่งของกินและน้ำให้เพียงรดาแทน
เพียงรดารับอย่างไม่เข้าใจการกระทำของเขา
"กินอะไรสักหน่อย อาจจะทำให้อารมณ์ของคุณดีขึ้น" ภีร์ชิตบอกก่อนที่เขาก็จัดการส่วนของเขา เพียงรดาได้แต่มองภีร์ชิตที่นั่งอยู่ข้างๆ
อย่างระวังตัวเพราะไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนกับเธออีก
"ผมรู้ว่าคุณยังโกรธผมอยู่ จะให้ผมขอโทษก็ได้นะ" ภีร์ชิตพูดน่าตาเฉย
"จะให้ขอโทษก็ได้ หมายความว่า แค่พูดคำนั้นออกมาแต่ไม่ได้รู้สึกอะไร ก็อย่าดีกว่าค่ะ" เพียงรดาบอก พร้อมกับวางของที่เขาให้เธอไว้ที่รถ
และเลือกที่จะเดินออกมาอยู่ข้างนอกแทน เพราะเธอรู้สึกโล่งกว่ากันเยอะ ภีร์ชิตเดินตามออกมา
"ผมขอโทษ" ภีร์ชิตพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกว่าที่เคย เพียงรดาหันมามองภีร์ชิตเพราะไมคิดว่าเธอจะได้ยินคำนี้ด้วยน้ำเสียงแบบนี้ด้วย
ภีร์ชิตทิ้งตัวนั่งลงที่ชายหาด เขาชวนเธอนั่งด้วย
"ยืนค้ำหัวเจ้านาย นี่บาปนะ"
"เค้ามีแต่ค้ำหัวผู้ใหญ่" เพียงรดาย้อน
"ก็เหมือนกันนั่นแหละ แล้วจะยืนอีกนานมั้ย" ภีร์ชิตบอกกึ่งออกคำสั่ง เพียงรดาจึงต้องนั่งอย่างเสียไม่ได้
ภีร์ชิตแอบมองเพียงรดาเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาเพราะกลัวเธอจะรู้ตัว
"เรามาเล่นเกมส์เปิดใจกันมั้ย" ภีร์ชิตชวน
"อย่างไรคะ" เพียงรดาวงสัย
"ผมยอมรับนะ บางครั้ง ผมมีอคติกับคุณ แต่มันก็น่าคิดไหมหละ ผมแทบจะไม่รู้ประวัติอะไรของคุณเลย มันก็ยิ่งทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า
เพราะผมใช่มั้ย เพราะผมเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง คุณก็เลยเลือกที่จะอยู่แบบนี้" ภีร์ชิตถามเพียงรดาในสิ่งที่ค้างคาใจเขามานาน
เพียงรดามองหน้าภีร์ชิตไม่รู้ว่าเธอจะอธิบายให้เขาฟังว่าอย่างไรดี
"ฉันแค่มาจากที่ที่หนึ่ง ที่ยังไม่สามารถกลับไปได้ในตอนนี้ นับจากวันที่ฉันรถตกเขา เอ้ยไม่ใช่สิ รถชน ฉันยอมรับว่าโลกของฉันจากวันนั้น
ก็มี แค่คุณคนเดียว" เพียงรดาบอกทุกความรู้สึกของเธอ
ภีร์ชิตเริ่มใจสั่นหวั่นไหวเพราะเขาเริ่มคิดไปไกลแล้ว
"หมายความว่าอย่างไร ที่ว่าโลกของคุณมีผมแค่คนเดียว"
"เพราะคุณช่วยชีวิตฉัน อยู่เป็นเพื่อนฉันในโลกใหม่แบบนี้ คุณมีบุญคุณกับฉันมากเลยนะคะคุณภีร์ชิต"
"โลกใหม่เลยหรอ" ภีร์ชิตไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน มันทำให้หัวใจเขาพองโตแต่ต้องเก็บอาการไว้
"คะ ฟังดูน่าตลกนะคะ แต่ฉันไม่มีใครจริงๆ" เสียงของเพียงรดาเริ่มเศร้า
"อยากเล่าให้ผมฟังมั้ย"
"อย่าเลยค่ะ คุณภีร์ชิต สิ่งเดียวที่ฉันอยากให้คุณรู้ไว้ คือฉันไม่ได้คิดร้าย และหวังผลอะไรกับคุณ" เพียงรดาบอกภีร์ชิต เธอเลี่ยงที่จะเล่าความจริงให้เขาฟัง เพราะ ไม่อยากให้เขาคิดว่าเธอเสียสติเหมือนครั้งก่อน ภีร์ชิตมองหน้าเพียงรดาเหมือนต้องการค้นหาอะไรบ้างอย่างจากเธอ
"ผมอยากให้คุณมองผมเป็นเพียงผู้ชายธรรมดา ถ้าวันหนึ่งผมไม่ใช่นักแสดงคุณจะยังอยู่ตรงนี้หรือเปล่า"
"คุณคือผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ฉันรู้จัก และ ฉันต้องอยู่เพื่อตอบแทนบุณคุณ คุณอยู่แล้ว"
ประโยคแรกของเธอทำให้เขาใจชื้น แต่ประโยคหลังชั่งขัดใจเขาเสียจริง
"บุญคุณอย่างนั้นหรอ ถ้าเป็นใครที่ช่วยคุณ คุณก็จะทำแบบนี้ใช่มั้ย" เขาถามอย่างน้อยใจ
"คะ แต่ โชคดีนะคะ ที่เป็นคุณ"  เพียงรดาบอกอย่างจริงใจ ภีร์ชิตเผลอยิ้มออกมา เขาดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น
"คุณยิ้มอะไรคะ"
"เปล่านี่" เขาโกหกได้ไม่เนียน เพียงรดาเริ่มสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนไปของภีร์ชิต นี่เธอสมควรคิดเข้าข้างตัวเองดีมั้ย
"ฉันเก่งเรื่องทำนาย อนาคตนะ คุณเชื่อมั้ย" เพียงรดาเริ่มชวนคุยไปอีกทาง
"จริงหรอ งั้นลองเดาสิว่า ผมจะเป็นจะไปยังไงในอนาคต" ภีร์ชิตถามไปอย่างไม่ได้คาดหวัง
"ตอนนี้แค่ธรรมดานะ คุณจะได้แสดงละครอีกเรื่อง เรื่องนี้ทั้งคุณ และนางเอก ดังเป็นพลุแตกเลยเลยหละ โอ้ยยยย" เพียงรดาเล่าไม่ทั้งจบ ก็รู้สึกเจ็บที่หน้าอก เธอรู้สึกหายใจไม่ออก จนเธอต้องเอามือมากุมหัวใจตัวเองไว้ ภีร์ชิตตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้นเขาถลามาใกล้เธอเพื่อต้องการจะช่วย
"คุณเป็นอะไร รดา"
"เจ็บ หายใจไม่ออก โอ้ยยย" คราวนี้เธอเอามือมาปิดที่หูแทน เพราะเธอได้ยินเสียงนาฬิกาโบราณดังมาก จนแสบแก้วหูไปหมด
ภีร์ชิตเห็นถ้าไม่ดี เขาใช้มือช้อนอุ้มเธอขึ้นและพาเธอไปโรงพยาบาลทันที
          หลังจากที่ตรวจอาการแล้ว ไม่มีอะไรผิดปกติ เพียงรดาออกมานั่งรอรับยาด้านนอก เมื่อพยาบาลเรียกชื่อเธอ เธอทำท่าจะลุกขึ้น
"ไม่ต้อง ผมจัดการเอง" ภีร์ชิตบอกพร้อมกับจัดแจงทุกอย่างแทนเพียงรดา หญิงสาวได้แต่มองภาพนั้นอย่างซึ้งใจ ทุกครั้งที่เธอมองเขา
ความรู้สึกของเธอมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเธออยากจะกลับไปโลกปัจจุบันซะเดี่ยวนี้ เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ ทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมา
คงเป็นเพราะเธอพูดถึงเรื่องอนาคต ทำให้เธอรู้สึกเหมือนจะขาดใจ ธรรมชาติคงไม่อยากให้เธอทำอะไรที่มันฝ่าฝืนสินะ
ภีร์ชิต เดินกลับมาเห็นเพียงรดานั่งหน้าเครียด จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"ทำไม คุณรู้สึกไม่ดีอีกแล้วหรอ"
"เปล่าคะ" เพียงรดาตอบพร้อมกับรอยยิ้มนิดๆ ให้ภีร์ชิตได้สบายใจขึ้น
"งั้น กลับบ้านกัน" ภีร์ชิตบอกเบาๆ แต่คำว่า "กลับบ้านกัน" ของเขานั้น ทำให้เพียงรดารู้สึกอุ่นใจขึ้นมากทีเดียว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่