<Spoil> ยอดนักปรุงโซมะ (Shokugeki no Souma) 25 -ร่องรอยที่หลงเหลือ-

กระทู้สนทนา
สปอยตอนนี้ขออิงชื่อไทย ของSIC และคิดว่าหลังจากนี้จะเขียนในชื่อสปอยเป็น ยอดนักปรุงโซมะแทนShokugeki no Souma

สำหรับตอนนี้แปลEng มาเร็วกว่าดิบซะอีก หลายๆคนคงได้อ่านไปแล้วละมั้ง?






-เปิดตอนมา บรรดาศิษย์เก่าก็ยังคงอิ่มเอมกับอาหารของเชฟแว่นโคจิโร่อยู่ โดจิม่าบอกให้พวกโซมะยกอาหารมาเสิร์ฟได้ ซึ่งโซมะก็รับคำพร้อมกับเดินไปเรียกเมงุมิ แต่ดูเหมือนเธอจะยังกังวลอยู่เพราะได้เวลาตัดสินอาหารของเธอแล้ว



-เมงุมิคิดว่า นี้เป็นอาหารที่เธอใช้ความสามารถทั้งหมดของเธอสร้างสรรค์ออกมา ถ้าเกิดพวกเขาบอกออกมาว่าไม่อร่อยละ? หรือถ้าเกิดเธอเผลอทำขั้นตอนอะไรพลาดไปละ? โซมะคุงอุตสาห์มาช่วยเธอแท้ๆนะแต่ถ้าเกิดพลาดขึ้นมาละก็? โซมะที่เห็นเมงุมิยังคงกังวลแบบนั้นก็เลย ตบป็าบเข้าให้ที่เอวของเธอ(แอบเนียนแต๊ะอั๋งเหรอ?) ซึ่งนั้นก็ทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาแล้วคิดว่าไม่เป็นไรน่า ไม่มีอะไร

-เมงุมิเลยเดินนำเอาอาหารเข้าไปเสิร์ฟให้ที่โตีะพร้อมกับเอ่ยว่าขอให้เพลิดเพลิน บรรดาศิษย์เก่าพอเห็นอาหารแล้วก็ตกใจออกมาเพราะว่ามันคือ...



-มันคือเทอรีนนั้นเองแล้วก็เป็นอาหารต้นเรื่องที่โคจิโร่ให้เมงุมิไม่ผ่านด้วย ซึ่งเมงุมิก็แนะนำว่านี้คืออาหารที่ใช้ผักทั้งหมดเจ็ดชนิดที่แตกต่างในการทำออกมาชื่อของมันคือ "นิจิโนะเทอรีน" (เทอรีนสายรุ้ง) โคจิโร่เห็นแบบนั้นเลยบอกว่าน่าสนใจดี อาหารจานนี้ดัดแปลงมาจาก"เทอรีนผัก9อย่าง"ของเขาสินะ(เมนูที่ทำให้เมงุมิตก) ซึ่งเมงุมิก็แก้ตัวว่าไม่ใช่แบบนั้น เธอแค่อยากให้เขาได้เห็นว่าเทอรีนสูตรของเธอเป็นยังไงก็เท่านั้นเอง

-ซึ่งฮิโตชิก็วิเคราะห์ว่าใช้ผักเจ็ดอย่างตกแต่งด้วยสายรุ้งและมีสองซอสไว้ทานคู่กันสินะ ว่าแล้วทุกคนก็เริ่มลงมือกินกันทันที ทำให้เมงุมิได้แต่ลุ้น ซึ่งระหว่างนั้นเองเธอก็นึกถึงอดีตตอนเรียนขึ้นมาที่เธอได้E

-เมงุมิโดนอาจารย์คอมเพลน์ไปว่า ใช้เวลาทำนานเกินไปเลยทำให้กลิ่นของอาหารเสียหมด แถมยังใช้ไฟแรงไปอีก ครั้งล่าสุดเธอก็ได้Eไปแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่รู้จักจำแล้วปรับปรุงซะบ้าง? ส่วนเพื่อนคนอื่นๆในชั้นก็สบประมาทเมงุมิไปว่าทำจานแบบนั้นออกมาได้ยัง ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนแบบนี้อยู่ในชั้นเรียนด้วย เธอทำให้เกียรติของโรงเรียนต้องเสื่อมเสีย กลับบ้านนอกไปซะเถอะ จากเหตุการณ์คร่าวนั้นเป็นความหลังฝังใจเมงุมิทำให้เธอเป็นกังวลเป็นตลอด และตอนนี้เธอก็กำลังลุ้นสุดตัวในขณะที่ศิษย์เก่าเริ่มทานอาหารของเธอ

- พอทานไปแล้วทุกคนก็พูดออกมาพร้อมกันว่า อร่อย ทำให้เมงุมิถึงกับอึ้งส่วนโซมะก็ยิ้ม ฮิโตชิเริ่มพูดออกมาว่า เมงุมิใช้มันฝรั่ง แครอท ซูกินี้(แตงกวาญี่ปุ่น)แล้วก็ผักอื่นๆในการทำเนื้อของเทอรีน ซึ่งผักทั้งหมดนั้นถูกทำให้สุกในสภาพที่มันอร่อยที่สุด ซึ่งเขาแทบไม่เชื่อว่าเมงุมิจะทำสิ่งเหล่านี้หมดได้ในเวลาสั้นๆ

-ส่วนซอสที่ใช้นั้นมีสองอัน อันแรกที่มีรสเปรี้ยวหน่อยๆทำโดยใช้ส้มญี่ปุ่น (จริงๆมันเขียนว่าผลไม้ตระกูล citrus(ส้ม,มะนาวที่ให้รสเปรี้ยว) แต่เปรียบเทียบกับส้มจะเห็นภาพกว่า)ส่วนซอสสมุนไพรอีกอันก็มีกลิ่นของใบชิโสะ(ใบที่นิยมใช้ในการประกอบอาหารญี่ปุ่นชนิดหนึ่งมีกลิ่นฉุน)นำลอยเด่นขึ้นมา โดนาโต้บอกว่าการเอาสองซอสนี้มาทานคู่กับเทอรีนเป็นความคิดที่ยอดมาก ส่วนฮินาโกะก็บอกว่า เทอรีนชั้นที่ทำจากซูกินีที่ผัดแล้วกินกับซอสสมุนไพรทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที ส่วนฟุยุมิก็บอกว่าซอสเปรี้ยวเองก็เข้ากันได้ดีกับรสหวานของมะเขือเทศอะไรสักอย่างที่ใช้ในเทอรีนนี้ โดนาโต้เสริมอีกว่าการทานเทอรีนเจ็ดอย่างนี้กับซอสสองแบบทำให้สามารถสัมผัสรสชาติที่แตกต่างกันได้ถึง14แบบ ลองคิดถึงความสนุกในการจับคู่แต่ละแบบแล้วลองทานดูสิ ส่วนฮิโตชิก็เสริมว่าสีสันที่สวยงามของเทอรีนเองก็ช่วยทำให้ความสนุกและก็รสชาติของอาหารดีขึ้นได้(ตรงนี้เสริมนิด อารมณ์ประมาณว่าสีที่ต่างกันมีผลต่อรสชาติอาหารตรงทำให้เน้นเรื่องความแตกต่าง ถ้าเกิดสีเป็นสีโทนเดียวกันไปหมดถึงรสชาติเจ็ดอย่างจะต่างกันมันก็จะให้อารมณ์ซ้ำๆซากๆได้อยู่ดี)

-ส่วนโดจิม่าก็ถามเมงุมิว่า มะเขือเทศเชอรี่ที่ใช้ในเทอรีนนี้ เป็น"ดายโทเมโท"หรือมะเขือเทศตากแห้งสินะ ซึ่งเมงุมิก็บอกว่าใช่ เพราะว่าที่บ้านเกิดของเธอฤดูหนาวจะมีหิมะตกตลอด เลยต้องมีการเก็บถนอมอาหารพวกผักต่างๆที่เก็บเกี่ยวมาได้ให้มีกินไปพอตลอดทั้งฤดูหนาว ซึ่งเธอเองก็เรียนวิธีการทำมาจากแม่ของเธอเหมือนกัน หลังจากเอามะเขือเทศที่ไปตากแห้งใต้แสงอาทิตย์มาแล้ว ก็เอามาผ่าครึ่งโรยเกลือหินแล้วก็เอาไปอบในเตาอบด้วยอุณหภูมิ120องศา ด้วยวิธีนี้ทำให้มะเขือเทศมีรสหวานอร่อยขึ้นและเธอคิดว่าน่าจะไปได้ดีกับเทอรีน ซึ่งโดจิม่าก็บอกว่าเธอจับจุดถูก ด้วยกรดกลูตามิกในมะเขือเทศจะทำให้รสชาติของมะเขือเทศทั้งความเปรี้ยวและความหวานเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลด้วยวิธีนี้

-ว่าแล้วโดจิม่าก็ยกตัวอย่างอาหารของโคจิโร่หรือก็คือ เทอรีนผัก9อย่างเป็นอาหารที่ได้ลิ้มรสอร่อยจากรสชาติของผักทั้ง9อย่างแต่ก็เป็นอาหารที่ไม่เหมาะถ้าไม่มีวัตถุดิบหรือผักที่สดใหม่ แต่เทอรีนของเมงุมิน่ะไม่ใช่ เพราะเป็นอาหารที่ได้รับความอร่อยจากรสชาติของผักสดใหม่เหมือนกันก็จริงแต่ก็มีรสชาติอร่อยจากรสชาติของผักที่ผ่านการถนอมอาหารออกมาด้วย เป็นเทอรีนที่ประสานรสชาติของสดกับของบ่ม(ดอง)ได้อย่างลงตัว ฮินาโกะบอกว่ารสชาติอันอ่อนโยนของเมงุมิจังที่สัมผัสได้ในเทอรีนจากนี้กำลังซึมซาบเข้าไปอยู่ในหัวใจของเธอ ส่วนโดนาโต้ก็บอกว่า ถ้าโคจิโร่เป็นพ่อมดผักแล้วเมงุมิก็น่าจะเป็นเด็กสาวที่มอบพร(เมงุมิ)ให้ผักในผืนดิน



-โดนาโต้บอกว่าเมงุมิน่าจะเป็น เลกูม โคโรป๊อกคุรุ (เทพตัวเล็กๆของชาวไอนุที่อยู่ใต้ต้นฟุกิคนที่เคยอ่านชาแมนคิงน่าจะรู้จัก โคโรโรวิญญาณประจำตัวของโฮโรโฮโรนั้นเอง) แต่ฮินาโกะก็แย้งไปว่า เมงุมิมอบความสุขและก็โชคดีให้เธอ เมงุมิน่าจะเป็น เลกูม ซะชิกิ วะระชิ มากกว่า(เทพอารักษ์ประจำบ้านของคนญี่ปุ่น มีรูปร่างเป็นเด็กสาว มีอีกชื่อว่าเทพแห่งโชคลาภ)



-แต่ฮิโตชิก็บอกว่า เมงุมิมาจากดินแดนที่มีหิมะตกและให้พรแก่พื้นดิน เพราะงั้นน่าจะเป็น เลกูม ยูคิโกะ(เด็กหิมะ)มากกว่า (เด็กหิมะเป็นภูติหิมะที่ปรากฎออกมาในรูปร่างเด็ก บางที่ก็เล่าว่าเป็นลูกสาวของเจ้าหญิงหิมะ)

-หลังจากนั้นศิษย์เก่าก็เถียงกันเรื่องฉายาไม่จบไม่สิ้น ทำให้ฟุยุมิสงสัยว่าทำไมต้องมีแต่ชื่อโยไค(ภูติผีปีศาจในตำนานญี่ปุ่น) ส่วนเมงุมิเองก็คิดขึ้นมาว่านี้มันยังกับฝันไปเลย เพราะอาหารของเธอที่ผลการเรียนแย่ที่สุดในชั้นปี ไม่มีความมั่นใจในตัวเองและทำพลาดอยู่บ่อยๆ แต่ทำให้เชฟชื่อดังที่ลงนิตยสารอยู่เป็นประจำ(พวกศิษย์เก่า) บอกว่าอร่อยได้...แบบนี้มัน...ว่าแล้วเธอก็เริ่มร้องไห้ด้วยความปลาบปลื้มออกมา



-หลังจากนั้นเวลาการตัดสินก็ได้เริ่มขึ้น กรรมการมีแค่สามคนคือ ฮิโตชิ ฟูยูมิและโดนาโต้ โดยโดจิม่าจะให้เหรียญกับแต่ละคนไปคนละเหรียญ และจะมีจานวางไว้หน้าโคจิโร่กับพวกโซมะ ถ้ากรรมการเลือกอาหารจานไหนก็ให้เอาเหรียญไปวางไว้ที่จานด้านหน้าของคนนั้น

-เมงุมิก็เริ่มหลับตาแล้วกำมือขอร้องทันที เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่โทสึกิแห่งนี้ ผ่านการเฉียดตกมาหลายสิบครั้ง นี้เป็นครั้งแรกที่เธอใส่พลังลงไปทั้งหมดอย่างเต็มที่ จริงจังเต็มที่ เธออยากจะอยู่ที่โรงเรียนนี้ต่อไปเพราะงั้นเธอขอร้องละ...

-เธอขอร้องให้พระเจ้าช่วยเธอด้วย เธออยากจะอยู่ที่โรงเรียนนี้ต่อไป ไม่อยากให้มันจบที่นี้ อยากอยู่ต่อไปทำอาหารพร้อมกับทุกคน พร้อมกับโซมะคุง....และแล้ว...ในที่สุด ผลการตัดสินก็ออก...



ผลการตัดสิน...
เมงุมิ&โซมะ - 0
โคจิโร่ - 3

จบตอน




อาทิตย์หน้าโซมะได้หน้าสีอีกรอบ คำโปรยตอนหน้าคือ หลังจากพ่ายแพ้ในโชคุเงคิแล้วจะเกิดอะไรขึ้น? เมงุมิกับโซมะจะโดนไล่ออก!?

เช่นเคยผิดตรงไหนท้วงได้เน่อ




โดยส่วนตัวผมเห็นลางแพ้ตั้งแต่ทำเทอรีนแล้ว (ไอ้เนื้อส่วนไหล่ตอนที่แล้วเอาไปทำอะไรละเนี่ย? ทำเป็นเจลลาตินใช้กับเทอรีนรึ?) แถมตอนชิมกันก็ยิ่งเห็นได้ชัดอิมแพ็คน้อยกว่าตอนโคจิโร่มาก

โดยส่วนตัวที่คิดว่าเมงุมิแพ้เพราะว่าอาหารของเมงุมิคงดูธรรมดาไปถ้าเทียบกับของโคจิโร่ ของโคจิโร่คือการทำเมนูธรรมดาทั่วไปให้ไม่ธรรมดา เป็นการยกเกรดจากอาหารทั่วๆไปเป็นของขึ้นภัตตาคารได้ แถมเจ้าตัวยังไม่ได้เอาจริงอีกนะ ส่วนของเมงุมิ เป็นเทอรีนที่ตีความได้น่าสนใจ(และเหมือนตบหน้าโคจิโร่กลายๆด้วย เพราะโคจิโร่ทำในคอนเซ็ปใช้ของสดล้วนแต่เมงุมิเป็น ไม่จำเป็นต้องใช้ของสดทั้งหมดใช้ของบ่ม(ดอง)+ของสดก็ออกมาอร่อยได้เหมือนกัน) แต่ดูๆแล้วมันคล้ายกับอาหารของโคจิโร่มากเกินไป เทอรีนหลายสีเองก็ไม่ใช่ของพิศดารเท่าไรเลย สรุปคือเป็นอาหารที่ไอเดียดีจริงๆ(สิบสี่รสชาตินั้นก็ด้วย) แต่ยังไม่น่าทึ่งเท่าของโคจิโน่ละมั้ง?

แต่แอบสงสัยเล็กน้อยตรงเรื่องเหรียญ สังเกตดีๆมีออกหัวสองอัน ออกก้อยหนึ่งอัน อาจจะไม่มีอะไรเป็นพิเศษแต่เหมือนพวกศิษย์เก่าอาจจะตกลงกันลับๆว่า ถ้าไม่อยากให้เมงุมิกับโซมะออกให้เอาหัวขึ้น แล้วส่งให้ไปทดสอบความสามารถอะไรสักอย่างแทน แถมเหรียญที่เอามาใช้เองก็เป็นเหรียญที่รูปจักพรรดิ์โรม? ถ้างั้นบอสคนต่อไปน่าจะเป็นฟุยุมิที่เป็นเชฟอาหารอิตาเลียน(ประมาณ ยังคิดว่าเมงุมิฝีมือไม่ถึงที่จะได้เรียนที่นี้ วันรุ่งขึ้นเข้าบททดสอบของฟุยุมิแล้วก็ต้องทำอาหารให้เธอยอมรับไม่ก็ต้องออก)

อย่างไรก็ดี...พวกโซมะแพ้แน่นอนครับ แล้วก็น่าจะเป็นการแพ้ครั้งแรกของเรื่องด้วย จะเกิดอะไรขึ้นต่อก็คงต้องติดตามกันสัปดาห์หน้าครับ...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่