ต่อจากตอนที่ 1 ค่ะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณคุณประไพศิริ สุขุม
- กระเจี๊ยบเขียว ต้มลวกจิ้มน้ำพริก มีสารเมือกลื่นพวกแพ็กติน และกัม จะช่วยเคลือบกระเพาะอาหารลำไส้ เป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยขับพยาธิ บำบัดรักษาโรคพยาธิตัวจื๊ด แก้อาการแผลในกระเพาะอาหาร
- กระเจี๊ยบแดง : มีวิตามินเอสูงมาก ใช้ต้มน้ำดื่ม ช่วยลดไขมันในเลือด แก้ไอ ดับกระหาย รักษานิ่ว ช่วยขับปัสสาวะ ขจัดเสมหะ และช่วยย่อยอาหาร
- ใบบัวบก : เป็นพืชที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ใช้ใบสดจิ้มน้ำพริก หรือต้มน้ำดื่ม สรรพคุณทางยา ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยลดความดัน ช่วยบำรุงผิวพรรณสมานแผล แก้ท้องเสีย รักษาอาการอาเจียนเป็นเลือด
- ตะไคร้ : พืชผักสมุนไพร มีไนอะซิน เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซี วิตามินบี มีสรรพคุณทางยา คือ ช่วยขับลม แก้จุกเสียด ช่วยขับปัสสาวะ แก้อาหารไม่ย่อย ป้องกันโรคนิ่ว แก้โรคซึมเศร้า บำบัดรักษาโรคเบาหวาน แก้ปวดหลัง ปวดเอว
- ใบชะพลู : มีวิตามินเอสูงมาก และอุดมไปด้วยแคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซี เส้นใย และแร่ธาตุอื่น ๆ ใบชะพลูกินสด และใช้ปรุงใส่แกงต่าง ๆ ได้ มีประโยชน์ทางยาหลายประการ ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันมะเร็งปอด แก้เบื่ออาหาร กระตุ้นให้เลือดลมเดินสะดวก ใบชะพลูมีสารออกซาเลต ซึ่งถ้าร่างกายรับเข้าไปมากจะทำให้เกิดนิ่วในไตได้
- ข่า : เป็นพืชสมุนไพร ใช้ปรุงอาหารช่วยในการดับรสคาว มีสรรพคุณทางยา ช่วยบรรเทาท้องอืดท้องเฟ้อ
กระชาย
เป็นพืชสมุนไพร ใช้ปรุงอาหาร สรรพคุณทางยา แก้บิดมูกเลือด แก้ท้องเดิน ช่วยบำรุงหัวใจ เพิ่มกำลังวังชา
- ขิง : ขิงสดมีสรรพคุณเป็นยาดีหลายทาง บำรุงกระเพาะและลำไส้ แก้โรคเบื่ออาหาร กินข้าวไม่ลง แก้ไอ แก้คลื่นไส้อาเจียน ขับเหงื่อ ขับลม แก้โรคไอหอบ ขิงแก่ต้มซุป เอาน้ำดื่ม แก้มือเท้าแข็งชา แน่นท้อง แน่นอก แก้จุกเสียด
- สะระแหน่ : มีฤทธิ์เย็นเผ็ด ช่วยแก้หวัด คัดจมูก แก้อาการแน่นหน้าอก รักษาอาการเจ็บตา ตาฝ้าฟาง แก้เจ็บคอเจ็บลิ้น แก้หอบหืด หลอดลมอักเสบ แก้เลือดกำเดาไหลบ่อย ๆ
- พริก : พริกมีสรรพคุณมากมาย เป็นเสมือนยาช่วยขับพยาธิ แก้โรคเบื่ออาหาร ช่วยขับเหงื่อ แก้ไอ แก้หวัด รักษาอาการมือเท้าบวม แก้หนาว เพราะช่วยเพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย
- สะตอ :มีวิตามินแก่ธาตุหลายชนิด เด่นทางช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันและรักษาโรคเบาหวาน ช่วยขับปัสสาวะ
- ชะอม : มีวิตามินเอสูง กินได้ทั้งสดหรือลวก สรรพคุณทางยาของชะอมช่วยป้องกันมะเร็ง และบำรุงสายตา
- มะกรูด : ใบมะกรูดมีแคลเซียมสูง มีวิตามินเอ เหล็ก ฟอสฟอรัส ผิวมะกรูดก็มีแร่ธาตุมากมาย มะกรูดช่วยขับลม แก้ปวดท้อง รักษาโรคเหงือก โรคฟัน
- ขี้เหล็ก : นำมาแกงได้หลายเมนู ยอดและดอกอ่อนก็แกงได้ มีสรรพคุณทางยา ช่วยรักษาโรคนิ่ว ขับปัสสาวะ แก้โรคนอนไม่หลับ บำบัดรักษาระดูขาว
- เซเลอรี่ : เซเลอรี่ ขึ้นฉ่ายฝรั่งรสชาติดีมีแคลเซียมสูง มีโซเดียมต่ำ คนที่เป็นโรคไตจึงกินได้ ช่วยขับลมในกระเพาะและลำไส้ ช่วยลดความดันโลหิต
- บร็อกโคลี่ : ช่วยลดความดันโลหิต ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคเบาหวาน ป้องกันการแข็งตัวของเกล็ดเลือด โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ยับยั้งการก่อตัวของเซลล์มะเร็งปิด มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้เพราะมีสารซับเฟอราเฟน
- บีทรูท : หัวผักกาดที่อยู่ใต้ดินชนิดหนึ่ง มีทรงกลมป้อม เปลือกดำ เนื้อสีแดงเลือดหมู หรือม่วงแดง เมื่อปอกสีจะติดมือ เป็นผักเมืองหนาว ต้นกำเนิดอยู่ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Betavalgaris ปัจจุบันนี้บีทรูทสามารถปลูกได้ในแถบภาคเหนือของไทยมีสารเบทานิน บำบัดโรคมะเร็งได้ ช่วยรักษาอาการปวดหัว ปวดฟัน แก้ไอ แก้เจ็บคอ ช่วยบำรุงไต บำรุงน้ำดี ล้างพิษสุรา เป็นยาระบาย บำรุงเลือดลมและเสริมสร้างภูมิต้านทาน
- วอเตอร์เครส : ออกมาในช่วงฤดูหนาว นิยมกินกับสลัด ทำแกงจืดและแซนด์วิช มีสรรพคุณทางยา ช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองแตก ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และช่วยดูแลเยื่อลุ้มไขสันหลังของทารกไม่ให้เกิดภาวะผิดปกติ
- ใบยอ : ช่วยแก้ไอ แก้เจ็บคอ แก้บิด แก้ท้องร่วง บำบัดบรรเทาอาการปวดเหงือก หรือเหงือกบวม
- ผักกูด : มีวิตามินเอสูง อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงเลือด บำรุงสายตา กระตุ้นภูมิต้านทาน
- ผักกาดแก้ว : อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน กินแล้วสายตาดี หลับสบาย ช่วยแก้โรคนอนไม่หลับ บำรุงประสาท แก้ท้องผูก บำบัดอาการโรคโลหิตจางเพราะมีเฮโมโกลบิน
- ใบแมงลัก : กินสดหรือใส่แกง แกงเลียง ช่วยแก้ท้องเดิน แก้หวัด รักษาอาการหลอดลมอักเสบ แก้ไอ ช่วยขับเหงื่อ ขับลม
สรรพคุณของผักและผลไม้ในการรักษาสุขภาพ # 2
- กระเจี๊ยบเขียว ต้มลวกจิ้มน้ำพริก มีสารเมือกลื่นพวกแพ็กติน และกัม จะช่วยเคลือบกระเพาะอาหารลำไส้ เป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยขับพยาธิ บำบัดรักษาโรคพยาธิตัวจื๊ด แก้อาการแผลในกระเพาะอาหาร
- กระเจี๊ยบแดง : มีวิตามินเอสูงมาก ใช้ต้มน้ำดื่ม ช่วยลดไขมันในเลือด แก้ไอ ดับกระหาย รักษานิ่ว ช่วยขับปัสสาวะ ขจัดเสมหะ และช่วยย่อยอาหาร
- ใบบัวบก : เป็นพืชที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ใช้ใบสดจิ้มน้ำพริก หรือต้มน้ำดื่ม สรรพคุณทางยา ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยลดความดัน ช่วยบำรุงผิวพรรณสมานแผล แก้ท้องเสีย รักษาอาการอาเจียนเป็นเลือด
- ตะไคร้ : พืชผักสมุนไพร มีไนอะซิน เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซี วิตามินบี มีสรรพคุณทางยา คือ ช่วยขับลม แก้จุกเสียด ช่วยขับปัสสาวะ แก้อาหารไม่ย่อย ป้องกันโรคนิ่ว แก้โรคซึมเศร้า บำบัดรักษาโรคเบาหวาน แก้ปวดหลัง ปวดเอว
- ใบชะพลู : มีวิตามินเอสูงมาก และอุดมไปด้วยแคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซี เส้นใย และแร่ธาตุอื่น ๆ ใบชะพลูกินสด และใช้ปรุงใส่แกงต่าง ๆ ได้ มีประโยชน์ทางยาหลายประการ ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันมะเร็งปอด แก้เบื่ออาหาร กระตุ้นให้เลือดลมเดินสะดวก ใบชะพลูมีสารออกซาเลต ซึ่งถ้าร่างกายรับเข้าไปมากจะทำให้เกิดนิ่วในไตได้
- ข่า : เป็นพืชสมุนไพร ใช้ปรุงอาหารช่วยในการดับรสคาว มีสรรพคุณทางยา ช่วยบรรเทาท้องอืดท้องเฟ้อ
กระชาย
เป็นพืชสมุนไพร ใช้ปรุงอาหาร สรรพคุณทางยา แก้บิดมูกเลือด แก้ท้องเดิน ช่วยบำรุงหัวใจ เพิ่มกำลังวังชา
- ขิง : ขิงสดมีสรรพคุณเป็นยาดีหลายทาง บำรุงกระเพาะและลำไส้ แก้โรคเบื่ออาหาร กินข้าวไม่ลง แก้ไอ แก้คลื่นไส้อาเจียน ขับเหงื่อ ขับลม แก้โรคไอหอบ ขิงแก่ต้มซุป เอาน้ำดื่ม แก้มือเท้าแข็งชา แน่นท้อง แน่นอก แก้จุกเสียด
- สะระแหน่ : มีฤทธิ์เย็นเผ็ด ช่วยแก้หวัด คัดจมูก แก้อาการแน่นหน้าอก รักษาอาการเจ็บตา ตาฝ้าฟาง แก้เจ็บคอเจ็บลิ้น แก้หอบหืด หลอดลมอักเสบ แก้เลือดกำเดาไหลบ่อย ๆ
- พริก : พริกมีสรรพคุณมากมาย เป็นเสมือนยาช่วยขับพยาธิ แก้โรคเบื่ออาหาร ช่วยขับเหงื่อ แก้ไอ แก้หวัด รักษาอาการมือเท้าบวม แก้หนาว เพราะช่วยเพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย
- สะตอ :มีวิตามินแก่ธาตุหลายชนิด เด่นทางช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันและรักษาโรคเบาหวาน ช่วยขับปัสสาวะ
- ชะอม : มีวิตามินเอสูง กินได้ทั้งสดหรือลวก สรรพคุณทางยาของชะอมช่วยป้องกันมะเร็ง และบำรุงสายตา
- มะกรูด : ใบมะกรูดมีแคลเซียมสูง มีวิตามินเอ เหล็ก ฟอสฟอรัส ผิวมะกรูดก็มีแร่ธาตุมากมาย มะกรูดช่วยขับลม แก้ปวดท้อง รักษาโรคเหงือก โรคฟัน
- ขี้เหล็ก : นำมาแกงได้หลายเมนู ยอดและดอกอ่อนก็แกงได้ มีสรรพคุณทางยา ช่วยรักษาโรคนิ่ว ขับปัสสาวะ แก้โรคนอนไม่หลับ บำบัดรักษาระดูขาว
- เซเลอรี่ : เซเลอรี่ ขึ้นฉ่ายฝรั่งรสชาติดีมีแคลเซียมสูง มีโซเดียมต่ำ คนที่เป็นโรคไตจึงกินได้ ช่วยขับลมในกระเพาะและลำไส้ ช่วยลดความดันโลหิต
- บร็อกโคลี่ : ช่วยลดความดันโลหิต ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคเบาหวาน ป้องกันการแข็งตัวของเกล็ดเลือด โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ยับยั้งการก่อตัวของเซลล์มะเร็งปิด มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้เพราะมีสารซับเฟอราเฟน
- บีทรูท : หัวผักกาดที่อยู่ใต้ดินชนิดหนึ่ง มีทรงกลมป้อม เปลือกดำ เนื้อสีแดงเลือดหมู หรือม่วงแดง เมื่อปอกสีจะติดมือ เป็นผักเมืองหนาว ต้นกำเนิดอยู่ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Betavalgaris ปัจจุบันนี้บีทรูทสามารถปลูกได้ในแถบภาคเหนือของไทยมีสารเบทานิน บำบัดโรคมะเร็งได้ ช่วยรักษาอาการปวดหัว ปวดฟัน แก้ไอ แก้เจ็บคอ ช่วยบำรุงไต บำรุงน้ำดี ล้างพิษสุรา เป็นยาระบาย บำรุงเลือดลมและเสริมสร้างภูมิต้านทาน
- วอเตอร์เครส : ออกมาในช่วงฤดูหนาว นิยมกินกับสลัด ทำแกงจืดและแซนด์วิช มีสรรพคุณทางยา ช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองแตก ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และช่วยดูแลเยื่อลุ้มไขสันหลังของทารกไม่ให้เกิดภาวะผิดปกติ
- ใบยอ : ช่วยแก้ไอ แก้เจ็บคอ แก้บิด แก้ท้องร่วง บำบัดบรรเทาอาการปวดเหงือก หรือเหงือกบวม
- ผักกูด : มีวิตามินเอสูง อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงเลือด บำรุงสายตา กระตุ้นภูมิต้านทาน
- ผักกาดแก้ว : อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน กินแล้วสายตาดี หลับสบาย ช่วยแก้โรคนอนไม่หลับ บำรุงประสาท แก้ท้องผูก บำบัดอาการโรคโลหิตจางเพราะมีเฮโมโกลบิน
- ใบแมงลัก : กินสดหรือใส่แกง แกงเลียง ช่วยแก้ท้องเดิน แก้หวัด รักษาอาการหลอดลมอักเสบ แก้ไอ ช่วยขับเหงื่อ ขับลม