#30บาทรักษาทุกที่ทั่วไทย จะมีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไปค่ะ
เราใช้เวลาประมาณ 1 ปี เพื่อทำให้ 30 บาทรักษาทุกที่ เกิดขึ้นครอบคลุมทั้งประเทศ เท่ากับเราใช้เวลา 22 ปี ในการเปลี่ยน 30 บาทรักษาทุกโรค เป็น 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า
งานนี้เป็นความสำเร็จของเราทุกคนค่ะ เพราะเกิดจากการทำงานร่วมกันของหลายฝ่าย ขอบคุณการทำงานหนักของกระทรวงสาธารณสุข สปสช. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาวิชาชีพทั้ง 7 แห่ง ส่วนท้องถิ่น และทุกภาคส่วนค่ะ
ในวันนี้ การเชื่อมโยงข้อมูลบริการสุขภาพระหว่างหน่วยบริการทั่วทั้งประเทศสำเร็จแล้ว 100% ประชาชนทุกคนมี Health ID ประจำตัว ถือบัตรประชาชนไปรักษาได้ทุกที่ ทุกสถานพยาบาลที่ร่วมโครงการทั่วประเทศไทย สามารถดูประวัติแล้วทำการรักษาต่อเนื่องได้ทันที ประชาชนทุกคนจะได้รับบริการรักษาพยาบาลที่สะดวกรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องรอคิวตรวจนานที่โรงพยาบาลอีกต่อไปค่ะ
หลังจากความสำเร็จของการขยายผล ‘นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่’ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ในปี 2568 ที่กำลังจะถึงนี้ รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร วางแผนเดินหน้าพัฒนาระบบสาธารณสุข 6 ด้าน เพื่อยกระดับบริการสุขภาพของคนไทย ดังนี้
1. ระบบบริการสุขภาพผู้สูงอายุ จัดตั้งสถานชีวาภิบาลทั่วประเทศ
2. สร้าง Care Giver หรือนักบริบาลผู้สูงอายุ 15,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ ทำให้เกิดการจ้างงานในชุมชน เน้นกลุ่มที่เป็นนักศึกษาจบใหม่และผู้สูงอายุหลังเกษียณ
3. เพิ่มความเข้มแข็งการดูแลสุขภาพของประชาชน คัดกรองเร็ว รู้เร็ว รักษาง่าย ปัจจุบันมีชุดตรวจคัดกรองด้วยตนเอง เพียงใช้แค่บัตรประชาชนไปขอรับได้ที่ร้านยาคือ ชุดตรวจมะเร็งปากมดลูก ชุดตรวจการติดเชื้อเอชไอวี ชุดตรวจพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี และในปีนี้จะเพิ่ม ชุดตรวจไมโครอัลบูมินในปัสสาวะ ป้องกันโรคไตเสื่อมจากเบาหวาน
4. ดูแลสุขภาพจิตของคนไทย ด้วยบริการจิตเวชครบวงจร ตั้งแต่การป้องกัน รักษา และการให้คำปรึกษาบำบัด ผ่านศูนย์ให้ปรึกษาทางจิตเวช และการรับการปรึกษาทางสุขภาพจิตผ่านแอปพลิเคชัน
5. บำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยติดสารเสพติดกลับสู่สังคม
6. ขับเคลื่อน 50 โรงพยาบาล 50 เขต เพื่อคนกรุงเทพฯ มีโรงพยาบาลใกล้บ้านเป็นที่พึ่ง
นายกฯ แพทองธาร #30บาทรักษาทุกที่ทั่วไทย จะมีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไปค่ะ
เราใช้เวลาประมาณ 1 ปี เพื่อทำให้ 30 บาทรักษาทุกที่ เกิดขึ้นครอบคลุมทั้งประเทศ เท่ากับเราใช้เวลา 22 ปี ในการเปลี่ยน 30 บาทรักษาทุกโรค เป็น 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า
งานนี้เป็นความสำเร็จของเราทุกคนค่ะ เพราะเกิดจากการทำงานร่วมกันของหลายฝ่าย ขอบคุณการทำงานหนักของกระทรวงสาธารณสุข สปสช. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาวิชาชีพทั้ง 7 แห่ง ส่วนท้องถิ่น และทุกภาคส่วนค่ะ
ในวันนี้ การเชื่อมโยงข้อมูลบริการสุขภาพระหว่างหน่วยบริการทั่วทั้งประเทศสำเร็จแล้ว 100% ประชาชนทุกคนมี Health ID ประจำตัว ถือบัตรประชาชนไปรักษาได้ทุกที่ ทุกสถานพยาบาลที่ร่วมโครงการทั่วประเทศไทย สามารถดูประวัติแล้วทำการรักษาต่อเนื่องได้ทันที ประชาชนทุกคนจะได้รับบริการรักษาพยาบาลที่สะดวกรวดเร็วขึ้น ไม่ต้องรอคิวตรวจนานที่โรงพยาบาลอีกต่อไปค่ะ
หลังจากความสำเร็จของการขยายผล ‘นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่’ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ในปี 2568 ที่กำลังจะถึงนี้ รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร วางแผนเดินหน้าพัฒนาระบบสาธารณสุข 6 ด้าน เพื่อยกระดับบริการสุขภาพของคนไทย ดังนี้
1. ระบบบริการสุขภาพผู้สูงอายุ จัดตั้งสถานชีวาภิบาลทั่วประเทศ
2. สร้าง Care Giver หรือนักบริบาลผู้สูงอายุ 15,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ ทำให้เกิดการจ้างงานในชุมชน เน้นกลุ่มที่เป็นนักศึกษาจบใหม่และผู้สูงอายุหลังเกษียณ
3. เพิ่มความเข้มแข็งการดูแลสุขภาพของประชาชน คัดกรองเร็ว รู้เร็ว รักษาง่าย ปัจจุบันมีชุดตรวจคัดกรองด้วยตนเอง เพียงใช้แค่บัตรประชาชนไปขอรับได้ที่ร้านยาคือ ชุดตรวจมะเร็งปากมดลูก ชุดตรวจการติดเชื้อเอชไอวี ชุดตรวจพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี และในปีนี้จะเพิ่ม ชุดตรวจไมโครอัลบูมินในปัสสาวะ ป้องกันโรคไตเสื่อมจากเบาหวาน
4. ดูแลสุขภาพจิตของคนไทย ด้วยบริการจิตเวชครบวงจร ตั้งแต่การป้องกัน รักษา และการให้คำปรึกษาบำบัด ผ่านศูนย์ให้ปรึกษาทางจิตเวช และการรับการปรึกษาทางสุขภาพจิตผ่านแอปพลิเคชัน
5. บำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยติดสารเสพติดกลับสู่สังคม
6. ขับเคลื่อน 50 โรงพยาบาล 50 เขต เพื่อคนกรุงเทพฯ มีโรงพยาบาลใกล้บ้านเป็นที่พึ่ง