[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้......นี่ก็กระทู้ทยอยตั้งค่ะ เพื่อให้กระทู้หลักที่ตั้งใจตั้งไม่หนักมาก
เพราะมีเรื่องเกี่ยวพันกันในรายละเอียดอยู่
ท่านที่เข้ามาอ่าน ควรพิจารณาก่อนนะคะ ว่าจะอ่าน หรือจะออกไปดี เพราะถ้าอ่าน
อาจจะหลงในกระทู้ หาทางออกลำบาก เดี๋ยวมาโทษกันได้ว่า
กระทู้อะไรเสียเวลาอ่านจริงๆ เลย
......แต่ถ้าได้อ่านแล้วพยายามอ่านให้จบนะคะ เดี๋ยวไม่อิน
วิธีอ่านมองข้ามตัวตนที่ดิฉันแสดงไปเสียนะคะ จับเอาแต่ส่วนที่เป็นประโยชน์ไป
ด้วยรัก
อธิโมกข์
20/05/2556
เรื่องมีอยู่ว่า :
.............ดิฉันถูกขอให้อยู่รอให้ชิ้นงานน้องนภา (นามสมุติ )ลูกค้าที่จะมาหลังเวลาเลิกงาน
ปกติดิฉันไม่มีหน้าที่ให้ชิ้นงานดอกค่ะ แต่ก็ทำได้ทุกแผนกนั่นแหละ ทั้งยังพักอยู่ที่ออฟฟิศ
และไม่มีโอทีอีกด้วย
ปกติเราเปิดทำการ ๑๐ โมงเช้า ปิดทำการ ๖ โมงเย็น
การที่ลูกค้ามารับบริการที่บริษัทนอกเวลา ถ้าพนักงานที่มีโอทีอยู่รอก็จะได้โอทีค่ะ แต่ก็น้อยมาก
โอที ๓๐ นาที หรือ ๑ ชั่วโมง ไม่คุ้มดอกค่ะ พนักงานจึงไม่มีใครอยากอยู่ ก็จะขอให้ดิฉันอยู่รอ
ดิฉันเข้าใจค่ะ และยอมรับในส่วนนี้ แต่ถ้าดิฉันมีธุระ ก็จะไม่รับค่ะ
ให้จัดพนักงานที่มีหน้าที่อยู่รอกันเอง
แต่ส่วนมากดิฉันไม่ค่อยจะมีธุระดอกค่ะ จะอยู่ห้องพัก หรือที่ทำงาน ก็นั่งอ่านหนังสือมีค่าเท่ากัน
รอที่ทำงานก็ยังได้ช่วยบริการลูกค้า และได้ช่วยเพื่อนร่วมงานด้วย.
วันนั้นดิฉันอยู่รอถึง ๑ ทุ่ม ฟ้ามืดสนิท ฝนก็ตกหนักมากด้วยค่ะ ลูกค้ามาจากพัทยา
มากับคุณพ่อ พอมาถึงคุณพ่อของลูกค้าก็บอกดิฉันว่า
" ภรรยาผมให้มาซื้อวัสดุ ตามนี้ " ยื่นกระดาษที่จดให้ดิฉัน
" บริษัทปิดทำการแล้วค่ะ เจ้าหน้าที่ในส่วนดูแลวัสดุก็กลับแล้ว คงจะรับ
วัสดุที่ต้องการไปในวันนี้ไม่ได้นะคะ จะจัดเตรียมให้ในช่วงทำการนะคะ" ดิฉันบอก
" ก็ผมมาแล้ว มาไกลด้วย พวกคุณทำงานกันยังไง "
" ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะคะ ในส่วนวัสดุตามที่ให้มาไม่มีฝากไว้เลย ฝากแต่
ว่าให้ดิฉันให้ชิ้นงาน และฝากวัสดุในส่วนที่เตรียมไว้สำหรับวันนี้เท่านั้นค่ะ "
" ทำงานกันแย่มาก " บ่นเสียงดังเชียว
ดิฉันก็ให้ชิ้นงานลูกค้า และวัสดุที่ฝากไว้ คุณพ่อลูกค้าท่าทางหงุดหงิดมากเลยค่ะ
ดูเหมือนจะโกรธมากด้วยค่ะ ฝนก็ตกหนักเสียด้วย.
อีกหลายวันต่อมา วันนี้ดิฉันมีนัดทานอาหารเย็นกับเพื่อนๆ
ช่วงนั้นเวลาประมาณ ๕ โมง ๔๐ นาที ใกล้จะปิดทำการแล้ว น้องแตงเดินมาบอกดิฉันว่า
" พี่อธิ คุณพ่อน้องนภา โทรมาบอกว่า กำลังจะเข้ามาแล้ว "
" วันนี้พี่มีนัด น้องแตนไปบอกคนอื่นนะคะ " ว่าแล้วดิฉันก็ไม่สนใจ
ถามไถ่ดอกค่ะว่าใครจะอยู่รอ ขึ้นรถไปตามที่นัดหมายทันที่
ประมาณน่าจะ ๖ โมงกว่า ๆ น้องแตนโทรมา น้ำเสียงกังวลมาก
" พี่อธิ น้องนภามาแล้วไม่มีใครอยู่รอเลย ทำไงดีคะ "
" ตอนนี้พี่อยู่บนทางด่วน ออกมาไกลมากแล้วค่ะ คงกลับไปไม่ได้ดอกค่ะ
น้องแตนลองโทรตามพนักงานคนอื่นนะคะ " ดิฉันบอก
อีก ๒ วันต่อมา น้องแบงมาบอกดิฉันว่า
" พี่ครับวันนั้นคุณพ่อน้องนภาเขาโกรธมากเลย ว่าพวกเราใหญ่เลยครับ
ว่าเขาเป็นผู้บริหาร จบโทจาก...ไปมาหลายที มีที่นี่แย่ที่สุด พนักงานไม่มีจรรยา..
กันเลย ทำอย่างนี้ได้ยังไงไม่มีใครอยู่รอ เขามาตั้งไกล.....ฯลฯ
ถ้าเรื่องถึงอาจารย์ พวกเราจะแย่แน่เลยครับ "
ดิฉันยิ้มแล้วบอกว่า
" อย่ากังวลไปเลย พี่อยากให้เรื่องนี้ถึงอาจารย์มากๆ เลย พี่จะยอมรับผิดเอง
น้องแบงรู้ไหม ถ้ามาแจ้งว่าเคสอื่นที่ไม่ใช่น้องนภา ถ้าไม่มีใครอยู่รอ ติดธุระกันจริงๆ
พี่จะยกเลิกนัด แต่เคสนี้พี่ตั้งใจเลยค่ะ ที่จะไม่อยู่
ในการอยู่นอกเวลา น้องแบงก็ทราบพี่ไม่มีโอที อยู่เพราะพี่เห็นสมควรว่าควรอยู่
ใจของพี่ก็เป็นกุศล แต่กรณีเคสนี้พี่ไม่คิดว่าใจของพี่จะยินดียกเลิกนัด เพื่อมาให้บริการได้
ทำไมนะหรือ......
( ดิฉันเล่าเหตุการณ์ วันนั้นให้น้องแบงฟัง )
นอกจากไม่สุภาพ จะถามพี่สักคำไหมว่ากลับยังไง ซอยเปลี่ยวซะขนาดนี้
คำขอบคุณสักคำก็ไม่มี "
ลูกค้าบางคนจะถามค่ะ ว่ากลับด้วยกันไหม จะให้ไปส่งที่ไหน ดิฉันก็ปลื้มในน้ำใจมากนะคะ
ก็บอกไปค่ะว่าขอบคุณมากนะคะ ดิฉันมีรถมาค่ะ หรือพักอยู่ที่นี่เองค่ะ
" พี่ไม่ได้มีหน้าที่ให้ชิ้นงาน ที่อยู่เพราะใจพี่เป็นบุญ แต่ถ้าอยู่แล้วใจน่าจะเป็นบาป
พี่ไม่อยู่ดอกค่ะ ขอให้ไปบอกอาจารย์เถอะ พี่ก็จะบอกเหมือนกันว่าพี่รู้สึกอย่างไร และทำไม"
ดิฉันไม่แน่ใจจริงๆ ค่ะ ถ้าเลิกนัดมารับเคสนี้ ดิฉันจะทำให้กุศลเจริญขึ้นมาได้ เว้นเสียจะดีกว่า
วันต่อมาดิฉันเดินผ่านน้องนภา คุณพ่อน้องยิ้มให้ดิฉัน บอกกับลูกสาวว่า
" ขอบคุณพี่พนักงานด้วยสิลูก " ดิฉันก็ยิ้มตอบ
ถ้าแบบนี้ดิฉันก็ยินดีอยู่รอค่ะ เพราะได้ปรับปรุงตัวแล้ว น้องแบงคงถ่ายถอดทุกคำพูดของดิฉัน
ให้คุณพ่อน้องนภาฟัง เพราะปกติน้องแบงก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว
ดิฉันยอมรับค่ะว่าดิฉันไม่มีจรรยา..ดิฉันจะทำ ตามแต่ว่า ดิฉันเห็นควรว่าควรทำ
หรือยินดีที่จะทำ ไม่มีศักดิ์ศรี ทำงานเพื่อเงิน ลองอาจารย์ไม่จ่ายเงินเดือนให้ ดิฉันก็ไม่ทำดอกค่ะ
ดิฉันบอกกับน้องๆ อย่างนี้
..............วันหนึ่งน้องหนูนา ( นามสมมุติ ) เดินกระพัดกระเพียดท่าทางหงุดหงิดมาบอกดิฉันว่า
" พี่อธิ หนูนาจบปริญญาตรีมานะ อาจารย์จะให้ทำยังงี้ได้ยังไง "
ดิฉันก็ว่า
" แบกปริญญาตรีไว้นี่ท่าจะหนักมากนะ ของพี่เบาหน่อยเพราะใช้วุฒิมัธยมปลายทำ "
" จบเลยพี่ " น้องหนูนาหัวเราะ ด้วยวางปริญญาตรีลงได้
ดิฉันเดินผ่านไปได้ยิน น้องหนูนา คุยกับน้องดาว่า พี่อธิว่ายังงี้
" โอ๊ยย ของพี่ใช้วุฒิอนุบาลทำ " น้องดาว่า
" มากไปพี่ อนุบาลทำอย่างนี้ไม่ได้หรอก " น้องหนูนาว่า ก็เป็นเรื่องขำขันกันไป.
.............สำหรับคนที่ ไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีจรรยา เห็นแก่เงิน ไม่สนใจด้วยว่า จะถูกเชิญออกวันไหน
ถ้าจะให้เขาบริการให้นั้น ควรจะมี ปิยวาจา นี่สำคัญมากเลยนะคะ อีกอย่างคือความอ่อนน้อม
ถ่อมตัว สุภาพ รู้จักให้เกียรติคนอื่น.แบบนี้จะมาเที่ยงคืนก็ไม่ว่ากันค่ะ .
แม้แต่ท่านโคนันทวิศาล ยังชอบให้พูดเพราะๆ เลยค่ะ น้าน..หาทางยืนในห้องศาสนาจนได้
http://www.84000.org/tipitaka/atita100/jataka500.php?s=28
.............แก้ไขพิมพ์ชื่อผิดค่ะ
...........ไม่มีจรรยา....
เรื่องมีอยู่ว่า :
.............ดิฉันถูกขอให้อยู่รอให้ชิ้นงานน้องนภา (นามสมุติ )ลูกค้าที่จะมาหลังเวลาเลิกงาน
ปกติดิฉันไม่มีหน้าที่ให้ชิ้นงานดอกค่ะ แต่ก็ทำได้ทุกแผนกนั่นแหละ ทั้งยังพักอยู่ที่ออฟฟิศ
และไม่มีโอทีอีกด้วย
ปกติเราเปิดทำการ ๑๐ โมงเช้า ปิดทำการ ๖ โมงเย็น
การที่ลูกค้ามารับบริการที่บริษัทนอกเวลา ถ้าพนักงานที่มีโอทีอยู่รอก็จะได้โอทีค่ะ แต่ก็น้อยมาก
โอที ๓๐ นาที หรือ ๑ ชั่วโมง ไม่คุ้มดอกค่ะ พนักงานจึงไม่มีใครอยากอยู่ ก็จะขอให้ดิฉันอยู่รอ
ดิฉันเข้าใจค่ะ และยอมรับในส่วนนี้ แต่ถ้าดิฉันมีธุระ ก็จะไม่รับค่ะ
ให้จัดพนักงานที่มีหน้าที่อยู่รอกันเอง
แต่ส่วนมากดิฉันไม่ค่อยจะมีธุระดอกค่ะ จะอยู่ห้องพัก หรือที่ทำงาน ก็นั่งอ่านหนังสือมีค่าเท่ากัน
รอที่ทำงานก็ยังได้ช่วยบริการลูกค้า และได้ช่วยเพื่อนร่วมงานด้วย.
วันนั้นดิฉันอยู่รอถึง ๑ ทุ่ม ฟ้ามืดสนิท ฝนก็ตกหนักมากด้วยค่ะ ลูกค้ามาจากพัทยา
มากับคุณพ่อ พอมาถึงคุณพ่อของลูกค้าก็บอกดิฉันว่า
" ภรรยาผมให้มาซื้อวัสดุ ตามนี้ " ยื่นกระดาษที่จดให้ดิฉัน
" บริษัทปิดทำการแล้วค่ะ เจ้าหน้าที่ในส่วนดูแลวัสดุก็กลับแล้ว คงจะรับ
วัสดุที่ต้องการไปในวันนี้ไม่ได้นะคะ จะจัดเตรียมให้ในช่วงทำการนะคะ" ดิฉันบอก
" ก็ผมมาแล้ว มาไกลด้วย พวกคุณทำงานกันยังไง "
" ดิฉันต้องขออภัยด้วยนะคะ ในส่วนวัสดุตามที่ให้มาไม่มีฝากไว้เลย ฝากแต่
ว่าให้ดิฉันให้ชิ้นงาน และฝากวัสดุในส่วนที่เตรียมไว้สำหรับวันนี้เท่านั้นค่ะ "
" ทำงานกันแย่มาก " บ่นเสียงดังเชียว
ดิฉันก็ให้ชิ้นงานลูกค้า และวัสดุที่ฝากไว้ คุณพ่อลูกค้าท่าทางหงุดหงิดมากเลยค่ะ
ดูเหมือนจะโกรธมากด้วยค่ะ ฝนก็ตกหนักเสียด้วย.
อีกหลายวันต่อมา วันนี้ดิฉันมีนัดทานอาหารเย็นกับเพื่อนๆ
ช่วงนั้นเวลาประมาณ ๕ โมง ๔๐ นาที ใกล้จะปิดทำการแล้ว น้องแตงเดินมาบอกดิฉันว่า
" พี่อธิ คุณพ่อน้องนภา โทรมาบอกว่า กำลังจะเข้ามาแล้ว "
" วันนี้พี่มีนัด น้องแตนไปบอกคนอื่นนะคะ " ว่าแล้วดิฉันก็ไม่สนใจ
ถามไถ่ดอกค่ะว่าใครจะอยู่รอ ขึ้นรถไปตามที่นัดหมายทันที่
ประมาณน่าจะ ๖ โมงกว่า ๆ น้องแตนโทรมา น้ำเสียงกังวลมาก
" พี่อธิ น้องนภามาแล้วไม่มีใครอยู่รอเลย ทำไงดีคะ "
" ตอนนี้พี่อยู่บนทางด่วน ออกมาไกลมากแล้วค่ะ คงกลับไปไม่ได้ดอกค่ะ
น้องแตนลองโทรตามพนักงานคนอื่นนะคะ " ดิฉันบอก
อีก ๒ วันต่อมา น้องแบงมาบอกดิฉันว่า
" พี่ครับวันนั้นคุณพ่อน้องนภาเขาโกรธมากเลย ว่าพวกเราใหญ่เลยครับ
ว่าเขาเป็นผู้บริหาร จบโทจาก...ไปมาหลายที มีที่นี่แย่ที่สุด พนักงานไม่มีจรรยา..
กันเลย ทำอย่างนี้ได้ยังไงไม่มีใครอยู่รอ เขามาตั้งไกล.....ฯลฯ
ถ้าเรื่องถึงอาจารย์ พวกเราจะแย่แน่เลยครับ "
ดิฉันยิ้มแล้วบอกว่า
" อย่ากังวลไปเลย พี่อยากให้เรื่องนี้ถึงอาจารย์มากๆ เลย พี่จะยอมรับผิดเอง
น้องแบงรู้ไหม ถ้ามาแจ้งว่าเคสอื่นที่ไม่ใช่น้องนภา ถ้าไม่มีใครอยู่รอ ติดธุระกันจริงๆ
พี่จะยกเลิกนัด แต่เคสนี้พี่ตั้งใจเลยค่ะ ที่จะไม่อยู่
ในการอยู่นอกเวลา น้องแบงก็ทราบพี่ไม่มีโอที อยู่เพราะพี่เห็นสมควรว่าควรอยู่
ใจของพี่ก็เป็นกุศล แต่กรณีเคสนี้พี่ไม่คิดว่าใจของพี่จะยินดียกเลิกนัด เพื่อมาให้บริการได้
ทำไมนะหรือ......
( ดิฉันเล่าเหตุการณ์ วันนั้นให้น้องแบงฟัง )
นอกจากไม่สุภาพ จะถามพี่สักคำไหมว่ากลับยังไง ซอยเปลี่ยวซะขนาดนี้
คำขอบคุณสักคำก็ไม่มี "
ลูกค้าบางคนจะถามค่ะ ว่ากลับด้วยกันไหม จะให้ไปส่งที่ไหน ดิฉันก็ปลื้มในน้ำใจมากนะคะ
ก็บอกไปค่ะว่าขอบคุณมากนะคะ ดิฉันมีรถมาค่ะ หรือพักอยู่ที่นี่เองค่ะ
" พี่ไม่ได้มีหน้าที่ให้ชิ้นงาน ที่อยู่เพราะใจพี่เป็นบุญ แต่ถ้าอยู่แล้วใจน่าจะเป็นบาป
พี่ไม่อยู่ดอกค่ะ ขอให้ไปบอกอาจารย์เถอะ พี่ก็จะบอกเหมือนกันว่าพี่รู้สึกอย่างไร และทำไม"
ดิฉันไม่แน่ใจจริงๆ ค่ะ ถ้าเลิกนัดมารับเคสนี้ ดิฉันจะทำให้กุศลเจริญขึ้นมาได้ เว้นเสียจะดีกว่า
วันต่อมาดิฉันเดินผ่านน้องนภา คุณพ่อน้องยิ้มให้ดิฉัน บอกกับลูกสาวว่า
" ขอบคุณพี่พนักงานด้วยสิลูก " ดิฉันก็ยิ้มตอบ
ถ้าแบบนี้ดิฉันก็ยินดีอยู่รอค่ะ เพราะได้ปรับปรุงตัวแล้ว น้องแบงคงถ่ายถอดทุกคำพูดของดิฉัน
ให้คุณพ่อน้องนภาฟัง เพราะปกติน้องแบงก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว
ดิฉันยอมรับค่ะว่าดิฉันไม่มีจรรยา..ดิฉันจะทำ ตามแต่ว่า ดิฉันเห็นควรว่าควรทำ
หรือยินดีที่จะทำ ไม่มีศักดิ์ศรี ทำงานเพื่อเงิน ลองอาจารย์ไม่จ่ายเงินเดือนให้ ดิฉันก็ไม่ทำดอกค่ะ
ดิฉันบอกกับน้องๆ อย่างนี้
..............วันหนึ่งน้องหนูนา ( นามสมมุติ ) เดินกระพัดกระเพียดท่าทางหงุดหงิดมาบอกดิฉันว่า
" พี่อธิ หนูนาจบปริญญาตรีมานะ อาจารย์จะให้ทำยังงี้ได้ยังไง "
ดิฉันก็ว่า
" แบกปริญญาตรีไว้นี่ท่าจะหนักมากนะ ของพี่เบาหน่อยเพราะใช้วุฒิมัธยมปลายทำ "
" จบเลยพี่ " น้องหนูนาหัวเราะ ด้วยวางปริญญาตรีลงได้
ดิฉันเดินผ่านไปได้ยิน น้องหนูนา คุยกับน้องดาว่า พี่อธิว่ายังงี้
" โอ๊ยย ของพี่ใช้วุฒิอนุบาลทำ " น้องดาว่า
" มากไปพี่ อนุบาลทำอย่างนี้ไม่ได้หรอก " น้องหนูนาว่า ก็เป็นเรื่องขำขันกันไป.
.............สำหรับคนที่ ไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีจรรยา เห็นแก่เงิน ไม่สนใจด้วยว่า จะถูกเชิญออกวันไหน
ถ้าจะให้เขาบริการให้นั้น ควรจะมี ปิยวาจา นี่สำคัญมากเลยนะคะ อีกอย่างคือความอ่อนน้อม
ถ่อมตัว สุภาพ รู้จักให้เกียรติคนอื่น.แบบนี้จะมาเที่ยงคืนก็ไม่ว่ากันค่ะ .
แม้แต่ท่านโคนันทวิศาล ยังชอบให้พูดเพราะๆ เลยค่ะ น้าน..หาทางยืนในห้องศาสนาจนได้
http://www.84000.org/tipitaka/atita100/jataka500.php?s=28
.............แก้ไขพิมพ์ชื่อผิดค่ะ