[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
......ตั้งใจไว้ว่า จะตั้งกระทู้หลังการเสร็จ แต่การยังไม่เสร็จ ดูๆ แล้วกระทู้ที่จะตั้งน่ายาวมาก
และดูจะหนักมากอยู่ เลยทยอยตั้ง เพื่อให้กระทู้นั้นดูไม่หนักมาก เพราะมีเรื่องเกี่ยวพัน
กันในรายละเอียดอยู่
ท่านที่เข้ามาอ่าน ควรพิจารณาก่อนนะคะ ว่าจะอ่าน หรือจะออกไปดี เพราะถ้าอ่าน
อาจจะหลงในกระทู้ หาทางออกลำบาก เดี๋ยวมาโทษกันได้ว่า
กระทู้อะไรเสียเวลาอ่านจริงๆ เลย
ด้วยรัก
อธิโมกข์
16/05/2556
เรื่องที่ ๑.....ชานมไข่มุกของนินา
.....เรื่องมีอยู่ว่า : น้องนินาเปิดร้านชานมไข่มุก ให้แฟนไปขาย เป็นอาชีพเสริม
น้องนำชาที่ชงมาให้ลองดื่มดู และให้ช่วยวิจารณ์กัน ปกติดิฉันไม่ดื่มชานมดอกค่ะ เมื่อชิมแล้ว
ปรากฎว่าดิฉันดื่มได้ค่ะ และรู้สึกว่า จะติดใจในรสชาติด้วยนะคะ
ออฟฟิศเรามี ดร.อาวุโส ท่านหนึ่ง สมมุตินามตามท้องเรื่องว่าดร.ดี นะคะ ท่านเป็นคนน่ารักมาก
พูดน้อย ตั้งใจทำงาน อยู่กันมาก็หลายปี ดิฉันยังไม่เคยเห็นท่านแสดงอาการโกรธใครเลย
ใครๆ ก็ว่าท่านน่ารัก เวลาดิฉันอยากช่วยลูกค้า ท่านก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้
ดิฉันก็อยากช่วยเป็นกำลังใจให้น้องนินา เธอว่า ถ้าซื้อ ๖ แก้ว แถม ๑ แก้ว ดิฉันก็สั่งมาทั้ง ๗ แก้ว
แจกพนักงาน และนำไปเสริฟ ดร.ดี ที่โต๊ะ พร้อมเล่าให้ท่านฟัง
พออีกวันดร.ดี สั่งชานินาอีก ๗ แก้ว เลี้ยงตอบ จากนั้นใครอยากดื่มชา ก็สั่งให้นินาเอามาให้ค่ะ
เช้าวันหนึ่งดิฉันนั่งดื่มชานินา ดร.ดี ผ่านมาเห็น บอกว่า ผมขอซื้อแก้วสิ
ดิฉันก็บอกนินา ที่เตรียมมามีเหลือไหม พี่ขอซื้อให้ ดร.ดี
ดิฉันก็เดินนำชาไปเสริฟให้ที่โต๊ะ ดร.ควักเงินมาจะจ่าย ดิฉันบอกว่า
" ดร.ไม่ต้องจ่ายนะคะ อธิรัก ดร. ขอเลี้ยงชาไข่มุก ดร.ตลอดชีวิตนะคะ "
ดร.ยื่นมะเหงกมาเคาะศีรษะดิฉันเบาๆ ไม่ปฏิเสธแสดงว่าตอบรับนะคะ
วันรุ่งขึ้น น้องนินาบอกว่า ดร.ดี สั่งชานม ๗ แก้ว ดิฉันเลยจ่ายเงินให้นินา บอกว่า พี่สัญญากับ
ดร.แล้วว่าจะเลี้ยงชาตลอดชีวิต นินาอย่าเก็บเงินดร.นะ ถ้าสั่งอีก ก็ให้เข้าบัญชีพี่
นินานำชาไปส่ง ดร. แล้วเดินถือเงินออกมา
" ดร.ไม่ยอม นี่นินาไม่รู้จะทำยังไงดี " ว่าพลางยื่นเงินคืนให้ดิฉัน
เอ..ก็เมื่อวานตกลงกันแล้วนี่นา ดิฉันเดินลิ่วไปที่ห้อง ดร. ทันที
" ก็เมื่อวานเราตกลงกันแล้วนี่คะ ทำไมคะ ทำไม ดร.ทำอย่างนี้ "
" ผลัดกันเลี้ยง " ดร.ว่า
" อธิก็แค่อยากช่วยนินา "
" ผมก็เหมือนกัน "
" อีกอย่าง ก็อยากบอกรักดร.ด้วยชาไข่มุก ( เลียนแบบโฆษณา ที่เขาบอกรักกันด้วยกาแฟ )
ก็อธิรัก ดร.นี่คะ ทำไมคะ ทำไมอธิถึงจะเลี้ยง ดร.ไม่ได้ "
" รู้ๆ ได้ แต่นานๆ ที " ดร.ว่า
" เอ้า ดร.จะดื่มอาทิตย์ละกี่แก้ว อย่างมาก ก็ ๓ แก้ว อธิมีเงินจ่ายก็แล้วกัน "
ศีรษะดิฉันเลยโดนมะเหงกอีก ๑ ที
" นานๆ ที " ดร.ย้ำ
เฮ้อ..ยถาลาภสันโดษ นานๆ ที ก็นานๆ ที ดิฉันรีบเดินออกมา ไม่งั้นเดี๋ยวเจอมะเหงกอีกแน่
ดิฉันเน้นย้ำกับน้องนินาเสมอว่า ให้ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า คงรสชาติไว้ให้อยู่ในมาตรฐาน
ลูกค้านั้น บางคนเขาซื้อเพราะชอบในรสชาตินี้ ถ้ามาซื้อครั้งต่อไป รสชาติเปลี่ยนไป เรื่องที่จะให้
กลับมาซื้อแก้วที่ ๓ อีก เป็นไปได้ยาก
ต่อมาดิฉันสังเกตว่ารสชาติรู้สึกจะเพี้ยนไป แต่ก็เพี้ยนไปน้อยมากจนไม่แน่ใจ แต่เมื่อ
ดื่มติดต่อกัน ๓ วันแล้ว จึงบอกนินาว่า
" ไม่รู้ว่าพี่หาเรื่องหรือเปล่านะนินา แต่พี่ว่ารสชาติชาผิดไปจากเดิม "
นินาหัวเราะแล้วบอกว่า
" นินาเป็นคนต้มเอง ทำตามส่วนผสมตามสูตรทุกครั้ง รสชาติจะเปลี่ยนได้อย่างไร "
" พี่ถึงว่าพี่หาเรื่องหรือเปล่าไง "
อาจเป็นไปได้ว่าลิ้นของดิฉันอาจจะชินชาไปกับรสชานี้เสียแล้ว แต่มันไม่อร่อยเหมือนเดิมล่ะนะ
วันต่อมานินามาบอกดิฉันว่า
" พี่อธิที่พี่บอกวันนั้น นินาก็ลองชิมดู มันจืดจริงค่ะ นินาก็มาสังเกตว่าทำไม ที่เรียนมา
อาจารย์บอกว่า ชาเมื่อปรุงแล้วให้ฟรีซให้เย็นจัดก่อน ค่อยใส่น้ำแข็ง ที่จืดเพราะที่นินาเอามา
มันยังอุ่นอยู่เลย มาเทใส่น้ำแข็ง น้ำแข็งจะละลายเร็วมากทำให้ชาจืด "
" พี่ก็ว่ามันจืดๆ แต่พี่ไม่ได้บอกนินา " น้องดาว่า
" น้องรีบโทรบอกเอ ( แฟนนินา ) เลยนะ อย่าให้เกิดผิดพลาดอย่างนี้ได้ " ดิฉันบอกนินา
น้องก็รีบโทรบอกแฟนเลยค่ะ
น้องนินาเล่าว่า มีลูกค้าคนหนึ่งเดินข้ามถนนมาไกลเลย เพียงเพื่อจะซื้อชานมแก้วเดียว
ดิฉันยิ่งย้ำไปเลยว่า นั่นแหละถ้ารสชาติเพี้ยนไปไม่ได้มาตรฐาน เขาจะยอมเดินข้ามถนนมา
ไกลเพื่อซื้ออีกหรือ
ส่งท้ายนะคะ วันนี้ดิฉันนำชานมไปให้ ดร.ดี ดร.บอก ขอบคุณ ขอบคุณมาก
ดิฉันรีบเดินออกจากห้อง แล้วแย้มประตูโผล่หน้าเข้าไปบอกว่า
" บอกรัก ดร.ด้วยชานมนะคะ อยากบอกทุกวันเลย แต่ ดร.บอกว่า นานๆ ที ก็ได้ค่ะ "
คนเราจะตายวันตายพรุ่ง จะอยู่ด้วยกันอีกกี่วันก็ไม่รู้ รักใครชอบใครต้องบอกไปนะคะ บอกด้วยคำพูดเฉยๆ
ก็ยาใจแล้วค่ะ ไม่ต้องเลียนแบบโฆษณาเหมือนดิฉันก็ได้นะคะ
วันนี้ดิฉันบอกรักด้วยชานมของนินาไปสองคน ต้องทำสถิติหน่อย เดี๋ยวบอกได้ไม่ครบทั้งออฟฟิศ เกิดร้านนินา
ปิดก่อน ใครหรือดิฉันตายก่อน ก็อดบอกกันพอดี
.................................................
เรื่องที่ ๒.....ลูกผู้ชายตัวจริงเสียงจริง
.........เรื่องมีอยู่ว่า น้องนินาโทรมาบอกดิฉันว่า คุณเอ๋ ( นามสมมุติ ) ลูกสาวของลูกค้ามาขอพบ
ดิฉันก็บอกว่าให้รอก่อนเสร็จการแล้วจะลงไป เข้าใจว่าคงจะมาขอคำปรึกษา
เมื่อดิฉันลงไปพบ เธอยื่นถุงกระเป๋าให้ค่ะ แววตาของเธอเห็นได้ชัดถึงความดีใจที่ได้ส่ง
มอบกระเป๋าให้ดิฉัน กระเป๋าใบนี้ค่ะ
เป็นงานฝีมือ ชิ้นงานจัดว่าใช้ได้ที่เดียว การเลือกใช้สี ก็ดูเหมาะสมกลมกลืน เมื่อเปิดดู
ข้างในงานเรียบร้อยมากค่ะ มีบุด้วยผ้า ทำเป็นช่องสารพัดประโยชน์ด้วย
ก็แววตาแบบนี้ใครจะปฏิเสธได้ลง ดิฉันก็รับไว้ด้วยความเอ็นดู ถามว่าทำเองหรือคะ ?
คุณเอ๋ตอบว่า มีแม่บ้านคนหนึ่งเธอแพ้น้ำยาทำความสะอาด เอ๋ก็เลยดูๆ ว่าเขาพอทำอะไรได้บ้าง
พบว่ามีฝีมือทางนี้อยู่ ก็เลยให้หัดทำ โดยซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ให้ ให้ทำแบบเดิมซ้ำๆ เพื่อให้เกิดความ
ชำนาญ ก็คิดถึงคุณอธิ เลยนำมาให้
ดิฉันก็บอกว่า ยินดีด้วยนะคะ การได้มีโอกาสช่วยคนให้เขามีอาชีพ ทำให้เขาสามารถหาเลี้ยงตัวเองได้
เป็นสิ่งที่ดีมากเลย แต่งานฝีมือพวกนี้ ตลาดจะเป็นตลาดบน ลูกค้าจำกัด
ให้ทำชิ้นงานให้ขายได้ในตลาดกลางการให้ทำชิ้นงานซ้ำๆ หรือออกแบบชิ้นงานแบบอื่นบ้างโดยใช้วัสดุเหมือนเดิม
จะช่วยลดต้นทุนได้มาก
( วัสดุต่างๆ ยิ่งซื้อมากยิ่งถูกมากค่ะ )
ให้ลองทำกระเป๋าใส่เศษสตางค์ด้วยนะคะ ว่างจากงานสั่ง ก็ทำทิ้งๆ ไว้ ฝีมือให้ปราณีต กระเป๋าเล็กราคาไม่แพง
มากถ้าฝีมือดีช่วงปีใหม่ จะขายดีมากสั่งทีเยอะ............
ก็ให้คำแนะนำไปเยอะค่ะ เพราะดิฉันเคยเล่นเรื่องงานฝีมืออยู่ ทำให้เข้าใจธรรมชาติของงานพวกนี้ดี
งานเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ ดิฉันเคยทำเป็นอาชีพเสริมทำเงินได้มาแล้ว จึงได้เก็บแทบทุกรายละเอียดไว้
ก็เล่าให้ฟังค่ะว่า ดิฉันเคยฝึกแม่บ้านของดิฉันคนหนึ่ง กะจะให้เธอมีอาชีพเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้า
เมื่อเริ่มฝึก ก็ให้ฝึกเย็บตรงก่อน ซ้อมกับเศษผ้า เมื่อเห็นว่าพอเย็บได้ ก็รับงานที่เป็นพวกผ้าห่อชิ้นนงานสำหรับนึ่ง
ซึ่งใช้ฝีมือแค่เย็บตรงมาให้
บอกให้เย็บให้ดีที่สุด ชิ้นไหนไม่สวยให้แก้เย็บใหม่ เสร็จเอางานไปส่งได้เงิน
มา ก็เอามาให้ เธอก็มีกำลังใจที่จะฝึกจะทำ เพราะงานที่ทำขายได้.............ฯลฯ
ทำไมดิฉันถึงได้เล่าเสียยาวเลย
" พี่เห็นคุณตั้งใจช่วยเหลือแม่บ้านคนนั้น ก็เกิดความยินดี อยากช่วยด้วยค่ะ ถ้าเธอรู้ว่างานของ
เธอเป็นที่ยอมรับ ขายได้เงินด้วย ก็เป็นกำลังใจนะคะ พี่ขอจ่ายค่ากระเป๋านะคะ คุณคิดว่าควรเป็นเท่าไหร่ดี "
เธอว่าเธอตั้งใจนำมามอบให้ดิฉัน ในส่วนแม่บ้านเธอก็ได้สนับสนุนอยู่แล้ว
ดิฉันก็ว่าดิฉันเข้าใจและรู้สึกขอบคุณมากเลย แต่เรื่องขอเป็นกำลังใจให้แม่บ้านนั้น
คุณเข้าใจพี่นะคะ เท่าไหร่ดีคะ ถึงจะดูเหมาะสม
เธอลังเล ก่อนที่จะก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้น ก็ ๒๐๐ บาท ก็แล้วกัน
ดิฉันก็ว่า ๒๐๐ บาทจะควรหรือ ค่าอุปกรณ์ก็ยังไม่พอเลย
เธอว่า ๒๐๐ บาทพอแล้วค่ะ เอ๋ก็จะเอาไปให้แม่บ้าน เอ๋ไม่อยากรับเลย เธอบอก
ดิฉันก็มอบเงิน ๒๐๐ บาทฝากคุณเอ๋ไปค่ะ พร้อมกับกล่าวขอบคุณเธออีกครั้ง
คุณเอ๋บอกว่า " เมื่อตอนนั่งรอพี่ มีคุณคนหนึ่งเห็นกระเป๋าเลยขอดู อยากจะซื้อค่ะ
แต่เอ๋บอกไปว่า จะเอามาให้คุณอธิ "
" คุณเอ๋...รีบไปดูเลยค่ะ ว่าคุณคนนั้นยังอยู่ไหม ถ้าอยู่ก็ขายให้เขาเลย น้องแม่บ้าน
จะได้ดีใจ ของพี่เอาไว้ที่หลังก็ได้ "
คุณเอ๋ก็ค่ะๆ รีบเดินไป แต่ดูเหมือนว่าจะเดินกลับ เพราะไม่เห็นว่าจะมีท่าทีมองหาใครเลย
" กระเป๋าใบละ ๒๐๐ แบมอยากได้บ้างสวยดีนะคะ แบมขอซื้อต่อนะพี่อธิ " น้องแบมขอ
" ไว้เดี๋ยวคุณเอ๋มา ก็สั่งให้เขาทำมาให้สิคะ ๒๐๐ น่ะ ค่าอุปกรณ์ยังไม่ได้เลยนะคะ " ดิฉันว่า
" ไม่เอา ถ้าเป็น ๑,๐๐๐ แบมไม่เอา จะเอา ๒๐๐ พี่อธิให้แบมนะ" น้องแบมอ้อน
ดิฉันยิ้มบอก ไม่ได้ดอกค่ะ พี่อธิใจร้าย พี่อธิใจร้าย เสียงบ่นตามมา
คงต้องใจร้ายกันหน่อยล่ะค่ะ ถ้าคุณเอ๋มาเจอกระเป๋าอยู่ที่น้องแบม ดิฉันไม่แน่ใจนี่คะว่า
เธอจะจิตตกไหม งานนี้ดิฉันคงต้องเปลี่ยนกระเป๋ามาใช้ใบนี้ ถ้าคุณเอ๋มาเห็นเข้า เธอจะได้ดีใจ
เอ...แล้วตั้งชื่อว่าลูกผู้ชายตัวจริงได้ไงนี่ ตั้งได้สิคะ ก็เรื่องยังไม่จบนี่คะ แต่ตอนนี้ขอ
ตัวก่อนนะคะ จะกลับมาเล่าอีกเมื่อไร ก็ตามแต่เหตุปัจจัยนะคะ
......................ดิฉันแท๊กห้องศาสนาที่เดียวนะคะ ท่านใดหลงมาอ่าน ต้องช่วยกันหาลิงค์ที่ทำให้กระทู้คู่ควร
กับการยืนอยู่ในห้องศาสนาด้วยนะคะ น่า..ช่วยกันทำมาหากินนะคะ
...........ชานมไข่มุกของนินา
เรื่องที่ ๑.....ชานมไข่มุกของนินา
.....เรื่องมีอยู่ว่า : น้องนินาเปิดร้านชานมไข่มุก ให้แฟนไปขาย เป็นอาชีพเสริม
น้องนำชาที่ชงมาให้ลองดื่มดู และให้ช่วยวิจารณ์กัน ปกติดิฉันไม่ดื่มชานมดอกค่ะ เมื่อชิมแล้ว
ปรากฎว่าดิฉันดื่มได้ค่ะ และรู้สึกว่า จะติดใจในรสชาติด้วยนะคะ
ออฟฟิศเรามี ดร.อาวุโส ท่านหนึ่ง สมมุตินามตามท้องเรื่องว่าดร.ดี นะคะ ท่านเป็นคนน่ารักมาก
พูดน้อย ตั้งใจทำงาน อยู่กันมาก็หลายปี ดิฉันยังไม่เคยเห็นท่านแสดงอาการโกรธใครเลย
ใครๆ ก็ว่าท่านน่ารัก เวลาดิฉันอยากช่วยลูกค้า ท่านก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้
ดิฉันก็อยากช่วยเป็นกำลังใจให้น้องนินา เธอว่า ถ้าซื้อ ๖ แก้ว แถม ๑ แก้ว ดิฉันก็สั่งมาทั้ง ๗ แก้ว
แจกพนักงาน และนำไปเสริฟ ดร.ดี ที่โต๊ะ พร้อมเล่าให้ท่านฟัง
พออีกวันดร.ดี สั่งชานินาอีก ๗ แก้ว เลี้ยงตอบ จากนั้นใครอยากดื่มชา ก็สั่งให้นินาเอามาให้ค่ะ
เช้าวันหนึ่งดิฉันนั่งดื่มชานินา ดร.ดี ผ่านมาเห็น บอกว่า ผมขอซื้อแก้วสิ
ดิฉันก็บอกนินา ที่เตรียมมามีเหลือไหม พี่ขอซื้อให้ ดร.ดี
ดิฉันก็เดินนำชาไปเสริฟให้ที่โต๊ะ ดร.ควักเงินมาจะจ่าย ดิฉันบอกว่า
" ดร.ไม่ต้องจ่ายนะคะ อธิรัก ดร. ขอเลี้ยงชาไข่มุก ดร.ตลอดชีวิตนะคะ "
ดร.ยื่นมะเหงกมาเคาะศีรษะดิฉันเบาๆ ไม่ปฏิเสธแสดงว่าตอบรับนะคะ
วันรุ่งขึ้น น้องนินาบอกว่า ดร.ดี สั่งชานม ๗ แก้ว ดิฉันเลยจ่ายเงินให้นินา บอกว่า พี่สัญญากับ
ดร.แล้วว่าจะเลี้ยงชาตลอดชีวิต นินาอย่าเก็บเงินดร.นะ ถ้าสั่งอีก ก็ให้เข้าบัญชีพี่
นินานำชาไปส่ง ดร. แล้วเดินถือเงินออกมา
" ดร.ไม่ยอม นี่นินาไม่รู้จะทำยังไงดี " ว่าพลางยื่นเงินคืนให้ดิฉัน
เอ..ก็เมื่อวานตกลงกันแล้วนี่นา ดิฉันเดินลิ่วไปที่ห้อง ดร. ทันที
" ก็เมื่อวานเราตกลงกันแล้วนี่คะ ทำไมคะ ทำไม ดร.ทำอย่างนี้ "
" ผลัดกันเลี้ยง " ดร.ว่า
" อธิก็แค่อยากช่วยนินา "
" ผมก็เหมือนกัน "
" อีกอย่าง ก็อยากบอกรักดร.ด้วยชาไข่มุก ( เลียนแบบโฆษณา ที่เขาบอกรักกันด้วยกาแฟ )
ก็อธิรัก ดร.นี่คะ ทำไมคะ ทำไมอธิถึงจะเลี้ยง ดร.ไม่ได้ "
" รู้ๆ ได้ แต่นานๆ ที " ดร.ว่า
" เอ้า ดร.จะดื่มอาทิตย์ละกี่แก้ว อย่างมาก ก็ ๓ แก้ว อธิมีเงินจ่ายก็แล้วกัน "
ศีรษะดิฉันเลยโดนมะเหงกอีก ๑ ที
" นานๆ ที " ดร.ย้ำ
เฮ้อ..ยถาลาภสันโดษ นานๆ ที ก็นานๆ ที ดิฉันรีบเดินออกมา ไม่งั้นเดี๋ยวเจอมะเหงกอีกแน่
ดิฉันเน้นย้ำกับน้องนินาเสมอว่า ให้ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า คงรสชาติไว้ให้อยู่ในมาตรฐาน
ลูกค้านั้น บางคนเขาซื้อเพราะชอบในรสชาตินี้ ถ้ามาซื้อครั้งต่อไป รสชาติเปลี่ยนไป เรื่องที่จะให้
กลับมาซื้อแก้วที่ ๓ อีก เป็นไปได้ยาก
ต่อมาดิฉันสังเกตว่ารสชาติรู้สึกจะเพี้ยนไป แต่ก็เพี้ยนไปน้อยมากจนไม่แน่ใจ แต่เมื่อ
ดื่มติดต่อกัน ๓ วันแล้ว จึงบอกนินาว่า
" ไม่รู้ว่าพี่หาเรื่องหรือเปล่านะนินา แต่พี่ว่ารสชาติชาผิดไปจากเดิม "
นินาหัวเราะแล้วบอกว่า
" นินาเป็นคนต้มเอง ทำตามส่วนผสมตามสูตรทุกครั้ง รสชาติจะเปลี่ยนได้อย่างไร "
" พี่ถึงว่าพี่หาเรื่องหรือเปล่าไง "
อาจเป็นไปได้ว่าลิ้นของดิฉันอาจจะชินชาไปกับรสชานี้เสียแล้ว แต่มันไม่อร่อยเหมือนเดิมล่ะนะ
วันต่อมานินามาบอกดิฉันว่า
" พี่อธิที่พี่บอกวันนั้น นินาก็ลองชิมดู มันจืดจริงค่ะ นินาก็มาสังเกตว่าทำไม ที่เรียนมา
อาจารย์บอกว่า ชาเมื่อปรุงแล้วให้ฟรีซให้เย็นจัดก่อน ค่อยใส่น้ำแข็ง ที่จืดเพราะที่นินาเอามา
มันยังอุ่นอยู่เลย มาเทใส่น้ำแข็ง น้ำแข็งจะละลายเร็วมากทำให้ชาจืด "
" พี่ก็ว่ามันจืดๆ แต่พี่ไม่ได้บอกนินา " น้องดาว่า
" น้องรีบโทรบอกเอ ( แฟนนินา ) เลยนะ อย่าให้เกิดผิดพลาดอย่างนี้ได้ " ดิฉันบอกนินา
น้องก็รีบโทรบอกแฟนเลยค่ะ
น้องนินาเล่าว่า มีลูกค้าคนหนึ่งเดินข้ามถนนมาไกลเลย เพียงเพื่อจะซื้อชานมแก้วเดียว
ดิฉันยิ่งย้ำไปเลยว่า นั่นแหละถ้ารสชาติเพี้ยนไปไม่ได้มาตรฐาน เขาจะยอมเดินข้ามถนนมา
ไกลเพื่อซื้ออีกหรือ
ส่งท้ายนะคะ วันนี้ดิฉันนำชานมไปให้ ดร.ดี ดร.บอก ขอบคุณ ขอบคุณมาก
ดิฉันรีบเดินออกจากห้อง แล้วแย้มประตูโผล่หน้าเข้าไปบอกว่า
" บอกรัก ดร.ด้วยชานมนะคะ อยากบอกทุกวันเลย แต่ ดร.บอกว่า นานๆ ที ก็ได้ค่ะ "
คนเราจะตายวันตายพรุ่ง จะอยู่ด้วยกันอีกกี่วันก็ไม่รู้ รักใครชอบใครต้องบอกไปนะคะ บอกด้วยคำพูดเฉยๆ
ก็ยาใจแล้วค่ะ ไม่ต้องเลียนแบบโฆษณาเหมือนดิฉันก็ได้นะคะ
วันนี้ดิฉันบอกรักด้วยชานมของนินาไปสองคน ต้องทำสถิติหน่อย เดี๋ยวบอกได้ไม่ครบทั้งออฟฟิศ เกิดร้านนินา
ปิดก่อน ใครหรือดิฉันตายก่อน ก็อดบอกกันพอดี
.................................................
เรื่องที่ ๒.....ลูกผู้ชายตัวจริงเสียงจริง
.........เรื่องมีอยู่ว่า น้องนินาโทรมาบอกดิฉันว่า คุณเอ๋ ( นามสมมุติ ) ลูกสาวของลูกค้ามาขอพบ
ดิฉันก็บอกว่าให้รอก่อนเสร็จการแล้วจะลงไป เข้าใจว่าคงจะมาขอคำปรึกษา
เมื่อดิฉันลงไปพบ เธอยื่นถุงกระเป๋าให้ค่ะ แววตาของเธอเห็นได้ชัดถึงความดีใจที่ได้ส่ง
มอบกระเป๋าให้ดิฉัน กระเป๋าใบนี้ค่ะ
เป็นงานฝีมือ ชิ้นงานจัดว่าใช้ได้ที่เดียว การเลือกใช้สี ก็ดูเหมาะสมกลมกลืน เมื่อเปิดดู
ข้างในงานเรียบร้อยมากค่ะ มีบุด้วยผ้า ทำเป็นช่องสารพัดประโยชน์ด้วย
ก็แววตาแบบนี้ใครจะปฏิเสธได้ลง ดิฉันก็รับไว้ด้วยความเอ็นดู ถามว่าทำเองหรือคะ ?
คุณเอ๋ตอบว่า มีแม่บ้านคนหนึ่งเธอแพ้น้ำยาทำความสะอาด เอ๋ก็เลยดูๆ ว่าเขาพอทำอะไรได้บ้าง
พบว่ามีฝีมือทางนี้อยู่ ก็เลยให้หัดทำ โดยซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ให้ ให้ทำแบบเดิมซ้ำๆ เพื่อให้เกิดความ
ชำนาญ ก็คิดถึงคุณอธิ เลยนำมาให้
ดิฉันก็บอกว่า ยินดีด้วยนะคะ การได้มีโอกาสช่วยคนให้เขามีอาชีพ ทำให้เขาสามารถหาเลี้ยงตัวเองได้
เป็นสิ่งที่ดีมากเลย แต่งานฝีมือพวกนี้ ตลาดจะเป็นตลาดบน ลูกค้าจำกัด
ให้ทำชิ้นงานให้ขายได้ในตลาดกลางการให้ทำชิ้นงานซ้ำๆ หรือออกแบบชิ้นงานแบบอื่นบ้างโดยใช้วัสดุเหมือนเดิม
จะช่วยลดต้นทุนได้มาก
( วัสดุต่างๆ ยิ่งซื้อมากยิ่งถูกมากค่ะ )
ให้ลองทำกระเป๋าใส่เศษสตางค์ด้วยนะคะ ว่างจากงานสั่ง ก็ทำทิ้งๆ ไว้ ฝีมือให้ปราณีต กระเป๋าเล็กราคาไม่แพง
มากถ้าฝีมือดีช่วงปีใหม่ จะขายดีมากสั่งทีเยอะ............
ก็ให้คำแนะนำไปเยอะค่ะ เพราะดิฉันเคยเล่นเรื่องงานฝีมืออยู่ ทำให้เข้าใจธรรมชาติของงานพวกนี้ดี
งานเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ ดิฉันเคยทำเป็นอาชีพเสริมทำเงินได้มาแล้ว จึงได้เก็บแทบทุกรายละเอียดไว้
ก็เล่าให้ฟังค่ะว่า ดิฉันเคยฝึกแม่บ้านของดิฉันคนหนึ่ง กะจะให้เธอมีอาชีพเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้า
เมื่อเริ่มฝึก ก็ให้ฝึกเย็บตรงก่อน ซ้อมกับเศษผ้า เมื่อเห็นว่าพอเย็บได้ ก็รับงานที่เป็นพวกผ้าห่อชิ้นนงานสำหรับนึ่ง
ซึ่งใช้ฝีมือแค่เย็บตรงมาให้
บอกให้เย็บให้ดีที่สุด ชิ้นไหนไม่สวยให้แก้เย็บใหม่ เสร็จเอางานไปส่งได้เงิน
มา ก็เอามาให้ เธอก็มีกำลังใจที่จะฝึกจะทำ เพราะงานที่ทำขายได้.............ฯลฯ
ทำไมดิฉันถึงได้เล่าเสียยาวเลย
" พี่เห็นคุณตั้งใจช่วยเหลือแม่บ้านคนนั้น ก็เกิดความยินดี อยากช่วยด้วยค่ะ ถ้าเธอรู้ว่างานของ
เธอเป็นที่ยอมรับ ขายได้เงินด้วย ก็เป็นกำลังใจนะคะ พี่ขอจ่ายค่ากระเป๋านะคะ คุณคิดว่าควรเป็นเท่าไหร่ดี "
เธอว่าเธอตั้งใจนำมามอบให้ดิฉัน ในส่วนแม่บ้านเธอก็ได้สนับสนุนอยู่แล้ว
ดิฉันก็ว่าดิฉันเข้าใจและรู้สึกขอบคุณมากเลย แต่เรื่องขอเป็นกำลังใจให้แม่บ้านนั้น
คุณเข้าใจพี่นะคะ เท่าไหร่ดีคะ ถึงจะดูเหมาะสม
เธอลังเล ก่อนที่จะก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้น ก็ ๒๐๐ บาท ก็แล้วกัน
ดิฉันก็ว่า ๒๐๐ บาทจะควรหรือ ค่าอุปกรณ์ก็ยังไม่พอเลย
เธอว่า ๒๐๐ บาทพอแล้วค่ะ เอ๋ก็จะเอาไปให้แม่บ้าน เอ๋ไม่อยากรับเลย เธอบอก
ดิฉันก็มอบเงิน ๒๐๐ บาทฝากคุณเอ๋ไปค่ะ พร้อมกับกล่าวขอบคุณเธออีกครั้ง
คุณเอ๋บอกว่า " เมื่อตอนนั่งรอพี่ มีคุณคนหนึ่งเห็นกระเป๋าเลยขอดู อยากจะซื้อค่ะ
แต่เอ๋บอกไปว่า จะเอามาให้คุณอธิ "
" คุณเอ๋...รีบไปดูเลยค่ะ ว่าคุณคนนั้นยังอยู่ไหม ถ้าอยู่ก็ขายให้เขาเลย น้องแม่บ้าน
จะได้ดีใจ ของพี่เอาไว้ที่หลังก็ได้ "
คุณเอ๋ก็ค่ะๆ รีบเดินไป แต่ดูเหมือนว่าจะเดินกลับ เพราะไม่เห็นว่าจะมีท่าทีมองหาใครเลย
" กระเป๋าใบละ ๒๐๐ แบมอยากได้บ้างสวยดีนะคะ แบมขอซื้อต่อนะพี่อธิ " น้องแบมขอ
" ไว้เดี๋ยวคุณเอ๋มา ก็สั่งให้เขาทำมาให้สิคะ ๒๐๐ น่ะ ค่าอุปกรณ์ยังไม่ได้เลยนะคะ " ดิฉันว่า
" ไม่เอา ถ้าเป็น ๑,๐๐๐ แบมไม่เอา จะเอา ๒๐๐ พี่อธิให้แบมนะ" น้องแบมอ้อน
ดิฉันยิ้มบอก ไม่ได้ดอกค่ะ พี่อธิใจร้าย พี่อธิใจร้าย เสียงบ่นตามมา
คงต้องใจร้ายกันหน่อยล่ะค่ะ ถ้าคุณเอ๋มาเจอกระเป๋าอยู่ที่น้องแบม ดิฉันไม่แน่ใจนี่คะว่า
เธอจะจิตตกไหม งานนี้ดิฉันคงต้องเปลี่ยนกระเป๋ามาใช้ใบนี้ ถ้าคุณเอ๋มาเห็นเข้า เธอจะได้ดีใจ
เอ...แล้วตั้งชื่อว่าลูกผู้ชายตัวจริงได้ไงนี่ ตั้งได้สิคะ ก็เรื่องยังไม่จบนี่คะ แต่ตอนนี้ขอ
ตัวก่อนนะคะ จะกลับมาเล่าอีกเมื่อไร ก็ตามแต่เหตุปัจจัยนะคะ
......................ดิฉันแท๊กห้องศาสนาที่เดียวนะคะ ท่านใดหลงมาอ่าน ต้องช่วยกันหาลิงค์ที่ทำให้กระทู้คู่ควร
กับการยืนอยู่ในห้องศาสนาด้วยนะคะ น่า..ช่วยกันทำมาหากินนะคะ