เนื้อคู่ ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถานอธิบายไว้ว่า "ชายและหญิง ที่ถือกันว่าได้เคยครองคู่กันมาแต่ปางก่อน ชายและหญิง ที่เหมาะสมเป็นคู่ครองกัน"
โดยส่วนใหญ่ชีวิตคู่มักเริ่มต้นด้วยดี มีทั้งความรัก ความสุขช่วยประคับประคองชีวิตคู่ด้วยความพอใจของทั้งสองฝ่าย หลายคนมีชีวิตคู่ที่ราบรื่นไปตลอดรอดฝั่ง แต่มีไม่น้อยที่ล้มเหลวบางคู่ต้องหย่ากัน บางคู่ถึงแม้อยู่ด้วยกันแต่ความรักความสุขที่เคยให้กันไม่เหลือแม้แต่น้อยก็ต้องทนอยู่ด้วยกันอย่างเป็นทุกข์
การใช้ชีวิตร่วมกันของสามีภรรยาหลายๆ คู่ หากพิจารณาถึงการปฏิบัติต่อกันทั้งแง่กายกรรม วจีกรรมและมโนกรรมจะพบว่า
ทางกายกรรม หมายถึง การกินด้วยกัน การนอนด้วยกัน มีลูกด้วยกัน ทำงานร่วมกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน ถ้ามองจากภายนอกดูเหมือนเป็นคู่ที่มีความสุข รักใคร่ปรองดองกันดีจนหลายๆ คนอาจจะรู้สึกอิจฉา แต่สำหรับเจ้าตัวจริงๆ แล้ว การปฏิบัติต่อกันในทางวจีกรรม มโนกรรม มีแต่ทะเลาะเบาะแว้งกัน โกรธกัน น้อยใจ เจ็บใจ มีแต่ความทุกข์ ไม่มีคำว่าสุข แต่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรได้ ก็ยังต้องอดทนอยู่ด้วยกันเพราะความจำเป็นทางสังคม หรือ เพราะเห็นแก่ลูก
ชีวิตคู่ ที่เป็นเนื้อคู่กันประเภทนี้ก็มีมาก คือชาตินี้แม้จะมีความผูกพันทางกายกรรม แต่ทางวจีกรรม มโนกรรม กลับเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ไม่ดีแก่กันจึงดูเหมือนว่า ทางกายกรรมนั้นรักกัน โดยที่ความเป็นจริงแล้วต่างฝ่ายไม่มีความรู้สึกรักกันเลย แต่ในสถานภาพทางสังคมที่เป็นสามีภรรยากันต้องอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ใช้ชีวิตร่วมกัน จะเดินทางไปไหนก็ยังต้องร่วมรถคันเดียวกันเป็นครอบครัว
สามีภรรยาที่มีปัญหาเช่นนี้ บางครั้งต่างคนต่างตั้งจิตอธิฐานว่าชาติหน้าอย่าได้พบกันอีก ขอเจอชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย แต่ด้วยอุปทานยึดมั่นถือมั่น ไม่ว่าจะรักกันหรือเกลียดชังกันก็ตาม ไม่ว่าจะด้วยความพอใจหรือไม่พอใจต่อกันอย่างไร ในทางมโนกรรม คือความรู้สึกนึกคิดที่มีต่อกัน จะเป็นการดึงเข้าหากันอยู่ตลอด ไม่ปล่อยวางจากกัน ดังนั้นจึงเป็นไปได้อย่างมากที่บุคคลทั้งสองเมื่อต่างตายจากกันในชาตินี้ ถ้าชาติหน้าเกิดมาโตเป็นหนุ่มเป็นสาวได้พบกันเมื่อไรก็เกิดอารมณ์รักที่รุนแรงมีความดีใจ พอใจที่ได้เจอกัน เพราะทางกายกรรมในอดีตชาตินั้น เคยใกล้ชิดกันใช้ชีวิตร่วมกันมา เกิดในชาติใหม่จึงเป้็นเนื้อคู่กันอีก ที่เคยทุกข์ โกรธกันเกลียดกันก็ลืมไป แต่คงเรียกว่าเป็นเนื้อคู่เทียม
เพราะเป็นเนื้อคู่ที่เป็นผลของกรรมเก่า คือ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรมที่สร้างร่วมกันมา ทำดีต่อกันบ้างทะเลาะกัน โกรธเกลียดกันบ้าง เป็นความรักที่หาความสุขแท้จริงไม่ได้ เพราะไม่ใช่เนื้อคู่แท้ที่ครองคู่ด้วยความรักความเมตตา
ดังนั้น เมื่อต้องใช้ชีวิตคู่ด้วยกันในชาตินี้แล้ว สามีภรรยาจึงควรสร้างกรรมที่ดีต่อกัน ทั้งกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม แม้ว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นก็ควรรู้จักอดทน ปล่อยวาง ให้อภัยต่อกันถ้าทำได้ก็จะเป็นอานิสงส์ให้มีความสุขทั้งในชาติจี้และชาติหน้า
บทความดีๆ นำมาแบ่งกันค่ะ : สาระแห่งชีวิต คือรักและเมตตา (พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก)
เนื้อคู่ : คู่แท้หรือคู่เทียม
โดยส่วนใหญ่ชีวิตคู่มักเริ่มต้นด้วยดี มีทั้งความรัก ความสุขช่วยประคับประคองชีวิตคู่ด้วยความพอใจของทั้งสองฝ่าย หลายคนมีชีวิตคู่ที่ราบรื่นไปตลอดรอดฝั่ง แต่มีไม่น้อยที่ล้มเหลวบางคู่ต้องหย่ากัน บางคู่ถึงแม้อยู่ด้วยกันแต่ความรักความสุขที่เคยให้กันไม่เหลือแม้แต่น้อยก็ต้องทนอยู่ด้วยกันอย่างเป็นทุกข์
การใช้ชีวิตร่วมกันของสามีภรรยาหลายๆ คู่ หากพิจารณาถึงการปฏิบัติต่อกันทั้งแง่กายกรรม วจีกรรมและมโนกรรมจะพบว่า
ทางกายกรรม หมายถึง การกินด้วยกัน การนอนด้วยกัน มีลูกด้วยกัน ทำงานร่วมกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน ถ้ามองจากภายนอกดูเหมือนเป็นคู่ที่มีความสุข รักใคร่ปรองดองกันดีจนหลายๆ คนอาจจะรู้สึกอิจฉา แต่สำหรับเจ้าตัวจริงๆ แล้ว การปฏิบัติต่อกันในทางวจีกรรม มโนกรรม มีแต่ทะเลาะเบาะแว้งกัน โกรธกัน น้อยใจ เจ็บใจ มีแต่ความทุกข์ ไม่มีคำว่าสุข แต่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรได้ ก็ยังต้องอดทนอยู่ด้วยกันเพราะความจำเป็นทางสังคม หรือ เพราะเห็นแก่ลูก
ชีวิตคู่ ที่เป็นเนื้อคู่กันประเภทนี้ก็มีมาก คือชาตินี้แม้จะมีความผูกพันทางกายกรรม แต่ทางวจีกรรม มโนกรรม กลับเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ไม่ดีแก่กันจึงดูเหมือนว่า ทางกายกรรมนั้นรักกัน โดยที่ความเป็นจริงแล้วต่างฝ่ายไม่มีความรู้สึกรักกันเลย แต่ในสถานภาพทางสังคมที่เป็นสามีภรรยากันต้องอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ใช้ชีวิตร่วมกัน จะเดินทางไปไหนก็ยังต้องร่วมรถคันเดียวกันเป็นครอบครัว
สามีภรรยาที่มีปัญหาเช่นนี้ บางครั้งต่างคนต่างตั้งจิตอธิฐานว่าชาติหน้าอย่าได้พบกันอีก ขอเจอชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย แต่ด้วยอุปทานยึดมั่นถือมั่น ไม่ว่าจะรักกันหรือเกลียดชังกันก็ตาม ไม่ว่าจะด้วยความพอใจหรือไม่พอใจต่อกันอย่างไร ในทางมโนกรรม คือความรู้สึกนึกคิดที่มีต่อกัน จะเป็นการดึงเข้าหากันอยู่ตลอด ไม่ปล่อยวางจากกัน ดังนั้นจึงเป็นไปได้อย่างมากที่บุคคลทั้งสองเมื่อต่างตายจากกันในชาตินี้ ถ้าชาติหน้าเกิดมาโตเป็นหนุ่มเป็นสาวได้พบกันเมื่อไรก็เกิดอารมณ์รักที่รุนแรงมีความดีใจ พอใจที่ได้เจอกัน เพราะทางกายกรรมในอดีตชาตินั้น เคยใกล้ชิดกันใช้ชีวิตร่วมกันมา เกิดในชาติใหม่จึงเป้็นเนื้อคู่กันอีก ที่เคยทุกข์ โกรธกันเกลียดกันก็ลืมไป แต่คงเรียกว่าเป็นเนื้อคู่เทียม
เพราะเป็นเนื้อคู่ที่เป็นผลของกรรมเก่า คือ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรมที่สร้างร่วมกันมา ทำดีต่อกันบ้างทะเลาะกัน โกรธเกลียดกันบ้าง เป็นความรักที่หาความสุขแท้จริงไม่ได้ เพราะไม่ใช่เนื้อคู่แท้ที่ครองคู่ด้วยความรักความเมตตา
ดังนั้น เมื่อต้องใช้ชีวิตคู่ด้วยกันในชาตินี้แล้ว สามีภรรยาจึงควรสร้างกรรมที่ดีต่อกัน ทั้งกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม แม้ว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นก็ควรรู้จักอดทน ปล่อยวาง ให้อภัยต่อกันถ้าทำได้ก็จะเป็นอานิสงส์ให้มีความสุขทั้งในชาติจี้และชาติหน้า
บทความดีๆ นำมาแบ่งกันค่ะ : สาระแห่งชีวิต คือรักและเมตตา (พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก)