ผลของการไม่รักษาจิต
คหบดี !
เมื่อจิตไม่ได้รับการรักษา (จิตฺเต อรกฺขิเต)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่า
ไม่ได้รับการรักษา
เมื่อกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ไม่ได้รับการรักษา
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพเปียกแฉะ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม มีสภาพเปียกแฉะ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพบูดเน่า
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม บูดเน่า
ก็มีการตายที่ไม่งดงาม มีการทำกาละที่ไม่งดงาม.
เปรียบเหมือน...เมื่อ
เรือนมุงไว้ไม่ดี
ยอดหลังคา ก็เป็นอัน
ไม่ได้รับการรักษา
ฝาเรือน ก็เป็นอัน
ไม่ได้รับการรักษา
อกไก่ก็เปียกชื้น กลอนหลังคาก็เปียกชื้น ฝาเรือนก็เปียกชื้น
อกไก่ก็ผุเปื่อย กลอนหลังคาก็ผุเปื่อย ฝาเรือนก็ผุเปื่อย
คหบดี ! ฉันใดก็ฉันนั้น
เมื่อจิตไม่ได้รับการรักษา (จิตฺเต อรกฺขิเต)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่าไม่ได้รับการรักษา
เมื่อกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ไม่ได้รับการรักษา
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพเปียกแฉะ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม มีสภาพเปียกแฉะ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพบูดเน่า
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม บูดเน่า
ก็มีการตายที่ไม่งดงาม มีการทำกาละที่ไม่งดงาม.
ผลของการรักษาจิต
คหบดี !
เมื่อจิตได้รับการรักษา (จิตฺเต รกฺขิเต)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่า
ได้รับการรักษา
เมื่อกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ได้รับการรักษา
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพไม่เปียกแฉะ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่เปียกแฉะ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพไม่บูดเน่า
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่บูดเน่า
ก็มีการตายที่งดงาม มีการทำกาละที่งดงาม.
เปรียบเหมือน...เมื่อ
เรือนมุงไว้อย่างดี
ยอดหลังคา ก็เป็นอัน
ได้รับการรักษา
ฝาเรือน ก็เป็นอัน
ได้รับการรักษา
อกไก่ก็ไม่เปียกชื้น กลอนหลังคาก็ไม่เปียกชื้น ฝาเรือนก็ไม่เปียกชื้น
อกไก่ก็ไม่ผุเปื่อย กลอนหลังคาก็ไม่ผุเปื่อย ฝาเรือนก็ไม่ผุเปื่อย
คหบดี ! ฉันใดก็ฉันนั้น
เมื่อจิตได้รับการรักษา (จิตฺเต รกฺขิเต)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่า ได้รับการรักษา
เมื่อกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ได้รับการรักษา
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพไม่เปียกแฉะ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่เปียกแฉะ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพไม่บูดเน่า
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่บูดเน่า
ก็มีการตายที่งดงาม มีการทำกาละที่งดงาม.
บาลี ติก.อํ.๒๐/๓๓๕/๕๔๙.
ผลเมื่อจิตถึงความพินาศ
คหบดี !
เมื่อจิตถึงความพินาศ (จิตฺเต พฺยาปนฺเน)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่า
ถึงความพินาศ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ถึงความพินาศ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพเปียกแฉะ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม มีสภาพเปียกแฉะ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพบูดเน่า
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม บูดเน่า
ก็มีการตายที่ไม่งดงาม มีการทำกาละที่ไม่งดงาม.
เปรียบเหมือน...เมื่อ
เรือนมุงไว้ไม่ดี
ยอดหลังคา ก็เป็นอัน
ถึงความพินาศ
กลอนหลังคา ก็เป็นอัน
ถึงความพินาศ
ฝาเรือน ก็เป็นอัน
ถึงความพินาศ
อกไก่ก็เปียกชื้น กลอนหลังคาก็เปียกชื้น ฝาเรือนก็เปียกชื้น
อกไก่ก็ผุเปื่อย กลอนหลังคาก็ผุเปื่อย ฝาเรือนก็ผุเปื่อย
คหบดี ! ฉันใดก็ฉันนั้น
เมื่อจิตถึงความพินาศ (จิตฺเต พฺยาปนฺเน)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่า ถึงความพินาศ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ถึงความพินาศ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพเปียกแฉะ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม มีสภาพเปียกแฉะ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพบูดเน่า
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม บูดเน่า
ก็มีการตายที่ไม่งดงาม มีการทำกาละที่ไม่งดงาม.
ผลเมื่อจิตไม่ถึงความพินาศ
คหบดี !
เมื่อจิตไม่ถึงความพินาศ (จิตฺเต อพฺยาปนฺเน)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่า
ไม่ถึงความพินาศ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ไม่ถึงความพินาศ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพไม่เปียกแฉะ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่เปียกแฉะ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพไม่บูดเน่า
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่บูดเน่า
ก็มีการตายที่งดงาม มีการทำกาละที่งดงาม.
เปรียบเหมือน...เมื่อ
เรือนมุงไว้อย่างดี
ยอดหลังคา ก็เป็นอัน
ไม่ถึงความพินาศ
กลอนหลังคา ก็เป็นอัน
ไม่ถึงความพินาศ
ฝาเรือน ก็เป็นอัน
ไม่ถึงความพินาศ
อกไก่ก็ไม่เปียกชื้น กลอนหลังคาก็ไม่เปียกชื้น ฝาเรือนก็ไม่เปียกชื้น
อกไก่ก็ไม่ผุเปื่อย กลอนหลังคาก็ไม่ผุเปื่อย ฝาเรือนก็ไม่ผุเปื่อย
คหบดี ! ฉันใดก็ฉันนั้น
เมื่อจิตไม่ถึงความพินาศ (จิตฺเต อพฺยาปนฺเน)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่า ไม่ถึงความพินาศ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ไม่ถึงความพินาศ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพไม่เปียกแฉะ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่เปียกแฉะ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพไม่บูดเน่า
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่บูดเน่า
ก็มีการตายที่งดงาม มีการทำกาละที่งดงาม.
บาลี ติก. อํ. ๒๐/๓๓๗/๕๕๐.
ผล ของ การ ไม่รักษา จิต และ รักษา จิต , ผล เมื่อ จิต ถึง ความ พิ นาศ
คหบดี ! เมื่อจิตไม่ได้รับการรักษา (จิตฺเต อรกฺขิเต)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่า ไม่ได้รับการรักษา
เมื่อกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ไม่ได้รับการรักษา
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพเปียกแฉะ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม มีสภาพเปียกแฉะ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพบูดเน่า
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม บูดเน่า
ก็มีการตายที่ไม่งดงาม มีการทำกาละที่ไม่งดงาม.
เปรียบเหมือน...เมื่อเรือนมุงไว้ไม่ดี
ยอดหลังคา ก็เป็นอัน ไม่ได้รับการรักษา
ฝาเรือน ก็เป็นอัน ไม่ได้รับการรักษา
อกไก่ก็เปียกชื้น กลอนหลังคาก็เปียกชื้น ฝาเรือนก็เปียกชื้น
อกไก่ก็ผุเปื่อย กลอนหลังคาก็ผุเปื่อย ฝาเรือนก็ผุเปื่อย
คหบดี ! ฉันใดก็ฉันนั้น
เมื่อจิตไม่ได้รับการรักษา (จิตฺเต อรกฺขิเต)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่าไม่ได้รับการรักษา
เมื่อกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ไม่ได้รับการรักษา
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพเปียกแฉะ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม มีสภาพเปียกแฉะ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพบูดเน่า
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม บูดเน่า
ก็มีการตายที่ไม่งดงาม มีการทำกาละที่ไม่งดงาม.
ผลของการรักษาจิต
คหบดี ! เมื่อจิตได้รับการรักษา (จิตฺเต รกฺขิเต)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่า ได้รับการรักษา
เมื่อกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ได้รับการรักษา
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพไม่เปียกแฉะ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่เปียกแฉะ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพไม่บูดเน่า
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่บูดเน่า
ก็มีการตายที่งดงาม มีการทำกาละที่งดงาม.
เปรียบเหมือน...เมื่อเรือนมุงไว้อย่างดี
ยอดหลังคา ก็เป็นอัน ได้รับการรักษา
ฝาเรือน ก็เป็นอัน ได้รับการรักษา
อกไก่ก็ไม่เปียกชื้น กลอนหลังคาก็ไม่เปียกชื้น ฝาเรือนก็ไม่เปียกชื้น
อกไก่ก็ไม่ผุเปื่อย กลอนหลังคาก็ไม่ผุเปื่อย ฝาเรือนก็ไม่ผุเปื่อย
คหบดี ! ฉันใดก็ฉันนั้น
เมื่อจิตได้รับการรักษา (จิตฺเต รกฺขิเต)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่า ได้รับการรักษา
เมื่อกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ได้รับการรักษา
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพไม่เปียกแฉะ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่เปียกแฉะ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพไม่บูดเน่า
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่บูดเน่า
ก็มีการตายที่งดงาม มีการทำกาละที่งดงาม.
บาลี ติก.อํ.๒๐/๓๓๕/๕๔๙.
ผลเมื่อจิตถึงความพินาศ
คหบดี ! เมื่อจิตถึงความพินาศ (จิตฺเต พฺยาปนฺเน)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่า ถึงความพินาศ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ถึงความพินาศ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพเปียกแฉะ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม มีสภาพเปียกแฉะ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพบูดเน่า
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม บูดเน่า
ก็มีการตายที่ไม่งดงาม มีการทำกาละที่ไม่งดงาม.
เปรียบเหมือน...เมื่อเรือนมุงไว้ไม่ดี
ยอดหลังคา ก็เป็นอัน ถึงความพินาศ
กลอนหลังคา ก็เป็นอัน ถึงความพินาศ
ฝาเรือน ก็เป็นอัน ถึงความพินาศ
อกไก่ก็เปียกชื้น กลอนหลังคาก็เปียกชื้น ฝาเรือนก็เปียกชื้น
อกไก่ก็ผุเปื่อย กลอนหลังคาก็ผุเปื่อย ฝาเรือนก็ผุเปื่อย
คหบดี ! ฉันใดก็ฉันนั้น
เมื่อจิตถึงความพินาศ (จิตฺเต พฺยาปนฺเน)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่า ถึงความพินาศ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ถึงความพินาศ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพเปียกแฉะ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม มีสภาพเปียกแฉะ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพบูดเน่า
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม บูดเน่า
ก็มีการตายที่ไม่งดงาม มีการทำกาละที่ไม่งดงาม.
ผลเมื่อจิตไม่ถึงความพินาศ
คหบดี ! เมื่อจิตไม่ถึงความพินาศ (จิตฺเต อพฺยาปนฺเน)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่า ไม่ถึงความพินาศ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ไม่ถึงความพินาศ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพไม่เปียกแฉะ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่เปียกแฉะ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพไม่บูดเน่า
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่บูดเน่า
ก็มีการตายที่งดงาม มีการทำกาละที่งดงาม.
เปรียบเหมือน...เมื่อเรือนมุงไว้อย่างดี
ยอดหลังคา ก็เป็นอัน ไม่ถึงความพินาศ
กลอนหลังคา ก็เป็นอัน ไม่ถึงความพินาศ
ฝาเรือน ก็เป็นอัน ไม่ถึงความพินาศ
อกไก่ก็ไม่เปียกชื้น กลอนหลังคาก็ไม่เปียกชื้น ฝาเรือนก็ไม่เปียกชื้น
อกไก่ก็ไม่ผุเปื่อย กลอนหลังคาก็ไม่ผุเปื่อย ฝาเรือนก็ไม่ผุเปื่อย
คหบดี ! ฉันใดก็ฉันนั้น
เมื่อจิตไม่ถึงความพินาศ (จิตฺเต อพฺยาปนฺเน)
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็เป็นอันว่า ไม่ถึงความพินาศ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ไม่ถึงความพินาศ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพไม่เปียกแฉะ
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่เปียกแฉะ
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ก็มีสภาพไม่บูดเน่า
เมื่อกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่บูดเน่า
ก็มีการตายที่งดงาม มีการทำกาละที่งดงาม.
บาลี ติก. อํ. ๒๐/๓๓๗/๕๕๐.