อยากขอสอบถาม ท่านเเมทท์เกี่ยวกับอิสลามยุคต้นๆ ครับ

กระทู้คำถาม
ต่อจากกระทู้นี้ http://ppantip.com/topic/30481298

ผมอยากทราบว่า
1.ระหว่างอัลกุรอาน กับ ฮะดิษ อันไหนมาก่อนกัน
2.ทำไมคำสอนของ 2 สิ่งนี้จึงไปคนละทางไม่ได้มีความสอดคล้องกัน ในอัลกุรอาน สอนว่าไม่ให้ฆ่าคนชีวิตเป็นสิ่งมีค่า เเต่ในฮะดิษ กลับมีการสั่งให้ฆ่า กันง่ายๆ เเบบไม่มีความเมตตา กันเลย
3.ทำไมอัลกุรอาน ยุคเเรกถึงมีการอ่านผิดอ่านผิดจนเกิดข้อโต้งเเย้งหรือตีความขัดเเย้งกัน เเล้วมนุษย์มีสิทธิ์อะไรในการแก้ไข
4.อาจเพราะการแก้ไขนี้หรือป่าวเราจึงไม่เห็นคำสอนเรื่องSTONING ดูดนมเมีย อุณญาตข่มขื่นเชลยศึก ในอัลกุรอาน
5.ใครเป็นคนเริ่มให้ใช้ ฮะดิษ ประกอบคนเเรก
6.อิสลามยุคเเรกๆไม่มีฮะดิษประกอบการศึกษาเรื่องศาสนา ทำไมมุสลิมถึงอยู่กันได้ เเต่ยุคต่อมาทำไมมุสลิมต้องพึ่งฮะดิษ  ประกอบ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
คุณmce

คุณจะต้องเข้าใจก่อนว่า "ฮาดีษที่ผมยกมานี้เป็นฮาดีษที่นักวิชาการฮาดีษ ที่ใช้ Common Sense เขาไม่ยอมรับรอง" ซึ่งคุณจะเห็นได้ว่า การกลั่นกรอง ฮาดีษ ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ใน จัด ฮาดีษนี้เป็น ระดับ ซอเฮี๊ยะ ซึ่งถือว่าชัดจริงที่สุดว่า เป็นคำสอนของท่านศาสดามูฮัมมัด, และมุสลิมที่เขลาที่เชื่องมงายกับคำสอนที่ผิด จากผู้รู้ที่ไม่ใช้สติปัญญา, เขาสอนว่า ถ้าใครไม่เขื่อ  ฮาดีษ ซอเฮี๊ยะ และปฏิบัติตามแล้วจะตกจากการเป็น มุสลิม และตกจากศาสนาอิสลาม เป็น "กาเฟร",

      "มีมุสลิมสามีผู้ใดบ้างที่จะให้ชายหนุ่มแปลกหน้า "ดูดนม ภรรยาเขาเอง" ถึง 5  ครั้งเพื่อ  รับชายหนุ่มนั้นมาเป็นบุตรบุญธรรม และไม่เป็นคนแปลกหน้าที่จะ มาเยี่ยมมารดาตอนสามี เขาไม่อยู่บ้าน"  

  เหตุผลที่อ้าง ตามฮาดีษข้างล่างนี้ ว่าเคยมีบัญญัตินี้อยู่ในอัลกุรอาน และ อัลลอฮ์ได้ แก้ไข จาก การดูด 10 ครั้งมาเป็น 5 ครั้งนั้น  เป็นข้อที่เสียหาย ต่อ Integrity ของอัลกุรอาน และกลายเป็นหลักฐาน อ้างอิงว่าอัลกุรอาน ไม่สมบูรณ์ จาก เวบ ของ อเมริกันคริสเตียนดังกล่าวแล้ว  การวิจัยอัลกุรอาน จาก คลิป ที่คุณนำมาโพสต์นี้ ไม่ได้นำเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้าง เนื่องจาก ฮาดีษนี้ไม่มี น้ำหนักแห่งความสัจจริง ที่จะนำมาอ้างอิงใน เรื่องสำคัญเช่นนั้น

’A’isha (Allah be pleased with, her) reported that it had been revealed in the Holy Qur’an that ten clear sucklings make the marriage unlawful, then it was abrogated (and substituted) by five sucklings and Allah’s Apostle (may peace be upon him) died and it was before that time (found) in the Holy Qur’an (and recited by the Muslims). (Sahih Muslim, Hadith 2634)

หลักฐานประการที่ 2

เรื่อง การ "STONING" ว่าเป็นหลักการของอิสลามที่มีอยู่ในอัลกุรอาน และไม่ถูกบรรจุอยู่เนื่องจาก ต้นฉบับการจดบันทึกในเรื่องนี้ ได้ถูกแพะกินไป  จึงทำให้อัลกุรอานไม่สมบูรณ์ ซึ่งความจริงแล้ว ฮาดีษเกี่ยวกับการ STONING  ไม่ใช่เรื่องราวที่จะเชื่อถือได้ ว่า พระเจ้า ประทานบัญญิที่เกี่ยวกับ การลงโทษผู้ผิดประเวณีด้วยการ STONING  เรื่องราวมีอยู่ว่า

มีรายงานมาจากคอธิ บินซออัลท์ ว่า: ซาอิ๊ด กล่าวว่า" ฉันได้ยินท่านรอซูลของอัลลออ์กล่าวว่า "เมื่อชายหญิงที่แต่งงานแล้ว ทำผิดในการมีชู้ จงฆ่าเขาทั้งสองให้ตายด้วยก้อนหิน, เมื่อได้ยินเช่นนั้น อมัร กล่าวว่า

فقال عمرو : لما نزلت أتيت النبي صلى الله عليه وسلم فقلت : أكتبها ؟ فكأنه كره ذلك

"เมื่อบัญญัตินี้ถูกประทานมา ฉันได้เข้ามาหาท่านรอซูลมูฮัมมัด และถามท่านว่า "ฉันจะบันทึกเรื่องนี้ได้ไหม?", ท่านรอซูล ไม่พอใจในคำกล่าวนั้น (Mustadrik Al-Hakim, Hadith 8184. Hakim called it Sahih)

    เกี่ยวกับบัญญัติ ในการ STONING คอธิ บินซออัลท์ กล่าวว่า  ซาอิด บินธาบิท แลั มะวาน บิน ฮาคอม กำลังปรึกษากันอยู่ว่า ทำไมบัญญติ เรื่อง การ STONING  จึงไม่ถูกอยู่ในบันทึก ในขณะที่เขากำลังปรึกษา กันอยู่นั้น ท่าน อุมัร บิน คัตตาบอยู่ในที่นั้นด้วย และกำลังฟังการสนทนาของเขาทั้งสอง, ท่านอุมัร ได้เข้าไปหา ท่านรอซูลมูฮํัมมัดแล้ว อ้อนวอนขอร้องต่อ ท่านรอซูล ให้ บรรจุการ STONING ไว้ในอัลกุรอานเพื่อท่าน อุมัร ดังข้อความต่อไปนี้

يا رسول الله أكتبني آية الرجم قال فأتيته فذكرته قال فذكر آية الرجم قال فقال يا رسول الله أكتبني آية الرجم قال لا استطيع ذاك

“‘O Messenger of Allah, let the verse about stoning be written for me.’ He (the Prophet) said, ‘I can’t do this.’” (Sunan Al-Kubra Baihiqi 8/211 & Sunan Al-Kubra Nasai Hadith 7148. Albani (in Sahiha 6/412) said Baihiqi pointed to its authenticity)


ท่านรอซูลปฏิเสธ คำขอของท่าน อุมัร และกล่าวว่า "ฉันทำเช่นนั้นไม่ได้หรอก"

ถ้าจะให้มีบัญญัติ การ STONING เป็นส่วนหนึ่งของอัลกุรอานแล้ว ทำไมท่านรอซูลมูฮัมมัด จึงไม่ต้องการให้มีการจดบันทึก, ซึ่งถ้าท่านรอซูลต้องการที่จะให้มีบัญญัติเรื่อง การ STONING อยู่ในอัลกุรอานแล้วไม่มีผู้ใดที่จะหยุดยั้งท่านได้ จริงไหม?

ด้วยเหตุผลตามนี้ แสดงว่าไม่เคยมีบัญญัติ ในการ SONING : ประทานมาสำหรับอัลกุรอาน  ฮาดีษต่างๆในการ STONING นั้น ขัดกับอัลกุรอานตรงที่ ทำการลงโทษเกินกว่า ที่พระเจ้ากำหนดไว้ เป็นการต่อเติมศาสนา บิดอะห์ ละเมิดอำนาจของ อัลลออ์ตะอาลา ขัดคำสั่งของท่านรอซูลอย่างชัดแจ้ง ตามข้อความในฮาดีษ ที่กล่าวมาแล้ว

คุณmce จะเห็นได้ว่า เท่าที่นักเขียนคริสเตียนตะวันตก เขียนเกี่ยวกับอัลกุรอานนั้น ส่วนมากจะ อ้าง ฮาดีษ อ่อนๆ ที่เชื่อถือไม่ได้ มาทำลาย Integrity ของอัลกุรอาน ซึ่งถ้ามุสลิมผู้ ใดยืนยันว่า การ STONING ที่เป็นความป่าเถื่อน เป็นหลักการของศาสนาอิสลามแล้ว ก็เท่ากับเขาผู้นั้นยอมรับว่า อัลกุรอานนั้นไม่มีความสมบูรณ์ ในการรวบรวม ตามความเห็นของ American Christian missionaries ที่พยายามที่จะ ทำลายความเชื่อถือในคัมภีร์อัลกุรอานซึ่งเป็นหัวใจของ ศาสนาอิสลาม  แต่แทนที่ มุสลิม จะป้องกัน อัลกุรอาน แต่กลับไปป้องกัน ฮาดีษที่ไม่มีความสำคัญเท่ากับบัญญัติจากพระเจ้า หรือเท่าเทียมกัน,

  จากบทความของผู้รู้มุสลิมที่ว่า "ผู้ทีปฏิเสธซอเฮี๊ยะฮาดีษไม่ใช่มุสลิม จึงเป็นการสร้างความงมงายให้กับเยาวชนมุสลิมสืบต่อไป"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่