ผู้ใดกล่าวคาถาตั้งร้อย แต่ไม่ประกอบด้วยบทอันมีประโยชน์ ก็ไม่ประเสริฐ บทแห่งธรรมเพียงบทเดียว ที่บุคคลฟังแล้ว เข้าไปสงบ ระงับได้ ประเสริฐกว่า ผู้ใดชนะมนุษย์ในสงครามเป็นล้าน ก็สู้ผู้ชนะตนเองเพียงผู้เดียวไม่ได้ ผู้ชนะตนเองนั่นแล ได้ชื่อว่า
“เป็นยอดนักรบในสงคราม”
การชนะตน คือการชนะกิเลสที่ทำใจให้เศร้าหมอง การชนะตนที่สูงสุด คือการชนะกิเลสโดยสิ้นเชิง กล่าวโดยทั่วไปมีอำนาจครอบงำที่สำคัญ 2 อย่าง ที่ผลัดเปลี่ยนมาครอบงำจิตใจเรา คือ อำนาจฝ่ายต่ำอย่างหนึ่ง อำนาจฝ่ายสูงอย่างหนึ่ง
เมื่ออำนาจฝ่ายต่ำครอบงำ ก็ชักนำให้ทำความชั่วต่างๆ แล้วแต่ชนิดของอำนาจฝ่ายต่ำนั้น เมื่ออำนาจฝ่ายสูงเข้ามาก็ชักนำให้ทำความดีต่างๆ คนส่วนใหญ่รู้ว่า อะไรดีควรทำ อะไรชั่วควรเว้น แต่ที่ต้องทำชั่วอยู่เพราะสู้อำนาจฝ่ายต่ำไม่ได้ ขณะนั้นมันมีอิทธิพลเหนือจิตใจ จึงต้องยอมแพ้
คนที่ติดยาเสพติดบางอย่างแล้ว จะไม่รู้ก็หาไม่ว่า มันมีโทษต่อตนอย่างไร แต่ที่ต้องเสพอยู่ ก็เพราะทนต่อการรบเร้าของร่างกายบ้าง จิตใจบ้างไม่ไหว ยอมแพ้มัน จึงต้องเสพต่อไป และมีโทษแก่ตนเองมากขึ้นทุกที การศึกษาอบรมก็เพื่อให้มนุษย์รู้จักเอาชนะอำนาจฝ่ายต่ำมากขึ้น เพิ่มพูนอำนาจฝ่ายสูงให้มากขึ้น เพื่อจะได้เอาชนะอำนาจฝ่ายต่ำได้ทุกครั้ง
เมื่ออำนาจทั้งสองมาพบกันเข้า เมื่อชนะบ่อยเข้า ก็จะกลายเป็นนิสัย เมื่อสะสมมากขึ้น ก็จะไม่มีอำนาจฝ่ายต่ำใดๆมาเอาชนะได้อีก คือพอรู้ว่าอะไรเป็นความชั่ว ไม่ควรทำ ก็ละเว้นได้ทุกอย่าง อะไรที่ละเว้นไม่ได้ ก็พยายามลดให้น้อยลง และพยายามละให้สิ้นไปในที่สุด
การจะเอาอำนาจฝ่ายต่ำนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือกำลังใจ ถ้ามีกำลังใจเข้มแข็งจริง ก็เอาชนะได้ทุกอย่าง คนที่พยายามจะเลิกอะไรสักอย่างหนึ่ง แล้วเลิกไม่ได้นั้น น่าสงสารมาก เพราะทุกครั้งที่เขากระทำลงไป เขารู้สึกว่า เป็นความผิด แต่ต้องกระทำ เพราะสู้อำนาจยั่วยวนหรืออาการเร่งเร้าทางกายหรือทางใจไม่ได้
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการเอาชนะอำนาจฝ่ายต่ำ หรือชนะตนคือ การฝึกฝน การหลีกเลี่ยงสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อความไม่ประมาท และการบรรเทาให้น้อยลงและหมดสิ้นไปในที่สุด การตามใจตนเองเป็นมูลเหตุสำคัญของความพ่ายแพ้ การฝืนใจตนเองให้อยู่หนทางที่ตนปราถนา เป็นมูลเหตุสำคัญของความชนะ การชนะใจตนเองได้ ชนะอำนาจฝ่ายต่ำได้ ชนะกิเลสได้ นั่นแหละ จึงถือว่า “เป็นชัยชนะอันประเสริฐ” ประเสริฐกว่านักรบ ผู้ชนะข้าศึกเป็นล้านในสงคราม
พระพุทธสุภาษิตนี้ พระพุทธองค์ทรงแสดงขณะประทับอยู่ที่วัดเชตุวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภนางกุณฑลเกศี มีเรื่องย่อดังนี้
อ่านต่อ
เรียบเรียงโดย: bank9597
เว็บไซต์:
NPZmoon
ยอดนักรบในสงคราม
ผู้ใดกล่าวคาถาตั้งร้อย แต่ไม่ประกอบด้วยบทอันมีประโยชน์ ก็ไม่ประเสริฐ บทแห่งธรรมเพียงบทเดียว ที่บุคคลฟังแล้ว เข้าไปสงบ ระงับได้ ประเสริฐกว่า ผู้ใดชนะมนุษย์ในสงครามเป็นล้าน ก็สู้ผู้ชนะตนเองเพียงผู้เดียวไม่ได้ ผู้ชนะตนเองนั่นแล ได้ชื่อว่า “เป็นยอดนักรบในสงคราม”
การชนะตน คือการชนะกิเลสที่ทำใจให้เศร้าหมอง การชนะตนที่สูงสุด คือการชนะกิเลสโดยสิ้นเชิง กล่าวโดยทั่วไปมีอำนาจครอบงำที่สำคัญ 2 อย่าง ที่ผลัดเปลี่ยนมาครอบงำจิตใจเรา คือ อำนาจฝ่ายต่ำอย่างหนึ่ง อำนาจฝ่ายสูงอย่างหนึ่ง
เมื่ออำนาจฝ่ายต่ำครอบงำ ก็ชักนำให้ทำความชั่วต่างๆ แล้วแต่ชนิดของอำนาจฝ่ายต่ำนั้น เมื่ออำนาจฝ่ายสูงเข้ามาก็ชักนำให้ทำความดีต่างๆ คนส่วนใหญ่รู้ว่า อะไรดีควรทำ อะไรชั่วควรเว้น แต่ที่ต้องทำชั่วอยู่เพราะสู้อำนาจฝ่ายต่ำไม่ได้ ขณะนั้นมันมีอิทธิพลเหนือจิตใจ จึงต้องยอมแพ้
คนที่ติดยาเสพติดบางอย่างแล้ว จะไม่รู้ก็หาไม่ว่า มันมีโทษต่อตนอย่างไร แต่ที่ต้องเสพอยู่ ก็เพราะทนต่อการรบเร้าของร่างกายบ้าง จิตใจบ้างไม่ไหว ยอมแพ้มัน จึงต้องเสพต่อไป และมีโทษแก่ตนเองมากขึ้นทุกที การศึกษาอบรมก็เพื่อให้มนุษย์รู้จักเอาชนะอำนาจฝ่ายต่ำมากขึ้น เพิ่มพูนอำนาจฝ่ายสูงให้มากขึ้น เพื่อจะได้เอาชนะอำนาจฝ่ายต่ำได้ทุกครั้ง
เมื่ออำนาจทั้งสองมาพบกันเข้า เมื่อชนะบ่อยเข้า ก็จะกลายเป็นนิสัย เมื่อสะสมมากขึ้น ก็จะไม่มีอำนาจฝ่ายต่ำใดๆมาเอาชนะได้อีก คือพอรู้ว่าอะไรเป็นความชั่ว ไม่ควรทำ ก็ละเว้นได้ทุกอย่าง อะไรที่ละเว้นไม่ได้ ก็พยายามลดให้น้อยลง และพยายามละให้สิ้นไปในที่สุด
การจะเอาอำนาจฝ่ายต่ำนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือกำลังใจ ถ้ามีกำลังใจเข้มแข็งจริง ก็เอาชนะได้ทุกอย่าง คนที่พยายามจะเลิกอะไรสักอย่างหนึ่ง แล้วเลิกไม่ได้นั้น น่าสงสารมาก เพราะทุกครั้งที่เขากระทำลงไป เขารู้สึกว่า เป็นความผิด แต่ต้องกระทำ เพราะสู้อำนาจยั่วยวนหรืออาการเร่งเร้าทางกายหรือทางใจไม่ได้
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการเอาชนะอำนาจฝ่ายต่ำ หรือชนะตนคือ การฝึกฝน การหลีกเลี่ยงสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อความไม่ประมาท และการบรรเทาให้น้อยลงและหมดสิ้นไปในที่สุด การตามใจตนเองเป็นมูลเหตุสำคัญของความพ่ายแพ้ การฝืนใจตนเองให้อยู่หนทางที่ตนปราถนา เป็นมูลเหตุสำคัญของความชนะ การชนะใจตนเองได้ ชนะอำนาจฝ่ายต่ำได้ ชนะกิเลสได้ นั่นแหละ จึงถือว่า “เป็นชัยชนะอันประเสริฐ” ประเสริฐกว่านักรบ ผู้ชนะข้าศึกเป็นล้านในสงคราม
พระพุทธสุภาษิตนี้ พระพุทธองค์ทรงแสดงขณะประทับอยู่ที่วัดเชตุวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภนางกุณฑลเกศี มีเรื่องย่อดังนี้ อ่านต่อ
เรียบเรียงโดย: bank9597
เว็บไซต์: NPZmoon