"กรรม" คือ "การกระทำ" ไม่ว่ากระทำใดของเรา ต่างให้ผลเหมือน ๆ กัน ทั้งดีหรือร้าย "กรรม" คือความจริงที่เราได้กระทำแล้ว เป็นเหมือนบันทึกของชีวิต ที่กำลังดำเนินไปเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา ดังนั้นการกระทำของเรานี่แหละ ที่เป็นสิ่งสำคัญ คนเราทุกคนควรใส่ใจในการกระทำของตนเองอยู่เสมอ
ขึ้นชื่อว่า "กรรม" หลายคนคงคิดไปถึงความชั่วที่ทำแล้ว อันที่จริง "กรรม" มีทั้งดีและชั่ว และให้ผลแตกต่างกัน เมื่อกรรมจะให้ผลทั้งดีและชั่ว ย่อมไม่มีสิ่งใดต้านทานได้ สมดังที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า "ไม่มีแรงใด เสมอเท่าแรงกรรม" เมื่อกรรมจะให้ผล สัตว์ทั้งหลายย่อมเป็นไปผลของกรรมนั้น ไม่มีสิ่งใดห้ามได้ เหมือนความตายที่สัตว์ทั้งหลายต้องเจอฉะนั้น
พูดถึงเรื่องกรรม ก็อยากจะยกตัวอย่างให้ดูสักหน่อย จากข่าวที่กำลังเกิดขึ้น ในเรื่อง "การทุจริตการสอบครูผู้ช่วย" การกระทำครั้งนี้ถือว่าได้รับความร่วมมือจากคนหลายฝ่าย และทำกันเป็นหมู่คณะ มีคนวงในรู้เห็นเป็นใจด้วย ทำให้การทุจริตนั้นเป็นไปได้อย่างสะดวกและรอดพ้นจากการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที
มีมนุษย์ผู้หลงผิดไม่น้อย ที่ยอมทำการทุจริตโดยการซื้อคำตอบของข้อสอบ จากเจ้าพนักงานผู้ทำการทุจริต ในราคาที่สูงมาก ถึง 400000 บาท เพียงเพื่อให้ได้เข้าทำงานในตำแหน่งดังกล่าว โดยไม่คิดใช้ความสามารถของตนเองในการทำข้อสอบแต่อย่างใด และการโกงครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะสำเร็จไปได้ด้วยดี จนในที่สุด
อย่างที่บอกไว้ การกระทำผิดย่อมมีจุดด่างพล้อยอยู่เสมอ หากใครสังเกตุหน่อยก็จะทราบได้ด้วยปัญญา ซึ่งเจ้าพนักงานพบข้อสงสัยของคำตอบที่ผู้เข้าสอบ ตอบถูกและผิดเหมือนกันในชุดข้อสอบเดียวกัน แค่นี้ก็ทำให้ทราบได้ทันทีว่ามีการทุจริต คนโง่ย่อมไม่ใช้ปัญญาตนเองไต่ตรองในปัญหา ตอบตามคำตอบที่ได้ซื้อมาแล้ว และในที่สุดก็ถึงบทแห่งกรรมจะให้ผล
"กรรม" มันให้ผลแน่ จะช้าจะเร็วก็เรื่องหนึ่ง แต่สำหรับเรื่องนี้ให้ผลเร็วมาก ท่านทั้งหลายจงดูเถิด เมื่อกรรมจะให้ผล "เจ้าหน้าที่ผู้ออกข้อสอบ เขาได้ทำการแก้คำตอบของโจทย์ข้อหนึ่ง โดยเห็นว่าปัญหามันยังกำกวม เลยเปลี่ยนคำตอบสลับที่ของเดิม โดยมิได้แจ้งให้ใครทราบ" เป็นการกระทำโดยมิได้ตั้งใจของเจ้าพนักงานคนหนึ่งเท่านั้น แต่กลับเป็นหลักฐานสำคัญในการจับผิดได้ เพราะคำตอบได้ขายออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นคำตอบที่อัพเดทใหม่ จึงไม่เหมือนที่ขายออกไป เลยทำให้คนทุจริตทั้งหลาย ต้องเจอกับกรรมของตน
ท่านทั้งหลายจงดูเถิด บทเรียนนี้เป็นบทพิสูจน์ของกรรมโดยแท้ ใครทำชั่ว ก็ต้องได้รับผลชั่วอย่างแน่นอน ไม่มีทางเป็นอื่นไปได้ อนึ่งใครก็ตามที่กำลังทำความดีอยู่ แต่ยังไม่ได้รับผลดี ก็จงอย่าท้อใจ ให้เชื่อมั่นว่า กรรมดีที่เราทำแล้วนั้น มันต้องให้ผลอย่างแน่นอน
คนชั่วที่ทำชั่วแล้วยังได้ดีอยู่นั้น ก็เป็นเพราะบุญเก่ากำลังให้ผลอยู่ หมดบุญเก่าเมื่อไร กรรมชั่วที่เขากระทำแล้วนั้น ก็จะตามให้ผลกับเขาอย่างแน่นอน พระพุทธองค์ทรงสอนอย่างนี้ จงเชื่อมั่นในความดี เพราะความดีคือทางนำไปสู่ความสุขทั้งหลายนั่นเอง
บทความโดย: bank9597 จากเว็บไซต์
npzmoon.com
เมื่อกรรมจะให้ผล: การโกงสอบครูผู้ช่วย
ขึ้นชื่อว่า "กรรม" หลายคนคงคิดไปถึงความชั่วที่ทำแล้ว อันที่จริง "กรรม" มีทั้งดีและชั่ว และให้ผลแตกต่างกัน เมื่อกรรมจะให้ผลทั้งดีและชั่ว ย่อมไม่มีสิ่งใดต้านทานได้ สมดังที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า "ไม่มีแรงใด เสมอเท่าแรงกรรม" เมื่อกรรมจะให้ผล สัตว์ทั้งหลายย่อมเป็นไปผลของกรรมนั้น ไม่มีสิ่งใดห้ามได้ เหมือนความตายที่สัตว์ทั้งหลายต้องเจอฉะนั้น
พูดถึงเรื่องกรรม ก็อยากจะยกตัวอย่างให้ดูสักหน่อย จากข่าวที่กำลังเกิดขึ้น ในเรื่อง "การทุจริตการสอบครูผู้ช่วย" การกระทำครั้งนี้ถือว่าได้รับความร่วมมือจากคนหลายฝ่าย และทำกันเป็นหมู่คณะ มีคนวงในรู้เห็นเป็นใจด้วย ทำให้การทุจริตนั้นเป็นไปได้อย่างสะดวกและรอดพ้นจากการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที
มีมนุษย์ผู้หลงผิดไม่น้อย ที่ยอมทำการทุจริตโดยการซื้อคำตอบของข้อสอบ จากเจ้าพนักงานผู้ทำการทุจริต ในราคาที่สูงมาก ถึง 400000 บาท เพียงเพื่อให้ได้เข้าทำงานในตำแหน่งดังกล่าว โดยไม่คิดใช้ความสามารถของตนเองในการทำข้อสอบแต่อย่างใด และการโกงครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะสำเร็จไปได้ด้วยดี จนในที่สุด
อย่างที่บอกไว้ การกระทำผิดย่อมมีจุดด่างพล้อยอยู่เสมอ หากใครสังเกตุหน่อยก็จะทราบได้ด้วยปัญญา ซึ่งเจ้าพนักงานพบข้อสงสัยของคำตอบที่ผู้เข้าสอบ ตอบถูกและผิดเหมือนกันในชุดข้อสอบเดียวกัน แค่นี้ก็ทำให้ทราบได้ทันทีว่ามีการทุจริต คนโง่ย่อมไม่ใช้ปัญญาตนเองไต่ตรองในปัญหา ตอบตามคำตอบที่ได้ซื้อมาแล้ว และในที่สุดก็ถึงบทแห่งกรรมจะให้ผล
"กรรม" มันให้ผลแน่ จะช้าจะเร็วก็เรื่องหนึ่ง แต่สำหรับเรื่องนี้ให้ผลเร็วมาก ท่านทั้งหลายจงดูเถิด เมื่อกรรมจะให้ผล "เจ้าหน้าที่ผู้ออกข้อสอบ เขาได้ทำการแก้คำตอบของโจทย์ข้อหนึ่ง โดยเห็นว่าปัญหามันยังกำกวม เลยเปลี่ยนคำตอบสลับที่ของเดิม โดยมิได้แจ้งให้ใครทราบ" เป็นการกระทำโดยมิได้ตั้งใจของเจ้าพนักงานคนหนึ่งเท่านั้น แต่กลับเป็นหลักฐานสำคัญในการจับผิดได้ เพราะคำตอบได้ขายออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นคำตอบที่อัพเดทใหม่ จึงไม่เหมือนที่ขายออกไป เลยทำให้คนทุจริตทั้งหลาย ต้องเจอกับกรรมของตน
ท่านทั้งหลายจงดูเถิด บทเรียนนี้เป็นบทพิสูจน์ของกรรมโดยแท้ ใครทำชั่ว ก็ต้องได้รับผลชั่วอย่างแน่นอน ไม่มีทางเป็นอื่นไปได้ อนึ่งใครก็ตามที่กำลังทำความดีอยู่ แต่ยังไม่ได้รับผลดี ก็จงอย่าท้อใจ ให้เชื่อมั่นว่า กรรมดีที่เราทำแล้วนั้น มันต้องให้ผลอย่างแน่นอน
คนชั่วที่ทำชั่วแล้วยังได้ดีอยู่นั้น ก็เป็นเพราะบุญเก่ากำลังให้ผลอยู่ หมดบุญเก่าเมื่อไร กรรมชั่วที่เขากระทำแล้วนั้น ก็จะตามให้ผลกับเขาอย่างแน่นอน พระพุทธองค์ทรงสอนอย่างนี้ จงเชื่อมั่นในความดี เพราะความดีคือทางนำไปสู่ความสุขทั้งหลายนั่นเอง
บทความโดย: bank9597 จากเว็บไซต์ npzmoon.com