ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เราจักแสดงธรรมปริยาย อันแสดงความกระเสือ
กกระสนไปตามกรรม (ของหมู่สัตว์) แก่พวกเธอ.
เธอทั้งหลายจงตั้งใจฟังให้ดี. ธรรมปริยายอันแสดงความกระ
กระสนไปตามกรรม(ของหมู่สัตว์) เป็นอย่างไรเล่า ?
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! สัตว์ทั้งหลาย เป็นผู้มีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่ง กรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กระทำกรรมใดไว้ดีก็ตามชั่วก็ตาม จักเป็นผู้รับผลกรรมนั้น.
ภิกษุ ท. ! คนบางคนในกรณีนี้ เป็นผู้ มีปกติทำปาณาติบาต หยาบช้า มีฝ่ามือเปื้อนด้วยโลหิต มีแต่การฆ่าและการทุบตี ไม่มีความเอ็นดูในสัตว์มีชีวิต.
เขากระ
กระสนด้วย (กรรมทาง) กาย กระ
กระสนด้วย (กรรมทาง) วาจากระ
กระสนด้วย (กรรมทาง) ใจ; กายกรรมของเขาคด วจีกรรมของเขาคด มโนกรรมของเขาคด ; คติของเขาคด อุปบัติของเขาคด.
ภิกษุ ท. ! สำหรับผู้มีคติคด มีอุบัติคดนั้น เรากล่าวคติอย่างใด อย่างหนึ่งในบรรดาคติสองอย่าง แก่เขา คือ เหล่า สัตว์นรกผู้มีทุกข์โดยส่วนเดียว, หรือว่า สัตว์เดรัจฉานผู้มีกำเนิดกระ
กระสน ได้แก่ งู แมลงป่อง ตะขาบ พังพอน แมว หนู นกเค้า หรือสัตว์เดรัจฉานเหล่าอื่น ที่เห็นมนุษย์แล้วกระ
กระสน.
ภิกษุ ท. ! ภูตสัตว์ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้ คือ อุปบัติ (การเข้าถึงภพ) ย่อมมีแก่ภูตสัตว์, เขาทำกรรมใดไว้ เขาย่อมอุปบัติด้วยกรรมนั้น, ผัสสะทั้งหลายย่อมถูกต้องภูตสัตว์นั้นผู้อุปบัติแล้ว.
ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า สัตว์ทั้งหลายเป็นทายาทแห่งกรรม ด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้.
(ในกรณีแห่งบุคคลผู้ กระทำอทินนาทาน กาเมสุมิจฉาจาร ก็ได้ตรัสไว้ด้วยข้อความอย่างเดียวกันกับในกรณีของผู้กระทำปาณาติบาตดังกล่าวมาแล้วข้างบนทุกประการ; และยังได้ตรัสเลยไปถึง วจีทุจริต 4 มโนทุจริต 3 ด้วยข้อความอย่างเดียวกันอีกด้วย. ต่อไปนี้ ได้ตรัสข้อความฝ่ายกุศล
ว่าด้วยความกระ:)กระสนไปตามกรรม...
กกระสนไปตามกรรม (ของหมู่สัตว์) แก่พวกเธอ.
เธอทั้งหลายจงตั้งใจฟังให้ดี. ธรรมปริยายอันแสดงความกระกระสนไปตามกรรม(ของหมู่สัตว์) เป็นอย่างไรเล่า ?
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! สัตว์ทั้งหลาย เป็นผู้มีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่ง กรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กระทำกรรมใดไว้ดีก็ตามชั่วก็ตาม จักเป็นผู้รับผลกรรมนั้น.
ภิกษุ ท. ! คนบางคนในกรณีนี้ เป็นผู้ มีปกติทำปาณาติบาต หยาบช้า มีฝ่ามือเปื้อนด้วยโลหิต มีแต่การฆ่าและการทุบตี ไม่มีความเอ็นดูในสัตว์มีชีวิต.
เขากระกระสนด้วย (กรรมทาง) กาย กระกระสนด้วย (กรรมทาง) วาจากระกระสนด้วย (กรรมทาง) ใจ; กายกรรมของเขาคด วจีกรรมของเขาคด มโนกรรมของเขาคด ; คติของเขาคด อุปบัติของเขาคด.
ภิกษุ ท. ! สำหรับผู้มีคติคด มีอุบัติคดนั้น เรากล่าวคติอย่างใด อย่างหนึ่งในบรรดาคติสองอย่าง แก่เขา คือ เหล่า สัตว์นรกผู้มีทุกข์โดยส่วนเดียว, หรือว่า สัตว์เดรัจฉานผู้มีกำเนิดกระกระสน ได้แก่ งู แมลงป่อง ตะขาบ พังพอน แมว หนู นกเค้า หรือสัตว์เดรัจฉานเหล่าอื่น ที่เห็นมนุษย์แล้วกระกระสน.
ภิกษุ ท. ! ภูตสัตว์ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้ คือ อุปบัติ (การเข้าถึงภพ) ย่อมมีแก่ภูตสัตว์, เขาทำกรรมใดไว้ เขาย่อมอุปบัติด้วยกรรมนั้น, ผัสสะทั้งหลายย่อมถูกต้องภูตสัตว์นั้นผู้อุปบัติแล้ว.
ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า สัตว์ทั้งหลายเป็นทายาทแห่งกรรม ด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้.
(ในกรณีแห่งบุคคลผู้ กระทำอทินนาทาน กาเมสุมิจฉาจาร ก็ได้ตรัสไว้ด้วยข้อความอย่างเดียวกันกับในกรณีของผู้กระทำปาณาติบาตดังกล่าวมาแล้วข้างบนทุกประการ; และยังได้ตรัสเลยไปถึง วจีทุจริต 4 มโนทุจริต 3 ด้วยข้อความอย่างเดียวกันอีกด้วย. ต่อไปนี้ ได้ตรัสข้อความฝ่ายกุศล